Saturday, 26 April 2025
ค้นหา พบ 47667 ที่เกี่ยวข้อง

สหรัฐฯ เตรียมเสนอรับรอง ‘ไครเมีย’ เป็นของ ‘รัสเซีย’ หวังปูทางสันติภาพยูเครน-รัสเซีย แต่ ‘EU’ คัดค้านเสียงแข็ง

(23 เม.ย. 68) วอชิงตันโพสต์รายงานว่า สหรัฐฯ เตรียมเสนอรับรองไครเมียเป็นของรัสเซียอย่างเป็นทางการ ในการหารือที่กรุงลอนดอนวันพุธนี้ โดยข้อเสนอนี้ถูกส่งต่อไปยังพันธมิตรตะวันตก เพื่อใช้เป็นฐานในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กรุงปารีสในวันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน 2568

ข้อเสนอมีเป้าหมายเพื่อยุติการสู้รบ ด้วยการแลกเปลี่ยนระหว่างการหยุดยิงถาวรกับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวระบุว่า แผนดังกล่าวจะทำให้การสู้รบตามแนวหน้าหยุดชะงักลง โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของยูเครนที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย จะยังคงอยู่ในการควบคุมของรัสเซียต่อไป

นอกจากนี้ ความต้องการของยูเครนที่จะเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ก็ไม่รวมอยู่ในแผนนี้ ซึ่งอาจกลายเป็นจุดขัดแย้งสำคัญในเวทีการเจรจา

ขณะเดียวกัน คายา คัลลาส หัวหน้าฝ่ายการทูตของสหภาพยุโรป (EU) ยืนยันหนักแน่นว่ายุโรปจะไม่ยอมรับสถานะของไครเมียในฐานะดินแดนของรัสเซีย พร้อมวิจารณ์ว่าสหรัฐฯ ยังไม่ได้ใช้มาตรการกดดันรัสเซียอย่างเต็มที่ และระบุว่ารัฐบาลรัสเซียกำลัง “เล่นเกมกับการสงบศึกในช่วงอีสเตอร์” โดยไร้ความจริงใจในการแสวงหาสันติภาพ

คัลลาสยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ยูเครนและชาติพันธมิตรในยุโรปต่างคาดหวังให้วอชิงตันแสดงจุดยืนที่เด็ดขาดและเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นในการเผชิญหน้ากับรัสเซีย

จันทบุรี หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี จัดพิธีรำลึกโอกาสครบรอบ 40 ปีการสถาปนา

เมื่อวานนี้ (22 เม.ย.68) ที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี พลเรือตรี ชรัมม์ภากร พรหมภากร รองผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เป็นประธานในงานวันครบรอบจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินปีที่ 40 โดยมีพิธีสงฆ์ ทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ พร้อมรำลึกถึงวีรกรรมของทหารกล้า ในโอกาสครบรอบ 40 ปีแห่งการสถาปนา โดยมีนายธวัชชัย นามสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พลตำรวจตรีผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี นาวาเอก นพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี รวมทั้งอดีตผู้บังคับบัญชา,ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา(จันทบุรี) พร้อมผู้แทนสมาคมสื่อมวลชนและเครือข่ายจันทบุรี,หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน และแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

การจัดพิธีในครั้งนี้นอกจากเป็นการรำลึกถึงความเสียสละของกำลังพลในอดีตแล้ว ยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพลในปัจจุบัน รวมถึงเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่หน่วยและครอบครัวของผู้ปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี เป็นหน่วยขึ้นตรงต่อกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เริ่มมีบทบาทมาตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2483–2484 ระหว่างเหตุการณ์พิพาทอินโดจีน โดยกองทัพเรือได้สนธิกำลังในนาม “กองพลจันทบุรี” เข้าปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและตราด ต่อมาในปี พ.ศ. 2504 และ พ.ศ. 2519 ได้รับมอบหมายให้ดูแลแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงสถานการณ์ความตึงเครียด

กระทั่งวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2528 หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรีได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อแบ่งเบาภารกิจด้านการควบคุมและป้องกันชายแดนที่มีความยาวและซับซ้อน โดยเน้นรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ขณะที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราดรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดตราด ตลอดระยะเวลา 40 ปี หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรีได้ปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง พร้อมยึดมั่นในอุดมการณ์ ปกป้องผืนแผ่นดินไทย และจะยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคงสู่อนาคตต่อไป

ความจริงก็คือความจริง!! พล.ต.อ.สมยศ เปิดใจหลังศาลยกฟ้อง ‘ไม่เคยโกรธแม้ถูกมองในแง่ลบ’ ขอบคุณกำลังใจทุกฝ่าย พร้อมทำตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ (22 เม.ย. 68) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลอ่านคำพิพากษาคดีร่วมกันปฏิบัติหน้าที่มิชอบในคดีที่มีการเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐานเพื่อช่วยเหลือนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหาคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. และนายเนตร นาคสุข อดีตอัยการสูงสุด รวมทั้งพวกอีก 6 คนเป็นจำเลย

ศาลพิพากษาจำคุกนายเนตร นายเนตร นาคสุข (อดีตรองอัยการสูงสุด) 2 ปี และนายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม (อดีตอัยการอาวุโส) 3 ปี ส่วนจำเลยคนอื่นยกฟ้อง โดยหลังจากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวด้วยหลักทรัพย์ 200,000 บาท จำเลยทั้งหมดยื่นขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวกับสื่อหลังการพิจารณาคดีว่า รู้สึกโล่งใจที่ตนพ้นมลทิน และขอบคุณศาลที่ให้ความยุติธรรม ยืนยันว่าเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทยและจะปฏิบัติตามคำสั่งศาล

ทั้งนี้ ศาลได้กำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศระหว่างการอุทธรณ์ ซึ่งจำเลยทั้งหมดยังคงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว

สนพ. แจงการรับซื้อไฟฟ้าสีเขียว 5,200 MW ไม่ทำให้ค่าไฟแพง ชี้ชัด กลับช่วยลดค่าไฟ - หนุนอนาคตพลังงานสะอาดของประเทศ

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ชี้แจงถึงข้อเท็จจริงในประเด็นที่มีกระแสข่าวและความกังวลเกี่ยวกับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (RE Big Lot) จำนวน 5,200 เมกะวัตต์ (MW) ว่าอาจทำให้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้นและสร้างภาระงบประมาณแผ่นดินเป็นหลักแสนล้านบาท ดังนี้

1. การยกเลิกการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 5,200 MW
นายวัฒนพงษ์ฯ ระบุว่า การรับซื้อไฟฟ้าปริมาณ 5,203 เมกะวัตต์ RE Big Lot เป็นการดำเนินการจากมติ กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 และได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ครบถ้วนไปก่อนแล้ว ปัจจุบันมีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) แล้วเป็นส่วนใหญ่และบางโครงการได้มีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว การยกเลิกสัญญาของ RE Big Lot ที่ลงนามไปแล้วจึงไม่อาจจะทำได้ และหากจะมีการยกเลิกโครงการที่ไม่ลงนามในสัญญาส่วนที่เหลือกว่าสิบสัญญา จะทำให้เกิดข้อขัดแย้งกับสัญญาที่ลงนามไปแล้ว และเป็นการดำเนินการแบบ 2 มาตรฐานระหว่างกลุ่มโครงการที่ได้มีการลงนามในสัญญาแล้ว และโครงการที่ยังไม่ได้ลงนามในสัญญา

2. การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 5,200 MW จะทำให้ค่าไฟฟ้าแพงหรือไม่?
นายวัฒนพงษ์ฯ กล่าวว่า การรับซื้อไฟฟ้า RE Big Lot มีต้นทุนรับซื้อไฟฟ้าเฉลี่ยประมาณ 2.7 บาทต่อหน่วย (พลังงานแสงอาทิตย์มีอัตรา 2.16 บาทต่อหน่วย พลังงานลมมีอัตรา 3.10 บาทต่อหน่วย พลังงานแสงอาทิตย์ร่วมกับ BESS (ระบบเดินไฟในแบตเตอรี่) มีอัตรา 2.83 บาทต่อหน่วย) ซึ่งมีราคาที่ต่ำกว่าค่าไฟฟ้าขายส่งเฉลี่ย(Grid Parity) ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) โดย ณ เดือน มีนาคม 2568 มีค่าไฟฟ้าขายส่งเฉลี่ยประมาณ 3.18 บาทต่อหน่วย ดังนั้น การรับซื้อไฟฟ้า RE Big Lot จะไม่ทำให้ราคาค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น แต่ในทางตรงกันข้ามการรับซื้อไฟฟ้า RE Big Lot จะทำให้ค่าไฟฟ้าขายส่งเฉลี่ยลดลง เนื่องจากมีราคารับซื้อไฟฟ้าต่ำกว่าค่าไฟฟ้าขายส่งเฉลี่ย โดยการรับซื้อไฟฟ้าจาก RE Big Lot จะช่วยให้ค่าไฟฟ้าขายส่งเฉลี่ยลดลงประมาณ 4,574 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ การรับซื้อไฟฟ้าจาก RE Big Lot จะช่วยให้ประเทศไม่เสียโอกาสในการลงทุนในพัฒนาพลังงานหมุนเวียนซึ่งเป็นเชื้อเพลิงพลังงานสะอาดที่มีอัตรารับซื้อในระดับที่เหมาะสมและสามารถแข่งขันได้ ไม่ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าในภาพรวม และช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพทางด้านราคาค่าไฟฟ้าของประเทศได้ในระยะยาว

3. สนับสนุนเป้าหมายลดคาร์บอน และตอบโจทย์อนาคตพลังงานสะอาดของประเทศ
นายวัฒนพงษ์ฯ เน้นว่าการรับซื้อไฟฟ้า RE Big Lot เป็นการช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในระบบไฟฟ้า และจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยให้สามารถบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกตามการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (Nationally Determined Contribution: NDC) ร้อยละ 30 – 40 ภายในปี ค.ศ. 2030 (พ.ศ. 2573) การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) 

อีกทั้งการเพิ่มการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของประเทศไทยในการรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดของผู้ประกอบการภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะธุรกิจส่งออกที่มีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ และเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศด้วยการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

ข่าวเศร้า!! แพทย์หญิงตัสนีม ยานยา แพทย์ชำนาญการพิเศษ รพ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เสียชีวิตจากเหตุหินถล่มในประเทศปากีสถาน

เมื่อวันที่ (21 เม.ย.68) เกิดเหตุหินถล่มรุนแรงบริเวณถนนสาย Siachen ในเมืองสการ์ดู แคว้นกิลกิต-บัลติสถาน ประเทศปากีสถาน อันเป็นผลจากฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภูเขา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวไทย นางสาวตัสนีม ยานยา อายุ 32 ปี แพทย์ชำนาญการพิเศษ ประจำโรงพยาบาลปานาเระ ซึ่งเสียชีวิตในทันทีจากแรงกระแทกของหินที่ถล่มลงมาทับรถยนต์ขณะโดยสารผ่านจุดเกิดเหตุ

จากรายงานระบุว่า ผู้โดยสารที่เดินทางร่วมกับนางสาวตัสนีม อีกหนึ่งราย คือ เสาด๊ะ ดอเลาะ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ อายุ 48 ปี ได้รับบาดเจ็บและถูกนำส่งโรงพยาบาลในเมืองสการ์ดู ขณะนี้อาการอยู่ในขั้นทรงตัว

ทั้งนี้ ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะนางสาวนีสรีน ยานยา พี่สาวของผู้เสียชีวิต ได้ร้องขอผ่านสื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยเร่งดำเนินการช่วยเหลือในการประสานงานเพื่อนำร่างของนางสาวตัสนีมกลับสู่ประเทศไทยโดยเร็วที่สุด พร้อมระบุช่องทางติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 082-834-1697

ครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิตต่างอยู่ในอาการโศกเศร้า พร้อมเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งดำเนินการประสานงานกับทางการปากีสถาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายร่าง และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวในต่างประเทศอย่างเต็มที่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top