Sunday, 18 May 2025
ค้นหา พบ 48168 ที่เกี่ยวข้อง

'เดนมาร์ก' ทุ่มงบกลาโหม หลังทรัมป์เปรยอยากผนวกดินแดน

(25 ธ.ค. 67) รัฐบาลเดนมาร์กประกาศเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมสำหรับเกาะกรีนแลนด์อย่างมาก หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความต้องการซื้อเกาะแห่งนี้เป็นครั้งที่สอง นักวิเคราะห์มองว่า นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดของทรัมป์

รายงานจากบีบีซีระบุว่า รัฐบาลเดนมาร์กประกาศเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันสำหรับเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ทรัมป์แสดงความต้องการซื้อเกาะแห่งนี้อีกครั้ง

โทรลส์ ลุนด์ พูลเซ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเดนมาร์กกล่าวว่า งบประมาณด้านกลาโหมสำหรับเกาะกรีนแลนด์จะมีมูลค่าหลายพันล้านโครน ซึ่งคาดว่าจะสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 51,000 ล้านบาท) โดยจะใช้ในการซื้อเรือลาดตระเวน 2 ลำ โดรนพิสัยไกล 2 ลำ และทีมสุนัขลากเลื่อนพิเศษ 2 ตัว รวมถึงการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ที่หน่วยบัญชาการอาร์กติกในเมืองนุก และการอัพเกรดสนามบินพลเรือนหนึ่งแห่งเพื่อรองรับเครื่องบินรบรุ่น F-35

นายพูลเซ่นกล่าวว่า การประกาศเพิ่มงบฯ กลาโหมในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมหลังจากที่ทรัมป์ประกาศว่า ความเป็นเจ้าของและการควบคุมเกาะกรีนแลนด์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับสหรัฐฯ

เกาะกรีนแลนด์เป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก และเป็นแหล่งที่ตั้งของศูนย์อวกาศสำคัญของสหรัฐฯ โดยมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ เนื่องจากตั้งอยู่ในเส้นทางที่สั้นที่สุดระหว่างทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป และเป็นแหล่งแร่ธาตุสำคัญ

การเพิ่มงบฯ กลาโหมนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของเดนมาร์กในการเสริมความแข็งแกร่งด้านการป้องกันในภูมิภาคอาร์กติก ซึ่งนักวิเคราะห์บางคนมองว่าเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของสหรัฐฯ ที่อาจจะเพิ่มขึ้นหากเดนมาร์กไม่สามารถปกป้องพื้นที่ดังกล่าวจากการขยายอิทธิพลของจีนและรัสเซียได้

มูเต เอเกเด นายกรัฐมนตรีเกาะกรีนแลนด์กล่าวว่า เกาะของเราจะไม่ถูกขาย แต่เขายังเน้นว่า ชาวกรีนแลนด์ควรเปิดกว้างสำหรับความร่วมมือและการค้า โดยเฉพาะกับเพื่อนบ้าน

สำหรับข้อเสนอที่ทรัมป์ยื่นซื้อเกาะกรีนแลนด์ในปี 2019 ได้รับการตำหนิจากผู้นำเดนมาร์กในขณะนั้นอย่างรุนแรง จนกระทั่งทรัมป์ยกเลิกการเยือนเดนมาร์ก

ทั้งนี้ แนวคิดในการซื้อเกาะกรีนแลนด์ของสหรัฐฯ ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยมีการพูดถึงครั้งแรกในยุคประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ในช่วงทศวรรษ 1860

‘Moo Deng’ ครองแพลตฟอร์ม X คว้ามีมแห่งปี-แฮชแท็กติดเทรนด์ฮิตกระหึ่มโลก

(25 ธ.ค. 67) ดังไม่หยุดฉุดไม่อยู่สำหรับ "หมูเด้ง" (Moo Deng) ฮิปโปแคระคนดังแห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จนมีจำนวนโพสต์เกี่ยวกับหมูเด้งสูงถึง 7.7 ล้านโพสต์ กลายเป็นสถิติคอนเทนต์มาแรงประจำปี 2024 บนแพลตฟอร์ม X (Twitter) จน X ประกาศให้ "หมูเด้ง" คว้า "มีมแห่งปี" ไปครอง

"หมูเด้ง" ซุปตาร์ฮิปโปแคระจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียวทำสถิติมีโพสต์ถึง 7.7 ล้านโพสต์ และกลายเป็นกระแสฮิตติดเทรนด์ในประเทศไทย โดยแฮชแท็ก #moodeng พุ่งติดเทรนด์อันดับต้นๆ หลังจากที่ X ประกาศสถิติในวันนี้

อันดับถัดจาก "หมูเด้ง" ได้แก่ GTA VI, คอนเสิร์ต The Eras Tour ของ Taylor Swift, ยาปากกาลดน้ำหนัก Ozempic (โอเซมปิก) และเหตุการณ์สุริยุปราคา (Solar Eclipse)

นอกจากนี้ X ยังเผยหัวข้อที่ได้รับความนิยมอื่นๆ ในปีนี้ เช่น ภาพยนตร์ยอดนิยม "Wicked", คำศัพท์มาแรง "ERA", ศิลปินที่มาแรงที่สุด Taylor Swift และนักกีฬาที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดคือ Simone Biles นักยิมนาสติกจากทีมชาติสหรัฐฯ

สถิติอื่นๆ ที่น่าสนใจจาก X ประจำปี 2024 ได้แก่:
- ภาพยนตร์ยอดนิยม: Wicked, Deadpool and Wolverine, DUNE: Part Two
- ศิลปินยอดนิยม: Taylor Swift, Ariana Grande, Sabrina Carpenter
- นักกีฬายอดนิยม: Simone Biles, Noah Lyles
- คำศัพท์ที่มาแรง: ERA, AURA, COOKED, OOMF, YAPPING

ในส่วนของเหตุการณ์สำคัญอื่นๆ ที่ถูกพูดถึงบน X ได้แก่:
- Moo Deng: ฮิปโปแคระสุดน่ารักจากไทย
- GTA VI: การเปิดตัวเกมที่รอคอยที่สุด
- The Eras Tour: คอนเสิร์ตใหญ่ของ Taylor Swift
- Ozempic: ยาลดน้ำหนักที่มีการพูดถึงอย่างแพร่หลาย
- Solar Eclipse: ปรากฏการณ์สุริยุปราคา

‘สุพิศ พิทักษ์ธรรม’ ยันการลาออกจากอธิบดีทำตามขั้นตอน พร้อมประกาศเดินหน้าหาเสียงชิงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา

เมื่อวันที่ (24 ธ.ค. 67) จากกรณีมีกระแสข่าวเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของการลาออกจากราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวงของนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ซึ่งขณะนี้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา อาจมีความไม่สมบูรณ์ตามขั้นตอนทางกฎหมาย จนอาจส่งผลกระทบต่อการลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น ล่าสุด นายสุพิศได้ออกมาชี้แจงเพื่อยืนยันข้อเท็จจริง

นายสุพิศ เปิดเผย กับผู้สื่อข่าวว่า การลาออกจากราชการของตนได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอนและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยได้ปฏิบัติตามระเบียบของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ว่าด้วยการลาออกจากราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญทุกประการ โดยในครั้งที่ลาออก ตนได้ทำหนังสือแจ้งไปยังปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และได้รับการเห็นชอบจากปลัดกระทรวงแล้ว ขณะนี้เอกสารดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำลังพิจารณาตามกระบวนการของทางราชการ ซึ่งจากระเบียบที่ได้อ้างถึงข้างต้นนั้นหากลาออกจากราชการเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง ให้การลาออกมีผลนับแต่วันที่ขอลาออก นายสุพิศ กล่าว 

นอกจากนี้ นายสุพิศ ยังเปิดเผยว่า ตนได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลาเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งได้รับการยืนยันว่าไม่มีปัญหาหรือข้อขัดข้องแต่อย่างใด

ในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ นายสุพิศ ได้ย้ำถึงความมั่นใจในความถูกต้องของการลาออกจากราชการ พร้อมเดินหน้าทำงานหาเสียง พบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทั้ง 16 อำเภอของจังหวัดสงขลา เพื่อนำเสนอนโยบายและวิสัยทัศน์ในการพัฒนาจังหวัด โดยกล่าวว่า 

“ผมขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนทุกท่านว่า การลาออกของผมชอบด้วยกฎหมายเรียบร้อยแล้ว และต่อจากนี้ผมจะมุ่งมั่นทำงานเพื่อแนะนำตัว เพื่อขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนชาวสงขลาพร้อมนำเสนอนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข การส่งเสริมอาชีพ“

การยืนยันครั้งนี้เป็นการแสดงถึงความโปร่งใสและความตั้งใจของนายสุพิศที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาอย่างมั่นคง พร้อมมุ่งหวังสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับชาวสงขลาในอนาคต

สหรัฐให้เงินกู้ช่วยยูเครน ใช้สินทรัพย์ที่ยึดจากรัสเซียค้ำประกัน

(25 ธ.ค. 67) เดนิส ชมีฮาล นายกรัฐมนตรียูเครนประกาศเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ว่า ยูเครนได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากสหรัฐฯ โดยใช้สินทรัพย์ของรัสเซียที่ถูกอายัดเป็นหลักประกัน

ชมีฮาลได้โพสต์ข้อความผ่านทางเทเลแกรมว่า “นี่คือเงินก้อนแรกจากแผนการจัดสรรงบประมาณ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ที่สหรัฐฯ เตรียมจัดสรรโดยใช้สินทรัพย์ของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้”

ต่อมา กระทรวงการคลังของยูเครนได้ชี้แจงว่า เงินทุนดังกล่าวเป็นเงินช่วยเหลือภายใต้โครงการเงินกู้ Second Growth Foundation Development Policy Loan (DPL) ของธนาคารโลก

ความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นที่มีขอบเขตกว้างขึ้นจากกลุ่ม G7 ที่ได้กำหนดให้จัดสรรเงินจำนวน 5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนยูเครน โดยใช้เงินจากทรัพย์สินที่ถูกยึดของรัสเซีย

ทั้งนี้ สื่อรายงานว่า กลุ่ม G7 ได้อายัดทรัพย์สินของรัสเซียมูลค่าราว 3 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากเกิดความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน

ผบก.ตม.1 ร่วมพิธีปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของการท่องเที่ยวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 (Happy New Year 2025)

(24 ธ.ค. 67) เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้กำหนดมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย การบังคับใช้กฎหมาย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงวันคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ 2568 และให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สนับสนุนการปฏิบัติของหน่วยงานในพื้นที่ในการจัดพิธีปล่อยแถวป้องกันปราบปรามอาชญากรรมฯ  

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 เป็นผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำกำลังข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 เข้าร่วมการปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของการท่องเที่ยวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 (Happy New Year2025) ซึ่งจัดโดยกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว บริเวณลานศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พิธีจัดขึ้นโดยมี นายสรสงงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธี และมีหน่วยงานเข้าร่วมพิธีปล่อยแถว เช่น ....

พิธีปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของการท่องเที่ยวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 (Happy New Year 2025) จัดขึ้นเพื่อเเสดงให้เห็นถึงความพร้อม ของสำนักงานตำรวจเเห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ที่จะถึงนี้ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมืองได้มีการบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตรวจนครบาล 1 – 9 โดยจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสืบสวนหาข่าว และเจ้าหน้าชุดเคลื่อนที่เร็วใช้รถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ (SMART PATROL CAR : SPC)ออกสืบสวนหาข่าวและตรวจพื้นที่บริเวณสถานที่จัดงานและในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น

ทั้งนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงวันคริสต์มาส และวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2568 ช่วงก่อนควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 17 – 23 ธันวาคม 2567 (7 วัน) และช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.2567 – 2 มกราคม 2568 (7 วัน) โดยกำหนดเป้าหมายในการระดมกวาดล้าง เช่น
1. เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบบุคคลและหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ที่เดินทางเข้าออกประเทศ หรือมายื่นคำร้องขออยู่ต่อในราชอาณาจักร เป็นการชั่วคราวด้วยความระเอียดรอบคอบ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ มีพฤติกรรมน่าสงสัย หรือเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนาให้เข้ามาในราชอาณาจักรหรือเป็นบุคคลต้องห้ามตามมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522
2. เตรียมความพร้อมด้านกำลังพล อุปกรณ์และยานพาหนะ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของหน่วยงานตำรวจท้องที่ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงเมื่อได้รับการร้องขอ พร้อมทั้งจัดทำแผนเผชิญเหตุตามมาตรฐานการปฏิบัติ (SOP)
3. เพิ่มความเข้าในการสืบสวน ปราบปราม และจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง เช่น นำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หลบหนีเข้าเมือง ช่วยเหลือซ่อนเร้นคนต่างด้าวให้พ้นการจับกุม อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (OVER STAY) หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top