Friday, 13 June 2025
ค้นหา พบ 48779 ที่เกี่ยวข้อง

‘ธนกร’ ห่วง ศก.ยังไม่ฟื้นเต็มที่ แนะ รัฐบาลจัดสรรงบฯอัดฉีด ฟื้น!! ‘คนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน’ หวังปลุกท่องเที่ยวโตต่อเนื่อง

(2 มี.ค. 68) นายธนกร วังบุญคงชนะ  อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์หลังฝ่ายค้านเปลี่ยนใจยื่น อภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงนายกรัฐมนตรีคนเดียว โดยอ้างว่าเป็นเพราะข้อสอบรั่วเพราะก่อนหน้านี้เตรียมซักฟอกถึง 10 รัฐมนตรี ว่า ตนไม่แน่ใจว่าพรรคฝ่ายค้านกำลังเล่นเกมอะไรอยู่ มองว่าถ้าตั้งใจจะให้มีการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างจริงจัง ก็ควรเดินหน้าตามที่เตรียมข้อมูลมาอย่างดีแล้ว แต่เมื่อ ข้อมูลรายชื่อ 10 รัฐมนตรีหลุดออกไปกลับเปลี่ยนแผนอภิปรายแค่นายกฯคนเดียว ตนจึงอดมองไม่ได้ว่า ความจริงอาจไม่ใช่เป็นเพราะข้อสอบรั่ว แต่เป็นเพราะมีข้อมูลไม่หนักแน่นเพียงพอหรือไม่ ที่จะอภิปรายรัฐมนตรีรายบุคคลได้ จึงได้เปลี่ยนใจกระทันหันแบบนี้  ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว วันเดียวนั้นยังไม่ค่อยเกิดขึ้นนักในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหลายสมัยที่ผ่านมา จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายค้านโชว์ฝีมือการอภิปรายอย่างเต็มที่สร้างสรรค์และตรงประเด็น ไม่ใช้วาทกรรมโจมตีทางการเมืองเพียงอย่างเดียว

เมื่อถามว่าในฐานะอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล มีข้อเสนอแนะใดที่นายกฯควรจะต้องเร่งเครื่องแก้ปัญหา นายธนกร กล่าวว่า ตนเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ แม้ว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาทะลุเป้า กว่า 35.5 ล้านคนแล้วก็ตาม แต่การท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอย อัตราการบริโภคภายในประเทศยังไม่มากเท่าที่ควร จึงขอเสนอแนะให้รัฐบาลรื้อฟื้นโครงการ “คนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกัน” กลับมาใช้ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายซื้อของอุปโภคบริโภคและกระตุ้นการท่องเที่ยวของคนไทยให้เที่ยวภายในประเทศบูมมากยิ่งขึ้น และควรออกมาตรการกระตุ้นด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงนี้จนถึงสงกรานต์และต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อให้เม็ดเงินและเศรษฐกิจหมุนเวียนเติบโตในประเทศมากยิ่งขึ้น

“นโยบายนี้ประสบความสำเร็จในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ พบว่า พี่น้องประชาชนชื่นชอบเป็นอย่างมากและมีการจับจ่ายซื้อของ มีการเข้าใช้บริการจองโรงแรมที่พักในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ มากเป็นเท่าตัว ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงนั้นก็เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ จึงเห็นว่าหากเป็นนโยบายที่ดีไม่ว่ารัฐบาลชุดไหน ก็ควรใช้โมเดลที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ มาต่อยอดทำให้ดียิ่งขึ้นได้“ นายธนกร กล่าวทิ้งท้าย

‘จิรายุ’ เผย!! เลขา สมช.-รองผบ.ตร.กลับถึงไทยแล้วเช้านี้ พร้อมส่งคลิป!! สรุป ‘ชาวอุยกูร์’ กลับมาตุภูมิ เรียบร้อย

(2 มี.ค. 68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช. ) และ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางกลับถึงกรุงเทพมหานครเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาแล้ว โดยคณะทำงานจะสรุปรายละเอียดผลการดำเนินงาน รายงานต่อนายกรัฐมนตรีให้ทราบต่อไป ขณะที่ เช้านี้ คณะทำงานใน ภารกิจ “11ปีที่เป็นไปได้ในการกลับสู่บ้านเกิด“ (11 Year Mission possible ) ได้จัดทำคลิปวิดีโอความยาว 1.52 นาที เพื่อให้เห็นถึงขั้นตอนและวิธีในการทำงาน และผลของการส่งชาวอุยกูร์กลับสู่บ้านเกิด อย่างปลอดภัย

นายจิรายุ กล่าวว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้หารือกับคณะทำงาน โดยจะกำหนดวันและเวลาในการเดินทางกลับไปประเทศจีน มลฑลซินเจียง เพื่อติดตามตรวจสอบถึงสภาพความเป็นอยู่ของชาวอุยกร์ู ที่ไทยส่งกลับบ้านเกิดตามที่รัฐบาลจีนได้ให้พันธสัญญาไว้กับไทยภายในเวลา 15 -30 วันนับจากนี้  โดยพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้เสนอเพิ่มเติม มอบหมายเบื้องต้นให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ และมอบหมายให้ตนไปร่วมกันพิจารณาถึงกำหนดการที่จะเดินทางไปประเทศจีนและขอให้ประสานงาน เพื่อให้สามารถนำสื่อมวลชนของไทยร่วมสังเกตการณ์ด้วย

กระแสข้าวเหนียวมะม่วง มาแรง!! ปี 67 ยอดส่งออกพุ่ง 4,716 ล้าน เพิ่มขึ้นเกือบ 46 % เกาหลีใต้ นำเข้าอันดับ 1 ชู!! ซอฟต์พาวเวอร์ ข้าวเหนียวมะม่วงไทย คู่มาตรการลดภาษี

(2 มี.ค. 68) นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงตัวเลขการส่งออกมะม่วงสดของไทย ปี 2567 มูลค่ารวม 4,716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.68%

โดยตลาดส่งออก 5 อันดับแรก คือ เกาหลีใต้ 2,931 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132.7%, มาเลเซีย 1,191 ล้านบาท ลดลง 12.8%, ญี่ปุ่น 139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.8%, เวียดนาม 131 ล้านบาท ลดลง 15.7% และ 5.สปป.ลาว 38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.3%

สาเหตุเกาหลีใต้ นำเข้าอันดับที่ 1 เป็นผลจากมาตรการรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ขยายโควตานำเข้าผลไม้เขตร้อน ลดภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรชั่วคราว เพื่อลดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคและลดปัญหาขาดแคลนสินค้าในประเทศ โดยปรับอัตราภาษีมะม่วงและมังคุด 0% จากเดิม 30% ทุเรียน 5% จากเดิม 45% ส่งผลให้มะม่วงไทยเป็นที่ต้องการมากขึ้น

ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจลดภาษีผลไม้ลงอีก จะช่วยสนับสนุนการส่งออกมะม่วงและผลไม้ของไทย ซึ่งปัจจุบันเกาหลีใต้นำเข้า 6 ชนิด คือ มะม่วง มังคุด ทุเรียน กล้วย มะพร้าว และสับปะรด เติบโตได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ กระแสข้าวเหนียวมะม่วงในสื่อโซเชียลมีเดีย และพฤติกรรมผู้บริโภคเกาหลีใต้ที่นิยมรับประทานผลไม้สดหลังอาหารหรือเป็นอาหารว่างด้วย

รัฐบาลไทยมุ่งมั่นส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรรมไทยให้เติบโตไปพร้อมกับตลาดโลก โดยการรักษามาตรฐานคุณภาพและผลักดันผลไม้ไทยให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทย และเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยในระยะยาว

‘รัฐบาล’ จะเอาเศรษฐกิจอยู่ไหม ?? คำถาม ที่ต้องการคำตอบ อย่างเร่งด่วน

(2 มี.ค. 68) เศรษฐกิจโลก น่าจะไม่สงบไปอีกพักใหญ่ หลังการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครน ประสบความล้มเหลว ล่มไม่เป็นท่า สองผู้นำปะทะคารมดุเดือด ฟากสหรัฐ อยากให้ยุติสงคราม พร้อมให้ยูเครน รับภาระเป็นลูกหนี้ กว่า 500,000 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ ฝ่ายยูเครน ต้องการให้สหรัฐสนับสนุน เพื่อต่อสู้กับรัฐเซีย ต่อ... เมื่อสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่สงบ ราคาพลังงาน ก็ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เหลือ 2.00% ถือเป็นข่าวดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ อย่างน้อยการลดดอกเบี้ยนโยบาบ ก็สามารถเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจและประชาชน โดยเฉพาะ SMEs ที่มีหนี้สะสมกว่า 3.15 ล้านล้านบาท จะได้รับผลดีจากการลดดอกเบี้ย ช่วยลดภาระต้นทุนทางการเงินและเพิ่มโอกาสในการขยายกิจการ 

การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณบวกที่ภาคธุรกิจรอคอยอย่างมาก เนื่องจากจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในตลาดและส่งผลดีต่อการส่งออก ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังต้องการการฟื้นตัวและการสนับสนุนจากภาครัฐ

ซึ่งปัจจุบัน สินค้าเกษตรส่งออก โดยเฉพาะข้าวไทย ประสบปัญหา ยอดส่งออกลดลงกว่า 32% ในช่วง 2 เดือนแรกปี 2568 อินเดียกลับมาเป็นผู้นำในการส่งออกข้าว ประสิทธิภาพในเชิงผลผลิตต่อไร่ ไทยสู้เวียดนามไม่ได้แล้ว 

ตลาดโลกแข่งขันสูง ผลผลิตข้าวไทยลดลงเรื่อยๆ จนสู้คู่แข่งอย่างเวียดนามไม่ได้แล้ว ศักยภาพการผลิตข้าวคาร์บอนต่ำเวียดนามแซงหน้าไทยไปมากถึง 1.6 เท่า ที่สำคัญประสิทธิภาพในเชิงผลผลิตต่อไร่ เวียดนามก็สร้างผลผลิตต่อไร่ได้ดีกว่า พร้อมกับเตรียมตัวเจออุปสรรคการส่งออก สหรัฐอเมริกา จ่อขึ้นภาษีนำเข้าข้าว และสินค้าเกษตร อีก 10% 

ส่งออกได้ลดลง เพราะ ‘ข้าวไทย ราคาแพงขึ้น’ เหมือนจะเป็นข่าวดี สำหรับ เกษตรกรชาวนาไทย ที่จะลืมตาอ้าปาก มีกิน มีใช้ แต่กลไกข้าวไทยในปัจจุบัน ชาวนาขายข้าวได้ราคาสูง จริงหรือ? หรือแพงขึ้น จากอะไร? และใคร? ที่ได้ประโยชน์จากข้าวแพง กันแน่ !! 

สถานการณ์ตลาดหุ้นไทย (SET) ปรับลงอีก 22 จุด หลุด 1,200 จุด โดยหุ้นใน SET100 แดงเกือบยกแผง นับจากต้นปี SET ร่วงลงมาแล้วเกือบ 190 จุด หรือเศรษฐกิจไทย จะกู่ไม่กลับแล้ว นักลงทุนไม่เชื่อมั่นต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่มี กังวลการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ที่จะกระทบต่อการส่งออกสินค้า

‘รัฐบาล’ จะเอาเศรษฐกิจอยู่ไหม ? เป็นคำถาม ที่ต้องการคำตอบอย่างเร่งด่วน ก่อนที่เศรษฐกิจไทย จะพังทลายมากไปกว่านี้.. 

สงครามยูเครน กับทางเลือกสุดท้ายของ เซเลนสกี้ จำ!! ต้องคืนสู่โต๊ะเจรจากับ ‘วลาดีมีร์ ปูติน’

(2 มี.ค. 68) สถานการณ์สงครามยูเครนในปัจจุบันกำลังเดินไปสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้ง เมื่อความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ อาจต้องกลับไปเจรจากับรัสเซียเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้เงื่อนไขที่แทบจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบทั้งหมด ไม่ใช่เพราะเซเลนสกี้เต็มใจ แต่เพราะสถานการณ์บีบให้ยูเครนแทบไม่เหลือทางเลือกอื่นอีกแล้ว

1. อเมริกาถอนตัว – ยูเครนเหลือเพียงตัวเอง
หนึ่งในปัจจัยที่ผลักยูเครนเข้าสู่สถานการณ์นี้คือสหรัฐฯ กำลังแสดงท่าทีลดการสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภายใน เช่น การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 ที่อาจนำโดนัลด์ ทรัมป์กลับคืนสู่ตำแหน่ง ซึ่งเขาเคยประกาศชัดว่าต้องการยุติสงครามโดยเร็ว หรือแม้แต่ฝ่ายเดโมแครตเองก็เริ่มมีความลังเลเรื่องการสนับสนุนทางการเงินและอาวุธแก่ยูเครน เมื่อเห็นว่าสงครามกำลังยืดเยื้อโดยไม่มีวี่แววของชัยชนะ นอกจากนี้ สหรัฐฯ กำลังเผชิญภาระทางทหารและเศรษฐกิจที่หนักขึ้นจากการสนับสนุนอิสราเอลในสงครามกับฮามาส การขยายบทบาทในเอเชียเพื่อสกัดกั้นจีน และการเตรียมรับมือความขัดแย้งในภูมิภาคอื่น ๆ ทั้งหมดนี้ทำให้ความสำคัญของยูเครนในสายตาของวอชิงตันลดลงไป เมื่อสหรัฐฯ ไม่สามารถให้การสนับสนุนได้เต็มที่ ยูเครนจึงต้องเผชิญชะตากรรมของตัวเอง ท่ามกลางกองกำลังรัสเซียที่ยังคงรุกคืบอย่างต่อเนื่อง

2. อธิปไตยที่ต้องแลกด้วยดินแดน?
สงครามที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2022 ทำให้ยูเครนต้องเผชิญความสูญเสียอย่างหนัก ทั้งกำลังพลกว่า 500,000 นาย ที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ดินแดนสำคัญทางยุทธศาสตร์ เช่น โดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาโปริชเชีย และเคอร์ซอน ที่ถูกรัสเซียผนวกอย่างเป็นทางการ การเจรจากลับไปสู่โต๊ะของปูตินในเวลานี้ย่อมหมายความว่ายูเครนอาจต้อง สูญเสียดินแดนบางส่วนเป็นเงื่อนไขของสันติภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไครเมีย ซึ่งรัสเซียครอบครองมาตั้งแต่ปี 2014 และปัจจุบันมีฐานทัพเรือที่สำคัญในเซวาสโตโพล นอกจากนี้ แม้ยูเครนจะรักษาอธิปไตยได้ในทางเทคนิค แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประเทศอาจกลายเป็น รัฐกันชน (Buffer State) ที่ต้องดำรงอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัสเซียโดยปริยาย หรืออาจถูกบีบให้มีสถานะคล้ายฟินแลนด์ในช่วงสงครามเย็น (Finlandization) ที่แม้จะเป็นเอกราช แต่ต้องปฏิบัติตามนโยบายต่างประเทศที่เอื้อต่อมอสโก

3. บทเรียนจากการเลือกตั้งผู้นำที่มองข้ามประโยชน์ชาติ
หนึ่งในข้อวิพากษ์สำคัญคือการตัดสินใจของยูเครนที่เลือกผู้นำซึ่ง มองข้ามความเป็นจริงทางภูมิรัฐศาสตร์ และพยายามเดินหน้าชนรัสเซียอย่างไม่ไตร่ตรองถึงผลที่ตามมา เซเลนสกี้ในฐานะอดีตนักแสดงที่ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำรัฐ อาจไม่เข้าใจความซับซ้อนของเกมการเมืองระหว่างประเทศเท่าที่ควร และเลือกเดิมพันอนาคตของประเทศไว้กับการสนับสนุนของตะวันตกเพียงอย่างเดียว โดยลืมไปว่าการเจรจากับรัสเซียอาจเป็นหนทางที่หลีกเลี่ยงความเสียหายมหาศาลให้กับประเทศได้ตั้งแต่แรก

4. การเดินหมากครั้งสุดท้ายของยูเครน
แม้ว่ายูเครนจะพยายามต่อต้านต่อไป แต่ สภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ กำลังพลที่ลดลง และการขาดการสนับสนุนจากตะวันตกกำลังบีบให้ยูเครนต้องคิดใหม่ หากยูเครนยังคงเลือกแนวทางแข็งกร้าว อาจเสี่ยงต่อการล่มสลายของรัฐคล้ายกับอัฟกานิสถานหลังสหรัฐฯ ถอนตัว หรืออาจถูกบังคับให้ยอมรับข้อตกลงที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างมหาศาล ในท้ายที่สุด เซเลนสกี้อาจไม่มีทางเลือกนอกจากกลับไปเจรจากับปูติน แต่ คำถามที่แท้จริงคือ ยูเครนจะยังเหลืออะไรอยู่บ้างให้ต่อรอง?


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top