Sunday, 15 June 2025
ค้นหา พบ 48796 ที่เกี่ยวข้อง

2 มีนาคม พ.ศ. 2477 รัชกาลที่ 7 ทรงประกาศสละราชสมบัติ ในขณะประทับอยู่ที่ประเทศอังกฤษ

วันนี้เมื่อ 91 ปีก่อน ... 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 คืออีกหนึ่งวันสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่อยากให้คนไทยทุก ๆ คนจดจำ สำนึก และตระหนักซึ้งถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระมหากษัตริย์ไทย เพราะนี่คือวันที่รัชกาลที่ 7 ทรงประกาศสละราชสมบัติ โดยขณะนั้นพระองค์ได้ประทับอยู่ที่ประเทศอังกฤษ

หลังจากเหตุการณ์การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 จากคณะราษฎรส่งผลให้ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีไปประทับที่ประเทศอังกฤษ และแต่งตั้งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

หลังจากนั้นไม่นาน พระองค์ทรงตัดสินพระทัยสละราชสมบัติ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 โดยในพระราชหัตถเลขาสละราชสมบัติ ปรากฏข้อความที่ใช้อ้างอิงกันเสมอในเวลาต่อมา ดังนี้

"... ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะเพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิ์ขาดและโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของราษฎร ... บัดนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่าความประสงค์ของข้าพเจ้าที่จะให้ราษฎรมีสิทธิออกเสียงในนโยบายของประเทศไทยโดยแท้จริงไม่เป็นผลสำเร็จ และเมื่อข้าพเจ้ารู้สึกว่าบัดนี้เป็นอันหมดหนทาง ที่ข้าพเจ้าจะช่วยเหลือ ให้ความคุ้มครองแก่ประชาชนได้ต่อไปแล้ว ข้าพเจ้าจึงขอสละราชสมบัติ และออกจากตำแหน่งพระมหากษัตริย์แต่บัดนี้เป็นต้นไป ..."

อนึ่ง พระองค์ทรงกลับไปใช้พระนามและพระราชอิสริยยศเดิม ได้แก่ สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา รวมระยะเวลาในการครองราชย์ได้ 9 ปี ขณะมีพระชนมายุได้ 41 พรรษา โดยไม่ทรงตั้งรัชทายาทเพื่อพระราชทานวโรกาสให้รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้คัดเลือกพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่เอง คณะรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรจึงได้อัญเชิญเสด็จ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล เสด็จขึ้นครองราชย์ขณะมีพระชนมายุ 9 พรรษา ซึ่งพระองค์เป็นเจ้านายเชื้อพระบรมวงศ์พระองค์ที่ 1 ในลำดับพระราชสันตติวงศ์แห่งกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. 2467 ขึ้นทรงราชย์สืบพระราชสันตติวงศ์ต่อไป ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477

3 มีนาคม พ.ศ. 2544 เครื่องบินโบอิ้งการบินไทย ระเบิดคาลานจอด ก่อน ‘ทักษิณ ชินวัตร’ จะขึ้นเครื่องเพียงไม่กี่นาที

วันนี้ เมื่อ 24 ปีก่อน เครื่องบินโบอิ้ง 737-4D7 ของการบินไทย เที่ยวบินที่ 114 เกิดระเบิดขึ้นก่อนที่ผู้โดยสารขึ้นเครื่องไม่กี่นาที 

เครื่องบินลำดังกล่าวเกิดระเบิดขึ้น กลางสนามบินดอนเมือง สร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนจำนวนมาก โชคดีของผู้โดยสารที่ยังไม่มีใครขึ้นบนเครื่องบิน จึงไม่มีผู้โดยสารสังเวยชีวิตในครั้งนั้น มีเพียงเจ้าหน้าที่จำนวน 8 คนอยู่บนเครื่องและในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 คน

เครื่องบินโบอิ้ง 737-4D7 ของการบินไทย เที่ยวบินที่ 114 ที่มีกำหนดการเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปท่าอากาศยานเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2544 เวลา 14.48 น. แต่ปรากฏว่า 35 นาทีก่อนกำหนดการบิน ขณะที่เครื่องจอดอยู่ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองได้เกิดการระเบิดขึ้น ผลการสอบสวนพบว่าเกิดการสันดาปที่ถังน้ำมันส่วนกลาง ซึ่งอยู่ใกล้กับระบบปรับอากาศซึ่งทำงานอย่างต่อเนื่อง และมีความร้อนสูง ขณะเกิดเหตุยังไม่มีผู้โดยสารอยู่บนเครื่อง มีเพียงเจ้าหน้าที่จำนวน 8 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 คน

ทั้งนี้ เที่ยวบินดังกล่าว มีบุคคลสำคัญหลายคนเดินทางไปด้วย รวมทั้งนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และพานทองแท้ ชินวัตร บุตร ซึ่งจะเดินทางไปร่วมพิธีเปิดศูนย์การค้าสุรวงศ์เซ็นเตอร์ ของ ‘เจ๊แดง’ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่จังหวัดเชียงใหม่

หลังเกิดเหตุนายทักษิณ แถลงว่า การระเบิดนี้เป็นการก่อวินาศกรรมเพื่อหวังลอบสังหารตนเอง โดยฝีมือของผู้เสียผลประโยชน์ชาวต่างชาติ (ว้าแดง) เนื่องจากนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล หลังจากที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานของไทยตรวจพบหลักฐานที่เชื่อว่าอาจเป็นร่องรอยของระเบิดซีโฟร์หรือเซมเท็กซ์ (Semtex)

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 11 เมษายน 2544 คณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐ (National Transportation Safety Board) ที่ส่งผู้เชี่ยวชาญเดินทางเข้ามาร่วมสอบสวนด้วย แถลงว่า ได้นำชิ้นส่วนไปทดสอบที่ห้องทดลองของเอฟบีไอแล้วไม่พบร่องรอยของวัตถุระเบิด และว่ากรณีนี้คล้ายกับการระเบิดของเครื่องโบอิง 737 ของสายการบินฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2543 ซึ่งเกิดจากความบกพร่องของถังน้ำมันเชื้อเพลิง

ภายหลังการระเบิด ท่าอากาศยานในประเทศไทยได้กำหนดมาตรการตรวจสอบผู้โดยสารรัดกุมขึ้น มีการตรวจสอบบัตรประจำผู้โดยสารทุกคนก่อนขึ้นเครื่อง มีการเอกซเรย์กระเป๋า และสำนักนายกรัฐมนตรีได้จัดสรรงบประมาณ เพื่อจัดซื้อเครื่องบินประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ‘ไทยคู่ฟ้า’

‘ชาวเน็ตสงสัย’ เพจนี้ ‘บ้านและสวน’ ของจริงมั้ย หลังโพสต์แซะ ‘นก สินจัย – นก ฉัตรชัย’ ไปไม่รอดต้องปิดบริษัท

(28 ก.พ. 68) จากกรณีที่มีเพจเฟซบุ๊กชื่อ ‘บ้านและสวน’ ได้โพสต์ภาพ นก สินจัย และ นก ฉัตรชัย เปล่งพาณิชย์ ดารานักแสดงรุ่นใหญ่ พร้อมข้อความว่า  ไปไม่รอด! 2 นก ฉัตรชัยและสินจัยไม่มีละครให้ทำต้องปิด บ.ของตนเรียบร้อยแล้ว ยุติบทบาทผู้จัด ด้านแฟนคลับแซวกลับไปเป่านกหวีดแบบเก่า ‎ ‎

โดยโพสต์ดังกล่าว มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก พร้อมตั้งคำถามว่า เพจนี้ใช่เพจ ‘บ้านและสวน’ จริงหรือไม่ เนื่องจากใช้ชื่อบ้านและสวน ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าเป็นสื่อดัง เกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน ในเครืออมรินทร์  

ทั้งนี้ เมื่อเดือนกันยายน 2567 นก สินใจ ได้ออกมาเปิดเผยว่า วงการละครเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก คนดูละครน้อยลง และช่องไม่กล้าลงทุน ทำให้ผู้จัดละคร บริษัท เมตตา และ มหานิยม ที่อยู่มากว่า 20 ปี ต้องปิดบริษัทแล้ว เพื่อให้พนักงานได้แยกย้ายกันไปทำงานอย่างอื่น เพราะไม่สามารถแบกและซัพพอร์ตทุกคนได้

เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุการณ์นี้ผ่านไปนานหลายเดือนแล้ว เหตุใด เพจดังกล่าวยังนำข้อความพร้อมภาพมาโพสต์ส่อเจตนาให้คนเข้าใจผิดอยู่อีก อีกทั้งยัง ตามแซะถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งทั้ง 2 คนเข้าร่วมชุมนุม กปปส. อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากทางเพจได้โพสต์ข้อความดังกล่าว ก็มีชาวเน็ตจำนวนมาก ได้แสดงความคิดเห็น ไปในทิศทางที่ไม่เห็นด้วยและไม่เหมาะสมที่เพจออกมาแซะ อีกทั้งยังมีจำนวนไม่น้อย ที่ให้กำลังใจกับดารารุ่นใหญ่ทั้ง 2 เช่นกัน

‘วีระศักดิ์ โควสุรัตน์’ นำคณะนักธุรกิจไทยเยือนบรูไน ศึกษาโอกาสการลงทุนด้านผลิตโปรตีนคุณภาพสูงจากปลา

(28 ก.พ. 68) นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงการนำคณะนักธุรกิจไทย เดินทางเยือนประเทศบรูไน ว่า การเดินทางเยือนบรูไนในครั้งนี้ เพื่อดูงานด้านการผลิตโปรตีนคุณภาพสูง และน้ำมันปลาที่สกัดจากปลาซาร์ดีน ทูน่าและแมคคาเรลที่ปกติสะพานปลาและตลาดปลาส่วนมากคัดส่วนที่ไม่ต้องการออก เพื่อนำกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบสกัดทางวิทยาศาสตร์โมเลกุลในอุณหภูมิต่างๆ ให้กลายเป็นผงโปรตีนชงดื่มสำหรับผู้กำลังสร้างกล้ามเนื้อ ผงโปรตีนเฉพาะทางสำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่แพทย์ต้องการให้ได้รับสารอาหารเฉพาะทาง หรือนำไปผสมเป็นผงปลาป่นในการผสมอาหารสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งพิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์ว่าจะทำให้เซลของสัตว์ได้รับสารโปรตีนคุณภาพสูง ใช้เป็นหัวอาหารเลี้ยงปลาไหลในญี่ปุ่น ใช้เลี้ยงไก่ไข่ให้ออกไข่ที่มีไข่ขาวเป็นวุ้นหนาขึ้น เปลือกไข่แข็งแรงขึ้น และไข่แดงแสดงความสมบูรณ์กว่า โดยตลาดญี่ปุ่นรับซื้อในราคาสูงมาก และยังเป็นที่ต้องการในตลาดโปรตีนคุณภาพสูงทั่วโลก

โดยนายวีระศักดิ์ นำคณะเดินทางไทยมาสำรวจกิจกรรมด้านการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในบรูไนและนอกชายฝั่งเกาะบอร์เนียวเป็นเวลา 3 วัน ทั้งนี้เป็นไปตามคำเชิญของทางการบรูไนที่สนใจดึงดูดผู้มีเทคโนโลยีอาหารระดับสูงและต้องการสำรวจความร่วมมือด้านการจัดการทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืน และศึกษาลู่ทางการร่วมลงทุน โดยได้จัดให้คณะได้เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบรูไนอีกตำแหน่งหนึ่ง ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลบรูไน จัดให้เข้าพบและประชุมร่วมกับอธิบดีกรมประมงของบรูไน  จัดให้เข้าประชุมร่วมกับรักษาการเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจของบรูไน ตลอดจนจัดให้ไปเยี่ยมชมกิจการแพปลา ท่าขึ้นลงเรือสินค้า กิจการห้องเย็นและการเพาะเลี้ยงปลาด้วยระบบปิดที่ทันสมัย สามารถผลิตปลากะพงขาวผสม 3 สายพันธุ์ คือกะพงออสเตรเลีย ผสมกะพงบรูไนและกะพงอ่าวไทยที่มีจุดเด่นที่แตกต่างกันให้กลายเป็นลูกปลาเพาะเลี้ยงไฮบริดที่เหมาะกับความเป็นไปของน้ำทะเลของบรูไน เพื่อใช้เวลาขุนจนโตเหมาะกับการนำขึ้นสู่ภัตตาคารชั้นสูง ในเครือโรงแรมใหญ่ของโลก เช่น เครือไฮแอท เครือแมริออต หรือบรรดาร้านอาหารมิชลินสตาร์ และมารีน่าเบย์แซนด์ ในสิงคโปร์เป็นต้น

พร้อมกันนี้ ฯพณฯเอกอัครราชทูตไทย บุศรา กาญจนาลัย ได้เป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงอาหารมื้อกลางวันต้อนรับคณะเดินทางไทย ก่อนคณะจะออกเดินทางกลับไทย โดยมีรักษาการเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจของบรูไนและคณะผู้บริหารกองทุนดารุสซาราม ซึ่งแสดงความประสงค์จะขอร่วมลงทุนในกิจการอาหารระดับสูงของไทยครั้งนี้ รวมทั้งมีผู้แทน Bank of Singapore บินจากสิงคโปร์มาเข้าร่วมใน working lunch ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงบันดาร์เสรีเบกาวานด้วย

สถานทูตสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนคนอเมริกัน ระวังก่อการร้ายในไทย ซ้ำรอยปี 58 หลังส่งอุยกูร์กลับจีน

(28 ก.พ. 68) เฟซบุ๊กเพจสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐโพสต์ข้อความ ระบุว่า ตามที่รัฐบาลไทยได้ส่งตัวกลุ่มผู้ลี้ภัยอุยกูร์จำนวน 45 คนกลับประเทศจีน ซึ่งการส่งตัวกลับเช่นนี้ได้เคยสร้างเหตุการณ์รุนแรงในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเหตุการณ์ในปี 2558 ที่การส่งตัวอุยกูร์จากประเทศไทยส่งผลให้เกิดการโจมตีด้วยระเบิดที่ศาลพระพรหมเอราวัณในกรุงเทพฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 คน และบาดเจ็บ 125 คน 

จากเหตุการณ์ดังกล่าว สถานทูตสหรัฐฯ ในประเทศไทย ขอออกประกาศเตือนพลเมืองสหรัฐฯ ให้เพิ่มความระมัดระวังและความระมัดระวังในการเดินทาง โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านและสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมักจะไปเยือน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด

นอกจากนี้สถานทูตสหรัฐฯ ในประเทศไทยขอแนะนำให้พลเมืองสหรัฐฯ ระมัดระวังและเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านหรือสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมักจะไปเยือน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ทบทวนแผนความปลอดภัยส่วนบุคคลปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top