Monday, 9 June 2025
ค้นหา พบ 48673 ที่เกี่ยวข้อง

เปิด!! สนธิสัญญาหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม ข้อตกลงความร่วมมือของ ‘รัสเซีย - เกาหลีเหนือ’

(20 ต.ค. 67) ข้อตกลงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย

เป็นข่าวสะเทือนวงการการเมืองระหว่างประเทศอีกครั้งเมื่อวันจันทร์ที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมาประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินได้ยื่นข้อตกลงทางทหารฉบับใหม่กับเกาหลีเหนือเพื่อขอการรับรองต่อรัฐสภารัสเซียโดยผลักดันให้มีการยอมรับอย่างเป็นทางการต่อข้อตกลงป้องกันร่วมกันที่เขาได้จัดทำกับผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน เมื่อเดือนมิถุนายน 2024 เมื่อครั้งไปเยือนเกาหลีเหนือปูติน ซึ่งถือเป็นการเยือนเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 24 ปี ซึ่งข้อตกลงนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อทั้งสองประเทศแลกเปลี่ยนเอกสารการให้สัตยาบัน

แม้ว่าข้อตกลงนี้จะเรียกว่า ‘สนธิสัญญาหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม’ ( ‘Treaty on Comprehensive Strategic Partnership’) แต่เงื่อนไขของสนธิสัญญานี้ที่ให้ความช่วยเหลือทางทหารซึ่งกันและกันระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือนั้นโดยพื้นฐานแล้วถือเป็นสนธิสัญญาพันธมิตรทางการทหารและการเมือง โดยข้อตกลงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภูมิรัฐศาสตร์ของเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและสถานการณ์โลกในปัจจุบันโดยเฉพาะสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ข้อตกลงยืนยันว่าทั้งสองประเทศมี ‘ความปรารถนาที่จะปกป้องความยุติธรรมระหว่างประเทศจากความทะเยอทะยานที่จะมีอำนาจเหนือผู้อื่นและความพยายามที่จะกำหนดระเบียบโลกขั้วเดียว’ และ ‘เพื่อสร้างระบบระหว่างประเทศหลายขั้วบนพื้นฐานของความร่วมมือโดยสุจริตของรัฐ การเคารพซึ่งกันและกันในผลประโยชน์ การแก้ไขปัญหาในระดับนานาชาติร่วมกัน ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและอารยธรรม อำนาจสูงสุดของกฎหมายระหว่างประเทศในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความพยายามร่วมกันเพื่อต่อต้านความท้าทายใดๆ ที่คุกคามการดำรงอยู่ของมนุษยชาติ’

แม้ว่าสนธิสัญญามีเนื้อหาไม่มากเพียงแค่ 23 มาตราเท่านั้นแต่มีข้อกำหนดที่น่าสนใจประการหนึ่ง โดยระบุว่า ในกรณีที่มีภัยคุกคามจากการโจมตีโดยอำนาจที่สาม ผู้ลงนาม ‘จะตกลงกันเกี่ยวกับมาตรการความร่วมมือตามคำขอของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และรับรองความร่วมมือในการกำจัดภัยคุกคามนั้น’ ส่วนอื่นระบุว่า ‘หากฝ่ายหนึ่งพบว่าตนเองอยู่ในภาวะสงครามอันเนื่องมาจากการโจมตีด้วยอาวุธโดยประเทศหนึ่งหรือหลายประเทศ อีกฝ่ายหนึ่งจะต้องให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ฝ่ายนั้นทันทีด้วยวิธีการทั้งหมดที่มี’

ซึ่งระบุเอาไว้ในมาตรา 4 ของข้อตกลงระบุว่า หากรัสเซียหรือเกาหลีเหนือถูกโจมตีและเข้าสู่ภาวะสงคราม อีกฝ่ายจะให้ความช่วยเหลือทางทหารและความช่วยเหลืออื่น ๆ โดยใช้ทุกวิถีทางที่มีอยู่ ตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายของทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ สนธิสัญญายังกำหนดให้ทั้งสองประเทศ “สร้างกลไกสำหรับกิจกรรมร่วมกันเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันประเทศเพื่อประโยชน์ในการป้องกันสงครามและรับรองสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและระหว่างประเทศ” และโต้ตอบกันเพื่อ “ร่วมกันเผชิญหน้ากับความท้าทายและภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ รวมถึงความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การดูแลสุขภาพและห่วงโซ่อุปทาน” รวมถึงการก่อการร้าย อาชญากรรมที่เป็นองค์กร การค้ามนุษย์ และการอพยพที่ผิดกฎหมาย

ในด้านเศรษฐกิจ ข้อตกลงหุ้นส่วนเรียกร้องให้มีการ ‘ขยายและพัฒนาความร่วมมือในด้านการค้า เศรษฐกิจ การลงทุน วิทยาศาสตร์และเทคนิค” ตั้งแต่ความพยายามในการเร่งความร่วมมือด้านการค้าและเทคโนโลยี และการส่งเสริม “การวิจัยร่วมกันในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงสาขาต่างๆ เช่น อวกาศ ชีววิทยา พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และอื่นๆ’

ข้อตกลงความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือจัดทำขึ้นเป็นพิเศษและสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือ เพราะสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวที่อยู่นอกอดีตสหภาพโซเวียตที่รัสเซียได้ร่างข้อตกลงดังกล่าวด้วย (จนถึงขณะนี้มีเพียงเบลารุส ซึ่งเป็นพันธมิตรของรัฐสหภาพของรัสเซียและสมาชิกองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน (CSTO) เท่านั้นที่ได้รับการรับประกันความมั่นคงในลักษณะเดียวกัน) 

ในสถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน ข้อตกลงดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญมากระหว่างทั้ง 2 ประเทศ เพราะทั้ง 2 ประเทศมีภาระผูกพันซึ่งกันและกัน โดยรัสเซียจะมีภาระผูกพันในการปกป้องพันธมิตรใหม่ของตนอย่างเกาหลีเหนือ หากมีการรุกรานเกิดขึ้น และในทางกลับกันเกาหลีเหนือจะมีภาระผูกพันที่จะให้การสนับสนุนเราทุกรูปแบบ รวมถึงการสนับสนุนทางทหาร หากมีการรุกรานรัสเซีย

ข้อตกลงดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศและช่วยลดความเสี่ยงของสงครามบนคาบสมุทรเกาหลี 

ซึ่งปัจจุบันเราเห็นได้จากการใช้ถ้อยคำและการกระทำที่ยั่วยุมากขึ้นของโซล ประกอบกับความพยายามที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านการป้องกันของเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซ้อมรบร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ซี่งอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหม่ได้

รัสเซียซึ่งเคยเป็นและยังคงเป็นหนึ่งในมหาอำนาจทางการทหารชั้นนำของโลกและเป็นมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ นั่นหมายความว่า หากเกาหลีเหนือถูกโจมตีจากเกาหลีใต้ รัสเซียจะถูกร้องขอให้ปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้สนธิสัญญานี้และเข้ามาช่วยเหลือเกาหลีเหนือต่อต้านเกาหลีใต้ (เพราะสถานการณ์ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือความขัดแย้งด้วยอาวุธระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้) โซลและพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ จะต้องไม่เพียงแค่จัดการกับเกาหลีเหนือเท่านั้นแต่ยังรวมถึงเกาหลีเหนือและรัสเซียด้วย 

ในสถานการณ์ปัจจุบันที่สงครามระหว่างเปียงยางและโซลมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นเนื่องมาจากการยั่วยุของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้มาอย่างยาวนาน ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือจึงถือเป็น "ก้าวหนึ่งสู่การรักษาเสถียรภาพและการรักษาสันติภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ" เนื่องจากสร้างสมดุลทางทหารซึ่งจะช่วยแก้ไข "ความไม่สมดุลของกองกำลังทหาร" ที่เพิ่มมากขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลีระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้และพันธมิตร 

ในสายตาของเกาหลีเหนือสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) กำลังกลายเป็นมหาอำนาจทางทหารที่แข็งแกร่ง สามารถผลิตอาวุธสมัยใหม่ทุกประเภท ตั้งแต่อาวุธขนาดเล็กไปจนถึงเรือดำน้ำและเครื่องบินขับไล่ ปล่อยดาวเทียมตรวจการณ์ของตนเอง แต่สิ่งเดียวที่เกาหลีใต้ไม่มีคืออาวุธนิวเคลียร์ แต่การได้มาซึ่งอาวุธดังกล่าวเป็นเพียงเรื่องของการตัดสินใจทางการเมืองและอาจใช้เวลาไม่มากนัก ศักยภาพทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของเกาหลีเหนือเพียงลำพังไม่อาจแข่งขันกับเพื่อนบ้านที่ติดอาวุธครบครันและเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ทรงพลังที่สุดในโลก ร่วมกับญี่ปุ่นได้ ซึ่งหากเกาหลีเหนือยืนหยัดต่อสู้กับภัยคุกคามเหล่านี้เพียงลำพัง ก็มีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของการรุกรานของเกาหลีใต้และพันธมิตร

ในขณะเดียวกันในฝั่งของรัสเซียข้อตกลงดังกล่าวสามารถสร้างความชอบธรรมให้แก่เกาหลีเหนือในการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์และทหารเพื่อทำสงครามกับยูเครนอย่างเปิดเผยและต้องคิดถึงการสนับสนุนจากพันธมิตรของรัสเซีย ซึ่งจะเป็นการสร้างความกังวลใจให้กับยูเครนและพันธมิตรนาโต้ในความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนในปัจจุบัน 

ดังนั้นข้อตกลงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซียจึงเป็นข้อตกลงที่เราควรให้ความสำคัญ และจับตามองว่าจะช่วยป้องปรามและลดความขัดแย้งในพื้นที่สำคัญของโลกได้หรือไม่

‘พีระพันธุ์’ มอบ ‘ดร.หิมาลัย’ ลงพื้นที่น้ำท่วม มอบถุงยังชีพ ช่วยประชาชน พร้อมสำรวจความเสียหาย เพื่อนำไปประสานงาน บรรเทาทุกข์ให้ชาวบ้าน

เมื่อวานนี้ (19 ต.ค. 67) เวลา 13.00น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มีความห่วงใยชาวนครสวรรค์ จึงได้มอบหมายให้ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษาฯ และ สส.สัญญา นิลสุพรรณ มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จังหวัด นครสวรรค์  จำนวน 1,000 ครัวเรือน

-ณ.วัดบางเคียน ต.บางเคียน
-ณ.วัดดงขุย ต.หนองกระเจา
-ณ.อบต.พันลาน ต.พันลาน

พร้อมด้วย คุณพิมพ์ปวีณ์ นิลสุพรรณ เลขานุการนายก อบจ.นครสวรรค์ ว่าที่ร้อยโท อุทิศ คงรอด นายอำเภอชุมแสง พ.ต.อ.สมศักดิ์ เขียวอ่อน ผกก.สภ.ชุมแสง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. ให้การต้อนรับและร่วมมอบถุงยังชีพแจกให้กับพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากอุทกภัยเมื่อ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา 

ในพื้นที่ตอนนี้ ยังคงมีน้ำท่วมขังบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรอีกหลายตำบล ในการนี้จะได้มีการนำปัญหาดังกล่าว เข้าไปประสานหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางเพื่อแก้ไขความเดือดร้อน และบรรเทาทุกข์ให้ชาวบ้านต่อไป

‘ซูเบียนโต ปราโบโว’ สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ลั่น!! แก้คอร์รัปชัน ย้ำ!! ประชาธิปไตยต้องสุภาพ

(20 ต.ค. 67) อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ‘ซูเบียนโต ปราโบโว’ เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซียแล้วในวัน นี้ โดยให้คำมั่นว่าจะต่อสู้กับปัญหาภายในต่างๆ เช่น การทุจริตคอร์รัปชันที่กัดกินประเทศ และจะทำให้ประเทศสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น

ปราโบโววัย 73 ปีผู้นี้เคยผ่านการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ จากอดีตผู้บัญชาการทหารที่เผชิญข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ กลายมาเป็นผู้กวาดชัยชนะในการเลือกตั้งประเทศที่มีประชากร 280 ล้านคน เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา

ในพิธีสาบานตนวันนี้ ปราโบโวสวมหมวกสีดำแบบดั้งเดิมและสูทสีน้ำเงินกรมท่า พร้อมโสร่งผ้าทอสีทองและแดงเลือดหมู มาในรถยนต์สีขาวคันโตที่เปิดช่วงหลังคาซันรูฟยืนขึ้นโบกมือทักทายประชาชนสองข้างทาง ก่อนจะเข้ารัฐสภาอินโดนีเซียและกล่าวสุนทรพจน์ที่เร่าร้อนต่อสมาชิกรัฐสภาว่า เขาจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเพื่อชาวอินโดนีเซียทุกคน และกระตุ้นให้คนในชาติช่วยเขาจัดการกับปัญหาของประเทศ

“เราต้องตระหนักเสมอว่าประเทศที่เสรี คือประเทศที่ประชาชนมีอิสระ พวกเขาต้องปราศจากความกลัว ความยากจน ความหิวโหย ความไม่รู้ การกดขี่ และความทุกข์ทรมาน” ปราโบโวกล่าว

ในสุนทรพจน์ที่ครอบคลุมหลายประเด็นและกินเวลานานประมาณหนึ่งชั่วโมง ปราโบโวกล่าวว่าการพึ่งตนเองด้านอาหารจะเป็นไปได้ภายใน 5 ปี ขณะเดียวกันก็ให้คำมั่นว่าจะกลายเป็นประเทศที่พึ่งพาตนเอง

ประธานาธิบดีคนใหม่ให้คำมั่นว่าจะขจัดการทุจริตคอร์รัปชัน และย้ำด้วยว่า แม้ว่าว่าตนจะต้องการดำรงอยู่ในระบอบประชาธิปไตย แต่ก็ต้องเป็นไปอย่าง ‘สุภาพ’

ด้านสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ส่งสาส์นแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีปราโบโว และระบุว่า จีนจะรักษา ‘การสื่อสารเชิงกลยุทธ์อย่างใกล้ชิด’ กับประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซีย 

"จีนและอินโดนีเซียเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรกันมาโดยตลอด และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมของทั้งสองประเทศยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องและได้เข้าสู่ขั้นตอนใหม่ของการสร้างอนาคตร่วมกัน" ผู้นำจีนระบุ

ชายมาเก๊า วัย 70 ปี ผู้เสียหายกรณี ‘ดิไอคอน’ แจ้งความตำรวจ ปคบ. จ่ายไป!! 2.5 แสน ได้กาแฟมาแค่ 20 ซอง แม่ข่ายบอก ของขาดตลาด

(20 ต.ค. 67) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอิทธิเดช ธเนศวัฒนะ ตัวแทนผู้เสียหายชาวต่างชาติพา มิสเตอร์เค (สงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี ผู้เสียหายชาวมาเก๊า เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. กรณีร่วมลงทุนกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป

นายอิทธิเดช เปิดเผยว่า ผู้เสียหายรายนี้คือผู้ที่ได้รับผลกระทบที่ไปร่วมลงทุนในกลุ่มธุรกิจดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยลงทุนเปิดบิลดีลเลอร์ 2 บิล เป็นจำนวนเงินทั้งหมดประมาณ 250,000 บาท โดยผู้เสียหายรายนี้ได้รับการชักชวนจากผู้เสียหายชาวไทยที่อาศัยอยู่ในฮ่องกง เชิญชวนว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ได้กำไร

จึงตกลงตัดสินใจร่วมลงทุนและมีโอกาสได้เดินทางมาอบรมการขายออนไลน์ที่ส่วนกลาง ในประเทศไทย ช่วงปลายปี 2566 และได้มีโอกาสเจอกับ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล และได้เจอกับบอสที่เป็นดารา ซึ่งปกติแล้วผู้เสียหายก็รู้จักอยู่บ้างผ่านทางโทรทัศน์

โดยผู้เสียหายรายนี้บอกกับตนว่า หลังจากลงทุนเปิดบิลกับดิไอคอนกรุ๊ปแล้วได้สินค้าไม่ครบ อาทิ กาแฟ ที่ปกติแล้วจะได้ประมาณ 100 ซอง แต่กลับได้เพียง 20 ซอง ซึ่งได้ทักท้วงไปกับแม่ข่ายที่ดูแลผู้ลงทุนแถบทวีปเอเชีย กลับได้คำตอบว่าสินค้าขาดตลาด

จนมาพบข่าวที่ปรากฏขึ้น ก็รู้สึกตกใจจึงได้ประสานกับเพื่อนคนไทยในฮ่องกงเพื่อที่จะเดินทางจากมาเก๊ามาแจ้งความที่ประเทศไทยในวันนี้

นายอิทธิเดช กล่าวอีกว่า ขณะที่ผู้เสียหายตัดสินใจลงทุนกับธุรกิจไอคอนกรุ๊ป ก็มีคนพยายามพูดหว่านล้อมให้หาสมาชิกเพิ่ม แต่ตัวผู้เสียหายรายนี้เองเน้นขายสินค้า เพราะชาวต่างชาติ ทั้งฮ่องกงและมาเก๊ารวมถึงประเทศในแถบเอเชียต้องการอยากจะลองสินค้าของประเทศไทย

ทั้งนี้ในวันพุธที่ 23 ต.ค. นี้ ตนเตรียมที่จะประสานพาผู้เสียหายจากต่างประเทศเดินทางทยอยเข้าแจ้งความเพิ่มอีก ซึ่งมีทั้งผู้เสียหายชาวไทยและชาวต่างชาติ

พี่เลี้ยง หมูเด้ง โพสต์ป้อง!! ลูกฮิปโป ที่ศรีสะเกษ หลังโดนชาวเน็ตรุมบูลลี่!! ไม่น่ารัก ไม่ออร่า

(20 ต.ค. 67) สวนสัตว์ภายในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ศรีสะเกษ ได้โพสต์ต้อนรับ ลูกฮิปโปโปเตมัสเกิดใหม่ ลูกตัวแรกของแม่เกดสิริน กับพ่อสมศรี ยังไม่ทราบเพศ เพราะจะต้องรอการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ก่อน

อีกทั้งทางสวนสัตว์ยังไม่ได้ตั้งชื่อให้กับน้อง เพราะอยากจะเชิญชวนให้ประชาชน นักท่องเที่ยว มาร่วมกันตั้งชื่อให้

โพสต์ของลูกฮิปโปเกิดใหม่นี้กลายเป็นไวรัล มียอดไลก์ ยอดแชร์ พุ่งกระฉูด แต่ก็มาพร้อมคอมเมนต์ที่ไม่น่ารัก บางรายบอกว่า ลูกฮิปโปตัวนี้ดูธรรมดา ไม่มีออร่าเหมือนหมูเด้ง บ้างก็บอกว่าน่าเกลียดทำเอาหลายคนงงใจ ว่าทำไมคนเราถึงไปบูลลี่ลูกฮิปโปที่เพิ่งเกิดได้ไม่กี่วัน

บ้างก็ว่ารอให้น้องโตกว่านี้หน่อย เดี๋ยวก็กลม เด้ง น่ารักมากขึ้น บ้างก็ชี้ว่าน้องเป็นคนละสายพันธุ์กับหมูเด้ง ไม่น่าเอามาเทียบกันแบบนี้

ก่อนที่ล่าสุด (18 ต.ค. 67) ผู้ดูแล หมูเด้ง จะแชร์โพสต์เรื่องที่ชาวเน็ตปกป้องลูกฮิปโปศรีสะเกษที่โดนบูลลี่ลงในเพจ ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง พร้อมข้อความว่า “โอ้ยย น้องพึ่งเกิด เดี๋ยวกินนมตัวบวมก็น่ารักเหมือนกัน หมูเด้งเกิดมาวันเเรกน่ากลัวกว่านี้อีก 555 เเล้วคือเป็นฮิปโปคนละสายพันธุ์กันด้วย”

อีกทั้งยังบอกด้วยว่า “สำหรับผม ลูกฮิปโปใหญ่น่าฟัดกว่าฮิปโปแคระ โตช้าด้วยเล่นกันสนุกมาก 555” และ “อีกหน่อยน้องจะเป็นแบบพี่ขาหมู แล้วจะหลงไม่ไหวน้า”

ชาวเน็ตยังจับสังเกตได้ว่า หลังจากที่มีดราม่าลูกฮิปโปศรีสะเกษโดนบูลลี่ พี่เบนซ์ ผู้ดูแล หมูเด้ง และเป็นคนทำเพจ ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง ก็กลับมาลงคลิปวิดีโอ ขาหมู ถี่ขึ้น โดยชาวเน็ตมองว่า พี่เบนซ์ พยายามให้คนเห็นว่า ฮิปโปโปเตมัส สายพันธุ์นี้น่ารักอย่างไร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top