Sunday, 18 May 2025
ค้นหา พบ 48181 ที่เกี่ยวข้อง

‘วิชัย ทองแตง’ นำทัพ ‘TPN Global’ แถลงพันธกิจ เข้าบริหาร ‘Mister Global Organization’ อย่างเป็นทางการ

(23 ก.พ.67) ‘คุณวิชัย ทองแตง’ ประธานที่ปรึกษากลุ่มบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด, ‘คุณปุ้ย-ปิยาภรณ์ แสนโกศิก’ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด และประธานองค์กร Mister Global, ‘ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท’ ประธานที่ปรึกษาองค์กร Mister Global พร้อมด้วย ‘ดร.พงษ์รพี บูรณสมภพ’ และ ‘คุณประดิษฐ์ ประดินันทน์’ ที่ปรึกษาองค์กร Mister Global นำทัพแถลงข่าวพันธกิจเวทีระดับโลก Mister Global Organization ในวาระครบรอบ 10 ปี เปลี่ยนมือเข้าสู่การบริหารภายใต้ บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด

โดยในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ‘Jason Bretfelean Dylan’ Mister Global 2023 เข้าร่วมแถลงข่าว ทั้งนี้ ‘คุณปุ้ย ปิยาภรณ์’ ยังเผยถึงวิสัยทัศน์ใหม่ในวาระครบรอบ 10 ปี ของเวทีระดับโลกอย่าง Mister Global ในการเฟ้นหาผู้ครองตำแหน่งในปี 2024 ขยายอายุผู้เข้าประกวดตั้งแต่ 18-35 ปีบริบูรณ์ และหากสุภาพบุรุษท่านใดที่อายุเกิน 35 ปี แต่ยังมีพลัง เป้าหมาย และศักยภาพ ก็สามารถพิสูจน์ตัวตนเข้าร่วมการประกวดได้อีกด้วย

พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว ‘คุณแองจี้-เสริมสิรี แสนโกศิก’ เจ้าของแบรนด์ ‘Unix Wear’ ในฐานะ National Director of Mister Global Thailand ที่กล่าวถึงบทบาทใหม่นี้ด้วยว่า “พร้อมแล้วในหน้าที่และบทบาทใหม่ ที่จะจุดประกายความฝันของใครหลายๆ คน ซึ่งเริ่มต้นได้บนเวทีแห่งนี้ Mister Global Thailand ตามหาสุภาพบุรุษที่มั่นใจในภาพลักษณ์ มีพลังในการขับเคลื่อนสังคม และมั่นใจในทัศนคติของตัวเอง เพื่อเป็นตัวแทนของประเทศไทยไปยืนอยู่บนเวทีระดับโลกค่ะ”

สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเวทีเกียรติยศแห่งสุภาพบุรุษ Mister Global Thailand และ Mister Global ได้ทาง FB TPNG, Mister Global Thailand และ Mister Global และ Youtube TPNG แล้วพฤษภาคมนี้เตรียมเฟ้นหาสุภาพบุรุษของประเทศไทยก่อนจะไปตามหาสุภาพบุรุษผู้เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งบนเวทีโลกประจำปี 2024 ในเดือนตุลาคมนี้ไปด้วยกัน

ศรภ.ทร.เกาะช้าง 'Open House' รับคณะครู และน้อง ๆ รร.บ้านบางเบ้า

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ทรภ.1 โดย ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะช้าง (ศรภ.ทร.เกาะช้าง) จ.ตราด ต้อนรับครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านบางเบ้า ทำกิจกรรม ทัศนศึกษา แหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ 

โดยพี่ ๆ ศรภ.ทร.เกาะช้าง ทำหน้าที่เป็นวิทยากร จัดกิจกรรมประกอบด้วย การเรียนรู้ทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการเอาชีวิตรอดเมื่อประสบภัยทางทะเล

กิจกรรมนี้ มีนักเรียนระดับชั้น อ.2 - ป.6 จำนวน 96 คน เข้าร่วมกิจกรรมฯ ศรภ.ทร.เกาะช้าง มีความยินดี ที่จะถ่ายทอดความรู้ดี ๆ มีประโยชน์ให้แก่น้อง ๆ หนู ๆ เพื่อพัฒนาทักษะ ความรู้ และความปลอดภัยพื้นฐานทางทะเล

ภารกิจ กู้เรือหลวงสุโขทัย วันแรกราบรื่น คาดใช้เวลา 19 วัน

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 ก.พ.67 พล ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ของกองทัพเรือ มาที่เรือหลวงอ่างทอง ที่จอดใกล้บริเวณพื้นที่การปฏิบัติภารกิจกู้เรือหลวงสุโขทัย ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่ง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 20 ไมล์ทะเล โดยมี พล.ร.อ.ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ จากนั้นคณะผบ.ทร. ขึ้นเรือ ต.998 ไปยังเรือ Ocean Valor ของกองทัพเรือสหรัฐฯที่จอดปฏิบัติงานห่างออกไปประมาณ 3 ไมล์ทะเล เพื่อเข้าตรวจเยี่ยมทหารเรือไทยและเจ้าหน้าที่จากสหรัฐอเมริกา ที่ได้ส่งเรือ Ocean Valor พร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยประดาน้ำ และกู้ซ่อมเคลื่อนที่ (Mobile Dive and Salvage Unit) มาร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ ซึ่งได้ให้กำลังใจในการร่วมปฏิบัติการ

พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ทางกองทัพเรือ ขอขอบคุณกองทัพเรือสหรัฐฯ ในการปฏิบัติการครั้งนี้ สำหรับเรือ ocean valor เป็นเรือเปล่าที่ขนอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นเครื่องบินจากฮาวาย มาลงที่สิงคโปร์และนำอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นบนเรือ ocean valor มาปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ โดยการดำสำรวจ มีนักดำของไทย จำนวน 35 คน นักดำ สหรัฐฯ 14 คน ปฏิบัติการดำชุดละ 3 นาย 2 นายอยู่ใต้น้ำ นักดำสำรอง 1 นาย ต่อหนึ่งชุด ใช้เวลาดำลงถึงใต้ท้องทะเล 10 นาที มีเวลาทำภารกิจ ชุดละ 45 นาที และขึ้นพัก 10 นาที สิ่งแรกหลังจากดำลงไปและจะนำขึ้นมาจากเรือหลวงสุโขทัย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในวันนี้คือ ป้ายชื่อเรือหลวงสุโขทัย ภารกิจครั้งนี้ นับไปอีก 5 วัน จะถ่ายรูปเรือและค้นหาผู้เสียชีวิต อีกทั้งสำรวจว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร 

ส่วนวันที่ 6 ถึง19 ก.พ. จะเป็นการทำลายอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เป็นอันตราย และนำทุกอย่างที่สามารถนำขึ้นมาได้จะนำขึ้นมา สิ่งของต่างๆ ที่มีคุณค่าทางจิตใจ เราจะนำไปทำเป็นอนุสรณ์สถาน  คาดว่า จะจบภารกิจภายใน 19 วัน  

สำหรับ งบประมาณปฏิบัติการ ประมาณ 200 ล้าน โดยเป็นงบของกองทัพเรือ 110 ล้าน เป็นงบของรัฐบาล 90 ล้าน โดยงยประมาณ 90 ล้าน ของรัฐบาล ทางกองทัพเรือจะคืนให้กับรัฐบาล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์กับประชาชนต่อไป ซึ่งหากการสำรวจพบโครงกระดูกมนุษย์ ก็จะนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทำการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบ DNA เพราะได้ตรวจ DNA ญาติไว้แล้ว และจะดำเนินการให้สมเกียรติทุกนาย สำหรับสภาพของเรือหลวงสุโขทัย ปัจจุบันยังคงตั้งเหมือนเดิม เอียงประมาณ 7 องศา การปฏิบัติภารกิจ ไม่น่าจะมีอุปสรรค์แต่อย่างใด

'เชียงราย' ปกครองร่วมตำรวจนำหมายศาลบุกตรวจค้นแหล่งมั่วสุมวัยรุ่นบ้านแซวเชียงแสน

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 06.00 น. ที่ผ่านมาภายใต้การอำนวยการของ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายคฑาสิทธิ์ เนื่องหล้า นายอำเภอเชียงแสน และ พ.ต.อ.สุรกานต์  มุดซาเคน ผกก.สภ.บ้านแซว 

ได้สั่งการให้กลุ่มงานความมั่นคง ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1 ที่ทำการปกครองอำเภอเชียงแสน และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรบ้านแซว นำหมายศาลจังหวัดเชียงราย เข้าตรวจสอบบ้านเป้าหมาย ในพื้นที่ตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน 

เนื่องจากได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีบุคคลในพื้นที่ เป็นผู้จำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้า) รายสำคัญ มีพฤติกรรมนำยาเสพติดมาพักไว้ที่บ้านของตนเอง เพื่อส่งเครือข่ายของตนในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียง และที่บ้านเป้าหมายมักจะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปมั่วสุมอยู่เป็นประจำ และเคยมีชาวบ้านถูกบุคคลเป้าหมายใช้อาวุธปืนข่มขู่ จะทำร้ายร่างกาย จากการเตือนเรื่องส่งเสียงดังมาแล้ว

เจ้าหน้าที่ถึงบ้านเป้าหมายได้ทำการนำหมายศาลแสดง และทำการตรวจค้นบ้านดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นบ้านสองชั้น ภายในบ้านมีอะไหล่รถจักรยานยนต์ เต็มบริเวณทั้งชั้นบน ชั้นล่าง บ้านมีสภาพรกไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัย จากการตรวจสอบในห้องนอน พบยาเสพติด (ยาบ้า) ซุกซ่อนอยู่บริเวณใต้เตียง จำนวน 2 ถุง จากการตรวจนับมีจำนวน 354 เม็ดและมียาเสพติด (ยาบ้า) เป็นเม็ดตกกระจายอยู่บริเวณโต๊ะเครื่องแป้งอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งยังพบซองเปล่าที่มีการใช้บรรจุยาเสพติดมาแล้วอีกกว่า 70 ถุง และพบยาบ้าเม็ดเขียวซึ่งโดยปกติใช้เป็นเม็ดนับใช้ในการนับ เม็ดเขียว 1 เม็ดเท่ากับยาเสพติดเม็ดส้ม 100 เม็ด ซึ่งตรวจพบจำนวน 94 เม็ด ทั้งยังพบอาวุธปืนไทยประดิษฐิ์จำนวน 2 กระบอก เครื่องกระสูนปืนจำนวนหนึ่ง อุปกรณ์การเสพ เงินสดจำนวน 15,100 บาท และจากการตรวจหาสารเสพติดในร่างการพบมีผลเบื้องต้นเป็นบวก เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป 

ศปน.ตร.แถลงผลการดำเนินการระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบทั่วประเทศ

ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  (ศปน.ตร.) แถลงผลการดำเนินการระดมกวาดล้างป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ หนี้นอกระบบทั่วประเทศ ในห้วงระหว่างเดือน พ.ย.66-ก.พ.67 โดยบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา และบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ตามนโยบายรัฐบาล ภายใต้การกำกับดูแลของ นายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาหนี้สิน ทั้งหนี้นอกระบบและ หนี้ในระบบ ซึ่งถือเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน จึงได้ยกปัญหาดังกล่าวขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ  

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยและตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว อีกทั้งเพื่อเป็นการสนองตอบนโยบายรัฐบาล จึงสั่งการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) ซึ่งมี พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. เป็น ผู้อำนวยการศูนย์ฯ และ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น รองผู้อำนวยการศูนย์ฯ ดำเนินการระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง ให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยบูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านกลไก สถานีตำรวจทั่วประเทศ และ หน่วยงานสืบสวนสอบสวนจากส่วนกลางทุกหน่วย พร้อมกำหนดแนวทางการดำเนินงานเชิงบูรณาการ เป็น 3 มิติ ได้แก่

1. มิติการบูรณาการด้านข้อมูล  เปิดให้บริการรับลงทะเบียนขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่สถานีตำรวจทุกแห่ง เพิ่มเติมจากศาลากลางจังหวัด  ที่ว่าการอำเภอ และ สำนักงานเขต เพื่อสนับสนุน และบูรณาการข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับกระทรวงมหาดไทย 

2. มิติการบังคับใช้กฎหมาย ดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดทุกรูปแบบ ทั้ง On Ground และ Online อย่างจริงจัง บังคับใช้กฎหมายทุกฐานความผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหนี้ที่มีพฤติการณ์ข่มขู่ ใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้ และรับจำนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์โดยผิดกฎหมาย รวมทั้งขยายผลไปยังนายทุน ผู้อยู่เบื้องหลัง

3. มิติด้านการไกล่เกลี่ยเชิงบูรณาการ ได้ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  พิจารณาแนวทางการไกล่เกลี่ย เจรจาและประนอมข้อพิพาท เพื่อให้เกิดสัญญาที่เป็นธรรม และเป็นไปตามกฎหมาย    

วันที่ 23 ก.พ.67 ณ ห้องสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 ตร. โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานฯ และมี พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.สุรจิต  ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ชมชวิณ  ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. และ พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ รอง ผบก.สส.บช.น. เข้าร่วมแถลงผลการดำเนินการระดมกวาดล้างป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบทั่วประเทศ ในห้วงระหว่างเดือน พ.ย.66 - ก.พ.67 ซึ่งได้มีการดำเนินการระดมกวาดล้าง 3 ห้วง คือ ห้วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 24 พ.ย.66 ถึง 4 ธ.ค.66, ห้วงที่ 2 วันที่ 15 – 24 ม.ค.67 และห้วงที่ 3 วันที่ 12 – 21 ก.พ.67 โดยสามารถดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบได้ 2,182 ราย ผู้ต้องหา 2,296 คน คิดเป็นมูลหนี้รวมทั้งสิ้น 114,801,112 บาท ตรวจยึดของกลางหลายรายการ อาทิเช่น เงินสด อาวุธ บัญชีลูกค้า บัญชีธนาคาร รถยนต์ รถจักรยานยนต์ โฉนดที่ดิน และโทรศัพท์จำนวนมาก ซึ่งประเมินมูลค่าของกลางรวมทั้งสิ้น 63,694,336 บาท   

นอกจากนี้ยังพบว่า ผลการปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ นับตั้งแต่รัฐบาลได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ ในวันที่ 28 พ.ย.66  ที่ผ่านมา มีผลการปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ระหว่าง 1 ธ.ค.66 – 31 ม.ค.67 จำนวนทั้งสิ้น 1,237 คดี ซึ่งมีผลการปฏิบัติที่สูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับห้วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยผลการปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ระหว่าง 1 ธ.ค.65 –31 ม.ค.66 มีจำนวนทั้งสิ้น 266 คดี
     
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) จะยังคง กวดขัน ปราบปราม จับกุม และดำเนินคดี กับผู้กระทำความผิด อย่างต่อเนื่องต่อไป ในส่วนรายที่มีการจับกุมดำเนินคดีแล้ว ได้มีการเร่งรัดการทำสำนวนการสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดเวลา รวมไปถึงการควบคุมสำนวนการสอบสวนให้มีความเห็นสั่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ เพื่อให้การดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกิดประสิทธิภาพสูงสุด 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ความเชื่อมั่นว่า จะระดมทุกสรรพกำลัง เดินหน้าปราบปรามนายทุนเงินกู้นอกระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลดปล่อยลูกหนี้ ให้หลุดพ้นจากวงจรอันโหดร้ายนี้ และพร้อม
ร่วมบูรณาการกับทุกหน่วยงาน เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ตามนโยบายรัฐบาลต่อไป
         
ทั้งนี้ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบฯ ขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนมายังพี่น้องประชาชนหากต้องการกู้ยืมเงินควรศึกษาข้อมูล และเลือกกู้ยืมเงินกับทางสถาบันทางการเงินหรือผู้ให้บริการด้านสินเชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีความน่าเชื่อถือ และสามารถตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงปล่อยเงินกู้นอกระบบ จนสร้างความเดือดร้อน หากตกเป็นเหยื่อหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1599 หรือลงทะเบียนขอความช่วยเหลือที่สถานีตำรวจทุกแห่ง ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ และ สำนักงานเขต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top