Saturday, 17 May 2025
ค้นหา พบ 48168 ที่เกี่ยวข้อง

เมียนมาแจกวัคซีน 2 ล้านโดส รับมืออหิวาตกโรคระบาด

(25 ธ.ค. 67) กระทรวงสาธารณสุขเมียนมาเปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ 24 ธันวาคมว่า ได้แจกจ่ายวัคซีนป้องกันอหิวาตกโรคชนิดรับประทานให้ประชาชนแล้วกว่า 2 ล้านโดส ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา  

รายงานจากสำนักข่าวซินหัวระบุว่า การระบาดของอหิวาตกโรคในภูมิภาคย่างกุ้งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้กระทรวงสาธารณสุขของเมียนมาต้องแจ้งสถานการณ์ต่อองค์การอนามัยโลก (WHO) และเพิ่มความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาด  

กระบวนการแจกจ่ายวัคซีนเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน โดยกระทรวงฯ ได้ร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของอหิวาตกโรคอย่างใกล้ชิดในภูมิภาคและรัฐต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันและควบคุมโรคไม่ให้ลุกลาม

‘สส. รทสช.’ ร่วมให้กำลังใจ ‘พีระพันธุ์-เอกนัฏ’ ตอกย้ำหนักแน่น พร้อมขอเดินเคียงข้างพรรคเสมอ

กลมเกลียวเป็นหนึ่ง ‘อัครเดช’ เผย สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมให้กำลังใจ ‘พีระพันธุ์-เอกนัฏ’ เดินหน้าทำสิ่งที่ถูกต้อง ย้ำหนักแน่นเคียงข้างพรรคเสมอ

เมื่อวันที่ (24 ธ.ค. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะโฆษกพรรค แถลงผลการประชุมประจำสัปดาห์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยระบุว่า ในวันนี้ทั้งผู้บริหารพรรค สส.พรรคได้เดินทางมาประชุมร่วมกันอย่างพร้อมเพรียงและพร้อมใจกันให้กำลังใจนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ยึดมั่นทำในสิ่งที่ถูกต้องต่อไป เนื่องจากเข้าใจดีว่า การทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นผลประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน แต่ไปขัดขวางผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม ย่อมทำให้เกิดกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์และผู้ไม่หวังดีที่พยายามปล่อยข่าวดิสเครดิต เพื่อหวังให้พรรคเสียหาย ซึ่งในที่ประชุมทั้งผู้บริหารพรรค สส. และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนก็ยืนยันตรงกันอีกครั้งว่า จะขออยู่เคียงข้างหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และพร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นความหวังของพ่อแม่พี่น้องประชาชนและประเทศไทยต่อไป

ด้านนายพีระพันธุ์ ได้แจ้งต่อที่ประชุมด้วยว่า ขณะนี้พรรคได้คะแนนนิยมและเสียงตอบรับที่ดีขึ้นจากประชาชน เห็นได้จากยอดเงินบริจาคที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงขอให้สส. พรรคทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด เพื่อตอบแทนพ่อแม่พี่น้องประชาชน และขอให้ทุกคนเดินเคียงข้างไปพร้อม ๆ กันกับตนเองและเลขาธิการพรรค เพื่อพัฒนาพรรคให้เติบโต แข็งแกร่ง เป็นที่พึ่งของประชาชนต่อไปให้เหมาะสมกับคำขวัญของพรรคที่ว่า “สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง”

ขณะเดียวกันในวันที่ 25 ธ.ค. 67 เวลา 11.00 น. จะมีการแถลงข่าวมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย นำโดยนายพีระพันธุ์และนายเอกนัฏ และสส. พรรค เกี่ยวกับการปลดล็อก “โซลาร์รูฟท็อป” ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการใช้พลังงานสะอาดได้ในราคาที่ถูกและเป็นธรรมด้วย

รัสเซียเผยอีก 20 ชาติขอเข้ากลุ่ม กัมพูชา ลาว เมียนมา ขอร่วมวงด้วย

(25 ธ.ค. 67) ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดเผยว่า นอกเหนือจากประเทศพันธมิตรที่ได้รับการคัดเลือกก่อนหน้านี้ ยังมีอีกกว่า 20 ประเทศที่แสดงความสนใจเข้าร่วมการหารืออย่างเป็นระบบกับกลุ่ม BRICS ซึ่งเป็นกลุ่มความร่วมมือของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่  

อูชาคอฟระบุว่า BRICS ยังคงเปิดกว้างสำหรับประเทศที่มีแนวคิดสอดคล้องกัน โดยรายชื่อประเทศที่แสดงความสนใจเข้าร่วมกลุ่มเพิ่มอีก 20 ชาติ ได้แก่ อาเซอร์ไบจาน บาห์เรน บังกลาเทศ บูร์กินาฟาโซ กัมพูชา ชาด โคลอมเบีย สาธารณรัฐคองโก อิเควทอเรียลกินี ฮอนดูรัส ลาว คูเวต โมร็อกโก เมียนมา นิการากัว ปากีสถาน ปาเลสไตน์ เซเนกัล เซาท์ซูดาน ศรีลังกา ซีเรีย เวเนซุเอลา และซิมบับเว นอกจากนี้ เอริเทรียยังแสดงความกระตือรือร้นที่จะร่วมงานกับ BRICS เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม อูชาคอฟเน้นย้ำว่า การขยายกลุ่มต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยกล่าวว่า “การขยายกลุ่มอย่างไร้การควบคุมอาจทำลายโครงสร้างที่มีอยู่ เราจึงต้องดำเนินการทีละขั้นตอนอย่างค่อยเป็นค่อยไปและสอดคล้องกับแนวทางที่เราใช้มาตลอด”

‘พีระพันธุ์’ ยัน ไม่โกรธ-ไม่สนใจ ฉายา “พีระพัง” ที่สื่อทำเนียบตั้งให้ พร้อมย้อนถามใครแก้ปัญหาได้เร็วกว่าตน

(25 ธ.ค. 67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายาให้เป็น “พีระพัง” ว่า ตนเองไม่ได้อ่าน แต่ประชาชนได้ชี้แจงแทนตนเองหมดแล้ว ดังนั้น จึงไม่โกรธ และไม่ได้สนใจ เพราะแทบจะไม่มีเวลาทำงานอยู่แล้ว 

ส่วนการที่ได้รับฉายา “พีระพัง” อาจเป็นเพราะแก้ไขปัญหาด้านพลังงานล่าช้าหรือไม่นั้น นายพีระพันธุ์ ได้ย้อนถามสื่อมวลชนกลับว่า มีใครแก้ปัญหาได้เร็วกว่าตนเองหรือไม่? และ 1 ปีที่ผ่านมา ตนก็มีผลงาน ก่อนที่สื่อมวลชนจะถามเช่นนี้ ต้องถามก่อนว่า มีใครทำได้เร็วกว่าตน? และกระบวนการต่าง ๆ ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของตนเอง ซึ่งถ้าทุกอย่างอยู่ภายใต้การดูแลของตนเองพรุ่งนี้ก็สามารถประกาศได้ ดังนั้น อยากให้เร็ว จะต้องแก้กฎหมาย แก้ระบบ และมีกฎหมายเข้าสภา

นายพีระพันธุ์ ยังยืนยันว่า ภายใต้การดูแลของตนเองทุกอย่างจะถูกลง ประชาชน และประเทศชาติ จะได้ประโยชน์มากขึ้น รวมถึงจะสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดต้นทุนการผลิตสินค้าให้ประชาชน 

นายพีระพันธุ์ ยังระบุอีกว่า วันก่อนมีสื่อมวลชนกล่าวถึงตนเองว่า ไม่เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ซึ่งตนเองไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ และสื่อมวลชนน่าจะฉลาดกว่านี้ 

ส่วนกังวลจะมีม็อบมากดดันเรื่องการแก้ไขปัญหาพลังงานหรือไม่นั้น นายพีระพันธุ์ ยืนยันว่า ไม่กังวล เพราะพรรคฯ ทำเพื่อประชาชนได้ประโยชน์

ขณะเดียวกัน ในวันนี้ (25 ธ.ค. 67) นายพีระพันธุ์ พร้อมด้วย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังได้แถลงข่าวร่วมกันในการปลดล็อก “โซลาร์รูฟท็อป” เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชนในการลดค่าไฟฟ้า เนื่องจากที่ผ่านมา ทุก 4 เดือน จะต้องมีการปรับราคาค่าไฟฟ้าทุก ๆ 4 เดือน เพราะไฟฟ้าไทยยังต้องใช้เชื้อเพลิงมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต ราคาจึงต้องขึ้นกับตลาดโลก และพบว่า การให้ประชาชนหลุดพ้นจากค่าไฟที่แพง จึงต้องสนับสนุนให้ประชาชนใช้พลังงานจากแสงแดด แต่การติดตั้งของประชาชนในประเทศยังยุ่งยากด้านกฎหมาย มีราคาแพง มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเกี่ยวพัน ใช้เวลานานในการดำเนินการขออนุญาต ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ร่วมกระทรวงพลังงานดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งจะมีร่างกฎหมายสนับสนุนให้ประชาชนใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงแดด ที่ประเทศไทยไม่เคยมีมาก่อน และพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ยกร่างกฎหมายฉบับนี้เสร็จสิ้นแล้ว โดยประชาชนจะสามารถติดตั้ง “โซลาร์รูฟท็อป” ได้อย่างสะดวก เพื่อแค่ยื่นแจ้งเพื่อทราบ ไม่ต้องมีการขออนุญาตใด ๆ และให้ประชาชน ดำเนินการตามขั้นตอนที่กระทรวงฯ จะกำหนด และจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบความถูกต้องภายหลัง จึงมั่นใจว่า ประชาชนจะสามารถใช้ราคาไฟฟ้าที่ถูกขึ้น และจะส่งผลให้สินค้าอื่น ๆ ถูกขึ้นด้วย เนื่องจาก ราคาไฟฟ้าซึ่งเป็นต้นทุน มีราคาถูกลง

ย้อนเปิดยุทธศาสตร์จากยุคปธน.ทรูเเมน 'เเปซิฟิกมีอะเเลสกา เเอตเเลนติกก็ควรมีกรีนเเลนด์'

(26 ธ.ค. 67) โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 เคยเสนอให้สหรัฐฯ ซื้อกรีนแลนด์จากเดนมาร์กในช่วงปี 2019 ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก แต่แนวคิดดังกล่าวถูกปฏิเสธจากเดนมาร์ก โดยชี้ว่า "กรีนแลนด์ไม่ใช่สินค้าที่สามารถขายได้" ล่าสุดในปี 2024 ทรัมป์ได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเสนอชื่อนายเคน ฮาวเวอรี อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสวีเดน และนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำเดนมาร์กคนใหม่ โดยทรัมป์มั่นใจว่าฮาวเวอรีจะทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของสหรัฐฯ

ทรัมป์ยังได้ย้ำผ่านแพลตฟอร์มโซเชียล Truth Social โดยระบุถึงความสำคัญของการเป็นเจ้าของกรีนแลนด์ โดยมองว่าเพื่อเสริมความมั่นคงและเสรีภาพทั่วโลก สหรัฐฯ ควรมีอำนาจในการครอบครองและควบคุมพื้นที่กรีนแลนด์

ดินแดนกรีนแลนด์ ถูกจัดว่าเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่เหนือสุดของโลกในแถบขั้วโลกเหนือ มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลถึง2,175,900 ตารางกิโลเมตร และมีสถานะเป็นดินแดนในคุ้มครองของเดนมาร์ก มีประชากรอยู่ราว 57,000 คน กรีนแลนด์เพิ่งมีสถานะเป็นดินแดนเอกราชปกครองตนเองในปี 2009 ประชาชนมีการเลือกรัฐบาลท้องถิ่นเป็นของตนเอง พื้นที่ส่วนใหญ่ของกรีนแลนด์เต็มไปด้วยน้ำแข็งและดินแดนอันเวิ้งว้างที่หนาวเหน็บ แต่เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากมาย

ข้อมูลจากรายงานที่มีชื่อว่า "The Greenland Gold Rush: Promise and Pitfalls of Greenland’s Energy and Mineral Resources" ระบุว่า ในขณะที่โลกกำลังเผชิญสภาวะโลกร้อน แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อกรีนแลนด์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ .. การละลายของน้ำแข็งในอาร์คติกส่งผลให้ทรัพยากรอันมีค่าหลากหลายชนิดของกรีนแลนด์ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดเพราะเข้าถึงได้ง่าย อาทิ แร่เหล็ก ตะกั่ว สังกะสี เพชร ทองคำ องค์ประกอบธาตุหายาก (แรร์เอิรธ์) ยูเรเนียม และน้ำมัน

การที่กรีนแลนด์สามารถมีสิทธิจัดตั้งรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อปกครองตนเอง ที่เป็นอิสระจากรัฐบาลกลางเดนมาร์ก ส่งผลให้กรีนแลนด์สามารถแสวงหาผลประโยชน์เหล่านี้ได้ง่ายมากขึ้นเช่นกัน .. แต่ก็ใช่ว่ากรีนแลนด์จะขุดทุกอย่างออกมาขาย ด้วยวิถีการดำเนินเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตนเอง กรีนแลนด์จึงระมัดระวังอย่างมากในการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้ 

แม้ทรัมป์จะไม่เคยกล่าวถึงเหตุผลชัดเจนว่าทำไมเขาต้องการกรีนแลนด์ แต่สามารถคาดเดาได้ว่าเพราะเป็นดินแดนที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มากมายรอการขุดค้น ขณะที่ยังมีอีกเหตุผลด้านความมั่นคง  

แนวคิดการซื้อกรีนแลนด์ด้านความมั่นคงนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในยุคของประธานาธิบดีทรัมป์เท่านั้น เพราะในปี 1946 สมัยประธานาธิบดีแฮร์รี่ ทรูแมน ผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 33 ก็เคยเสนอซื้อกรีนแลนด์จากเดนมาร์กด้วยจำนวนเงิน 100 ล้านดอลลาร์ ภายใต้แนวคิด "หากทางแปซิฟิกมีอะแลสกา ทางแอตแลนติกก็ควรมีกรีนแลนด์" แต่ข้อเสนอนี้ถูกปฏิเสธทั้งจากเดนมาร์กและประชาชนในกรีนแลนด์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงจากสหรัฐฯ 

แม้การซื้อกรีนแลนด์จะไม่สำเร็จ แต่สหรัฐฯ ยังคงรักษาอิทธิพลในกรีนแลนด์ผ่านข้อตกลงการตั้งฐานทัพทูล (Thule Air Base Agreement) เพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคงทางยุทธศาสตร์จ  ให้ปัจจุบันสหรัฐฯ ยังคงมีฐานทัพอากาศ Thule Air Base ประจำการในกรีนแลนด์มาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเป็นฐานทัพอากาศสำคัญในการป้องกันการรุกรานจากสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น และยังเป็นฐานทัพอากาศสหรัฐที่ตั้งอยู่ในบริเวณเหนือสุดของโลกอีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top