Saturday, 28 June 2025
ค้นหา พบ 49084 ที่เกี่ยวข้อง

ประธานวุฒิสภาให้การรับรองประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย

เมื่อวันที่ (15 ม.ค.68) เวลา 11.30 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 204 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ให้การรับรอง ตัน ศรี ดาโต๊ะ โจฮารี บิน อับดุล (H.E. Tan Sri Dato’ (Dr.) Johari bin Abdul) ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐสภาไทย โดยมี พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง นายนิรัตน์ อยู่ภักดี ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ร้อยตำรวจเอก ฉลอง ทองนะ สมาชิกวุฒิสภา และนางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ร่วมให้การรับรอง

ประธานวุฒิสภากล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซียที่ใกล้ชิดและผูกพันกันมาอย่างยาวนาน และปีนี้ครบรอบ 68 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ในด้านนิติบัญญัติรัฐสภาไทยและรัฐสภามาเลเซียได้แลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ โดยล่าสุดประธานรัฐสภาไทยได้นำคณะเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายน 2567 นอกจากนี้ รัฐสภาทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ผ่านกลไกกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภา อีกทั้งขอแสดงความยินดีที่มาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน และสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA)

ในปีนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย กล่าวขอบคุณที่ประธานวุฒิสภาให้การต้อนรับในครั้งนี้ โดยปีนี้ประเทศมาเลเซียเป็นประธานอาเซียน มุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเชื่อมั่นว่าจะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในทุกมิติ อาทิ การเมือง เศรษฐกิจ สันติภาพ รวมไปถึงความสัมพันธ์ด้าน
นิติบัญญัติให้ดียิ่งขึ้น

จากนั้น ประธานวุฒิสภาได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซียและคณะ ณ ห้องรับรองพิเศษ 203 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) โดยมีสมาชิกวุฒิสภาจากจังหวัดทางภาคใต้ของไทย ได้แก่ พันตำรวจโท สุริยา บาราสัน นายสามารถ รังสรรค์ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล พันตำรวจเอก กอบ อัจนากิตติ นายยะโก๊ป หีมละ นายนิฟาริด ระเด่นอาหมัด ร้อยตำรวจเอก ฉลอง ทองนะ และนางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา เข้าร่วมงานเลี้ยงดังกล่าวด้วย

อโกด้า เผย!! ‘กรุงเทพฯ’ คว้าจุดหมายปลายทาง ยอดนิยมอันดับ 1 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติ

(18 ม.ค. 68) อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ‘กรุงเทพฯ’ ขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่งอีกครั้งในฐานะจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงเทศกาลตรุษจีน สำหรับนักเดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่อยากสัมผัสบรรยากาศแห่งความสุขในวันตรุษจีนที่ประเทศไทย

นอกจากนี้ ข้อมูลการค้นหาที่พักบนแพลตฟอร์มอโกด้าในช่วงเดือนธันวาคมของปีที่แล้วยังระบุว่า ‘โตเกียว’ คือจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งในหมู่นักเดินทางชาวไทยที่ตั้งใจจะใช้เวลาช่วงวันตรุษจีนในต่างประเทศ

สำหรับนักเดินทางชาวไทยที่วางแผนจะใช้เวลาช่วงเทศกาลตรุษจีนในประเทศ กรุงเทพฯ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำการเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาล โดยมีพัทยาและเชียงใหม่ขึ้นแท่นเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในอันดับถัดมา ด้วยการค้นหาที่เพิ่มขึ้นมากถึง 38% และ 55%

อย่างไรก็ตามในปีนี้ ‘ขอนแก่น’ ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยมีอัตราการค้นหาเพิ่มขึ้นถึง 2,964% เทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจในจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ อีกด้วย

ขณะที่นักเดินทางจากต่างประเทศที่ต้องการจะเฉลิมฉลองปีงูเล็กในประเทศไทย มีจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสามอันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และหาดใหญ่ โดยมีอัตราการค้นหาที่พักพุ่งสูงขึ้นถึง 70%, 80% และ 30% ตามลำดับ โดยนักเดินทางชาวมาเลเซียค้นหาที่พักในประเทศไทยเยอะที่สุดติดกันสองปีซ้อน ส่วนนักเดินทางชาวเกาหลีใต้ค้นหาที่พักในประเทศไทยสำหรับช่วงเทศกาลวันตรุษจีนลดลง และตกลงมาเป็นอันดับที่สาม

ด้านนักเดินทางชาวไทยที่ตั้งใจจะเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในต่างประเทศ ‘โตเกียว’ ยังคงครองตำแหน่งจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งเป็นปีที่สองติดต่อกัน ด้วยการค้นหาที่พักเพิ่มขึ้นถึง 66% ในขณะเดียวกัน โซลได้พุ่งขึ้นมาเป็นอันดับที่สอง ด้วยอัตราการค้นหาที่พักที่เพิ่มมากขึ้นถึง 519% หลังจากที่ไม่ได้ติดอันดับในปีที่ผ่านมา ส่วนโอซาก้าตกจากอันดับสองลงมาเป็นอันดับสาม แต่ก็ยังมีการค้นหาที่พักเพิ่มขึ้นถึง 42% ที่น่าแปลกใจคือ ฮ่องกง ซึ่งเคยอยู่ในอันดับที่สามเมื่อปีที่แล้ว กลับไม่ติดอันดับใด ๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของนักเดินทางที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

ปิแอร์ ฮอนน์ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยจากอโกด้า กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนถือเป็นหนึ่งในเทศกาลเฉลิมฉลองที่สำคัญมากที่สุดของชาวเอเชีย และเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้เห็นประเทศไทยได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเมืองต่าง ๆ เช่น กรุงเทพฯ มีเสน่ห์ที่หลากหลาย รอให้นักเดินทางได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนนี้ที่ประเทศไทย หรือเดินทางไปต่างประเทศ อโกด้าพร้อมที่จะนำเสนอสิทธิประโยชน์สำหรับเที่ยวบิน ที่พัก และกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อช่วยให้นักเดินทางได้เริ่มต้นปีงูด้วยความสุขและความทรงจำที่น่าประทับใจ

วันหยุดตรุษจีนเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่และการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเวลานี้จึงเหมาะสำหรับการเดินทางไปรวมตัวพบปะกับครอบครัวและเพื่อนฝูง ทั้งนี้ ‘ปีงู’ เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่และการเปลี่ยนแปลง ซึ่งถือเป็นโอกาสอันเป็นมงคลในการเดินทางเพื่อค้นหาตัวเองและแรงบันดาลใจใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘งู’ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับโชคลาภ จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้นักเดินทางปลดเปลื้องสิ่งเก่าและต้อนรับสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการค้นพบความสวยงามในสถานที่คุ้นเคยอีกครั้ง หรือการออกเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางใหม่ในช่วงเทศกาลอันแสนพิเศษนี้ การเฉลิมฉลองในปีงูจึงเป็นโอกาสที่จะสร้างความทรงจำใหม่ ๆ เป็นอย่างยิ่ง

ถ้าหากมองถึงจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทางชาวเอเชียในช่วงวันหยุดตรุษจีน เมืองต่าง ๆ ในญี่ปุ่นได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ โตเกียว ที่คว้าแชมป์เป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยกรุงเทพฯ (ประเทศไทย), โอซาก้า (ญี่ปุ่น), ฟุกุโอกะ (ญี่ปุ่น) และโซล (เกาหลีใต้) สะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์และความหลากหลายที่น่าหลงใหลของแต่ละเมืองในการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนนี้

‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เตรียมเสนอชื่อ ‘ฌอน เคอร์แรน’ ตำรวจลับที่ปกป้องตน เป็น!! ‘ผู้อำนวยการซีเคร็ตเซอร์วิส’ ชี้!! มีความเหมาะสม เป็นผู้รักชาติ

(18 ม.ค. 68) โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ เตรียมคัดเลือกหนึ่งในทีมตำรวจลับที่ปกป้องตนในวันที่ถูกคนร้ายลอบยิงระหว่างปราศรัยหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย เป็นหัวหน้าหน่วยซีเคร็ตเซอร์วิส (Secret Service)

โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ระบุว่า บิดาของเขาจะเสนอชื่อ ฌอน เคอร์แรน (Sean Curran) ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยอารักขา ทรัมป์ ในวันนั้นขึ้นเป็นผู้อำนวยการซีเคร็ตเซอร์วิสคนใหม่

“ฌอน เป็นผู้รักชาติที่ยอดเยี่ยม และจะเข้ามาหยุดความบ้าคลั่งทุกอย่างเอาไว้ ไม่มีใครที่จะเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากไปกว่าเขา!!”

ทรัมป์ จูเนียร์ โพสต์ X เมื่อวันศุกร์ (17 ม.ค.)ซีเคร็ตเซอร์วิส ถูกเพ่งเล็งและกดดันอย่างหนักเรื่องการทำงานที่หละหลวม หลัง ทรัมป์ ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนถากเข้าที่ใบหูจากความพยายามลอบสังหารเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ปีที่แล้ว ณ เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย นอกจากนี้ ยังมาถูกคนร้ายพยายามปลิดชีพครั้งที่ 2 ที่สนามกอล์ฟในรัฐฟลอริดาเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ซึ่งครั้งหลังนี้โชคดีที่ ทรัมป์ ไม่ได้รับอันตราย

สิ่งที่คนพูดกันมากก็คือ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจากส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นไม่มีการประสานงานที่ดีพอ ทำให้คนร้ายมีโอกาสปีนขึ้นไปบนหลังคาอาคารและยิงใส่ ทรัมป์ ระหว่างหาเสียง ก่อนจะถูกมือปืนสไนเปอร์ยิงปลิดชีพ

หลังถูกยิงที่บัตเลอร์ ทรัมป์ เอามือจับไปที่หูข้างขวาซึ่งมีเลือดอาบก่อนจะหมอบลงโดยมี เคอร์แรน และเจ้าหน้าที่ซีเคร็ตเซอร์วิสคนอื่นๆ เข้ามาช่วยป้องกัน จากนั้น ทรัมป์ ได้ยืนขึ้นอีกครั้งโดยมีตำรวจลับคุ้มกันรอบตัว พร้อมกับชูกำปั้นขึ้นฟ้าประกาศ “สู้! สู้! สู้!” ก่อนถูกนำตัวลงจากเวที

‘โฆษกรัฐบาล’ ยัน!! สถานบันเทิงครบวงจร ไม่ได้เน้น ‘กาสิโน’ ยก!! ‘สิงคโปร์’ สร้าง ‘มารีน่าเบย์’ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้คึกคัก

(18 ม.ค. 68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในรายการ ‘เสียงจากใจไทยคู่ฟ้า’ ว่า ในเรื่องของสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ซึ่งเวลาออกกฎหมายจะต้องผ่านคณะรัฐมนตรี ก็ได้มีการพิจารณา 3 ประเด็นหลักคือ 1. รับทราบรายงานที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่าในแต่ละปีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอื่นๆ มีสถิติการจับกุมการพนันผิดกฎหมายทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก 2. แม้มีการจับกุมการพนันออนไลน์ใต้ดินจำนวนมาก แต่พบว่ามีเงินไหลไปนอกประเทศจำนวนมาก และ 3.มีการจัดทำสถานบันเทิงครบวงจรจำนวนมาก รอบๆ ประเทศไทย และประเทศอื่นๆ

“ที่สำคัญเราไม่ได้เห็นว่า ทำไมต่างประเทศเขาทำแล้วเราต้องทำ แต่ถ้าเราไม่ทำเราก็จะควบคุมอะไรไม่ได้ ธุรกิจใต้ดิน ธุรกิจค้ามนุษย์ การจ้างงานไม่อยู่ในระบบ เงินทองไหลออกนอกประเทศ เกิดความวุ่นวายขายปลาช่อนกันเยอะแยะมากมายตลอด 10-20 ปีที่ผ่านมาเพราะฉะนั้นการทำสถานบันเทิงครบวงจรนั้น จึงไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่องของกาสิโนอย่างเดียว แต่หมายความถึงสถานที่ท่องเที่ยว ยกตัวอย่าง อ่าวมารีน่าเบย์ ประเทศสิงคโปร์ สมัยก่อนคนไปสิงคโปร์ ก็ไปเที่ยวสวนนก ไปเดินแถวถนนออชาร์ด เหมือนสุขุมวิทบ้านเรา เดินชอปปิงร้อนก็ร้อน ไม่มีอะไรจะเที่ยว ก็ทำมารีน่าเบย์ ขึ้นมา มีทั้งสปอร์ต คอมเพล็กซ์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีจุดถ่ายรูป มีโรงแรมที่พัก และมีกาสิโนเพียง 10%”

นายจิรายุ ยังกล่าวต่ออีกว่า วันนี้เราต้องยอมรับความจริงว่า ประเทศไทยเดินทางมา 10-20 ปี แล้วสิ่งเหล่านี้กลายเป็นสภาพปัญหามากมาย หลากหลาย อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนจากนี้ จะต้องส่งเรื่องไปยังรัฐสภา เพื่อบรรจุวาระรับหลักการ ซึ่งจะมีการอภิปรายของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ว่าตกลงแล้วจะเอากฎหมายฉบับนี้หรือไม่ ซึ่งถ้ารับหลักการก็ต้องตั้งกรรมการวิสามัญ ซึ่งมีทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ที่จะมาร่วมกันพิจารณารายละเอียดรายมาตราว่า จะเขียนกติกาอย่างไร จะให้คนไทยเข้าได้หรือไม่ หากเข้าได้ควรจะเป็นลักษณะอย่างไร หรือหากเข้าไม่ได้ควรจะเป็นลักษณะอย่างไร ดูเรื่องผลกระทบต่างๆ เงินทองจะเป็นแบบไหน อย่างไร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน และถ้าอยู่ในกรอบนั้น แล้วลงมติวาระ 3 ก่อนจะส่งต่อไปที่สมาชิกวุฒิสภา จากนั้นก็ส่งกลับมาที่รัฐสภาแล้วประกาศใช้ นี่คือสิ่งที่ที่จะต้องลงรายละเอียด ซึ่งใช้เวลาอย่างน้อยอีก 6 เดือน

‘โฆษกทัพบก’ ขอหลักฐานเพิ่ม ปม ‘แสตมป์ อภิวัชร์’ ถูกนายทหารข่มขู่ ลั่น!! หากผิดจริง มีบทลงโทษแน่

(18 ม.ค. 68) จากกรณี นักร้องหนุ่มชื่อดัง ‘แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข’ และภรรยาถูกคุกคามจากซาแซง จนหายหน้าไม่รับงานอยู่เป็นปี เพื่อไปสู้คดีจนชนะ แต่เรื่องกลับไม่จบ เพราะก็ยังถูกคุกคามและข่มขู่จากพ่อของคู่กรณีที่บอกว่าเป็นนายพล

ล่าสุด วันนี้ มีรายงานว่า ‘พ.อ.ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ’ โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า

กองทัพบก จะดำเนินการตรวจสอบ แต่ก็อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมหากเป็นเรื่องที่มีความร้ายแรงและเป็นจริง กองทัพบกก็จะดำเนินการต่อให้

ทั้งนี้ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องส่วนตัว หากฟังจากที่ ‘แสตมป์’ ออกมาเปิดเผย แต่หากเป็นทหารที่ยังอยู่ในประจำการหากมีความประพฤติที่ไม่เหมาะสมก็จะต้องมีการสอบสวนทางวินัยและมีบทลงโทษ

และหากทาง ‘แสตมป์’ ต้องการให้กองทัพบกตรวจสอบก็ขอให้ส่งข้อมูลมา เนื่องจากข้อมูลที่อยู่ในสาธารณะยังไม่มีความชัดเจน พร้อมยืนยันว่ากองทัพบกพร้อมให้ความเป็นธรรม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top