Wednesday, 25 June 2025
ค้นหา พบ 49000 ที่เกี่ยวข้อง

'อาลีบาบา' เปิดตัว 'Qwen 2.5' ท้าชน DeepSeek อ้างเหนือกว่าทุกด้าน

(29 ม.ค.68) ดูเหมือนศึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะยิ่งเดือดดาลมากขึ้น เมื่อ อาลีบาบา (Alibaba) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน เปิดตัว Qwen 2.5 โมเดล AI รุ่นใหม่ที่อ้างว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่า DeepSeek-V3 ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างมากในวงการ

การเปิดตัว Qwen 2.5-Max ในช่วงวันแรกของเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นเวลาที่ชาวจีนส่วนใหญ่ใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัว เป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงแรงกดดันจากการเติบโตของ DeepSeek สตาร์ตอัป AI สัญชาติจีนที่เพิ่งเปิดตัวโมเดลใหม่ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบกับคู่แข่งต่างชาติ แต่ยังสะเทือนวงการเทคโนโลยีในประเทศจีนด้วย

หน่วยธุรกิจคลาวด์ของอาลีบาบาประกาศผ่าน WeChat อย่างเป็นทางการว่า "Qwen 2.5-Max มีประสิทธิภาพเหนือกว่า GPT-4o, DeepSeek-V3, และ Llama-3.1-405B ในแทบทุกด้าน" โดยเปรียบเทียบกับโมเดล AI แบบโอเพนซอร์สจาก OpenAI และ Meta

Qwen 2.5-Max มีขนาดโมเดลใหญ่ถึง 405 พันล้านพารามิเตอร์ ซึ่งช่วยให้ประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าใจบริบทข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น โดยการเปิดตัวนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามราคา AI ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ในราคาที่ถูกลง

การที่อาลีบาบาสามารถพัฒนา Qwen 2.5 ที่อ้างว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่า DeepSeek-V3 ในเวลาที่รวดเร็ว เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพในการวิจัยและพัฒนาของอาลีบาบา

Qwen 2.5 มีหลากหลายโมเดลให้เลือกใช้ เช่น Qwen 2.5-Max, Qwen 2.5-Chat, และ Qwen 2.5-Turbo ซึ่งแต่ละโมเดลมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม โดยสามารถเข้าถึงผ่าน API บนแพลตฟอร์มคลาวด์ของอาลีบาบา

อย่างไรก็ตามหากเทียบระหว่าง AI ของอาลีบาบา กับ DeepSeek มีส่วนที่ต่างกันคือ DeepSeeek เน้นการพัฒนา AGI และขายโมเดลในราคาถูก ขณะที่ อาลีบาบา ใช้กลยุทธ์นำ AI ไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจ และให้บริการผ่านแพลตฟอร์มคลาวด์ ทำให้การแข่งขันระหว่างทั้งสองไม่เพียงแค่เรื่องของประสิทธิภาพของโมเดล แต่ยังเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจและการเข้าถึงตลาดอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ DeepSeek ได้สร้างความฮือฮาในซิลิคอนวัลเลย์ หลังเปิดตัวผู้ช่วย AI ใช้โมเดล DeepSeek-V3 เมื่อวันที่ 10 มกราคม และตามมาด้วย DeepSeek-R1 เมื่อวันที่ 20 มกราคม ส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากต้นทุนการพัฒนาต่ำกว่าคู่แข่ง ทำให้นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของการลงทุนใน AI ของบริษัทยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ

กระแสความสำเร็จของ DeepSeek ยังจุดชนวนให้เกิดการแข่งขันในวงการ AI ของจีนอย่างเร่งด่วน โดยเพียงสองวันหลังจากการเปิดตัว DeepSeek-R1 บริษัท ByteDance เจ้าของ TikTok ได้ปล่อยอัปเดตโมเดล AI ตัวใหม่ พร้อมเคลมว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่าโมเดล o1 ของ OpenAI ในการทดสอบ AIME ซึ่งเป็นเกณฑ์วัดความสามารถของ AI ในการประมวลผลคำสั่งที่ซับซ้อน

‘เศรษฐา‘ บรรยายหลักสูตร วปอ.รุ่น 67 ขอทุกคนโฟกัสความเสมอภาค-เท่าเทียม พร้อมฉายภาพโอกาสประเทศไทย

(28 ม.ค. 68) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ขึ้นบรรยายพิเศษให้กับวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 67 หัวข้อวิชา "ประสบการณ์และการเป็นผู้นำระดับยุทธศาสตร์" โดยนายเศรษฐา กล่าวช่วงหนึ่งว่า ตนไม่ได้มีอคติหรือว่ามีประเด็นอะไรกับใครใน วปอ. เพียงแต่มีความหวังดี และอยากให้สถาบันนี้อยู่อย่างมั่นคงพวกเราก็ทราบกันดีอยู่ว่าในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้มีการเรียกร้องจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นอดีตรัฐมนตรี คอลัมนิสต์ต่างๆ ให้ยกเลิกคอร์สที่ใช้คําว่าอภิสิทธิ์ชนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น บยส. วปอ. ฯลฯ ซึ่งต้องยอมรับว่าจริงๆพวกท่านเป็น 0.01% ของประชาชนคนไทย ตนเชื่อว่าท่านทราบว่า การจะได้เข้ามาเรียนที่นี่ลําบากขนาดไหน แม้ตนจะไม่เคยเรียนหลักสูตรไหน แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาด้วยการยกเลิก และคิดว่าไม่ถูกต้องด้วย ตนคิดว่า หากมีปัญหาเราก็ต้องแก้ ซึ่งการแก้ไขก็ไม่ได้แก้ไขได้แค่บางหลักสูตร แต่ต้องทําอย่างต่อเนื่อง สม่ําเสมอ และต้องเกิดการรวมพลังจากทุกภาคส่วน

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า มาพูดวันนี้ ตนอยากฉายภาพประเทศไทยมากว่า ว่าจากนี้เราจะทําอะไรกันบ้าง และเราควรจะทําอะไร โดยเรื่องแรกที่เรากำลังประสบ คือการลดลงของประชากร ไทยรัฐรายงานเมื่อเช้าว่า เรามีประชากรลดลงด้วยทุกวันอีก 50 ปี ประชากรจะหายไปครึ่งหนึ่ง แล้วคนที่ขายของทั้งหลายจะขายขอฃให้ใคร เศรษฐกิจระยะยาวจะเป็นอย่างไร แล้วคนที่อยู่จะเป็นคนสูงวัยขนาดไหน เราต้องให้ลูกหลานมาแบกในส่วนนี้เรื่อยๆ ประเทศเราจะเดินไปข้างหน้าได้อย่างไร  ถ้าเราไม่ปรับปรุงวิธีการดํารงชีวิต วิธีการทํางานเพื่อทําให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ดังนั้น เราต้องสนับสนุนการมีลูก โดยจะต้องทำสังคมให้เสมอภาค เท่าเทียม มีโอกาสเข้าถึงระบบการศึกษาที่ถูกต้อง ไร้เส้นสาย และต้องมีนโยบายเพื่อให้คนมั่นใจว่า ลูกหลานจะได้รับสิทธิพื้นฐาน มีอากาศบริสุทธิ์ มีสิทธิเสรีภาพในการเลือกประกอบอาชีพ และต้องมีการปรับโครงสร้างภาษีรายได้ส่วนบุคคล ภาษีนิติบุคคลเพื่อดึงดูดให้คนรุ่นใหม่อยากอยู่ในประเทศ แต่ไม่ใช่ภาษี Vat

นายเศรษฐา กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูงมากในการดึงดูดการลงทุน เรามีสถานพยาบาลที่ดีและทันสมัย มีโรงเรียนนานาชาติที่ได้รับการยอมรับ มีอาการการกินที่ดี ด้วยปัจจัยเล็กๆเหล่านี้ ทำให้หลายองค์กรของต่างชาติจึงอยากลงทุนในไทย แต่ที่สำคัญที่สุด คือความเป็นกลาง ไทยเราเป็นเพื่อนของทุกคน มีหลายประเทศที่ใฝ่ฝันหาประเทศที่เป็นกลางจริงๆ ซึ่งนี่ไม่ใช่ผลงานของรัฐบาลใด แต่เป็นจิตวิญญาณของคนไทยเองที่ทำให้เราได้เปรียบในเรื่องนี้ อีกเรื่องคือ Landbridge เรามีโอกาสทองตรงนี้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของโกลบอลโลจิสติกส์ อาวุธยุทโธปกรณ์เราอาจจะไม่จําเป็นต้องมียุทโธปกรณ์เยอะหรือมีมูลค่าราคาแพง เพราะจริงๆแล้วเนี่ยเราใช้คําว่าสงครามการค้าตลอดเวลา ตราบใดที่เรามี Landbridge และตราบใดที่เราจะมีอินฟราสตรัคเจอร์ระดับโลกถือว่าเรามีอาวุธอันนึงที่จะสามารถช่วยปกป้องเอกราชของประเทศไทยได้ ทําให้เราเป็นประเทศที่มีคนอยากค้าขายด้วย

นายเศรษฐา กล่าวถึงเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร หรือ entertainment complex ด้วยว่า ไม่ได้หมายถึง คาสิโน อย่างเดียว วันนี้เรามี natural studium เรามี indoor natural stauium ที่จะจัดเวิลด์คลาสอีเวนท์ สร้างสนามอินดอร์สเตเดียม 30,000-40,000 ที่นั่ง โรงแรม exhibition center สวนสนุกอะไรหลายๆอย่าง ทําให้ประเทศไทยเป็น man made exhibition ที่มีคนอยากเข้ามา ควบคู่ไปกับการขยายสนามบินสุวรรณภูมิจาก 60 ล้านคนเป็น 150 ล้านคน ควบคู่ไปกับการลงทุนข้ามชาติที่ทาง BOI ไปติดต่อมา ควบคู่ไปกับสร้างล้านนาอินเตอร์เนชั่นแนลแอร์พอร์ตที่ทางภาคเหนือ ควบคู่ไปกับการสร้างสนามบินอันดามันที่ภาคใต้ นําความเจริญไปทั่วถึงไม่ใช่แค่ภาคใดภาคหนึ่ง รองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว คาสิโนเป็น 5% เท่านั้นเอง ตนว่านี่เป็นเรื่องที่เราควรที่จะต้องพูดคุยในเรื่องประสิทธิผล ไม่ใช่ไม่ชอบพรรคหรือคนที่ทําแล้วก็บอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ดี

”เรื่องสำคัญที่ผมอยากพูดคุยกับทุกคนคือเรื่องของความเท่าเทียม ผมไม่ได้มองในด้านของเศรษฐกิจอย่างเดียว ผมมองในแง่ของจิตใจด้วยเราต้องให้เกียรติ ให้พื้นที่ให้ความเสมอภาคเท่าเทียมไม่ใช่ความเหนือชั้นกับชนบางกลุ่ม ผมไม่ปฏิเสธว่าสังคมไทยเนี่ยมีคนรวยอยู่เยอะมาก เพราะยอดพีระมิดมีอยู่ไม่กี่หมื่นคนเท่านั้นเอง ส่วนมากจะอยู่ที่ฐานราก เรื่องของความเสมอภาคเท่าเทียมจึงเป็นเรื่องที่สําคัญ ตอนที่ผมเป็นนายกฯ วันแรกที่ผมเดินทางออกต่างจังหวัดมีการเลี้ยงรับรองมื้อเที่ยง ผมก็เดินไปดูโต๊ะผู้สื่อข่าวกับสตาร์ฟของทําเนียบรัฐบาล และผู้ติดตาม เขาทานข้าวผัดกับแตงโม ผมก็เลยเรียก สลน.มาบอกว่าผมไม่เอาแบบนี้ ทุกคนต้องทานเหมือนกันหมด เวลาผมทานเลี้ยง ผมมีอาหารสํารับเดียวครับ ดังนั้น ถ้าท่านเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลงไปตรวจพื้นที่ ผมอยากฝากข้อคิดไว้อันหนึ่งว่า ลูกน้องท่านเขาจะกินข้าวกับท่านปีนึงกี่หน บางคนแปลก ยิ่งเด่น ยิ่งชอบ ยิ่งจะทําตัวเหนือเขา นี่คือสิ่งที่ negative มากๆสําหรับคนคนรุ่นใหม่ สําหรับข้าราชการชั้นผู้น้อย หรือสําหรับคนที่กําลังไต่เต้า อีกประเด็นคืออย่ามาใช้ทรัพย์สมบัติของประเทศชาติในทางที่ผิด และเป็นการลดแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ ผมคิดว่าการที่เราจะทําให้เด็กรุ่นใหม่มีความหวังและแรงบันดาลใจต้องวางตัวให้ดีและเหมาะสมที่สุด วันนี้ทุกท่านได้อยู่ในสถาบันอันทรงเกียรติ เราต้องถามว่า หน้าที่ของเราคืออะไร แทนที่จะนั่งกันกินข้าวกันเรื่องไวน์ เรื่องลูก เรื่องธุรกิจ เด็กไทยประมาณสองล้านคนหลุดออกนอกระบบการศึกษา ไม่ได้เข้าสู่ระบบการศึกษา เราลองคิดช่วยกันหน่อย แสดงให้ทุกคนได้เห็นว่า พวกคุณเป็นผู้ที่เหมาะสม ควรที่จะถูกเลือกเข้ามาในเรียนในสถาบันทรงเกียรตินี้ และขอให้เราทุกคนลดความอคติที่จะเกลียดชังเป็นตัวบุคคลลงไป ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือใครก็ตาม ลดความเกลียดชังในแง่ส่วนตัวลง แล้วให้ความเป็นธรรมกันมากขึ้น ถ้าไม่คิดอย่างนี้แล้วประเทศไม่มีความหวัง ผมอยากให้สังคมเดินไปข้างหน้าได้“ นายเศรษฐา กล่าว

นครพนม​ -​ทหารพราน 21 ตรวจยึดยาเสพติด ของกลางยาบ้า 2 กระสอบ 189 มัด จำนวน 378,000 เม็ด 

(28 ม.ค. 68) เวลา 13.00 น. ที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 บ้านปากห้วยม่วง ตำบลนาเข อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม พลโทบุญสิน   พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2/ผู้บัญชากาหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคตะวันอออกเฉียงเหนือ มอบหมายให้ พันเอกอิทธิพล  นนลือชา รองผู้อำนวยการส่วนอำนวยการ หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคตะวันอออกเฉียงเหนือ เป็นประธานการแถลงข่าว  โดยมี นายราชวัชร์ เพ็ชร์ไพฑูรย์ นายอำเภอบ้านแพงพร้อมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 2 กระสอบ 189 มัด จำนวน 378,000 เม็ด ในพื้นที่ อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม 

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 เวลา 22.00 น. โดย ร้อยโท วันชาติ  เหมือนปืนผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวจะมีการขนย้ายยาเสพติดมาพักคอยในพื้นที่เพื่อลำเลียงขนย้ายสู่พื้นที่ตอนใน โดยจะนำมาวางไว้พื้นที่ริมถนนทางหลวง หมายเลข 212 หน่วยจึงกำลังพลทำการลาดตระเวนด้วยรถจักรยานยนต์ตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง,จุดล่อแหลม, จุดเพ่งเล็งตามภาพข่าว ตลอดเส้นทางถนนทางหลวงหมายเลข 212 ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของหน่วย ได้ตรวจพบชายต้องสงสัย จำนวน 1 คน จอดรถจักรยานยนต์ติดเครื่องยนต์อยู่ใกล้กับศาลาที่พักรอรถโดยสาร ริมถนนทางหลวงหมายเลข 212 พื้นที่บ้านดอนกลาง หมู่ที่ 6 ตำบลหนองแวง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม  ลักษณะท่าทางมีพิรุธ เมื่อชายคนดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการขับรถจักรยานยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ บริเวณดังกล่าว ตรวจพบกระสอบสิ่งของต้องสงสัย จำนวน 2 กระสอบ จึงได้ทำการตรวจสอบดูสิ่งของที่อยู่ภายใน พบว่าภายในบรรจุยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ห่อหุ้มด้วยกระดาษไข พิมพ์อักษร 999 มีถุงพลาสติกใส ห่อหุ้มอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 2 กระสอบ 189 มัด (ประมาณ 378,000 เม็ด) หน่วยจึงได้ทำการตรวจยึดยาเสพติดดังกล่าว มาที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพราน ที่ 2101 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด  และประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมบันทึกภาพการตรวจยึดยาเสพติดดังกล่าวต่อไป และส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป การตรวจยึดยาบ้าได้ในครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ หันมาให้ข้อมูลและชี้เบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดเพิ่มขึ้น 
ทั้งนี้ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) จัดตั้ง นบ.ยส.24 เป็นหน่วยหลัก ในการบูรณาการสกัดกั้น ปราบปราม ป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมอบหมายให้กองกำลังป้องกันชายแดน เป็นส่วนสกัดกั้น ตำรวจภูธร เป็นส่วนปราบปราม และ ศอ.ปส.จว. เป็นส่วนป้องกัน ซึ่งการบูรณาการนี้ ได้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน

ในห้วงที่ผ่านมา มีสถิติการจับกุมในพื้นที่อำเภอชายแดนของจังหวัดนครพนม จำนวน 124 ครั้ง ผู้ต้องหา 213 คน โดยมีของกลางยาบ้ามากถึง 10,481,059 เม็ด, เฮโรอีน 67.10 กิโลกรัม, ไอซ์ 120.495 กิโลกรัม,เคตามีน 320 กิโลกรัม และ happy Water 56 ซอง
การจับกุมในพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด 7 จังหวัด 25 อำเภอ จำนวน 378 ครั้ง ผู้ต้องหา 543 คน โดยมีของกลางยาบ้ามากถึง 59,218,331 เม็ด, ไอซ์ 1,908.308 กิโลกรัม, เฮโรอีน 123.95 กิโลกรัม, เคตามีน 573.83 กิโลกรัม, และอื่นๆ (ยาอี 1,490 เม็ด, happy Water 796 ซอง, ฝิ่น 0.66 กรัม

ภาพ/ข่าว : พรพิพัฒน์   เพ็ชรสังหาร 
เด​วิท​ โชคชัย​ รายงาน​ 092-5259777​

ถนนคนเดิน 'หนานจิงลู่' จุดเช็กอินฮอตนนท.ไทย ยอดจองพุ่ง 372% หลังฟรีวีซ่า ย้ำเทรนด์ไชน่าทราเวลมาแรง

(29 ม.ค. 68) ถนนคนเดิน “หนานจิงลู่” ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับร้อยปีในเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน ถือเป็น “จุดหมายแรก” ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนไม่น้อยต้องแวะมาเช็กอินบนโลกออนไลน์ เยี่ยมชมบรรยากาศ รวมถึงอิ่มอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มสารพัดเมนู

บรรดาร้านอาหารและเครื่องดื่มในย่านถนนคนเดินสายนี้ เช่น ร้านชาเฮย์ที (Heytea) สาขาห้างสรรพสินค้าซินชื่อเจี้ยเฉิง หรือร้านปิ้งย่างเหิ่นจิ่วอี่เฉียน สาขาห้างสรรพสินค้าตี้อีไป่ฮั่ว ได้รับรองนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวเกาหลีใต้และชาวไทยที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

ปฤณัต อภิรัตน์ กงสุลใหญ่ไทยประจำนครเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่าชาวไทยชอบเที่ยวจีนมาตลอด จึงไม่แปลกที่ไชน่า ทราเวล (China Travel) หรือ “ท่องเที่ยวจีน” จะเป็นกระแส โดยนโยบายฟรีซ่าซึ่งกันและกันระหว่างไทยกับจีนเกื้อหนุนชาวไทยเดินทางเยือนจีนสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยส่งเสริมมิตรภาพและเพิ่มความเข้าใจของประชาชนสองประเทศ

เกศรินทร์ อริยพงศ์ รองเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน กล่าวว่าการที่ชาวไทยนิยมเที่ยวจีนช่วยเสริมสร้างสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม ความเข้าใจซึ่งกันและกัน และโอกาสทางธุรกิจมหาศาล ขณะปัจจุบันกระแสเพลงซี-ป๊อป (C-pop) เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นชาวไทยเพิ่มขึ้นก็ช่วยเพิ่มความเข้าใจซึ่งกันและกันและจำนวนชาวไทยที่เดินทางเที่ยวจีนด้วย

ข้อมูลจากซีทริป (Ctrip) ระบุว่ายอดจองการเดินทางเข้าจีนของนักท่องเที่ยวชาวไทย ช่วงเริ่มต้นนโยบายฟรีวีซ่าจนถึงวันที่ 11 ม.ค. 2025 เพิ่มขึ้นร้อยละ 372 เมื่อเทียบกับช่วงเดือนมีนาคม 2023-มกราคม 2024 โดยนักท่องเที่ยวช่วงอายุ 26-35 ปี ครองสัดส่วนมากที่สุดถึงร้อยละ 36 ตามด้วยช่วงอายุ 36-45 ปี ที่ร้อยละ 34

ขณะเดียวกันยอดจองการเดินทางเข้าจีนของนักท่องเที่ยวชาวไทย ช่วงเทศกาลตรุษจีนหรือปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติจีน ปี 2025 เพิ่มขึ้นร้อยละ 128 เมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 2024 โดนมหานครเซี่ยงไฮ้เป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย

ห้วงยามกระแสไชน่า ทราเวล กำลังร้อนแรงเช่นนี้ สินค้าต้อนรับเทศกาลตรุษจีนที่มีกลิ่นอายความเป็นไทยผสมผสานอยู่ด้วยนั้นได้รับความนิยมเช่นกัน โดยปฤณัตกล่าวว่าสินค้าไทยตั้งแต่ของกินจนถึงของใช้มีโอกาสเข้าสู่บ้านเรือนชาวจีนเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน

ปฤณัตกล่าวว่าจีนและไทยมีสายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจใกล้ชิดผูกพันกัน และธุรกิจอีคอมเมิร์ซกำลังมีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นในการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้า โดยเฉพาะ “อีคอมเมิร์ซเส้นทางสายไหม” เป็นสะพานเชื่อมผู้ประกอบการชาวไทยเข้าสู่ตลาดจีนอันกว้างใหญ่และเปี่ยมด้วยพลังความมีชีวิตชีวา

งานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) กลายเป็นเวทีสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งไทยเข้าร่วมงานนี้ทุกปีตั้งแต่เริ่มต้นจัดขึ้นในปี 2018 โดยหน่วยงานเศรษฐกิจและการค้าของไทยนำพากลุ่มเอสเอ็มอี (SME) ที่มีศักยภาพสูงร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์

ปฤณัตกล่าวว่าปี 2025 ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน จึงหวังใช้โอกาสนี้ผลักดันความร่วมมือด้านการค้า ความคิดสร้างสรรค์ การศึกษา อาหาร แฟชั่น ภาพยนตร์ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

เกศรินทร์ทิ้งท้ายว่าอีคอมเมิร์ซเส้นทางสายไหมมอบโอกาสเติบโตในตลาดจีนแก่ผู้ประกอบการชาวไทย ช่วยให้เอสเอ็มอีไทยได้เรียนรู้และเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวจีนดียิ่งขึ้น นำสู่การปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานที่จะประหยัดต้นทุนของผู้ประกอบการชาวไทย พร้อมกับส่งเสริมการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตรงใจผู้บริโภคชาวจีนยิ่งขึ้น

‘PMAC 2025’ ทั่วโลกร่วมถก ‘AI’ ในระบบสุขภาพ กับเป้าหมายช่วยให้ผู้คนในโลกมีสุขภาพที่ดีขึ้น

(29 ม.ค. 68) นับเป็นระยะเวลาเกือบ 20 ปี ที่นานาชาติรู้จักและยอมรับ ‘การประชุมวิชาการนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล’ (Prince Mahidol Award Conference: PMAC) ซึ่งจัดขึ้นโดย ‘มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์’ ในฐานะเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนโยบายด้านสุขภาพ ที่มุ่งไปที่ผลกระทบในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสุขภาพระดับโลกอย่างแท้จริง

มากไปกว่าการระดมแนวคิดและหาแนวทางสร้างโลกที่อุดมไปด้วยคนสุขภาพดี วัตถุประสงค์หลักของการประชุมก็เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงเกียรติคุณของรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในระดับสากล และเพื่อให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับให้เป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศทางวิชาการด้านการแพทย์และสาธารณสุขแห่งหนึ่งของโลก

โดยในปีนี้ การประชุมวิชาการนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล หรือ PMAC 2025 จะเปิดฉากขึ้นในระหว่างวันที่ 28 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 ในหัวข้อ ‘Harnessing Technologies in an Age of AI to Build A Healthier World’ การใช้เทคโนโลยีในยุค AI เพื่อสร้างโลกที่สุขภาพดีขึ้น

นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์ในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และประธานอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพื้นที่ เขต 13 กรุงเทพมหานคร (อปสข.) และยังเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนการจัดงาน PMAC ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปัจจุบัน มาบอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของงานประชุม PMAC และผลสัมฤทธิ์ที่สร้างความสำเร็จให้กับวงการแพทย์และสาธารณสุขทั่วโลก ได้กล่าวถึงกิจกรรมเวที Side Event  ของงาน "การประชุมวิชาการนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล 2025" ว่า ปีนี้  ผู้จัดเชิญ ผู้แทนสภาลมหายใจกรุงเทพฯ ไปเป็นผู้ขึ้นกล่าวในนามภาคประชาสังคม ในปัญหา "มลพิษทางอากาศ PM 2.5 Trader : Accountability and Technological Innovations for Air Quality and Health " ที่ Centara Grand &  Bangkok Convention Center ที่ Central World โดยมองว่า ‘ปัญหาสุขภาพระดับโลก’ ต้องรับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญจากทุกมุมโลก

“ทางมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฯ ตั้งใจให้ PMAC เป็นการประชุมปิด เพราะต้องการจัดสรรสัดส่วนผู้เข้าร่วมงาน อีกทั้งนโยบายของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฯ คือต้องการจัดประชุมเพื่อชาวโลก จึงจำกัดจำนวนคนไทยที่เข้าร่วมประชุมไม่ให้เกิน 25% รวมถึงวิทยากร แต่ละปีจะมีวิทยากรราว 100 คน เราจำกัดให้มีคนไทยไม่เกิน 5 คนขึ้นพูด เพราะนี่คือเวทีโลก เราต้องฟังว่าโลกกำลังขับเคลื่อนไปทิศทางใด วิสัยทัศน์จากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายประเทศคืออะไร ยกเว้นบางทีที่มีองค์การในประเทศไทยเป็นเจ้าภาพรวมมากหน่อย ก็เพิ่มสัดส่วนเป็น 30-40% อย่างปีนี้ก็มีคนไทยเข้าร่วมเยอะ เพราะหัวข้องานประชุมเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสุขภาพ บรรดาองค์การที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและองค์การด้านเทคโนโลยีจึงให้ความสนใจเป็นอย่างมาก” 

สำหรับวิทยากรในแต่ละปี จะคัดเลือกโดย Co-host และ Co-sponsor “องค์การส่วนใหญ่ที่มาเป็น Co-host และ Co-sponsor เขามีเครือข่ายและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ อยู่แล้ว อย่างองค์การอนามัยโลกหรือธนาคารโลกที่ร่วมเป็นเจ้าภาพรวมกับเราทุกปี จะรู้ว่าใครเก่งเรื่องไหนและใครที่เป็นคนสำคัญที่ควรเข้าร่วมประชุมที่จะนำองค์ความรู้ในประเด็นนั้นๆ ไปต่อยอดได้

ทั้งนี้ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลเป็นรางวัลที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชานุสรณ์แด่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในฐานะองค์บิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top