Tuesday, 10 June 2025
ค้นหา พบ 48698 ที่เกี่ยวข้อง

ตำรวจไซเบอร์จับ ‘มินนี่’ เครือข่ายพนันออนไลน์รอบสอง หลังเคยถูกจับและเชื่อมโยงสะเทือนถึงนายตำรวจใหญ่

(4 มี.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายพนันออนไลน์ ‘มินนี่’ รอบสอง หลังจากที่เคยถูกจับแต่ไม่เข็ดหลาบ

เมื่อเช้าวันที่ 4 มีนาคม 2568 ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท) หรือตำรวจไซเบอร์ นำกำลังตรวจค้น 9 จุด ทั้งในกรุงเทพมหานคร / จังหวัดเลย และ จังหวัดใกล้เคียง จับตัว น.ส.ธันยนันท์ สุจริตชินศรี หรือ มินนี่ ไว้ได้ และควบคุมผู้ต้องหาตามหมายจับในเครือข่ายพนันออนไลน์"มินนี่"กว่า 30 หมายจับ นำตัวไปดำเนินคดี

สำหรับ น.ส.ธันยนันท์ สุจริตชินศรี เคยตกเป็นข่าวดัง ถูกจับในคดีพนันออนไลน์ ฟอกเงิน เมื่อสองปีก่อน โดยคดีที่ถูกจับส่งผลกระเทือนถึงตำรวจใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากมีภาพสนิทสนมใกล้ชิดกัน และ มีเส้นเงินพัวพัน ขณะนี้ คดีอยู่ในขั้นอัยการ

คดีแรกยังไม่ทันตัดสินต้องมาถูกดำเนินคดีที่สองอีก โดยตำรวจไซเบอร์ สืบสวนพบว่าเครือข่ายพนันมินนี่ยังคงมีการลักลอบ ดำเนินการเปิดเว็บพนันออนไลน์อีก โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง เพราะถือว่ามีคนในเครื่องแบบหนุนหลัง ครั้งนี้ เครือข่ายมินนี่มีการเพิ่มความระมัดระวังตัวในการดำเนินกิจการอย่างมาก

แต่ไม่พ้นสายตาของเจ้าหน้าที่ เมื่อตำรวจพบเบาะแส จึงได้สืบสวนแกะรอย พบพยานหลักฐานสามารถพิสูจน์ความผิด นำไปสู่การขอออกหมายค้นและออกหมายจับมินนี่กับพวก ดำเนินคดีเป็นคดีใหม่อีกคดี

ผบ.ทบ. ต้อนรับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เข้าหารือและร่วมมือในด้านทางทหาร พัฒนายุทโธปกรณ์

(4 มี.ค. 68) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ให้การต้อนรับ นายเยฟเกนี โตมีฮิน (Evgeny Tomikhin) เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะเพื่อแนะนำตัว และได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงประวัติความเป็นมา รวมถึงยุทโธปกรณ์ที่สำคัญของกองทัพบกไทย ก่อนเข้าหารือข้อราชการกับผู้บัญชาการทหารบก ณ ห้อง จปร. อาคารพิพิธภัณฑ์กองทัพบก

ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับรัสเซียที่มีมาอย่างยาวนาน 128 ปี ที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นในทุกมิติ ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง สังคมและวัฒนธรรม รวมถึงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดด้านเศรษฐกิจ 

และความร่วมมือทางทหารอันยาวนานระหว่างไทย-รัสเซียความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัสเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านการทหาร (Agreement Between the Government of The Kingdom of Thailand and The Government of The Russians Federation on Military Corporation) ตั้งแต่ พ.ศ. 2559 

โดยมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง อันเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการขยายขอบเขตกิจกรรมความร่วมมือระหว่างกันให้มีพลวัตมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ได้มีการหารือเรื่องความร่วมมือด้านการฝึกศึกษาที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียให้การสนับสนุนการฝึกและที่นั่งศึกษารวมถึงความร่วมมืออื่นๆ อันจะเป็นประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ ของกำลังพล อาทิ หลักสูตรนักเรียนนายร้อย, หลักสูตรเสนาธิการร่วม หลักสูตรภาษารัสเซียทั่วไป 

ปัจจุบันมีกำลังพลกองทัพบกเข้ารับการศึกษาในสถาบันศึกษาทางทหารในประเทศรัสเซีย ในหลักสูตรนักเรียนนายร้อย จำนวน 5 นาย อีกทั้งที่ผ่านมา กองทัพบกได้มีโครงการจัดหาอาวุธโธปกรณ์จากรัสเซียในหลายรายการ ซึ่งนับว่ามีส่วนสำคัญในการพัฒนาศักยภาพด้านการฐานของกองทัพบกเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ได้มีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในอนาคตในด้านไซเบอร์ (Cyber Security) การข่าวกรอง และการต่อต้านการก่อการร้าย อีกด้วย

การเดินทางเยือนกองทัพบกของเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือในประเด็นต่างๆ ซึ่งกองทัพบกพร้อมสานสัมพันธ์และเสริมสร้างความร่วมมือทางทหารเพื่อการพัฒนาในหลายมิติอย่างยั่งยืน

‘กัณวีร์’ โชว์จดหมายชาวอุยกูร์ ยันเป็นฉบับจริง จี้ รัฐบาลเปิดหลักฐานชาวอุยกูร์สมัครใจกลับจีนจริงหรือไม่?

‘กัณวีร์’ เปิดจดหมาย ‘อุยกูร์’ โชว์สื่อ แจงตราประทับเป็นลายน้ำ ไม่ใช่ตราปั๊ม ขออย่าหลงประเด็น สิ่งสำคัญคือ ‘ชาวอุยกูร์’ อยากกลับจีนจริงหรือไม่ ชี้ไม่เกี่ยวกันหลัง ‘ภูมิธรรม’ บอกช่วยลดเหตุการณ์รุนแรง

(4 มี.ค. 68) ที่รัฐสภา นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม แถลงกรณีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ขอหนังสือชี้แจงหลังเปิดเผยจดหมายที่อ้างว่าได้จากชาวอุยกูร์ โดยกรมราชทัณฑ์ยืนยันว่าไม่ใช่หนังสือร้องเรียนจากกลุ่มชาวอุยกูร์ที่ถูกกักตัว และเป็นหนังสือร้องเรียนปลอม ว่า  ตนไม่อยากให้หลงประเด็นการผลักดันชาวอุยกูร์กลับประเทศต้นทาง ซึ่งเป็นประเด็นที่ใหญ่กว่าว่าจดหมายร้องเรียนจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่จำเป็นคือคำตอบจากรัฐบาลไทยว่าชาวอุยกูร์เหล่านั้นสมัครใจกลับ จริงหรือไม่ และอยากถามกลับว่าไม่มีประเทศอื่นจะรับตัวคนเหล่านี้ไปตั้งถิ่นฐานเลยหรือ

นายกัณวีร์ กล่าวว่า วันนี้ตนไม่อยากออกมาแถลง แต่สังคมแคลงใจว่าเป็นจดหมายจริง หรือจดหมายปลอม ซึ่งมันไม่ใช่สารัตถะสำคัญ เรื่องสำคัญคือการที่ผู้ลี้ภัยอยู่ในห้องกักขังมา 11 ปีแล้ว จนกระทั่ง 27 ก.พ. 68 ที่มีการส่งตัวกลับประเทศต้นทาง

ระหว่างแถลงนายกัณวีร์ ได้เปิดจดหมายโชว์ให้สื่อมวลชนดูว่าตราสัญลักษณ์มุมล่างขวาของกระดาษไม่ใช่ตราปั๊ม แต่เป็นลายน้ำจากกรมราชทัณฑ์ ซึ่งกระดาษแผ่นนี้สามารถหาได้จากกรมราชทัณฑ์ มีขายในราคาแผ่นละ 1 บาท

“ผมไม่เคยพูดว่าจดหมายฉบับนี้ออกมาอย่างถูกระเบียบจากรมราชทัณฑ์ แต่บอกว่าได้รับมาจากผู้ต้องกักที่ สตม.สวนพลู ซึ่งผมได้ตั้งข้อสังเกตว่าการผลักดันชาวอุยกูร์ครั้งนี้ เป็นการพูดคุยกันระหว่างนายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อีกทั้งช่วงเวลานี้ เป็นการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พวกเขาถูกกักขังลืมเป็นเวลากว่า 10 ปี ทำไมเราไม่เคยได้ยินว่า ผู้ต้องกักมีความสมัครใจมากน้อยแค่ไหนว่า เขาต้องการกลับบ้าน จนปลายเดือน ก.พ. ที่รัฐบาลบอกว่า ทุกคนสมัครใจกลับ ซึ่งในความเป็นจริงคงเป็นไปไม่ได้” นายกัณวีร์ กล่าว

นายกัณวีร์ กล่าวว่า ในฐานะตนเป็น สส.พยายามจะสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ หากรัฐบาลมีหลักฐานใด ที่ระบุได้ว่า ชาวอุยกูร์เหล่านี้สมัครใจจะกลับประเทศจีนจริง ขอให้เอาออกมาแสดงให้สังคมและเวทีระหว่างประเทศ มั่นใจว่า เราไม่มีการผลักดันคนเข้าสู่หลักประหารอีกครั้ง ซึ่งประเทศไทยต้องรับแรงปะทะในเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะถ้าถูกถาม เราจะตอบได้หรือไม่ ส่วนในมุมความชอบธรรม ตนมองว่านี่เป็นการติดกระดุมผิดตั้งแต่ต้น

5 มีนาคม ของทุกปี 'วันนักข่าว' หรือ วันสื่อสารมวลชนแห่งชาติ จุดเริ่มต้นจากการก่อตั้ง สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย

วันนักข่าว หรือ วันสื่อสารมวลชนแห่งชาติในประเทศไทย ตรงกับวันที่ 5 มีนาคม ของทุกปี ซึ่งตรงกับ วันสถาปนา สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย หรือ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในปัจจุบัน

สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2498 โดยนักข่าวรุ่นบุกเบิก จำนวน 16 คน จากหนังสือสำคัญ ระบุว่า "โดยที่ได้พิจารณาเห็นว่า หนังสือพิมพ์ได้มีการพัฒนาการก้าวหน้ามาเป็นลำดับและผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ก็ได้เพิ่มพูนเป็นปึกแผ่นแน่นหนาขึ้นทุกที จึงเป็นการสมควรที่จะได้กำหนดวันที่ระลึกขึ้นสักวันหนึ่ง เพื่อแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้ร่วมวงการ จึงตกลงกันให้ถือเอาวันที่ 5 มีนาคม เป็นวันนักข่าวและหนังสือพิมพ์รายวันทุกฉบับจะถือเอาวันนี้ เป็นประเพณีแห่งการหยุดงานประจำปี ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2510 เป็นต้นไป"

"ขอให้วันนักข่าวจงเป็นวันแห่งความแช่มชื่นเบิกบาน เป็นวันแห่งความสามัคคี กลมเกลียวกัน เพื่อธำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและความเจริญก้าวหน้าของอาชีพหนังสือพิมพ์"

สำหรับบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ร่วมลงนาม ประกอบด้วย
- หนังสือพิมพ์เกียรติศักดิ์
- หนังสือพิมพ์ข่าวพาณิชย์
- หนังสือพิมพ์ข่าวสยาม
- หนังสือพิมพ์ซินเสียง
- หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
- หนังสือพิมพ์ตงฮั้ว
- หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
- หนังสือพิมพ์ประชาธิปไตย
- หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย
- หนังสือพิมพ์หลักเมือง
- หนังสือพิมพ์ศิรินคร
- หนังสือพิมพ์สยามนิกร
- หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
- หนังสือพิมพ์สากล
 - หนังสือพิมพ์บางกอกเวิลด์
 - หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์

ส่วนนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย สมัยนั้นคือนายโชติ มณีน้อย

วอร์เรน บัฟเฟตต์ ส่ายหัวนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของทรัมป์ ชี้สุดท้ายแล้วผู้บริโภคต่างหากที่เป็นผู้แบกรับภาษีเหล่านี้

(4 มี.ค. 68) สำนักข่าวเอ็นบีซี รายงานว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) หนึ่งในนักลงทุนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ให้สัมภาษณ์กับ CBS News เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยระบุถึงกรณีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ใช้มาตรการเก็บภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือต่อรองกับหลายประเทศ

บัฟเฟตต์ ในวัย 94 ปี ระบุว่า “จริงๆ แล้วภาษีศุลกากรนั้น เรามีประสบการณ์กับเรื่องนี้มามากมาย มันเป็นการกระทำที่เปรียบดั่งสงครามในระดับหนึ่ง, เมื่อเวลาผ่านไป ภาษีเหล่านั้นก็คือภาษีสินค้านั่นแหละ ในที่สุดแล้วผู้บริโภคต่างหากที่เป็นผู้แบกรับภาระภาษีนำเข้าเหล่านี้ ไม่ใช่เทวดานางฟ้าที่ไหน”

เอ็นบีซี รายงานอีกว่า นี่นับเป็นครั้งแรกที่ บัฟเฟตต์ ออกมาแสดงความเห็นต่อสาธารณะเกี่ยวกับนโยบายการค้าของทรัมป์ ซึ่งล่าสุดมีการประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% และเพิ่มภาษีอีก 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค.นี้

ทั้งนี้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เชื่อว่าการเก็บภาษีจาก บริษัท ขนาดใหญ่และบุคคลที่ร่ำรวยจะลดภาระภาษีที่ชาวอเมริกันที่ต้องเผชิญ รวมถึงการปรับสมดุลระบบภาษีจะช่วยให้สหรัฐฯจัดการการขาดดุลทางการเงินที่เพิ่มขึ้นและให้เงินทุนเพียงพอสำหรับการบริการสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top