Tuesday, 1 July 2025
ค้นหา พบ 49133 ที่เกี่ยวข้อง

‘แบงก์ชาติ’ สั่ง ธ.พาณิชย์คืนเงินผู้เสียหายทุกราย จากกรณีลูกค้าถูกขโมยบัตรเครดิต - เดบิตไปใช้

(10 ม.ค.68) นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกมิจฉาชีพขโมยบัตรเครดิตไปชำระค่าสินค้าและบริการนั้น ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์และผู้ให้บริการบัตรเครดิตเร่งตรวจสอบ ดูแล และชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ลูกค้าทุกรายในกรณีดังกล่าว โดยกรณีบัตรเครดิต ผู้ถือบัตรจะไม่ต้องชำระเงินและดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น

ส่วนกรณีบัตรเดบิต ธนาคารจะคืนเงินให้ผู้ถือบัตรตามยอดที่ถูกตัดชำระภายใน 5 วัน นับแต่วันที่มีเหตุอันเชื่อได้ว่าไม่ได้เกิดจากความผิดของผู้ถือบัตรหรือผู้ถือบัตรไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งธนาคารพาณิชย์และผู้ให้บริการบัตรเครดิตจะต้องเข้มงวดในการปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าว

นอกจากนี้ ธปท. ได้กำชับให้ผู้ให้บริการติดตามร้านค้าที่มีความเสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกใช้เป็นช่องทางรับชำระเงินของธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ให้บริการต้องมีกระบวนการรู้จักและพิสูจน์ตัวตน เพื่อคัดกรองร้านค้า ประเมินความเสี่ยง รวมทั้งติดตามความเสี่ยงและพฤติกรรมของร้านค้าอย่างต่อเนื่อง โดยต้องยุติการบริการทันทีเมื่อพบร้านค้าที่อาจเข้าข่ายให้บริการที่ไม่ถูกกฎหมาย รวมถึงพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องตามความเหมาะสมต่อไป

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดต่อสอบถาม ขอคำปรึกษาและร้องเรียนปัญหาการใช้บริการทางการเงินได้ที่ BOT contact center 1213

‘สรรพากร’ จี้กลุ่มค้าขายออนไลน์ - อินฟลูฯ ยื่นภาษีเงินได้ฯ ชี้! หากเลี่ยงภาษี - แจ้งเท็จ เสี่ยงเจอโทษหนักคุกสูงสุด 7 ปี

(10 ม.ค.68) นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่าภาพรวมกรมสรรพากรจัดเก็บรายได้ 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.- 31 ธ.ค. 2567 เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ โดยสามารถจัดเก็บได้ 4.7 แสนล้านบาท เกินเป้า 3.9 พันล้านบาท เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ที่เกี่ยวกับการบริโภคภายในประเทศ สามารถจัดเก็บได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท ส่วนปัจจัยที่ทำให้การจัดเก็บภาษีลดลง ส่วนหนึ่งมาจากภาษีการนำเข้าลดลงประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อเดือน

โดยในไตรมาส 2/2568 คาดว่า การจัดเก็บภาษีจะเกินเป้า เพราะเป็นช่วงของการยื่นจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยจะเน้นย้ำใน กลุ่มค้าขายแบบซื้อมาขายไป ซึ่งรวมถึง ธุรกิจค้าขายแบบออนไลน์ และอินฟลูเอนเซอร์มากขึ้น ขณะที่ไตรมาสที่ 3/2568 เป็นฤดูกาลจัดเก็บภาษีนิติบุคคล ซึ่งยังต้องจับตาภาวะเศรษฐกิจของประเทศ

“กรมสรรพากร มีเป้าจัดเก็บรายได้ทั้งปีงบประมาณ 2568 อยู่ที่ 2.37 ล้านล้านบาท ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2567 ถึง 5% จากจำนวนผู้ยื่นเสียภาษี จำนวนราว 11 ล้านคน ซึ่งมีการยื่นขอคืนเงินภาษี 4 ล้านคน และจ่ายภาษีเพิ่ม 7 ล้านคน โดยสรรพากรจะพยายามทำให้ได้ตามเป้าหมาย” นายปิ่นสาย กล่าว

ซึ่งข้อมูลล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ยื่นเสียภาษีมากกว่า 100,000 รายแล้ว ส่วนใหญ่เป็นผู้ยื่นขอคืนภาษีผ่านช่องทางออนไลน์สูงถึง 96%

อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวอีกว่า สำหรับการยื่นเสียภาษีรูปแบบออนไลน์ จะทำให้ผู้เสียภาษีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคืนภาษีได้รวดเร็วขึ้น ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ใน 2-3 วัน ซึ่งผู้เสียภาษีสามารถยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91 ผ่านระบบออนไลน์ได้จนถึงวันที่ 8 เม.ย. 2568

ทั้งนี้ กรมสรรพากร ได้ใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาตรวจจับข้อมูลของกลุ่มดังกล่าวด้วย ฉะนั้น จึงขอให้มายื่นไว้ก่อนถูกผิดไม่เป็นไร ซึ่งสามารถแก้ไขได้ อย่างไรก็ตาม หากเกินระยะเวลาที่กำหนดให้ยื่นภาษี จะมีโทษทั้งทางเเพ่งและทางอาญา โดยทางเเพ่งต้องเสียเบี้ยปรับ 1 หรือ 2 เท่า ของภาษีที่ต้องชำระแล้วแต่กรณี บวกเงินเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือน หรือ 18% ต่อปี ส่วนทางอาญา เจตนาผู้ที่สร้างรายได้อันเป็นเท็จและมีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีหรือใช้ใบกำกับภาษีปลอม มีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 – 200,000 บาท

รัสเซียซัดทรัมป์เล็งฮุบกรีนแลนด์ แต่ยังมองเป็นแค่ 'วาทกรรม' ไร้จริงจัง

(10 ม.ค.68) นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน เผยว่ารัสเซียกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ แสดงความสนใจในเขตปกครองตนเองกรีนแลนด์ของเดนมาร์ก โดยระบุว่าเรื่องนี้ยังคงอยู่ในระดับวาทกรรม แต่รัสเซียย้ำความมุ่งมั่นในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่ พร้อมเรียกร้องให้รับฟังเสียงของชาวกรีนแลนด์  

เปสคอฟยังกล่าวว่า รัสเซียมีบทบาทในภูมิภาคอาร์กติกมาอย่างยาวนาน และยืนยันว่าจะยังคงอยู่ต่อไป  

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซน ผู้นำเดนมาร์ก ได้เรียกประชุมแกนนำพรรคการเมืองและสมาชิกรัฐสภาจากกรีนแลนด์ เพื่อหารือเกี่ยวกับท่าทีของทรัมป์ แม้มีรายงานการติดต่อไปยังทรัมป์ แต่รัฐบาลเดนมาร์กยืนยันว่าไม่มีการสนทนาโดยตรงระหว่างเฟรเดอริกเซนกับว่าที่ผู้นำสหรัฐ  

ทั้งนี้ สหรัฐมีฐานทัพถาวรในกรีนแลนด์ตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น และทรัมป์เคยแสดงความต้องการครอบครองกรีนแลนด์เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2562 แต่ก็ถูกปฏิเสธโดยรัฐบาลเดนมาร์กอย่างชัดเจน

นทท. จีน แห่ยกเลิกทริปตรุษจีน เสียหายกว่า 5 พันลบ. หลังเกิดกระแส 'ไทยไม่ปลอดภัย' หวั่นเกิดผลกระทบระยะยาว

(10 ม.ค.68) ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ข่าวการหายตัวไปของ 'ซิงซิง' นักแสดงหนุ่มชาวจีน บริเวณชายแดนไทย-พม่า กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์จีน หลายคนตั้งข้อสงสัยถึงความปลอดภัยของการเดินทางมายังประเทศไทย โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงภัยจากขบวนการค้ามนุษย์

แม้ว่าหวังซิง นักแสดงชาวจีนที่ถูกช่วยเหลือจากการลักพาตัวในไทย จะกล่าวว่า “ไทยยังคงปลอดภัย” แต่เหตุการณ์นี้กลับสร้างความเสียหายต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของประเทศไทยในสายตานักท่องเที่ยวจีนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่นักท่องเที่ยวจีนถือเป็นตลาดสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวไทย

สื่อจีนหลายแห่งรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากได้ยกเลิกแผนการเดินทางมายังไทย โดยมีสาเหตุมาจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความไม่มั่นใจในมาตรการป้องกันของไทย ส่งผลให้ยอดจองโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

บริษัทนำเที่ยวหลายแห่งรายงานว่ายอดการยกเลิกแพ็กเกจท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 30% ภายในสัปดาห์เดียว รวมถึงสายการบินที่ให้บริการเส้นทางระหว่างไทยและจีนอาจต้องปรับลดเที่ยวบินลง

จากการประเมินเบื้องต้นของสื่อจีน เหตุการณ์นี้อาจสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในช่วงตรุษจีนมากถึง 5,000 ล้านบาท และยังอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีนในระยะยาว ซึ่งเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้หลักให้การท่องเที่ยวไทย

ความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของไทยไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์นี้เพียงอย่างเดียว แต่ยังได้รับผลกระทบจากสื่อและภาพยนตร์จีน เช่น No More Bets และ Lost in the Stars ซึ่งเล่าถึงการลักพาตัวและกลโกงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภาพยนตร์เหล่านี้ทำให้ไทยและประเทศเพื่อนบ้านถูกมองในแง่ลบในสายตาชาวจีน และกรณีหวังซิงยิ่งตอกย้ำความกังวลที่เคยถูกมองว่าเป็นเรื่องสมมติ

ต้นตำรับไก่ทอดเกาหลี เปิดสาขาแรกสยามสเคป ราคาน่าคบ เจาะกลุ่ม Gen Y-Z ตั้งเป้า 3 ปีขยาย 20 สาขา

(10 ม.ค.68) ร้านไก่ทอดเกาหลีชื่อดัง Pelicana (เพลิคาน่า) ต้นตำหรับไก่ทอดเกาหลีที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1982 จากเมืองแกยอง ที่มีกว่า 3,000 สาขาทั่วโลก บุกเปิดร้านแรกที่สยามสแควร์ หวังชิงส่วนแบ่ง 2.5% ของร้านอาหารประเภทไก่ทอดในประเทศไทยซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 30,000 ล้านบาทต่อปีและมีอัตราการเติบโต 8% ต่อปี

นาย อรรถวุฒิ นิธิกอบกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เพลิคาน่า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ร้านไก่ทอด เพลิคาน่า เป็น 1 ในร้านไก่ทอดร้านแรก ๆ ของประเทศเกาหลีที่เปิดบริการมากกว่า 40 ปี และได้รับการยกย่องให้เป็น King of Chicken ของเกาหลี และได้ขยายธุรกิจไปทั่วโลกกว่า 3,000 สาขาในเกาหลี สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไต้หวัน มาเลเซีย และจีน โดยบริษัท เพลิคาน่า (ประเทศไทย) จำกัด ได้เซ็นสัญญาเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในประเทศไทยเพียงผู้เดียว โดยได้เปิดสาขาแรกที่ชั้น 3 อาคาร สยาม สเคปใจกลางสยามสแควร์  และเตรียมจะขยายสาขาเพิ่มเป็น 5 สาขาในปีนี้ และขยายเป็น 10 สาขาในปีหน้า และ 20 สาขาในปีถัดไป บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้ประมาณ 100 ล้านบาท และตั้งเป้าธุรกิจใน 3 ปี จะมีรายได้รวมประมาณ 500 ล้านบาท 

นาย อรรถวุฒิ ยังเผยอีกว่า สำหรับสาขาแรกที่สยามสเคปจะเจาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษาเป็นหลัก ซึ่งผู้ปกครองมีกำลังซื้อสูง ขณะที่ในการขยายสาขาอื่น ๆ จะมีคอนเซปต์การตกแต่งร้านที่แตกต่างกันออกไป โดยอาจจะมีการเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบางสาขาที่อยู่ในแหล่งคนทำงาน เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และลูกค้าในแต่ละกลุ่ม

“จุดเด่นของร้านไก่ทอดเพลิคาน่า คือ คุณภาพอาหารระดับพรีเมียม รสชาติเหมือนที่เกาหลี ในราคาที่คุ้มค่า เริ่มต้นที่ 99 บาท โดยมีจุดเด่นคือ ทอดไก่ทีละจาน ไก่คุณภาพสูง วัตถุดิบนำเข้าจากเกาหลีทั้งหมด ทานที่ร้านเหมือนไปทานที่เกาหลี ใช้แป้งเครื่องปรุงหมักไก่ 24 ชั่วโมง เปลี่ยนน้ำมันทอดใหม่ทุกวัน และมีไก่ทอดให้เลือกถึง 10 รสชาติ อาทิ ซอสซิกเนเจอร์ ซอสน้ำผึ้ง ซอสสโมกกี้ฮ็อต ซอสกังจอง ซอสเผ็ด ซอสสโมกกี้มาโย ซอสเผ็ดมาโย ซอสกระเทียม ซอสถั่วเหลือง และโรยผงชีส โดย อาหารจะทำทีละออเดอร์ เพื่อความสดใหม่ และใช้ซอสและวัตถุดิบนำเข้าโดยตรงจากเกาหลี นอกจากนี้ ยังมีอาหารเกาหลียอดนิยม อาทิ เบอร์เกอร์ไก่ทอด ซุปกิมจิ ข้าวผัดกิมจิ ต๊อกบกกี ชีสบอล เป็นต้น” 

นางสาวอารดา นิธิกอบกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) บริษัท เพลิคาน่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "เราได้พัฒนาเมนูพิเศษเฉพาะในประเทศไทย คือ ข้าวมันไก่ทอดเกาหลี เป็นเจ้าแรกในไทย โดยเราจะเสิร์ฟ ไก่ทอดเกาหลี พร้อมกับข้าวมันหอมมะลิของไทย ในราคา 139 บาท พร้อมเซตน้ำรีฟิล ซึ่งคาดว่าลูกค้าจะให้การตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากกระแสความนิยมข้าวมันไก่และไก่ทอดระดับพรีเมียม ได้เพิ่มขึ้นอย่างสูงและคาดว่าจะเป็นเซกเมนต์ใหม่ที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมและพรีเมียมแมส นอกจากนี้ เรายังได้พัฒนา ขนมปังบัน สูตรพิเศษจากญี่ปุ่น ใช้แป้งขนมปังจากญี่ปุ่น สำหรับเบอร์เกอร์ไก่ทอด ทำให้ บันของเรามีความนุ่มนวล เหนียว เป็นพิเศษ เพิ่มความอร่อยให้ไก่ทอด แบบไม่เหมือนใคร ในราคา 169 บาท มาพร้อมเซตน้ำรีฟิลและเฟรนช์ฟรายส์"

นายอทิต ปัญทเศรษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด (CMO) บริษัท เพลิคาน่า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ใน 2 ปีนี้ บริษัทฯมีแผนที่เจาะตลาดหลักในกรุงเทพมหานคร ในศูนย์การค้าชั้นนำต่าง ๆ เพื่อรองรับ กลุ่มลูกค้าหลักในกลุ่ม Gen Y ช่วงต้นๆ กลุ่ม First Jobber และคนทำงานรุ่นใหม่อายุ 22-30 ปี และ Gen Z คือ นักเรียนมัธยมและนักศึกษามหาวิทยาลัย รวมถึงแฟนคลับของซีรีส์เกาหลี แฟนคลับศิลปิน K-Pop ทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวเอเชีย ที่มีกำลังซื้อเป็นลูกค้าเป้าหมายด้วยเช่นกัน โดยภายในปี 2568 เราตั้งเป้าขยาย 5 สาขาพร้อมตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้านบาทในปีนี้ นอกจากนี้ เราเตรียมเปิดบริการ Delivery ผ่านทาง Platform ยอดนิยมคือ Grab, Lineman, Robinhood  เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในกรุงเทพมหานครและมีแผนจะขยาย CLOUD Kitchen เพื่อขยายพื้นที่การให้บริการได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

“เราเตรียมแผนการตลาดและการสร้างแบรนด์ Pelicana โดยใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์แบบ Word-of- Mouth ด้วย Social Media, Viral Marketing & PR เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม พร้อมกับการใช้มาสคอต ARI เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียม Event และ Life Stlye Marketing เพื่อสร้างการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศด้วย"

นายอทิต ปัญทเศรษฐ์ ยังอธิบายว่า ที่มาของชื่อ Pelicana มาจากการผสมคำระหว่างคำว่า นก Pelican ที่มักมีนิสัยคาบอาหารใส่ในอุ้งปากกลับไปให้ลูกกิน กับคำว่า American ซึ่งที่มาความนิยมไก่ทอดในเกาหลีเริ่มต้นหลังยุคสงครามเกาหลีที่ทหารอเมริกันนำเมนูไก่ทอดเข้ามาในเกาหลีจนเป็นที่แพร่หลาย

ด้านนายมาคัส ลี ผู้บริหารจาก Pelicana Korea กล่าวเสริมว่า Pelicana Fried Chicken เป็น 1 ในผู้บุกเบิกร้านไก่ทอดเกาหลี เมื่อ 42 ปีก่อน และได้รับความนิยมอย่างสูง โดยมีทั้งหมดกว่า 3,000  สาขาทั่วโลก โดยมีถึง 1,245 สาขาในประเทศเกาหลี นอกจากนี้ยังได้ขยายแฟรนไชส์ไปยัง 16 ประเทศที่สำคัญทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไต้หวัน มาเลเซีย และจีน โดยไทยเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมร้านอาหารขนาดใหญ่ มูลค่าสูงและเติบโตทุกปี เนื่องจากคนไทย ชอบทานอาหารนอกบ้านและมีธุรกิจ Food Delivery ที่มีคุณภาพและเติบโตสูง ขณะเดียวกัน ไทยเป็นตลาดที่มีความท้าทาย เนื่องจากมีการแข่งขันสูง มีแบรนด์ไทย และแบรนด์สากลจากประเทศชั้นนำทั่วโลก มาเปิดสาขาในกรุงเทพ จำนวนมาก อย่างไรก็ดี เรามีความมั่นใจในศักยภาพ และแผนธุรกิจ และ การตลาดของ บริษัท เพลิคาน่า (ประเทศไทย) ว่าจะสามารถ ทำให้ร้านเพลิคาน่า ประสบความสำเร็จในประเทศไทยได้ และทางบริษัทฯแม่ที่เกาหลีพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่” 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top