Wednesday, 21 May 2025
ค้นหา พบ 48259 ที่เกี่ยวข้อง

ผบ.ตร. และภาคีเครือข่าย มอบรางวัลคลิปกล้องหน้ารถ “โครงการอาสาตาจราจร” พร้อมเตรียมเปิดรับคลิปอุบัติเหตุช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์ มอบรางวัลวันละ 1 คลิป เงินรางวัลร่วม 200,000 บาท

วันนี้ (7 เม.ย.66) เวลา 10.00 น.ณ ห้องสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์        กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. พร้อมด้วย  นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ, คุณ พิศเพลิน วิริยะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณนิตยา ลีธีระกุล รองผู้จัดการฝ่ายรายการ สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ คุณอัจฉรา บัวสมบูรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการมอบรางวัล และเกียรติบัตร โครงการอาสาตาจราจร โดยมอบรางวัลให้กับประชาชนเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ ประจำเดือน ม.ค. และ ก.พ. 2566 จำนวน 20 รางวัล เงินรางวัลคลิปสูงสุดคลิปละ 20,000 บาท รวมเงินรางวัลที่มอบทั้งสิ้น จำนวน 100,000 บาท โดยบริษัท วิริยะประกันภัย เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล

ผบ.ตร.กล่าวว่า ความร่วมมือจากภาคประชาชนเป็นพลังสำคัญในการแก้ไขปัญหาสังคมหลายเรื่อง รวมทั้งปัญหาการจราจร ประชาชนสามารถช่วยกันสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน โดยร่วมกันเป็นตาจราจร สอดส่องพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนที่ฝ่าฝืนกฎจราจร ที่เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ เมื่อสังคมเกิดการรับรู้ว่า การขับขี่บนถนนมีกล้องหน้ารถ หรือมีผู้ร่วมทางอาจใช้กล้องโทรศัพท์มือถือบันทึกการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎจราจร และจะเป็นพยานหลักฐานจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาดำเนินคดีในภายหลังได้ ก็จะช่วยยับยั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ที่ผิดกฎหมายบนท้องถนน สำหรับคลิปที่ส่งมาร่วมโครงการทุกคลิป จะเป็นพยานหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี หรือใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษผู้ทำผิด  คลิปที่มีเนื้อหาน่าสนใจที่ได้รับการคัดเลือก นอกจากประชาชนจะได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ด้วย 

** นอกจากนั้น ผบ.ตร.กล่าวเน้นย้ำ 3 ประเด็น เพิ่มเติมว่า

1) การส่งคลิปมาร่วมโครงการ ประชาชนสามรถใช้โทรศัพท์มือถือในการบันทึกอุบัติเหตุ หรือการกทำผิดกฎจราจรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกล้องหน้ารถเท่านั้น  
2) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ จะมีแคมเปญพิเศษเพิ่มเติม ในชื่อว่า “7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น” สำหรับให้ประชาชน  ส่งคลิปอุบัติเหตุช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้นของเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 ถึง 17 เมษายน 2566 มาร่วมในโครงการ และจะทำการคัดเลือกคลิปสำคัญที่เป็นพยานหลักฐานทางคดี จำนวน 7 คลิป รางวัลคลิปละ 10,000 บาท รวม 70,000 บาท 
3) เน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.66 เป็นต้น มา ตร.           และกรมการขนส่งทางบก ได้เชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกัน เพื่อบังคับใช้มาตรการชะลอการ ออกป้ายภาษี ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 141/1 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ซึ่งจะเป็นมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพของกฎหมายจราจร ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อลดอุบัติเหตุที่ฝ่าฝืนกฎหมาย

ทั้ง 3 ประเด็นนี้ อันจะเป็นมาตรการส่งเสริมการรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุ  เพื่อให้ลดสถิติได้ตามค่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดทั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 แลภาพรวมตลอดทั้งปีต่อไป  ** 

ทางด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวเสริมว่า โครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างการตระหนักรู้ในการขับขี่ปลอดภัย ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย ช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะถึงนี้ และทางมูลนิธิได้หาทุนสนับสนุนเงินรางวัลเพิ่มเติม ตั้งแต่เดือน มี.ค. 66 เป็นต้นไปจะมีการมอบรางวัลเพิ่มจากเดือนละ 10 คลิป เป็นเดือนละ 20 คลิป เนื่องจากขณะนี้มีประชาชนส่งคลิปมาเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยนอกจากคลิปกล้องหน้ารถแล้ว ก็ยังสามารถใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกการกระทำผิดกฎจราจรส่งมาร่วมโครงการได้เช่นกัน ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นอาสาตาจราจร พบเห็นการทำผิดกฎจราจร ให้รีบบันทึกภาพและส่งคลิปมาร่วมโครงการ

ผบ.ตร. ชื่นชม ผกก.สภ.เมืองนครปฐมเข้าชาร์จช่วยเหลือชีวิตชายคิดสั้นอุ้มลูกพยายามกระโดดสะพาน

วันนี้ (7 เม.ย.66) เวลา 11.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่ ผกก.สภ.เมืองนครปฐมเข้าชาร์จช่วยเหลือชีวิตชายอุ้มลูกพยายามกระโดดสะพาน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 เม.ย.66 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ พบชายอุ้มลูกมีท่าทีจะกระโดดสะพานลอย ย่านถนนเพชรเกษม จึงได้ประสาน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยควบคุมสถานการณ์เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบชายวัยกลางคนยืนกอดรัดเด็กชายบนสะพานลอยฝั่งมุ่งหน้าเข้าจังหวัดราชบุรี มีความสูงจากพื้นถนนประมาณ 20 เมตร ซึ่งมีรถสัญจรผ่านไปมาบนถนน สร้างความหวาดเสียวให้กับประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการปิดกั้นการจราจรเพื่อป้องกันอันตราย และประสานทางเทศบาลนครปฐมกางเบาะลมเพื่อรองรับเหตุที่คาดไม่ถึง ซึ่งชายคนดังกล่าวแจ้งว่า ต้องการพบหน้าอดีตภรรยาและสามีใหม่ของเธอ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเจรจาเกลี่ยกล่อมนานกว่า 1 ชั่วโมงแต่ไม่เป็นผล

ต่อมา พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม จึงได้ตัดสินใจเดินขึ้นสะพานเพียงคนเดียวเพื่อให้ชายคนดังกล่าวเชื่อใจ ในขณะที่ชายคนดังกล่าวและลูกชายเริ่มมีสภาพอิดโรยเพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัด และช่วงจังหวะที่ชายคนดังกล่าวเผลอ พ.ต.อ.ภูภณฯ จึงฉวยโอกาสจู่โจมชาร์จตัวไว้ได้สำเร็จ ตามหลักยุทธวิธีตำรวจ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่รอจังหวะอยู่ห่างๆ จะกรูเข้าไปช่วยกันจับแยกลูกชายออกมาได้ แล้วนำชายคนดังกล่าวนำตัวไปสงบสติอารมณ์ ที่ สภ.เมืองนครปฐม และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป 

กกต. แจ้ง 10 ข้อห้ามทำในช่วงเลือกตั้ง ฝ่าฝืนเจอโทษหนัก ‘เพิกถอนสิทธิ-ยุบพรรค’

(7 เม.ย.66) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เน้นย้ำเกี่ยวกับ ‘ข้อห้าม’ ไม่ให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น หรือบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใด ด้วยวิธีการ

1.จัดทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด

2.ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์หรือสถาบันอื่นใด

3.ทำการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่าง ๆ

4.เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด

5.หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง

‘เพื่อไทย’ ลั่น!! ‘สร้างโอกาสใหม่ เพื่อฟุตบอลไทย’ ขอยกระดับมาตรฐานวงการทัดเทียมนานาชาติ

‘เพื่อไทย’ ประกาศแผน 100 วันแรก ดันกีฬาฟุตบอล ชูนโยบาย ‘สร้างโอกาสใหม่ เพื่อฟุตบอลไทย’ ยกระดับมาตรฐานวงการฟุตบอลไทย ส่งนักกีฬาไทยไประดับโลก

(7 เม.ย.66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะที่ปรึกษานโยบายกีฬา พรรคเพื่อไทย แถลงนโยบาย ‘สร้างโอกาสใหม่ เพื่อฟุตบอลไทย’ โดย นายพิมล กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าหมายใหญ่โดยจะยกระดับมาตรฐานกีฬาฟุตบอลไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ สร้างนักกีฬาสมัครเล่นไปสู่นักกีฬาฟุตบอลอาชีพระดับโลกด้วยการพัฒนาสภาพแวดล้อมของวงการฟุตบอลอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างรายได้ สร้างงานอย่างมั่นคง นอกจากนักกีฬามืออาชีพ ยังมีทั้งผู้ตัดสิน ผู้ฝึกสอน นักวิทยาศาสตร์การกีฬา

ทั้งนี้ ในอดีตพรรคไทยรักไทยได้ริเริ่มโครงการ ‘สตรีท ซอคเกอร์’ (Street soccer) ทั่วประเทศ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้จุดประกายให้เยาวชนที่มีใจรักในกีฬาฟุตบอลให้หันมาเล่นกีฬานี้อย่างจริงจัง นักกีฬาที่จัดอยู่แถวหน้าของการแข่งขัน ได้รับโอกาสไปฝึกซ้อมในต่างประเทศกับทีมชั้นนำ เช่น ทีมฟูแลม (Fulham F.C.) ซึ่งนโยบาย ‘สร้างโอกาสใหม่ เพื่อฟุตบอลไทย’ จะมาต่อยอดจากนโยบายนี้

ตำรวจไซเบอร์ ห่วงใยเยาวชนไทยห้วงสงกรานต์ จับฉีดวัคซีนป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หวั่นตกเป็นเหยื่อ พร้อมให้ความรู้ขับขี่ปลอดภัย ปิดเทอม ไม่แว้น ไม่ซิ่ง ไม่แข่ง มอบหมวกกันน็อก แทนความห่วงใย

วันที่ 7 เมษายน 2566 เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมโรงเรียนไตรรัตน์วิทยาคาร ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 และ ทีมวิทยากรวัคซีนไซเบอร์ ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา มูลนิธิเมาไม่ขับจังหวัดนครราชสีมา ชมรมฮักเขาใหญ่ และคณะครูนักเรียน โรงเรียนไตรรัตน์วิทยาคาร 

ร่วมเปิดกิจกรรม 'เตือนภัยไซเบอร์ ห่วงใยเด็กไทย ปลอดภัยสงกรานต์ ๒๕๖๖' รวมรณรงค์ สวมใส่หมวกกันน็อก โดยมี เด็กนักเรียน โรงเรียนไตรรัตน์วิทยาคาร จำนวน 150 คน และภาคประชาชน เครือข่ายความปลอดภัยบนท้องถนน เมาไม่ขับ โดยมีการอบรมให้ความรู้เรื่องพิษภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะหวันเกรงเด็กเยาวชนตกเป็นเหยื่อ จากทีมงานตำรวจไซเบอร์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top