Thursday, 19 June 2025
ค้นหา พบ 48906 ที่เกี่ยวข้อง

เชียงใหม่-แฟชั่นโชว์การกุศลคอลเลคชั่นพิเศษ Charity Fashion Show 2025 

(16 ก.พ. 68) นิ่มซิตี้ ร่วมกับ BELIVE PREMIUM จัดแฟชั่นโชว์การกุศลสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่บน Promenade Runway ยาวที่สุดในภาคเหนือ คอลแลบ ผู้บริหาร นักธุรกิจ เซเลบเชียงใหม่ เดินแบบกว่า 40 ชีวิต ท่องเที่ยวและกีฬาหนุน Soft Power จังหวัดเชียงใหม่
 
“นิ่มซิตี้ คอมมูนิตี้ มอลล์” ศูนย์รวมไลฟ์ สไตล์ของชาวเชียงใหม่ โดย ดร.ปราณี สุวิทย์ศักดานนท์ จับมือร่วมกับ “บีลีฟ พรีเมี่ยม” แบรนด์เสื้อผ้าสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่ ที่เรียบหรู ทันสมัย โดยคุณพิมอัครา พิชญ หนึ่งในแบรนด์ดีไซเนอร์ไทยที่รับการคัดเลือกให้ไปแสดงผลงานใน International Fashion Week ระดับนานาชาติ จัดแฟชั่นโชว์ชุดเสื้อผ้าคอลเลคชั่นพิเศษ Charity Fashion Show 2025 พร้อมเปิดแสดง กระเป๋าถือ Premium Handbags ที่ผลิตจากผ้าไหมสั่งทอพิเศษตรานกยูงพระราชทาน ซึ่งได้รับการส่งเสริมของกรมหม่อนไหม บนPromenade Runway ยาวกว่า 130 เมตร โดยได้รับเกียรติจากผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมทั้งรองประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงใหม่และรองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่มาเป็นประธานจัดงานในครั้งนี้
 
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติในงานว่า “เมืองเชียงใหม่เมืองแห่งวัฒนธรรมและ Soft Power ชั้นนำของไทย งานนี้เป็นอีกเวทีที่แสดงถึงความสร้างสรรค์ของแฟชั่นไทย ที่ผสมผสานเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ผมเชื่อว่าแฟชั่นคือเครื่องมือสื่อสารที่ทรงพลัง และเป็นการเชื่อมโยงวัฒนธรรมที่แข็งแรง ในค่ำคืนนี้คือท่านจะได้พบกับการนำเสนอ Soft Power ของไทยสู่สายตาชาวโลก ผ่านผลงานของนักออกแบบที่มีความสามารถภายใต้แบรนด์ไทยสู่สากล พร้อมกับการนำเสนอเสื้อผ้าจากนางแบบกิตติมศักดิ์กว่า 40 ท่าน”
 
นางวารีญา แสนศรี ธมิกานนท์ รองประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงใหม่ และรองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานจัดงาน Charity Fashion Show 2025 กล่าวว่า “เชียงใหม่เป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมที่หลากหลายแขนงและผู้สร้างผลงานจากเชียงใหม่หลายแบรนด์ก็มีความคิดสร้างสรรค์ที่ดีมาก มีฝีมือในการออกแบบ มีการผลิต ที่ประณีตงดงาม อีกทั้งยังมีความเป็นมาตรฐานและความเป็นสากลที่สามารถส่งออกไปแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้ ในด้านแฟชั่นเช่นกัน เชียงใหม่มีผู้สร้างสรรค์ผลงาน ที่สามารถเติบโตไปสู่ตลาดระดับสากลได้ และในวันนี้ แบรนด์ Belive Premium ก็เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ดี เป็นแบรนด์ดีไซเนอร์เชียงใหม่ ซึ่งตัดเย็บโดยช่างฝีมือระดับสูงที่เชียงใหม่ อีกทั้งยังสนับสนุนชุมชนทอไหมทั้งในเชียงใหม่และภูมิภาคต่างๆ เป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจชุมชน ตั้งแต่ ต้นน้ำไปยังปลายน้ำ อีกทั้งยังโปรโมทให้นักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศได้สัมผัส ในเชิง Soft Power ของจังหวัดเป็นอย่างดี”
 
นางสาว พิมอัครา พิชญ CEO & Executive Designer แบรนด์ Belive Premium เปิดเผยว่า “บีลีฟ พรีเมี่ยม เป็นแบรนด์เชียงใหม่ ที่เน้นการเลือกใช้ผ้าไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าไหมไทยสั่งทอมือ ตามสเป็คพิเศษตามมาตรฐาน “ตรานกยูงพระราชทาน” ที่ส่งเสริมโดยกรมหม่อนไหมเป็นการสนับสนุนชุมชนทอไหมในภูมิภาคโดยสั่งผ้าไหมจากทั้งเขต 1, 2 และ 3 รวมไปถึงผ้าไหมสั่งทอพิเศษที่ผลิตจากทัณฑสถานหญิงอีกด้วย”
 
“เราทราบดีว่าภาพจำของคนทั่วไป จะคิดว่าผ้าไหมจะดูแก่ ดูโบราญ ดูล้าสมัย หรือออกไปทางสินค้า OTOP เราจึงออกแบบ ตัดเย็บ และผลิตงานออกมาให้ทันสมัย โมเดิร์น หรูหรา และเป็นสากล ใครที่ได้สัมผัสงานของ บีลีฟ พรีเมี่ยม จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สวยงาม และเนี๊ยบมาก เป็นการลบภาพจำที่ว่านั้นไปเลย ในระยะเวลา 2-3 ปีตั้งแต่เปิดตัวแบรนด์ บีลีฟ พรีเมี่ยม มาก็นับได้ว่าได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากลูกค้า VIP ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งอัตราการเติบโตของแบรนด์อยู่ที่ 400-600% ต่อปี นอกจากแบรนด์ Belive Premium ที่ผลิตจากผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน แล้ว เรายังมีแบรนด์ Prelim ที่เน้นผ้าฝ้าย ผ้าใยกัญชง ฯลฯ อีกด้วย” 
 
นางพัศลินทร์ เศวตรัตน์ ผอ. ททท.สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า“Fashion เป็น 1 ในยุทธศาสตร์ 5F ของรัฐบาล นโยบายแผนผลักดันวัฒนธรรมที่มีศักยภาพเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทยหรือ Soft Power ประกอบไปด้วย Film, Food, Fashion, Fightingและ Festival ซึ่ง ททท. เชียงใหม่ ได้มุ่งเน้นปลุกกระแสยกระดับผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย สร้างสรรค์ให้เกิดเป็นสินค้ามูลค่าสูงระดับพรีเมียมสากล สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในพื้นที่ ในขณะเดียวกันยังเป็นการต่อยอดและเผยแพร่วัฒนธรรม หัตถศิลป์หัตถกรรม อันทรงคุณค่าอย่างของคนในท้องถิ่นให้เกิดการรับรู้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น”
 
ดร.ปราณี สุวิทย์ศักดานนท์ ผู้บริหารโครงการนิ่มซิตี้ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นิ่มซิตี้ เป็นโครงการที่เป็นศูนย์รวมชีวิตประจำวันของชาวเมืองไม่ว่าจร้านอาหาร เครื่องดื่ม ของว่าง และซุปเปอร์มาร์เก็ตมาเป็นเวลานาน ในปีนี้ทางนิ่มซิตี้ก็ได้เสริมกิจกรรมด้วยการเป็นศูนย์กลางด้านแฟชั่นและไลฟ์ สไตล์ ในการจัดงานครั้งนี้จะเป็นการตอบแทนลูกค้าภายใน คือ ร้านค้าต่างๆ และลูกค้าภายนอก ที่มาทานอาหารและใช้บริการร้านค้าต่างๆในโครงการ โดยงานครั้งนี้มีความตั้งใจที่จะให้ลูกค้าได้รับชมแฟชั่นโชว์ดีๆ จากบีลีฟ พรีเมี่ยม ที่มีสำนักงานใหญ่และFlagship Store อยู่ในโครงการระหว่างรับประทานอาหาร”
 
ดร.ปราณี กล่าวเสริมด้วยว่า “ทางโครงการสนใจที่สนับสนุนส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นการผลักดัน Soft Power และได้มีการหารือกับ ททท. เชียงใหม่CEA เชียงใหม่ ว่าจะให้ความร่วมมือในกิจกรรมต่างๆ ของทุกๆหน่วยงาน และมีความสนใจที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Chiang Mai Design Week ในปีนี้ เพื่อให้นิ่มซิตี้ เป็นศูนย์กลางด้านแฟชั่นและไลฟ์ สไตล์อีกแห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่”

นางสาวพิมอัครา กล่าวปิดท้ายว่า “งานแฟชั่นโชว์ในวันนี้ถือว่าเป็นงานใหญ่ของปีและได้รับความร่วมมือด้วยดีจาก โครงการนิ่มซิตี้ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าแบบคอมมูนิตี้มอลล์ที่ครบวงจร และมีกลุ่มลูกค้าใกล้เคียงกัน การนำเสนอแฟชั่นโชว์ร่วมกันในครั้งนี้ถือว่าเป็นกิจกรรมใหญ่ที่จะรวมแขกวีไอพีหลากหลายมารวมกัน 

อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากหลากหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น กรมหม่อนไหม, ททท. เชียงใหม่,สมาคมแม่บ้านมหาดไทยเชียงใหม่, YEC เชียงใหม่ ,YEC ลำพูน รวมทั้งกองประกวดนางสาวเชียงใหม่ และร่วมสนับสนุนโดย CEA เชียงใหม่,สมาคมไทยสปาล้านนา ,สมาคมโรงแรมภาคเหนือ(ตอนบน ), อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมทั้งภาคเอกชน บริษัท ห้างร้าน จำนวนมาก มีนางแบบกิตติมศักดิ์มาร่วมเดินแบบทั้งสิ้นกว่า 40 คน ดูแลการเดินทางโดยสายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ 

ความพิเศษสุดของงานจะอยู่ที่การเปิดโอกาสให้แขกผู้มีเกียรติที่สนใจได้ร่วมประมูล หรือจองสินค้า เพื่อร่วมสมทบทุนด้วยกันไปกับโครงการ และสินค้าบางชิ้นจะเป็นสินค้าพิเศษ Limited Edition ที่ผลิตขึ้นเพียงชิ้นเดียวเพื่อเป็นที่ระลึกพิเศษจากงานนี้เท่านั้น”

งาน Charity Fashion Show 2025 นี้จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 15 กพ. 2568 ณ โครงการนิ่มซิตี้ เวลา 18:00 เป็นต้นไป โดยทางโครงการมีความตั้งใจ เนรมิต Runway ยาวกว่า 130 เมตรนี้ทอดยาวตลอดด้านหน้าของโครงการโซนซิตี้ไลฟ์ โดยจัดแบบ Exclusive Private VIP Charity สำหรับแขก VIP รับเชิญพิเศษจำนวน 150 ท่าน พร้อมด้วยสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ซึ่งในงานจะรับรองแขกด้วยซุ้มอาหารว่างและเครื่องดื่มที่หลากหลายจากการสนับสนุนของร้านค้าในโครงการ ซึ่งในส่วนลูกค้าของร้านอาหารต่างๆภายในโครงการสามารถใช้บริการแต่ละร้านได้ตามปกติ อีกทั้งยังสามารถรับชมแฟชั่นโชว์ดังกล่าวได้จากโต๊ะของแต่ละร้านอาหารในระยะใกล้ด้วยเช่นกัน

สมุทรปราการ-เฮลั่น!! อรัญญา สุวรรณบุตร แชมป์เก่า!! เขี่ยสัมล่วงแบบขาดลอยเลือกตั้งท้องถิ่น

เมื่อวันที่ (16 ก.พ. 68) ได้มีการกำหนดให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา ต.แพรกษา อ.เมือง สมุทรปราการ โดยมีผู้ยื่นสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา จำนวน 2 ราย ได่แก่

นางอรัญญา สุวรรณบุตร อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา ผู้สมัครหมายเลข 1 และนางสาวจริยา หลงน้อย พรรคประชาชน ผู้สมัครหมายเลข 2 โดยในวันเลือกตั้งทางเทศบาลตำบลแพรกษา ได้จัดเตรียมสถานที่ลงคะแนนการเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา จำนวน 36 หน่วยด้วยกัน ซึ่งหลังจากเปิดให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีประชาชนทยอยเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก และหลังจากที่ปิดหีบการเลือกตั้งเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ที่ผ่านมา

ทาง กกต.และคณะเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งได้ทยอยนับคะแนนผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา ซึ่งผลจากการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ทั้ง 36 หน่วย ปรากฎว่าทางด้าน นางอรัญญา สุวรรณบุตร ผู้สมัครหมายเลข 1  ได้ 6706 คะแนน และ นางสาวจริยา หลงน้อย ได้ 2397 คะแนน นับได้ว่าผลคะแนนรวมชนะแบบขาดลอยทุกหน่วยเลือกตั้งและเป็นไปตามคาดว่าฐานคะแนนเสียงของทางนายกอรัญญา สุวรรณบุตร นั้น ยังคงแข็งโป๊ก แบบว่าหาคู่เปรียบยาก คงเป็นเพราะนางอรัญญา สุวรรณบุตร นั้น เป็นที่รักและศรัทธาของทางพี่น้องประชาชนมาโดยตลอดอย่างแท้จริง อีกทั้งยังแสดงให้เห็นประจักษ์แล้วว่าต่อให้เป็นพรรคไหนจะส่งใครลงแข่งในเขตนี้คงต้องคิดหนักและเหนื่อยแน่นอนเพราะฐานเสียงที่แข็งแกร่งจริงๆ ดั่งคำที่ว่า นกมีขน คนมีพวก ย่อมบินขึ้นที่สูงได้ แต่ถ้านกมีขน แต่ไม่เอาพวกก็บินขึ้นที่สูงไม่ได้

นอกจากนี้ ทางเทศบาลตำบลแพรกษา ภายใต้การบริหารของนาง อรัญญา สุวรรณบุตร ยังมีผลงานที่โดดเด่นทั้งทางด้านการพัฒนาด้านการศึกษา ภาษา การดูแลฝึกอาชีพแก่กลุ่มผู้สูงอายุ และการพัฒนาท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่องแบบใจแลกใจ จึงทำให้สามารถรักษาเก้าอี้นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษาได้อีกสมัย

โดยทางด้าน นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีฯ กล่าวว่า ตนเองต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลแพรกษาที่มอบให้ และไว้วางใจให้ตนกับมาทำหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษาอีกสมัย โดยหลังจากที่คะแนนเสียงมีมติเป็นเอกฉันท์แล้ว และได้มีการรับรองตามข้อกฎหมายกำหนดเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นคงจะมีการเปิดประชุมสภาโดยท่านประธานสภา พร้อมทั้งแถลงนโยบายการขับเคลื่อนแผนพัฒนาบริหารท้องถิ่นต่อที่ประชุมสภา รวมถึงกำหนดแผนพัฒนาท้องถิ่นในด้านอื่นๆ ต่อไป หลังจากนี้ตนเองจะขอทำหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษาให้ดีที่สุดให้สมกับความไว้วางใจที่พี่น้องประชาชนมอบให้ พร้อมทั้งจะพัฒนาท้องถิ่นให้มีความเจริญก้าวหน้าต่อไป

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

‘ดร. สุชัชวีร์’ เผยภาพประวัติศาสตร์ "คุณหมอลาดกระบังรุ่น 1" จากภาพฝันสู่การสร้าง "แพทย์นวัตกรรมอินเตอร์” ที่แสนภาคภูมิใจ

เมื่อวันที่ (16 ก.พ. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเฟซบุ๊กของ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ “ดร.เอ้ สุชัชวีร์” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารฯ ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ภาพประวัติศาสตร์ "คุณหมอลาดกระบังรุ่น 1" เรื่องอยากเล่า

สิบปีที่แล้ว เมื่อครั้งผมได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. ในปี 2558 ผมมี "ความฝัน" มุ่งมั่นสร้าง "คณะแพทยศาสตร์ สจล." เพื่อสร้าง "แพทย์นวัตกรรม" ที่นอกจากจะรักษาผู้ป่วยได้ดีแล้ว ยังมีความรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ สร้างงานวิจัย และนวัตกรรมการแพทย์ เพื่อให้ประเทศไทยพึ่งพาตนเองได้ ทั้งยังต้องมีความเป็น "อินเตอร์" ไร้ข้อจำกัดทางภาษา และวัฒนธรรม ทำงานได้กับทุกคน ทุกที่ในสังคมโลก 

วิสัยทัศน์สร้าง "แพทย์นวัตกรรมอินเตอร์" เป็น "ความฝันอันยิ่งใหญ่" และใหม่มากในวงการแพทย์ของไทย จึงมีความยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจ และมีความท้าทายมาก ในการจะทำให้สำเร็จ จะต้องอาศัย "ผู้นำ" ที่มีความรู้ลึกซึ้ง มีความกล้าหาญ และมีอุดมการณ์ มาเดินทางร่วมกันกับผม ถึงจะเป็นไปได้

ผมจึงใช้เวลาเฟ้นหา "คณบดี" มาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งคณะแพทย์ในฝัน คนแล้วคนเล่า นานนับปี สุดท้ายสวรรค์เป็นใจ ให้ผมได้พบกับ "คุณหมอน้อย" ศาสตราจารย์ นายแพทย์อนันต์ ศรีเกียรติขจร อดีตรองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์ระดับ 11 ผู้เชี่ยวชาญด้าน "สมอง" หรือ Neurologist ตัวท็อปของไทย ตกลงปลงใจ กล้าลาออกจากจุฬาฯ มาร่วมก่อการณ์ ตั้งคณะแพทย์ลาดกระบัง บรรจุเป็นอาจารย์ใหม่ "คนแรก" ในปี 2559 โดยไม่มีอะไรมาการันตี มีเพียงโต๊ะให้นั่งตัวเดียว ไม่มีอาคาร ไม่มีใคร ใจถึงมาก

และแล้ว...เส้นทางการสร้างคณะแพทย์ และสร้างหลักสูตรแพทย์อินเตอร์แนวใหม่ ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ผมในฐานะ "อธิการบดี" และพี่หมอน้อยในฐานะ "คณบดี" เราวิ่งสู้ฟัด ทำกันทุกอย่าง ผมไปพรีเซนต์ที่ "แพทยสภา" อธิบายหลักสูตรแนวใหม่ด้วยตนเอง ซึ่งต้องกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ของแพทยสภาที่เชื่อมั่น รับรองหลักสูตรแพทย์นวัตกรรมอินเตอร์ ครั้งแรกของประเทศไทย เป็น "จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ"

จากอาจารย์หมอคนแรก สู่การมาร่วมอุดมการณ์ ของอาจารย์หมอชั้นนำของประเทศ นำโดย รองศาสตราจารย์นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ อดีตรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ อาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวช ปัจจุบันเป็น "ผู้อำนวยการ" และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพ.ธัญญพงษ์ ณ นคร "พี่หมอเก๋" นักเรียนทุนอนันทมหิดล ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยา ผู้ได้รับรางวัล อาจารย์แพทย์ที่เป็นแบบอย่างของอาจารย์แพทย์ จากแพทยสภา นพ.อนวัช เสริมสวรรค์ อาจารย์หมอหัวใจนักประดิษฐ์ ที่มีชื่อเสียง และยังมีทั้งอาจารย์หมอรุ่นใหม่จากในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์

เราจึงเปิดรับ "นักศึกษารุ่นแรก" ในปี 2561 ซึ่งได้รับคำถามมากมายจากผู้ปกครองว่า "แพทย์นวัตกรรม" คืออะไร ลาดกระบังเปิดหมอเป็นไปได้หรือ อาจารย์หมอมาจากไหน หลักสูตรทำไมไม่เหมือนคนอื่น เราตอบกันเป็นร้อยพันคำถาม รายวัน รายคน แต่เราก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย เพราะเราเข้าใจ ต้องขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ที่ไว้ใจเรา ฝากลูกไว้ให้เราดูแล

ปีแรก พี่หมอน้อยบอกผมว่า "อธิการ เราจะรับเฉพาะเด็กที่พร้อม และมีความตั้งใจจริง รับเท่าที่เรามั่นใจ" เพราะถึงแม้เราสามารถรับได้ถึง 50 คนต่อปี ใครก็รู้คณะแพทย์เปิดรับเท่าไหร่ ก็มีคนมาเรียน เพราะหมอ คือ "วิชาชีพในฝัน" แต่อาจารย์กลับรับเด็กไม่ถึงครึ่งของโควต้าที่รับได้ เปิดใหม่ก็ยังกล้าไม่ง้อคนเรียน ผมยอมใจเขาเลย

จากวันนั้นถึงวันนี้ "นักศึกษารุ่นแรก" ได้ผ่านกระบวนการบ่มเพาะอย่างเข้มข้น จากคณะแพทย์ลาดกระบัง ที่อาจารย์ทุกคนเอาจริงเอาจัง และได้ออกฝึกชั้นคลินิก ที่โรงพยาบาลสิรินธร ซึ่งได้รับการดูแลใส่ใจจากอาจารย์หมอที่นั่นอย่างเต็มที่ น้องนักศึกษาต้องขยัน อดหลับอดนอน มุมานะจนเรียนจบ 6 ปี ในปี 2567

วันนี้ วันถ่ายรูปบัณทิตแพทย์ "รุ่นที่ 1" บัณฑิตแพทย์ใหม่ 17 คน ผู้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งแรกใน 65 ปี ของพระจอมเกล้าลาดกระบัง ผมซึ่งติดตามดูน้องทุกคน ตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาปีที่ 1 ทุกคนยังสดใสเหมือนเดิม แม้ต้องทำงานหนักเป็นแพทย์ประจำ ลามารับพระราชทานปริญญาบัตร

"พี่เอ้" เรียกน้อง ๆ ทุกคนว่า "คุณหมอ" อย่างภาคภูมิใจที่สุด จึงขอแสดงความยินดีกับคุณหมอลาดกระบังรุ่น 1 และคุณพ่อคุณแม่ทุกคน ผมเชื่อมั่นว่าคุณหมอจะสร้างชื่อเสียงให้กับคณะแพทย์ลาดกระบัง ทุ่มเททำหน้าที่แพทย์ด้วยจรรยาบรรณ และด้วยความเสียสละ เพื่อประโยชน์ของสังคม ทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีแก่รุ่นน้อง รุ่นต่อๆไป 

ผมยังมองดูอาจารย์หมอทุกคน ที่ยิ้มแย้มด้วยความภาคภูมิใจในชีวิต "ครู" เพราะได้เห็นลูกศิษย์ ประสบความสำเร็จ ท่านต้องใช้ความรู้ทั้งชีวิตเพื่อสร้าง "ลูกศิษย์" หนึ่งคน ต้องทุ่มเท เสียสละความสุข ความสบายส่วนตน เพื่อบ่มเพาะ "ลูกศิษย์" ให้เก่งยิ่งกว่าตนเอง ครูเป็นมากกว่า " เรือจ้าง" เพราะต้องดูแล ให้คำแนะนำ "ลูกศิษย์" ตลอดชีวิตครู โดยเฉพาะ "ครูแพทย์" ที่ลูกศิษย์ยังคงต้องปรึกษาตลอดไป

ผมจึงขอกราบขอบพระคุณ "ครู" จากคณะแพทยศาสตร์พระจอมเกล้าลาดกระบังทุกคน ที่ท่านทำหน้าที่ "ครู" อย่างสุดความสามารถ จนสร้างประวัติศาสตร์ในวันนี้

เผยตัวจริงของ 'แจ็ค เดอะ ริปเปอร์' ปริศนา 137 ปี คนร้ายตัวจริงคือ 'อารอน คอสมินสกี'

(17 ก.พ. 68) หนึ่งในคดีฆาตกรรมที่มืดดำมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลกอย่างคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญของ 'แจ็ค เดอะ ริปเปอร์' ที่ทำให้กรุงลอนดอนหวาดกลัวมากว่า 137 ปี อาจถูกไขกระจ่างแล้ว หลังจากมีความคืบหน้าครั้งใหญ่ในคดีนี้ 

'แจ็ค เดอะ ริปเปอร์' คือฆาตรกรต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับการข่มขืนและฆาตกรรมหญิงอย่างน้อย 5 คน ซึ่งถูกเรียกว่า 'Canonical Five' แต่มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจก่อเหตุเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 6 คดี เหยื่อทั้ง 5 ราย ได้แก่ แมรี นิโคลส์ (43 ปี), แอนนี แชปแมน (47 ปี), อลิซาเบธ สไตรด์ (44 ปี), แคทเธอรีน เอดโดวส์ (46 ปี) และแมรี เจน เคลลี (25 ปี) ซึ่งถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมระหว่างเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน ปี 1888

สิ่งที่ทำให้คดีนี้กลายเป็นปริศนามายาวนานคือ ลักษณะอำมหิตของฆาตกร ซึ่งในบางกรณีได้ผ่าตัดเอาอวัยวะภายในของเหยื่อออกไป นำไปสู่ข้อสันนิษฐานว่า ฆาตกรอาจมีความรู้ด้านกายวิภาคศาสตร์หรือศัลยกรรม การค้นหาตัวตนของอาชญากรที่โหดร้ายรายนี้เป็นปริศนาที่ทำให้ตำรวจ นักประวัติศาสตร์ และนักสืบอาชญากรรมต่างพยายามไขคำตอบมาโดยตลอด

แต่ล่าสุด นักวิจัยด้าน 'Ripperology' และนักเขียนชาวอังกฤษ รัสเซลล์ เอ็ดเวิร์ดส์ อ้างว่าเขาสามารถเปิดเผยตัวจริงของฆาตกรรายนี้ได้แล้ว โดยอาศัยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จากผ้าคลุมไหล่ที่เป็นของแคทเธอรีน เอดโดวส์ หนึ่งในเหยื่อของ 'แจ็ค เดอะ ริปเปอร์' ซึ่งเขาซื้อมาในปี 2007 ผ้าชิ้นนี้มีคราบเลือดและคราบอสุจิติดอยู่ ซึ่งต่อมาได้ถูกนำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์และพบดีเอ็นเอจากสองบุคคลที่แตกต่างกัน

ดีเอ็นเอหนึ่งตรงกับทายาทของเหยื่อหญิง ส่วนอีกดีเอ็นเอหนึ่งตรงกับทายาทของผู้อพยพชาวโปแลนด์ ซึ่งขณะเกิดเหตุมีอายุราว 23 ปี เมื่อทราบชื่อนี้ เอ็ดเวิร์ดส์จึงสามารถระบุตัวตนของฆาตกรได้ว่าเป็น 'อารอน คอสมินสกี' ช่างตัดผมผู้อพยพชาวโปแลนด์ที่อาศัยอยู่ในย่านไวท์แชปเพล ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยจากก่อนหน้านี้

"เมื่อพิจารณาว่าดีเอ็นเอของเขาอยู่บนผ้าคลุมไหล่ที่พบในที่เกิดเหตุ และเขาถูกระบุชื่อมาก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยคิดว่าใครคนอื่นจะเป็นแจ็ค เดอะ ริปเปอร์เลย" เอ็ดเวิร์ดส์กล่าวกับ news.com.au

เขายังเผยว่ากระบวนการตรวจสอบดีเอ็นเอใช้เวลานานถึง 4 ปี โดยต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ มากมาย รวมถึงการปนเปื้อนของหลักฐาน อย่างไรก็ตาม เมื่อพบว่าดีเอ็นเอบนผ้าคลุมไหล่ตรงกับทายาทของผู้ต้องสงสัย เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างที่สุด

"มันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของผม เมื่อดีเอ็นเอจากเลือดบนผ้าคลุมไหล่ตรงกับทายาทสายตรงของเหยื่อ และเมื่อเราตรวจสอบคราบอสุจิแล้วพบว่าตรงกับผู้ต้องสงสัย ผมแทบไม่อยากเชื่อว่าเราได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของ 'แจ็ค เดอะ ริปเปอร์' แล้ว"

แม้จะมีการเปิดเผยนี้ แต่การไขปริศนา 'แจ็ค เดอะ ริปเปอร์' ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางดีเอ็นเอนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สุดในการค้นหาความจริงของหนึ่งในคดีฆาตกรรมที่ลึกลับที่สุดในประวัติศาสตร์อาชญากรรมโลก

‘จิตรเทพ เนื่องจำนงค์’ ส่งต่อความรู้ให้น้อง ๆ มทร. ธัญบุรี ปูทางสู่ผู้ประกอบการด้าน Agro-food Innovation

เมื่อวันที่ (8 ก.พ. 68) นายจิตรเทพ เนื่องจำนงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีดีไอพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้บรรยายหัวข้อ การสร้าง Digital branding และการเป็น Content creator ให้กับน้อง ๆ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ในโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมแนวคิดด้านการสร้างแผนธุรกิจ เพื่อเป็นผู้ประกอบการ Agro-food Innovation หน้าใหม่ 

สำหรับ นายจิตรเทพ นับเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านการบริหารธุรกิจและการลงทุน โดยก่อนหน้านี้ เคยเป็นที่ปรึกษาเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, เลขานุการประจําคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ ดีล เมคเกอร์ จำกัด  และ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางจิน อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top