
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ (22 พ.ค. 68) ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตหนองคาย สถานีเรือบึงกาฬ ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ตามนโยบายของรัฐบาล และ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดนั้น พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข. นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาไอซ์ จำนวน 344 กิโลกรัม พร้อมผู้ต้องหา 1 ราย ของกลางยาไอซ์ รถยนต์ 1 คัน พร้อมด้วย หัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ประกอบไปด้วย พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ แก้วสมนึก รองผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.กฤศกร เชื้อสิงห์ ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ นายธีรพล ขุนพานเพิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ พ.ต.อ.จตุพร เนวะมาตย์ ผกก.ตม.บึงกาฬ น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดบึงกาฬ ผู้แทนตำรวจตชด.244 พ.ต.ต.ประชานารถ แดงเนียม สว.หน.ตำรวจน้ำบึงกาฬ นายด่านศุลกากรบึงกาฬ ทหารพราน2108 ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และผู้แทน บก.อส.จ.บึงกาฬ ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้

ทั้งนี้เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ แจ้งว่ามีสายข่าวรายงานสืบทราบมาว่าจะมีการขนลักลอบยาเสพติดข้ามฝั่งแม่น้ำโขงพื้นที่ บริเวณริมแม่น้ำโขง ได้รายงาน น.อ.วิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช ผบ.นรข.เขตหนองคาย ได้ทราบ จึงสั่งการให้ ว่าที่ น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ พร้อมเจ้าหน้าที่ นรข.ได้จัดชุดปฏิบัติการซุ่มเฝ้าตรวจ ออกวางกำลังเข้าตรวจในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงตลอดแนวคาดว่าจะมีการกระทำผิด ระหว่างหนองเดิ่นท่า-บ้านห้วยเล็บมือ-บ้านภูสวาท ต.หนองเดิ่น ไปจนถึงแยกโรงพยาบาลบุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ นอกจากนั้นยังมีการชุดสนับสนุนให้อยู่ที่ตั้ง

ขณะที่แบ่งกำลังซุ่มอยู่ริมโขงบริเวณพื้นที่บ้านหนองเดิ่นท่า ติดริมแม่น้ำโขง ได้ตรวจพบรถเก๋งต้องสงสัยจอดอยู่ชุดปฏิบัติติการเฝ้าตรวจได้ประสานไปยังชุดสนับสนุนให้เฝ้าติดตามรถเก๋งคันดังกล่าว กระทั่งชุดเฝ้าตรวจสะกดรอยติดตามมาเรื่อย ๆ จนมาถึงถนนทางหมายเลข 212 บึงกาฬ-นครพนม ช่วงโรงพยาบาลบุ่งคล้า ทำการส่งสัญญาณเพื่อให้รถคันดังกล่าวให้หยุดรถขอเข้าทำการตรวจค้น ปรากฎว่ารถเก๋งคันดังกล่าวเร่งเครื่องยนต์ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงขับไล่ตาม กระทั่งรถเก๋งดังกล่าวเสียหลักลงข้างทาง ถึงได้ไปควบคุมตัวตรวจค้นภายในรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า CRV สีบรอน-เทา ทะเบียน ขต.3323 อุดรธานี ภายในรถพบของกลางยาไอซ์ จำนวน 9 กระสอบ กระสอบเล็ก 2 กระสอบ กระสอบใหญ่ 7 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 344 กิโลกรัม พร้อมผู้ต้องหา 1 ราย ทราบชื่อนายประดิษฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี จึงทำการตรวจยึดของกลางดังกล่าว และจับกุมผู้ต้องหามาทำบันทึกที่ สถานีเรือบึงกาฬ ก่อนนำตัวส่งผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ทั้งหมด นำส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข. กล่าวว่า สืบเนื่องจากเปิดแผนปฏิบัติการของรัฐบาลในการ ซิล สต๊อป เซฟ และนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือที่ให้ นรข.ได้ร่วมบูรณาการกับหน่อยความมั่นคงในพื้นที่ในการสกัดกั้นและปราบปรามการลักลอบลำเลียงนำเข้ายาเสพติดเข้าไปในพื้นที่ชั้นในของประเทศ เป็นความพยายามที่ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนในการจับกุมครั้งนี้ด้วยการบูรณาการอย่างแท้จริง ทำให้สถานีเรือบึงกาฬสามารถทำการตรวจยึดจับกุมได้ประสบความสำเร็จ ไม่มีความสูญเสีย จากแหล่งข่าวที่เราได้รับ และเฝ้าติดตาม โดยเราเฝ้าติดตามตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ทำให้เราจับยาบ้าได้ครั้งที่ผ่านมา และจับยาไอซ์ได้ในครั้งนี้

ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือกัน และช่วยสกัดกั้นยาเสพติดที่มีปริมาณมูลค่าค่อนข้างสูง จากการตรวจสอบจากตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พบว่า ปริมาณค่อนข้างบริสุทธิ์ เมื่อออกจำหน่ายจะมีราคากิโลกรัมละ 1,000,000 บาท รวมทั้งสิ้นที่เราสามารถตรวจยึด มูลค่ากว่า 344 ล้านบาท ผู้ต้องหาได้รับการว่าจ้าง 50,000 บาท หากงานสำเร็จถึงที่หมายคือ จังหวัดหนองคาย จึงต้องขอขอบคุณกำลังพลสถานีเรือบึงกาฬที่ร่วมแรงร่วมใจทำหน้าที่เพื่อประเทศ เพื่อกองทัพเรือ เพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ให้ยาเสพติดเข้าไปในพื้นที่ชั้นใน และต้องขอขอบคุณทุกหน่วยที่ร่วมบูรณาการกันจับกุมในครั้งนี้ และในครั้งต่อ ๆ ไป จะได้ร่วมกันทำงานลักษณะเช่นนี้อีกต่อไป เชื่อว่า หากทุกคนร่วมมือกันอย่างจริงจัง การสกัดกั้นและปราบปราม ก็น่าจะได้ประสิทธิภาพเหมือนครั้งนี้