Saturday, 17 May 2025
ค้นหา พบ 48168 ที่เกี่ยวข้อง

‘ครูบาธรรมชัย’และ‘ซานต้า’รับรางวัลพญาครุฑนาคราชจาก6องค์กรสื่อนครราชสีมา

6 องค์กรสื่อจังหวัดนครราชสีมาได้จัดพิธีมอบรางวัลเกียรติคุณและรางวัลพญาครุฑ นาคราช ให้กับบุคคลที่ทำความดี 170คน ในจำนวนนั้น  ครูบาธรรมชัย เจ้าอาวาสวัดศรีพันต้น จ.น่าน ได้รับการยกย่องเป็นต้นแบบ พระภิกษุสงฆ์ ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับสังคม และประเทศชาติปี 2567และนายวสุธร พันธ์ุถพาณิชย์(ซานต้า) ได้รับรางวัลพญาครุฑ นาคราชสาขาศิลปิน ดารานักแสดงผู้ทำคุณประโยชน์ให้พุทธศาสนา

นครราชสีมา- เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2567  6องค์กรสื่อ ประกอบด้วย มูลนิธิสื่อคุณธรรมเพื่อสังคม สมาคมสื่อสารมวลชน สมาคมสื่อสารภูมิภาคจังหวัดชุมพร ชมรมสื่อคุณธรรม ชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมาและชมรมนักข่าวหนังสื่อพิมพ์ทีวีสื่อออนไลน์ประเทศไทยได้ร่วมกัน จัดพิธีประกาศผลรางวัล พญาครุฑนาคราช ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 9 ที่ห้างเซ็นทรัล จ.นครราชสีมา โดยมีผู้ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลปีนี้จากหลากหลายสาขาอาชีพ จำนวน 170 คน ทั้งศิลปิน นักร้อง นักแสดง สื่อมวลชน และบุคคลสำคัญมากมาย รวมถึงพระภิกษุสงฆ์จากทั่วประเทศ ในจำนวนนี้ มีพระครูสุชัยธรรมนันท์ (ครูบาธรรมชัย) เจ้าอาวาสวัดศรีพันต้น จ.น่าน และเจ้าสำนักสงฆ์ธรรมชัย แผ่นดินทอง คลอง 10 หนองเสือ จ.ปทุมธานี ได้รับคัดเลือก เป็นพระภิกษุสงฆ์ต้นแบบ ที่ทำคุณประโยชน์ ให้กับสังคมและประเทศชาติดีเด่น หลังเป็นพระที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ ส่งมอบเครื่องมือแพทย์ และจัดมอบทุนทรัพย์ สร้างโรงพยาบาล ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย รวมถึงช่วยเหลือสาธารณประโยชน์อีกมากมาย ทำมานาน 20 ปี และมุ่งหวังจะทำต่อเนื่องไม่สิ้นสุด โดยมีศิษยานุศิษย์ หลั่งไหลน้อมกราบมุทิตาจิตเนืองแน่น 

นอกจากนี้ นายวสุธร พันธุ์พาณิชย์(ซานต้า) ซึ่งดารานักแสดงได้รับรางวัลด้วยในรางวัลพญาครุฑนาคราช สาขาศิลปิน ดารานักแสดง ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับพุทธศาสนาด้วย
ในการจัดงานครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 9 โดยมีนายณัฐพงศ์ อรชร นายกสื่อสารมวลชนจังหวัดนครราชสีมา ประธานจัดงาน, นางกิติวจี ฤทธิวัฒน์ ประธานชมรมสื่อคุณธรรม พร้อมด้วย ภาคีเครือข่าย จ.นครราชสีมา ร่วมกันจัดงานครั้งนี้ และได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานพร้อมด้วยพระภาวนารัตนญาณ วิ. หรือ ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงรายร่วมพิธี และมอบหมายให้นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้แทนการมอบรางวัล

ในโอกาสนี้ ครูบาธรรมชัย ยังย้ำให้ประชาชน ลูกศิษย์ทุกคน สะสมทำความดีเพื่อตัวเอง เพื่อสังคม และเพื่อประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และไม่ลืมที่จะกตัญญูต่อบุพการีด้วย
ด้านนายณัฐพงศ์ กล่าวถึงการจัดงานตลอด 9 ครั้งที่ผ่านมาว่า ตนส่งเสริมให้ทำความดี และรู้จักการเป็นผู้ให้ และการแบ่งปัน มีน้ำใจจิตอาสา และทำคุณประโยชน์ต่อสาธารณชน ในการดำเนินการนั้นจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน  เป็นผู้คัดเลือกพระภิกษุสงฆ์และบุคคลทั่วไป ที่มีผลงานดีเด่นเข้ารับรางวัล

วธ.จัดงานวันศิลปินแห่งชาติ น้อมรำลึกพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระปฐมบรมศิลปินแห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ เชิญประชาชน-ศิลปินรุ่นใหม่เข้าชมนิทรรศการประวัติและผลงาน ๑๒ ศิลปินแห่งชาติ ระหว่าง ๒๔ ก.พ. - ๙ มี.ค. ๖๗ นี้ 

เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗) นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ศิลปินแห่งชาติผู้ล่วงลับและเปิดนิทรรศการแสดงประวัติ ผลงานของศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๕ เนื่องในวันศิลปินแห่งชาติ  โดยมี นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นายสถาพร เที่ยงธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม  นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ศิลปินแห่งชาติ ทั้ง ๓ สาขา พร้อมผู้บริหาร เข้าร่วมพิธีทำบุญและแสดงความยินดีพร้อมชมนิทรรศการ ณ อาคารอเนกประสงค์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม 

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) ประธาน กล่าวว่า ศิลปินแห่งชาติถือเป็นปราชญ์แห่งแผ่นดิน เป็นผู้มีความรู้ความสามารถเป็นเลิศในศิลปะแขนงต่าง ๆ ที่ได้อุทิศตนสร้างสรรค์ ถ่ายทอดผลงานด้านศิลปะ เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีนโยบายส่งเสริม สนับสนุน และสร้างขวัญกำลังใจแก่ศิลปินแห่งชาติ มาอย่างต่อเนื่อง และได้มีการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ แล้ว ๓๕๔ ท่าน โดยนิทรรศการเผยแพร่ประวัติและผลงานศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๕ ที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจัดขึ้นในนี้ เพื่อเผยแพร่ผลงานอันทรงคุณค่าของศิลปินแห่งชาติให้เป็นที่ประจักษ์อย่างกว้างขวาง อันจะเป็นประโยชน์ และสร้างแรงบันดาลใจในการศึกษาเรียนรู้ และสืบสานศิลปวัฒนธรรมของชาติ สืบไป
 
 ด้านนายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า การจัดนิทรรศการครั้งนี้ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ผู้ทรงเป็นพระปฐมบรมศิลปินแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ และเพื่อให้ประชาชนเกิดการรับรู้และให้ความสำคัญกับวันศิลปินแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนั้น ยังเป็นการเผยแพร่เกียรติคุณของศิลปินแห่งชาติ ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนอย่างกว้างขวาง  

นายโกวิท กล่าวต่อว่า นิทรรศการเผยแพร่ประวัติและผลงานของศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๕ ทั้ง ๑๒ ราย ประกอบด้วย สาขาทัศนศิลป์ ได้แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณพิษณุ ศุภนิมิตร (ภาพพิมพ์) นายเจตกำจร พรหมโยธี (สถาปัตยกรรมผังเมือง) นายดิเรก สิทธิการ (งานสลักดุนเครื่องเงินและโลหะ) นายฤกษ์ฤทธิ์ แก้ววิเชียร (สถาปัตยกรรมภายในและมัณฑนศิลป์) สาขาวรรณศิลป์ ได้แก่ ศาสตราจารย์เกริก ยุ้นพันธ์  นายบุญเตือน ศรีวรพจน์ สาขาศิลปะการแสดง ได้แก่ นางนพรัตน์ศุภาการ หวังในธรรม (ละครรำ)  นายสมชาย ทับพร (ดนตรีไทย - ขับร้อง)  นางราตรีศรีวิไล บงสิทธิพร (หมอลำประยุกต์) นายธงไชย แมคอินไตย์ (ดนตรีไทยสากล - ขับร้อง) นายสมเถา สุจริตกุล (ดนตรีสากล - ประพันธ์เพลงร่วมสมัย) และ นายประดิษฐ  ประสาททอง (ละครร่วมสมัย)
 
ปิดท้ายงานวันศิลปินแห่งชาติ ด้วยงานเลี้ยงแสดงความยินดี ณ หอประชุมเล็ก ศวท. โดยมีการแสดงของศิลปินแห่งชาติ จำนวน ๕ ชุด ได้แก่ -การแสดงทางวัฒนธรรมโดยคณะการแสดงของ นางนพรัตน์ศุภาการ หวังในธรรม (ละครดึกดำบรรพ์ เรื่อง อิเหนา ตอนไหว้พระ, ละครดึกดำบรรพ์ เรื่อง จันทกินรี และ ระบำมยุราภิรมย์) -การแสดงบรรเลงขับร้องเพลงไทยเดิม โดยคณะการแสดงของ นายสมชาย ทับพร -การแสดงหมอลำชุด “ออนซอนศิลป์ ลำแคนแดนอีสาน” โดยคณะการแสดงของ นางราตรีศรีวิไล บงสิทธิพร -การแสดงละครร่วมสมัยผสมลิเก เรื่อง  “ข้าชื่อดอนกิโฆเต้” โดยคณะการแสดงของ นายประดิษฐ ประสาททอง และการแสดงออเคสตร้า โดย นายสมเถา สุจริตกุลและวงสยาม ซินโฟนิเอตต้า 
 
ทั้งนี้ นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป สามารถเข้าชมนิทรรศการเผยแพร่ประวัติและผลงานศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๕ ณ อาคารอเนกประสงค์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ - ๙ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น. เว้นวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

เจนกิจ นัดไธสง รายงาน

'ก.ต่างประเทศ' จ่อลงนาม ฟรีวีซ่าถาวร 'ไทย-คาซัคสถาน'  ช่วยหนุนนักท่องเที่ยวเข้าไทยปีนี้เพิ่มอีกกว่า 2 แสนคน

เมื่อไม่นานมานี้ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เปิดเผยภายหลังการจัดงาน ‘Amazing Thailand Roadshow To Almaty’ ณ เมืองอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน จัดโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ กต. ว่า จากการเดินทางมาร่วมกิจกรรมสำรวจลู่ทางการค้าและการลงทุนในประเทศคาซัคสถานรอบนี้ ทาง กต.ได้เริ่มกระบวนการจัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตรา (ยกเว้นวีซ่า : Visa-Free) ซึ่งกันและกันอย่างถาวรระหว่างไทยกับคาซัคสถานแล้ว

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องเอกสารระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลคาซัคสถาน ทำให้ต้องชะลอการลงนามฯ ไปก่อน

“ตามที่ทางนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้มีการเชิญนายมูรัท นูร์ตลิว รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของคาซัคสถาน เยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) ในเดือน เม.ย. 2567 เราตั้งเป้าว่าน่าจะเห็นการลงนามความตกลงยกเว้นวีซ่าอย่างถาวรระหว่างไทยกับคาซัคสถานอย่างแน่นอน”

หลังจากล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติขยายระยะเวลาการยกเว้นวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว ให้กับนักท่องเที่ยวคาซัคสถานไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. - 31 ส.ค. 2567 ต่อเนื่องจากมติ ครม. ก่อนหน้านี้ที่ประกาศยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวคาซัคสถานในช่วงระหว่างวันที่ 25 ก.ย. 2566 - 29 ก.พ. 2567

“นี่เป็นเหตุผลที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอให้ ครม.มีมติขยายระยะเวลาการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวคาซัคสถานอีก 6 เดือนจนถึงสิ้นเดือน ส.ค. 2567 เพื่อให้มั่นใจว่าจะครอบคลุมช่วงเวลาดำเนินการจัดทำความตกลงระหว่าง ไทย กับ คาซัคสถาน ในการยกเว้นวีซ่าซึ่งกันและกันอย่างถาวร”

นอกจากนี้ ได้หารือร่วมกับผู้บริหารสายการบินแอร์ อัสตานา (Air Astana) พร้อมแจ้งข่าวดีเรื่องการดำเนินการจัดทำความตกลง ไทย-คาซัคสถาน ยกเว้นวีซ่าระหว่างกันอย่างถาวรอีกด้วย

“ทางตัวแทนผู้บริหารแอร์อัสตานาดีใจมาก จริง ๆ เขาดีใจตั้งแต่รัฐบาลไทยประกาศยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวคาซัคสถานตั้งแต่รอบแรกแล้ว ยิ่งต่อรอบที่ 2 ก็ยิ่งดีใจ เพราะในมุมนักธุรกิจเขาขอแค่ภาครัฐกำหนดแผนงานให้ชัดเจน แน่นอน ที่เหลือเขาไปทำการบ้านต่อเอง”

คนพื้นที่ โต้!! ดรามา 'หัวหินเงียบเหงา' อัดบางสื่อมโน ทั้งๆ ที่ นทท.เพียบ!!

เมื่อวานนี้ (26 ก.พ. 67) จากกรณี เพจ Paksabuy ได้โพสต์ในเชิงตั้งคำถาม เป็นภาพชายหาดหัวหิน ช่วงทางลงหาดสาธารณะ ตะเกียบ ซ.1 ที่ดูสวยงามน้ำทะเลใสแจ๋วแต่ปราศจากผู้คนพร้อมระบุข้อความว่า 

“เหมือนว่าหลาย ๆ โรงแรมในหัวหินกำลังประสบปัญหาเดียวกัน คือ นทท.คนไทยน้อยลงไปประมาณหนึ่ง ลุงเลยอยากจะถามว่าทำไมเพื่อนๆ ถึงมาเที่ยวหัวหินกันน้อยลงไปฮะ

1. เบื่อรถติดพระรามสอง
2. โรงแรมหัวหิน แอบราคาสูงไปนะ
3. ยังไม่ใช่ช่วงไป จะไปช่วงปิดเทอม รอโปรฯ อยู่
4. ไปประเทศเพื่อนบ้านรู้สึกคุ้มกว่า ยกตัวอย่าง ฮ่องกง มาเก๊า เวียดนาม ฯลฯ
5. เศรษฐกิจไม่ดี จะกินจะใช้อาจต้องคิดมากกว่าเมื่อก่อน
6. อื่น ๆ ”

ทั้งนี้หลังภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์มากมายจนกลายเป็นไวรัลบนโลกโซเชียล ซึ่ง ส่วนใหญ่ต่างเชื่อว่าที่คนมาเที่ยวหัวหินน้อยลง เป็นเพราะเบื่อรถติดที่ถนนพระราม 2 และมักมีข่าวมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งขณะเดินทางผ่านถนนพระรามสอง

>> หัวหินไม่เงียบเหงา คนพื้นที่อัดบางสื่อมโน

หลังจากนั้นได้มีสื่อบางสำนักนำเรื่องนี้ไปเผยแพร่โดยระบุว่า “หัวหินเงียบเหงา เพราะคนเบื่อรถติดถนนพระราม 2” อันเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงของโพสต์ต้นทาง ซึ่งภายหลังเกิดเป็นกระแส แอดมินเพจ Paksabuy ได้ออกมาชี้แจงว่า…

“ตื่นมาพร้อมกับที่ ข่าวที่ไปออกทีวีล่ะ อืม ยังดีที่เขาเปิดโพสต์นะ มันจะได้ไม่เพี้ยน เราไม่เคยบอกว่า หัวหินเงียบเหงาเลยเราบอกแค่ว่า “คนไทยมาเที่ยวหัวหินน้อยลง เพราะอะไร”

ขณะที่คนหัวหินและนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวหัวหินในช่วงหยุดยาวมาฆบูชา ต่างออกมาโต้และให้ข้อมูลที่ถูกต้องว่า “หัวหินไม่ได้เงียบเหงา” ยังมีนักท่องเที่ยวเยอะเหมือนเดิม จนมีรถติดในบางพื้นที่ของเมือง นอกจากนี้ยังมีชาวหัวหินบางคนตำหนิการกระทำของสื่อบางสำนัก ดังเช่น ผู้ใช้เฟซบุ๊ก บัญชีรายชื่อ คนบ้า หัวหิน ที่โพสต์ว่า…

“#ควรหรือไม่ กับการลงข่าว แบบไม่สร้างสรรค์และไม่ส่งเสริมการท่องเที่ยว จิตสำนึกควรมีให้สมกับคำว่า ‘นักข่าว’ #ขอเถอะครับ อย่าลงข่าวทำร้ายหัวหิน #บ้านเกิดผมเลย”

โพสต์นี้นอกจากจะมีคนเข้ามาแสดงความเห็นด้วยกับเจ้าของโพสต์แล้ว ยังตำหนิสื่อมวลชนบางสำนักที่นำเสนอข่าวนี้ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง อาทิ

- สักเเต่พาดหัวข่าวให้คนสนใจ โดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาเลย
- เมื่อวานรถเยอะมากค่ะ คนสั่งอาหาร ที่ร้านก็เยอะ นะคะ ไม่เงียบค่ะ
- ไม่เงียบนะ เมื่อวานคึกคักมากค่ะ
- สำนักข่าวเจ้านี้ขึ้นชื่อว่าโคตรมั่วเลย
- นักข่าวมันไม่เคยมาเที่ยวหัวหินพี่มันเลยเขียนข่าวแบบนี้ สงสัยไม่มีข่าวทำมาหากินแล้วมั้งเอาข่าวมาเขียนมั่วสั่ว
- นั่งเทียนฟังข่าวแล้วเชื่อโดยไม่ไปดูให้เห็นกับตา แล้วก็เล่าเติมเสริมแต่งนู้นนี้ หัวหินเป็นเมืองท่องเที่ยว ประชาชนไปเที่ยวน้อยบ้าง มากบ้าง ปรกติ... คำว่าเงียบมาก เป็นคำพูดของคน ไม่เคยมาหัวหิน แล้วมโนตามภาพเอง อย่าหาทำเลยครับ
- เดี๋ยวนี้หลายสำนักข่าวไม่มีจรรยาบรรณในการนำเสนอ มีแต่ปั่นข่าวขายครับ
- นักท่องเที่ยวมากมาย ทุกวันด้วย ที่ชายหาด เขาตะเกียบ เชิญมาดู
- ทำข่าวแต่ไม่ลงสนามมาดู ทุกวันนี้ชายหาดตอนเย็นเยอะมาก
- ที่หาดหัวหินคนเยอะมากค่ะเอาข่าวอะไรมาลงไม่มีสร้างสรรค์เลยคนพวกนี้

>> หัวหินไม่เงียบเหงา หยุดยาวมาฆบูชา ยอดเข้าพักเฉลี่ย 90%

หลังเกิดดรามาผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ‘หัวหิน’ ยังคงคึกคัก ช่วงหยุดยาวมาฆบูชา 3 วัน มียอดเข้าพักเฉลี่ย 90% มีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ คาดเงินสะพัดกว่า 120 ล้านบาท

โดยนายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ พบว่าหัวหินยังคงเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวอยากเดินทางมาพักผ่อน เนื่องจากยังคงมีความเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะชายหาด และน้ำทะเลใส รวมทั้งมีที่พัก สนามกอล์ฟ ศูนย์การค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกให้เลือกมากมาย การเดินทางจากรุงเทพฯ เพียง 200 กม. ซึ่งไม่ไกลมากนัก ส่วนใหญ่ข้อมูลของผู้ประกอบการท่องเที่ยวทราบว่าวันหยุด 3 วัน โรงแรม รีสอร์ตบางแห่งเต็ม บางแห่งไม่เต็มก็มี ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติร้อยละ 80-90% เป็นชาวยุโรป

ด้านนายอุดม ศรีมหาโชตะ เจ้าของบ้านทะเลดาวรีอสอร์ต หัวหิน ในฐานะอุปนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงหยุดยาวมาฆบูชา รีสอร์ตของตนห้องพักเต็ม สัดส่วนเป็นชาวต่างชาติจากแถบประเทศยุโรป ประมาณ 85-90% ต้องยอมรับว่าปีนี้นักท่องเที่ยวจากยุโรปมาเที่ยวหัวหิน ชะอำค่อนข้างเยอะ ที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยในช่วงวันหยุด

นายอุดม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทางประเทศแถบยุโรปมีอากาศหนาว ทำให้มีนักท่องเที่ยวกลุ่มต่างชาติมาพักผ่อนที่เมืองไทยและที่หัวหิน ซึ่งในช่วงเดือนเมษายน ชาวต่างชาติจะลดลงเดินทางกลับประเทศ จะเป็นตลาดกลุ่มคนไทยในช่วงปิดเทอม โดยยืนยันว่าหัวหินไม่ได้เงียบเหงาตามที่มีกระแสข่าวในโซเชียลแต่อย่างใด

>> เร่งรัดโครงการถนนพระราม 2

หลังเกิดดรามา ‘หัวหินเงียบเหงา’ เป็นไวรัลบนโลกโซเชียล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊กบัญชีรายชื่อ เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin ระบุว่า…

โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ต้องได้รับการควบคุมการก่อสร้างอย่างเข้มงวด ได้มาตรฐานและรวดเร็วครับ รัฐบาลได้ติดตามและเร่งรัดโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ล่าช้าซึ่งสร้างปัญหาให้กับผู้สัญจรไปมาและนักท่องเที่ยว ทำให้ผู้ประกอบการสองฝั่งถนนเสียโอกาสในการประกอบอาชีพ รวมไปถึงก่อให้เกิดมลภาวะ กระทบต่อสุขภาพพี่น้องประชาชน ถนนพระราม 2 ที่ก่อสร้างล่าช้า ซึ่งกลายเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวหัวหินกันน้อยลงนั้น ทางกระทรวงคมนาคมแจ้งว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อให้สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้นก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ผมจะติดตามการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งจะกำกับดูแลมาตรการการจัดซื้อจัดจ้างให้เข้มงวด โดยเฉพาะมาตรการลงโทษผู้รับเหมาที่ทิ้งงานครับ”

สำหรับ ‘ถนนพระราม 2’ เป็นเส้นทางสำคัญสู่ภาคใต้ด้วยปริมาณการจราจรมากกว่า 1 แสนคันต่อวัน แต่เนื่องจากถนนเส้นนี้ มีการก่อสร้างต่าง ๆ มาอย่างยาวนาน จนได้ชื่อว่าเป็น ‘ถนน 7 ชั่วโคตร’ ทั้งยังมีอุบัติเหตุใหญ่ ๆ เกิดขึ้นจากการก่อสร้างหลายครั้ง ทำให้ประชาชนมีภาพจำที่ไม่ดีต่อถนนพระราม 2 ซึ่งวันนี้กำลังดำเนินการก่อสร้าง โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 หรือ M82 บนทางหลวงหมายเลข 35 ซึ่งโครงการระบุว่าจะสร้างแล้วเสร็จราวกลางปี 2567

อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ที่จะเดินทางจากกรุงเทพฯสู่หัวหิน วันนี้หลาย ๆ คน เลี่ยงรถติดที่พระราม 2 ด้วยการเลี่ยงไปใช้เส้นทาง ถนนเพชรเกษม นครปฐม-หัวหิน แทน

สำหรับดรามาเรื่องหัวหินเงียบเหงาที่กลายเป็นไวรัล แม้จะมีสื่อบางสำนักรายงานคลาดเคลื่อนไปจากโพสต์ต้นทาง แต่กระนั้นชาวเน็ตหลายคนกลับมองว่า เรื่องนี้มีมุมที่ดีคือ ช่วยกระตุ้นให้รัฐบาลหันมาจัดการกับถนน พระราม 2 ให้เสร็จอย่างจริงจังเสียที

'รมว.ปุ้ย' กางผลลัพธ์ส่งออก 'ฮาลาลไทย' แตะ 216,698 ล้านบาท โต 2.6% เชื่อ!! ยังไปได้อีกไกล หลัง 'ก.อุตฯ' เปิดฉากรุกตลาดกำลังซื้อสูงต่อเนื่อง

(27 ก.พ. 67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม, นางอรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการสถาบันอาหาร, นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร, นายชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ, นายพิตรพิบูล ธีร์จันทึก ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พร้อมทั้งผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่วมกิจกรรมประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ศักยภาพอุตสาหกรรมฮาลาลของไทยแก่คณะรัฐมนตรี ณ บริเวณตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกระตุ้นการรับรู้ความสำคัญของอุตสาหกรรมฮาลาลไทย พร้อมนำเสนอสินค้าตัวอย่างความร่วมมือในเครือข่ายฮาลาลหวังส่งเสริมและขยายตลาดฮาลาลให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมฮาลาลในภูมิภาค

นางสาวพิมพ์ภัทรา เปิดเผยว่า กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ศักยภาพอุตสาหกรรม ฮาลาลแก่คณะรัฐมนตรี รวมถึงเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้แก่ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ ทั้งนี้เนื่องจากอุตสาหกรรมฮาลาลในตลาดโลก ยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ โดยในตลาดโลกมีมูลค่าสูงถึง 2.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จนถึงปี 2567 ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มมีส่วนแบ่งอยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 60 ของอุตสาหกรรมฮาลาลทั้งหมด ซึ่งคาดว่าในปี 2567 การเติบโตของตลาดอุตสาหกรรมฮาลาลทั้งหมด จะขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 7.5 โดยในส่วนของกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม คาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 7.1

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวอีกว่า สำหรับประเทศไทยมีมูลค่าส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลในปี 2566 (ม.ค.-พ.ย.) จำนวน 216,698 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาหารฮาลาล โดยธรรมชาติ เช่น ข้าว ธัญพืช น้ำตาลทราย ฯลฯ และมีผู้ผลิตอาหารฮาลาลกว่า 15,043 ราย มีร้านอาหารฮาลาลมากกว่า 3,500 ร้าน ซึ่งยังมีโอกาสเพิ่มสัดส่วนการส่งออกอาหารฮาลาลไปยังตลาดที่มีกำลังซื้อสูงได้อีกมาก

ทั้งนี้ กิจกรรมประชาสัมพันธ์ดังกล่าว จะเป็นการกระตุ้นการรับรู้ความสำคัญของอุตสาหกรรมฮาลาลไทยพร้อมนำเสนอสินค้าตัวอย่างความร่วมมือในเครือข่ายฮาลาล และมุ่งหวังการส่งเสริมและขยายตลาดฮาลาลให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมฮาลาลในภูมิภาค โดยรูปแบบการจัดงาน ประกอบด้วยการจัดคูหาเพื่อแสดงตัวอย่างแสดงสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมฮาลาล อาทิ อาหาร, เครื่องสำอาง, เครื่องนุ่งหุ่ม, เสื้อผ้ามุสลิม, การจัดแสดงสาธิตการทำอาหาร 'เนื้อไทยแองกัสสิชล ฮาลาล ย่างซอสคั่วกลิ้งและใบเหลียงผัดกระเทียม' โดยเชฟชุมพล (นายชุมพล แจ้งไพร) ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร ภายใต้คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ การจัดแสดงอาหารบนเครื่องบินจาก TG Inflight Catering Halal Food Center โดย ครัวการบิน การบินไทย รวมถึงการให้ข้อมูลที่สำคัญของโครงการศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย (Thai Halal Industry Center)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top