Saturday, 31 May 2025
ค้นหา พบ 48484 ที่เกี่ยวข้อง

ตำรวจ ปส. ทลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ

สืบเนื่องจากการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดย นายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร แถลงต่อรัฐสภาว่า ปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติด อย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิตและจําหน่าย เน้นการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการสกัดกั้นลําเลียงยาเสพติด ปราบปรามและยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญ และข้อสั่งการของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เน้นการปราบปรามแหล่งพักยาเสพติดในพื้นที่ภาคกลางที่จะส่งมายังกรุงเทพมหานคร ประกอบกับนโยบาย ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ซึ่งกําชับการปราบปรามยาเสพติด อย่างเร่งด่วน

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร, พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร/ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.อ.ประจวบ  วงศ์สุข  รอง ผบ.ตร.(ปป) และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย  ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.

บช.ปส. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย  ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า  รอง ผบช.ปส., ผบก.ปส.1 - 4, ผบก.สกส. และ ผบก.ขส. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุม และขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่และรายย่อย ทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย รวมทั้งการขยายผลไปสู่การจับกุมเครือข่ายที่ยังหลบหนี และยึดทรัพย์ผู้ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือทุกราย

วันนี้ บช.ปส. ได้บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร, นบ.ยส.35 และ ป.ป.ส. โดย พ.อ.เศรษฐ์สรรค์  ศิริโสภณ  ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร, สำนักงาน ป.ป.ส. ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร่วมปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ และจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญของ บช.ปส. โดยมีการจับกุม ดังนี้

บก.สกส.
คดี (ไล่ล่าสกัดจับ! ยึดยาบ้า 1.2 ล้านเม็ดจากเหนือสู่ใต้) (ผู้นำเสนอ  พ.ต.อ.วัสสา วัสสานนท์  รอง ผบก.สกส.) ก่อนเกิดเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจ กก.4 บก.สกส.บช.ปส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีกลุ่มบุคคล ซึ่งมีพฤติการณ์รับจ้างจากนายทุนภาคใต้เพื่อให้ไปลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ ด้าน จว.เชียงราย  และจะนำมาส่งให้นายทุนในพื้นที่ภาคใต้ โดยจะใช้ รถกระบะยี่ห้อนิสสันรุ่นนาวาร่าสีบรอนเงินหมายเลขทะเบียน 1 ฒพ 96XX... กรุงเทพ เป็นรถบรรทุกยาเสพติด และใช้รถนำ ยี่ห้อโตโยต้ายารีส สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ 84XX น่าน เป็นรถนำเส้นทาง ต่อมา เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2568 เวลาประมาณ  06.30 น. พบความเคลื่อนไหวของรถยนต์ทั้ง 2 คัน วิ่งอยู่ในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย จว.ประจวบคีรีขันธ์ ขาล่องใต้ จึงจัดชุดสะกดรอยติดตาม พบรถยนต์ทั้ง 2 คัน ขับลักษณะ นำ-ตามกันมา จึงได้ประสาน จนท.ตำรวจป้อมสี่แยกปฐมพร เข้าทำการสกัด ให้หยุด และนำรถทั้ง 2 คันมา X-Ray โดยละเอียดที่ด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ผลการตรวจค้นพบของกลางซุกซ่อน บริเวณด้านข้างกระบะท้ายและยางอะไหล่รถจึงแจ้งข้อกล่าวหา และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ต่อไป

บก.ปส.3
คดี (ปิดล้อมไล่ล่า! ยึดยาบ้า 200,000 เม็ด กลางป่าเชียงราย) (ผู้นำเสนอ  พ.ต.อ.กฤษดา ศรีอิสาณ  รอง ผบก.ปส.3)

เมื่อวันที่ 4 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปส.3 ได้ร่วมกับ นบ.นส.35 และสำนักงาน ป.ป.ส. ตรวจยึดยาบ้า 200,000 เม็ด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่าเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดชาวเขาชาติพันธุ์ลู่ จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ชายแดน อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ เข้าสู่พื้นที่ จว.เชียงราย และจังหวัดใกล้เคียง จึงได้ทำการเฝ้าระวัง กระทั่งวันที่ 4 มี.ค.68 พบความเคลื่อนไหวรถยนต์กลุ่มบุคคลในเครือข่ายขับมาทางอำเภอแม่สรวย จว.เชียงราย มุ่งหน้าเข้ามาในอำเภอเมืองเชียงราย จนกระทั่งมาถึงทางเข้าหมู่บ้านหนองเขียว ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการสกัดรถยนต์ของเครือข่ายยาเสพติด แต่คนขับรถยนต์คันดังกล่าวได้ขับหลบหนีจากจุดสกัดไปในหมู่บ้านบ้านหนองเขียว ก่อนที่จะขับเข้าไปหลบซ่อนอยู่บริเวณชายป่าหลังพุทธสถานแห่งหนึ่งใน ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามเข้าไปในทันที และเข้าทำการตรวจค้น พบรถยนต์กระบะ จอดอยู่แต่ไม่พบบุคคล หรือคนขับอยู่ภายในรถยนต์ จึงได้ ทำการตรวจค้น พบยาบ้า จำนวน 200,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสาร จึงได้ตรวจยึดนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 และจะได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนีต่อไป
    
คดี (บุกรวบเอเย่นต์คาบ้านพัก! ยึดเฮโรอีน 56 กก. – ไอซ์ 19 กก.)  (ผู้นำเสนอ  พ.ต.อ.กฤษดา  ศรีอิสาณ  รอง ผบก.ปส.3)

เมื่อวันที่ 9 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.สกส, นบ.ยส.35 และสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกันจับกุมผู้ต้อง จำนวน 1 คน พร้อมของกลางเฮโรอีน 56 กิโลกรัม, ไอซ์ 19 กิโลกรัม ภายในบริเวณบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย  จากการสืบสวนติดตามเครือข่ายลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ชายแดน อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ เข้าสู่พื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย จึงได้ทำการเฝ้าระวัง กระทั่งพบความเคลื่อนไหวรถยนต์ กลุ่มบุคคลในเครือข่าย รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ ต้องสงสัย แล่นมาจากพื้นที่ที่คาดว่ามีการส่งมอบยาเสพติด โดยมีรถยนต์คอยนำทางและคุ้มกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ ไปกระทั่งเข้าไปจอดในบ้านที่เกิดเหตุ 

จึงได้แสดงตนเพื่อตรวจค้นและจับกุม พบชาย 1 คน ได้ลงจากรถ และวิ่งหลบหนีเข้าไปภายในบ้าน ก่อนที่จะ วิ่งออกด้านหลังบ้านหลบหนีไป และพบผู้ต้องหาพยายามปิดประตูรั้วหน้าบ้าน และพยายามวิ่งหลบหนีไปตามถนนด้านหน้าบ้านเพื่อหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาเข้าตรวจค้นภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบเฮโรอีน จำนวน 56 กิโลกรัม ซุกซ่อนภายในห้องโดยสาร และตรวจค้นภายในบ้าน พบไอซ์ จำนวน 19 กิโลกรัม ซุกซ่อนรวมกันอยู่ภายในกระสอบพลาสติก หลากสี วางอยู่บนพื้นห้องครัวภายในตัวบ้าน 

จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนขยายผล เพื่อนำตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

บก.ปส.4
คดี (สกัดจับรถสไลด์ ขนไอซ์ 236 กิโลฯ กลางสงขลา)  (ผู้นำเสนอ พ.ต.อ.ชิดชนก  ทรัพย์ยิ่ง  ผกก.3 บก.ปส.4) จากการสืบสวนทราบรถยนต์ มิตซูบิชิ สีดำ หมายเลขทะเบียน 4ขภ 85XX กทม.จะขนยาเสพติด จากพื้นที่ภาคกลางลงสู่พื้นที่ภาคใต้ และได้จ้างรถสไลด์ให้บรรทุกรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อบรรทุกมาส่งในพื้นที่ จว.สงขลา 

ต่อมาได้พบรถยนต์สไลด์ ทะเบียน 3ตญ 30XX กทม.ได้ บรรทุกรถยนต์หมายเลขทะเบียน 4ขภ 85XX กทม.ลงมา จึงทำการตรวจสอบพบ ของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 236 กิโลกรัม อยู่ภายในรถยนต์หมายเลขทะเบียน 4ขภ 85XX กทม.จึงทำการตรวจยึดของกลางดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.ปส.4  เจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป

สำหรับการปราบปรามยาเสพติดของ บช.ปส. ตั้งแต่ 1 ต.ค.67 - ปัจจุบัน สามารถจับกุมขบวนการ ค้ายาเสพติดทุกคดีได้ 538 คดี ผู้ต้องหา 537 คน ของกลางยาเสพติด คือ ยาบ้า 141,297,325 เม็ด, ไอซ์ 11,550 กก., เฮโรอีน 111 กก., คีตามึน 509 กก. และยาอี 575 เม็ด ยืดอายัดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด 1,409,496,878 บาท

14 มีนาคม พ.ศ. 2422 วันเกิด ‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์’ สุดยอดนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะของโลก

14 มีนาคม พ.ศ. 2422 เป็นวันเกิด อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ เจ้าของทฤษฎีสัมพัทธภาพและสูตรอันโด่งดัง E=mc2 เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์เมื่อปี 2465 

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) หรือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นศาสตราจารย์ทางฟิสิกส์และนักฟิสิกส์ทฤษฎี ชาวเยอรมันเชื้อสายยิว ไอน์สไตน์เป็นชาวยิวที่เกิดในเยอรมนี เมื่อฮิตเลอร์ขึ้นสู่อำนาจตัดสินใจอพยพจากเยอรมนีไปอเมริกา และคัดค้านการขยายอิทธิพลของลัทธินาซี มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้สหรัฐสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เขาเป็นผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม กลศาสตร์สถิติ และจักรวาลวิทยา เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ใน 2464 จากการอธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก และจาก 'การทำประโยชน์แก่ฟิสิกส์ทฤษฎี'

หลังจากที่ไอน์สไตน์ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ในปี 2458 เขาก็กลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยธรรมดานักสำหรับนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง ในปีต่อ ๆ มา ชื่อเสียงของเขาได้ขยายออกไปมากกว่านักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ ไอน์สไตน์ ได้กลายมาเป็นแบบอย่างของความฉลาดหรืออัจฉริยะความนิยมในตัวของเขาทำให้มีการใช้ชื่อไอน์สไตน์ในการโฆษณา หรือแม้แต่การจดทะเบียนชื่อ 'อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์' ให้เป็นเครื่องหมายการค้า

ตัวไอน์สไตน์เองมีความระลึกถึงผลกระทบทางสังคม ซึ่งมีผลมาจากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์อย่างลึกซึ้ง ในฐานะที่เขาได้เป็นปูชนียบุคคลแห่งความบรรลุทางปัญญา เขายังคงถูกยกย่องให้เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อวิทยาศาสตร์ที่สุดในยุคปัจจุบัน ทุกการสร้างสรรค์ของเขายังคงเป็นที่เคารพนับถือ ทั้งในความเชื่อในความสง่า ความงาม และความรู้แจ้งเห็นจริงในจักรวาล (คือแหล่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจในวิทยาศาสตร์ให้แก่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่) เป็นสูงสุด ความชาญฉลาดเชิงโครงสร้างของเขาแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบของจักรวาล ซึ่งงานเหล่านี้ถูกนำเสนอผ่านผลงานและหลักปรัชญาของเขา ในทุกวันนี้ ไอน์สไตน์ยังคงเป็นที่รู้จักดีในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังที่สุด ทั้งในวงการวิทยาศาสตร์และนอกวงการ

13 มีนาคม ของทุกปี กำหนดเป็นวันช้างไทย ยกย่องสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทย

อย่างที่ทราบกันดีว่า ช้าง เป็นสัตว์ที่มีความสัมพันธ์และผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาเป็นเวลานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยโบราณ ช้างเป็นพระราชพาหนะเคียงคู่พระบารมีพระมหากษัตริย์ไทยทุกยุคทุกสมัยเลยทีเดียว แต่สมัยปัจจุบัน คนไทยกลับเห็นคุณค่าและความสำคัญของช้างไทยลดลงไปทุกขณะ จนช้างถูกนำไปเร่ร่อนหาผลประโยชน์.โดยควาญช้าง และล้มตายเป็นจำนวนมากขึ้นทุกที 

ดังนั้น เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญ และการดำรงอยู่ของช้างไทย รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนทุกคนหันมาช่วยกันอนุรักษ์ช้าง ทางคณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบกำหนดให้ทุก ๆ วันที่ 13 มีนาคมของทุกปีเป็นวันช้างไทย ทั้งนี้ วันช้างไทยริเริ่มขึ้นจากคณะอนุกรรมการประสานงานการอนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานประสานงาน องค์การภาครัฐและเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้างไทยคณะกรรมการ เอกลักษณ์ของชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเนื่องจากเล็งเห็นว่าหากมีการสถาปนาวันช้างไทยขึ้น จะช่วยให้ประชาชนคนไทยหันมาสนใจช้าง รักช้าง หวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลืออนุรักษ์ช้างมากขึ้น

คณะอนุกรรมการฯ จึงได้พิจารณาหาวันที่เหมาะสม ซึ่งครั้งแรกได้พิจารณาเอาวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทำยุทธหัตถีมีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา แต่วันดังกล่าวถูกใช้เป็นวันกองทัพไทยไปแล้ว จึงได้พิจารณาวันอื่น และเห็นว่าวันที่ 13 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการคัดเลือกสัตว์ประจำชาติ มีมติให้ช้างเผือกเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยนั้นมีความเหมาะสม จึงได้นำเสนอมติตามลำดับขั้นเข้าสู่คณะรัฐมนตรี ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 เห็นชอบให้ วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็น "วันช้างไทย" และได้ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2541

ผลจากการที่ประเทศไทยมีวันช้างไทยเกิดขึ้น นับเป็นการยกย่องให้เกียรติว่าเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญอีกครั้ง นอกเหนือจากเกียรติที่ช้างเคยได้รับในอดีต ไม่ว่าจะเป็นช้างเผือกในธงชาติ หรือช้างเผือกที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ หรือสัตว์คู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์

ความสำคัญของช้างไทย

- ช้างเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์ไทย ช้างเป็นสัตว์ที่ดำรงอยู่คู่กับประเทศไทยมาเป็นเวลานานในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สยามประเทศเคยใช้ธงชาติเป็น รูปช้างเผือก ชาวไทยเชื่อกันว่าช้างเผือกเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์ ช้างเผือกจึงได้รับการยกย่องเสมือนเจ้านายชั้นเจ้าฟ้า

- ช้างเป็นผู้ปกป้องเอกราชแห่งชาติไทย ประวัติศาสตร์ชาติไทยได้ จารึกไว้ว่าช้างได้เข้ามามีส่วนในการปกป้องเอกราชและความเป็นชาติให้แก่ชาวไทยหลายยุคหลายสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทำยุทธหัตถี จึงทรงประกาศเอกราชและความเป็นชาติ ซึ่งช้างทรงในสมเด็จพระนเรศวรนับว่าเป็นช้างไทยที่ได้รับเกียรติอันสูงสุด โดยได้รับพระราชทานยศให้เป็นถึง "เจ้าพระยาปราบหงสาวดี"

- ช้างสร้างความสัมพันธ์ไมตรีระหว่างประเทศ ในสมัยรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสสิงคโปร์ และเบตาเวีย (จาการ์ตา) ประเทศอินโดนีเซีย ได้พระราชทานช้างสำริดให้แก่ทั้ง 2 ประเทศนี้

- ช้างใช้เป็นพาหนะในการคมนาคม ในยุคสมัยที่การคมนาคมยังไม่เจริญเทียบเท่ากับในปัจจุบัน มนุษย์ยังไม่ได้มีการพัฒนาเครื่องจักรต่างๆ สำหรับนำมาใช้เป็นเครื่องทุ่นแรงเพื่อการขนส่งของ ช้างคือพาหนะที่ดีและมีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับมนุษย์ เนื่องจากช้างเป็นสัตว์ใหญ่มีความเฉลียวฉลาดและมีพละกำลังมหาศาล ช้างจึงสามารถขนส่งสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในปริมาณมากได้อย่างอดทน

‘สส. ต้นกล้า’ พรรคส้ม โพสต์ขอโทษแล้ว ปมทำผิดกฎหมายดูดบุหรี่ไฟฟ้ากลางสภาหมื่นล้าน

‘ต้นกล้า จรยุทธ’ สส. พรรคประชาชน โพสต์ขอโทษแล้ว ปมดูดบุหรี่ไฟฟ้ากลางสภาหมื่นล้าน พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ลั่น ขอมุ่งมั่นทำงาน เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

จากกรณีที่ปรากฏภาพ สส. เดินสูบบุหรี่ไฟฟ้ากลางรัฐสภา ที่ถูกแชร์ว่อนโซเชียล จนตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้ากำลังเป็นภัยคุกคามสุขภาพของเด็กและเยาวชนไทย แต่ สส. กลับกระทำผิดกฎหมายกลางสภาฯ เสียเอง 

ล่าสุดวันนี้ (12 มี.ค. 68) นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส. พรรคประชาชน ซึ่งเป็นบุคคลในภาพดังกล่าว ได้โพสต์เฟซบุ๊กขอโทษประชาชนแล้ว โดยระบุว่า จากกระแสข่าวที่เผยแพร่ออกมา ผมทราบดีว่าทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความกังวลและมีข้อสงสัย ผมจึงอยากขอโทษจากใจจริงที่ทำให้พี่น้องประชาชนไม่สบายใจ ผมเข้าใจถึงความคาดหวังที่พี่น้องประชาชนมีต่อตัวผมในฐานะผู้แทน ผมเองก็ซาบซึ้งกับทุกความคิดเห็นที่ส่งมา

ผมให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ของตัวเองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ในขณะเดียวกัน ผมพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบจากทางรัฐสภา เพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ดีของการเป็นผู้แทนราษฎร

สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณทุกเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชนและขอยืนยันว่าผมยังคงมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

โพสต์ของ สส.ต้นกล้า ทำให้แฟนเพจและแอนตีแฟน เข้ามาคอมเมนต์ตอบโต้กันไปมา โดยฝ่ายแอนตีแฟน ต้องการให้ดำเนินการกับ สส.ของพรรคทั้งหมดที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า แต่แฟนคลับผู้ชื่นชมในตัว สส.ต้นกล้า เข้ามาให้กำลังใจ พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบ สส. ฝ่ายรัฐบาลที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าในสถานที่ราชการด้วย เพื่อความเท่าเทียม

รพ. รามาฯ แจง ไม่พบรังสีรั่วไหลจากเหตุเพลิงไหม้ อพยพผู้ป่วยครบ 191 ราย พร้อมงดให้บริการในอาคารหลัก 48 ชม.

รพ.รามาฯ ออกประกาศฉบับที่ 2 หลังเหตุเพลิงไหม้และกลุ่มควัน บริเวณอาคารหลัก (อาคาร 1) ย้ำไม่พบการรั่วไหลของรังสี อพยพย้ายผู้ป่วยไปยังจุดปลอดภัย ครบถ้วน 191 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสูดเขม่าควัน 1 ราย

จากกรณีที่มีกลุ่มควันและเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่ อาคารหลัก (อาคาร 1) ของโรงพยาบาครามาธิบดี เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 และทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ชี้แจง ออกประกาศฉบับที่ 1 ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ (12 มี.ค. 68) ทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการอพยพย้ายผู้ป่วยไปยังจุดปลอดภัย จำนวนครบถ้วน 191 ราย โดยเป็นการอพยพย้ายภายในโรงพยาบาล

จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสุดเขม่าควันจำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นบุคลากรที่เข้าไปช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวได้รับการดูแลอยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤต (ICU) และได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด

ผลกระทบดังกล่าว ทำให้คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับผลกระทบในการให้บริการด้านรังสีวิทยาและพยาธิวิทยา ฝั่งอาคารหลัก (อาคาร 1) โดยเบื้องต้นการให้บริการด้านรังสีวิทยาและพยาธิวิทยาบางส่วนต้องข้ายไปให้บริการที่อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ จากข้อกังวลเรื่องรังสีรั่วไหล ทางทีมวิศวกรรมได้ตรวจสอบแล้วไม่พบการรั่วไหลซองรังสี

สำหรับด้านการให้บริการทางพยาธิวิทยา ได้แก่ การบริจาคโลหิต ในขณะนี้ ทางคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดลขอขอบคุณผู้ที่ประสงค์จะบริจาคแต่เนื่องจากหน่วยคลังเลือดมีพื้นที่ในการรับบริจาคโลหิตอย่างจำกัด อาจจะไม่ได้รับความสะดวก

ทั้งนี้ การเปิดให้บริการหน่วยต่าง ๆ ภายในอาคารหลัก (อาคาร 1) ชั้น 1 - 9 ฝั่งใต้ ยังคงปิดให้บริการเพื่อทำการระบายกลิ่นและกลุ่มกวันออกจากอาการอย่างต่อเนื่องทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จะดำเนินการลดจำนวนผู้ป่วยการผ่าตัด ผู้ป่วยที่ในเร่งด่วนออกไป ภายใน 1 2 วัน โดยหากสามารถดำเนินการได้ปกติจะมีการประกาศต่อไปต้องขอขอบคุณความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนรวมทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงบรรเทาสาธารณภัยกำลังจากตำรวจทหารที่เข้ามาช่วยเหลือรวมทั้งสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงที่พร้อมจะรับผู้ป่วยไปดูแลต่อและต้องขอบคุณบุคลากรของคณะฯทุกท่านที่ได้เซ้ามาช่วยเหลือกันเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัยทุกคนบุคลากรทุกท่านทำงานอย่างมืออาชีพตามแผนที่ได้ซ้อมไว้และยังช่วยกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจนสามารถกลับมาดูแลผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2568 โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกประกาศฉบับที่ 1 แจงเหตุกลุ่มควันและเพลิงไหม้ที่อาคาร 1 เมื่อคืน (วันที่ 11 มีนาคม 2568) จนต้องเร่งอพยพผู้ป่วย เผยปัจจุบันยังไม่มีรายงานผู้ป่วยของโรงพยาบาลได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ งดให้บริการภายในอาคาร 1 ทั้งหมด เป็นเวลา 48 ชั่วโมง

ขณะที่ประกาศ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ฉบับที่ 1 พบเหตุกลุ่มควันและเพลิงไหม้ที่อาคารหลัก (อาคาร 1) โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยระบุว่า เนื่องด้วยในวันที่ 11 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 19.20 น. พบเหตุกลุ่มควันและเพลิงไหม้ที่อาคารหลัก (อาคาร 1) โรงพยาบาลรามาธิบดี จึงได้แจ้งเหตุกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย เพื่อเข้ามาระงับเหตุ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนที่รับการรักษาอยู่ภายในอาคารหลักออกนอกพื้นที่ในทันทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยเข้าระงับเหตุ

โดยปัจจุบันสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้วเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ป่วยของโรงพยาบาลรามาธิบดีได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด

ในระยะแรก โรงพยาบาลรามาธิบดีจะของดให้บริการภายในอาคารหลัก (อาคาร 1) ทั้งหมด ทั้งการรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก รวมทั้งงดการผ่าตัด เป็นเวลา 48 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยภายในอาคารและของดให้บริการผู้ป่วยใหม่ที่ห้องฉุกเฉิน สำหรับงานเวชระเบียน การบริจาคโลหิตและจุดเจาะเลือดขอให้ใช้บริการที่อาคาร สมเด็จพระเทพรัตน์แทน ส่วนอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์เบื้องต้นเปิดให้บริการตามปกติ หากมีความคืบหน้าทางโรงพยาบาลรามาธิบดีจะแจ้งให้ทราบต่อไป หรือหากท่านมีความจำเป็นเร่งด่วน สามารถสอบถามข้อมูลการให้บริการในระหว่างนี้ได้ที่Call Center 0-2201-1000 IIล: 0-2200-3000


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top