Wednesday, 21 May 2025
ค้นหา พบ 48259 ที่เกี่ยวข้อง

ปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด เกมหักเหลี่ยมเฉือนคม สะท้อนนิยาม 'การเมือง' ผลประโยชน์ที่ไม่เข้าใครออกใคร

เริ่มจากร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดที่เข้าสู่รัฐสภา เป็นการประชุมร่วมกันระหว่างส.ส. และส.ว. ได้เสนอมาตอนนั้นในร่างมาตรา 29 มันไม่มีคำว่า 'กัญชา' อยู่ตั้งแต่ร่างมาแล้ว ทั้งๆ ที่กัญชาประเภท 5 เป็นยาเสพติดที่ถูกให้ความสำคัญมาตลอด ในพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ

ต่อมารัฐสภาได้ทำการพิจารณาร่างประมวลกฎหมาย ยาเสพติด ซึ่งเสนอโดยรัฐบาล 
ในมาตรา 29 ประเภท 5 มันไม่มีคำว่า 'กัญชา' อยู่ ซึ่งมีคำว่าพืชฝิ่น กับเห็ดขี้ควาย 2 อย่างเท่านั้น ซึ่งเมื่อก่อนตามพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษปี 2522 ประเภท 5 มันมีคำว่ากัญชา ยาฝิ่น กระท่อม แล้วก็ถอดกระท่อมออกเหลือ 2 อย่าง 

นายศุภชัย ใจสมุทร เฝ้าเกาะติด มาตรา 29 มาตลอด มีคนเสนอว่า ควรจะต้องมีคำว่ากัญชาด้วยไหม ในการประชุม นายศุภชัย ใจสมุทร เข้าร่วมประชุมด้วย บอกว่า ไม่ มันไม่มาตั้งแต่แรก นายศุภชัยเป็นรองประธาน ในเวลานั้น บอกว่าไม่ต้องมีคำว่ากัญชา นี่คือที่มาทั้งหมด 

>>พฤศจิกายน 2564
-รัฐสภาทำการพิจารณาแล้วเสร็จ จึงมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และ มีผลบังคับใช้หลังจากนั้นอีก 30 วัน

>>8 ธันวาคม 2564
-จุดเริ่มต้นของการปลดล็อกกัญชา
-ประมวลกฎหมายยาเสพติด มีผลใช้บังคับ โดยการลงมติเห็นชอบ พร้อมทั้ง ส.ส. สว. ทั้งฝ่ายค้าน ทั้งฝ่ายรัฐบาล ดังนั้นกัญชาไม่ได้เป็นยาเสพติดนับตั้งแต่วันที่ 8/12/2564 จนถึงปัจจุบัน

>>มกราคม 2565
-คณะกรรมการ ป.ป.ส.ได้มีการจัดประชุม คือตามกฎหมายมาตรา 29 กำหนดว่า ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด และโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบเรื่องนี้ ให้ประกาศระบุประเภทของยาเสพติดแต่ละประเภท 

-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการป.ป.ส. ว่าสิ่งที่เป็นยาเสพติด คือ 1 คือ พืชฝิ่น 2 คือเห็ดขี้ควาย 3 คือสารสกัดจากกัญชา มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนาบินอล (tetrahydrocannabinol – THC) เกิน 0.2 % ที่ยังเป็นยาเสพติด

-พรรคภูมิใจไทย ขอให้มีการประกาศบังคับใช้ โดยมีการนับไปอีก 120 วัน ก็คือวันที่ 8 มิถุนายน 2565

-นายศุภชัย เสนอ จะต้องมีกฎหมายพ.ร.บ. กัญชา กัญชง มาอีกฉบับหนึ่ง 

-ที่ประชุมมอบให้พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีฉบับร่างอยู่แล้ว นำฉบับร่างพ.ร.บของพรรคภูมิใจไทย ที่เกี่ยวกับการทำเรื่องกัญชาเสรีทางการแพทย์นั้นมายื่น เพื่อให้ทันภายใน 120 วัน โดย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ไปยื่นต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาเองโดยตรง 

-นายชวน หลีกภัย ประธานสภา พิจารณาบรรจุเข้ามาเป็นร่างพระราชบัญญัติต่อไปได้ และนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติรับรองให้ทันทีทันใด

>>9 มิถุนายน 2565
-วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ได้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา 25 คน และทำการพิจารณากันจนแล้วเสร็จ ผ่านไป 19 วันมีการประชุมรัฐสภาอีกครั้ง ปรากฏว่า มีการเสนอเข้าที่ประชุมแล้ว การเปิดเสรีกัญชานั้นได้ถูกตีตก จากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ก้าวไกล และพรรคประชาชาติ ไม่ยอมให้กฎหมายผ่านมติการประชุม

-พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เข้าสู่วาระที่ 2  มีส.ส.จากพรรค ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ก้าวไกล ประชาชาติ ยืนยันจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จน ณวันนี้สภาปิด พ.ร.บ.กัญชา ก็ค้างในสภา พรรคภูมิใจไทย เดินหน้าต่อ เพื่อจะทำกัญชาทางการแพทย์ตั้งแต่หาเสียง และเศรษฐกิจ จะไม่เอานันทนาการ พรรคภูมิใจไทย จะเอากัญชาทางการแพทย์เท่านั้น แต่โดนบิดเบือนจากพรรคการเมืองตรงข้ามพรรคภูมิใจไทย  

>>10 มิถุนายน 2565
-อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมวิชาการ “มหกรรมกัญชา 360 องศา ปลดล็อกกัญชา ประชาชนได้อะไร” พร้อมแจกต้นกล้ากัญชา 1 พันต้น ณ จังหวัดบุรีรัมย์ 

>>16 มิถุนายน 2565
-กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศ สธ. มีผลบังคับใช้วันที่ 17 มิ.ย 2565 เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 4, 44, 45(3), 45(4) แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 กำหนดให้กัญชา หรือสารสกัดกัญชา เป็นสมุนไพรควบคุม

>>18 มิถุนายน 2565
-อนุทิน ชาญวีรกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แจง ประกาศ สธ. กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม มีผลตามกฎหมายแล้ว

การขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กว่า 1 ปี ในช่วงแรกเน้นให้ประชาชนเข้าถึงยากัญชาทางการแพทย์ ที่ได้มาตรฐานจากสถานพยาบาลใกล้บ้านกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ 

ชาวบ้านสุโขทัย ขุดบ่อบาดาลเจอน้ำคล้ายโซดา ลุ้นเป็น ‘น้ำแร่’ คุณภาพเทียบระดับโลก

(7 เม.ย. 66) ที่สวนหลังบ้านเลขที่ 146 หมู่ 7 ต.นาเชิงคีรี อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย มีการขุดเจาะบ่อบาดาลแล้วปรากฏว่าเจอน้ำมีรสชาติคล้ายโซดา ซ่าติดลิ้น ไร้กลิ่น สามารถดื่มกินได้ ชาวบ้านสงสัยว่าอาจจะเป็นน้ำแร่คุณภาพเทียบระดับโลก เหมือนกับที่พบในพื้นที่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เมื่อปี 2564 จึงอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปพิสูจน์ตรวจสอบ

พ.ท.คะเนตร  รักวุ่น อายุ 62 ปี ข้าราชการบำนาญ (สังกัด กอ.รมน.จว.สุโขทัย) เจ้าของบ้าน บอกว่า เมื่อ 2 เดือนก่อนได้ว่าจ้างช่างให้มาขุดเจาะบ่อบาดาล ตรงทุ่งนาติดกับสวนผลไม้หลังบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากประปาหมู่บ้านแค่ 200 เมตร โดยขุดเจาะลึกลงไป 70 เมตรก็เจอน้ำพุ่งขึ้นมา แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าน้ำมีรสซ่าคล้ายโซดา กระทั่งได้จ้างช่างมาติดตั้งปั๊มน้ำโซล่าเซลล์ แล้วพวกช่างได้ลองดื่มน้ำจากบ่อที่เพิ่งขุดเจาะ จึงรู้ว่ามีรสชาติแปลกคล้ายโซดา และซ่าติดลิ้น ไร้กลิ่นใดๆ พอลองเอาไปรดต้นไม้ ก็สังเกตพบว่าต้นไม้ใบหญ้าจะมีสีเขียวเข้มกว่าปกติ เหมือนกับว่าในน้ำมีแร่ธาตุบำรุง

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัย SMS แอบอ้างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าดูแลปัญหาภัยแล้ง

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ส่งข้อความสั้น (SMS) พร้อมโทรศัพท์ไปยังประชาชนแจ้งว่าจะคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า แล้วหลอกลวงให้แอดไลน์ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์มือถือโอนเงินออกจากบัญชี ดังนี้

ได้รับรายงานจากกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) ว่า พบผู้เสียหายหลายรายได้รับข้อความสั้น (SMS) จากมิจฉาชีพซึ่งแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แจ้งว่า ผู้เสียหายมีสิทธิได้รับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าคืน เพื่อช่วยเหลือประชาชนตามมาตรการเร่งด่วน เมื่อผู้เสียหายกดลิงก์ที่แนบมากับข้อความดังกล่าว จะเป็นการเพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่มิจฉาชีพปลอมขึ้นมา จากนั้นมิจฉาชีพจะสอบถามรายละเอียดต่างๆ เริ่มจากสอบถามว่าได้รับการแจ้งเตือนมาจากช่องทางใด แจ้งผู้เสียหายว่าจะได้รับเงินประกันคืนในอัตราตั้งแต่ 2,000 - 6,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของมิเตอร์ที่ใช้ สอบถามว่าโทรศัพท์ที่ใช้งานใช้ระบบปฏิบัติการ Android หรือ IOS พร้อมทั้งขอหมายเลขโทรศัพท์เพื่อติดต่อกลับ เมื่อตอบคำถามเสร็จสิ้น จะมีหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยโทรมายังผู้เสียหาย 

อ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แล้วทำการส่งลิงก์ทางไลน์ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคปลอม อ้างว่าเป็นแอปพลิเคชันเวอร์ชันใหม่ล่าสุด สามารถตรวจสอบปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ได้ในแต่ละวัน โดยมีการขอสิทธิ์ติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก (ไฟล์อาจเป็นอันตราย หรือไฟล์นามสกุล .apk) มีการหลอกให้ตั้งรหัสผ่าน 6 หลัก จำนวนหลายๆ ครั้ง เพื่อหวังให้ผู้เสียหายกรอกรหัสชุดเดียวกับรหัสเข้าถึง หรือทำธุรกรรมการเงินของแอปพลิเคชันธนาคารต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย รวมไปถึงขอสิทธิ์ในการควบคุมอุปกรณ์ หรือโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ เช่น ดูและควบคุมหน้าจอ ดูและดำเนินการ เป็นต้น โดยในขั้นตอนนี้มิจฉาชีพจะแสร้งหวังดีสอนผู้เสียหายว่าทำอย่างไร โดยการโทรศัพท์มาแจ้งวิธีการด้วยตนเอง กระทั่งเมื่อมิจฉาชีพได้สิทธิ์ควบคุมอุปกรณ์หรือโทรศัพท์มือถือแล้ว จะทำการล็อกหน้าจอโทรศัพท์ ทำให้เสมือนโทรศัพท์ค้าง ซึ่งมักจะแสดงข้อความว่า อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ ห้ามใช้งานโทรศัพท์มือถือ ทำให้มิจฉาชีพสามารถนำรหัสที่ผู้เสียหายเคยกรอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ทำการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแอบอ้างเป็นหน่วยงานต่างๆ หลอกลวงให้ประชาชนติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมเอาทรัพย์สินของประชาชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน

ที่ผ่านมา บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบมาโดยตลอด มุ่งเน้นการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า การหลอกลวงในรูปแบบดังกล่าวยังคงเป็นการหลอกลวงในรูปแบบเดิมๆ เพียงแต่มิจฉาชีพจะเปลี่ยนชื่อหน่วยงาน และเปลี่ยนเนื้อหาไปตามวันเวลา และสถานการณ์ในช่วงนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งว่าได้รับสิทธิ หรือได้รับเงินคืน ให้อัปเดตข้อมูล โดยในขั้นตอนสุดท้ายจะหลอกลวงให้เหยื่อกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมของหน่วยงานที่แอบอ้าง ที่ผ่านมาก็ปรากฏในหลาย ๆ หน่วยงาน มิจฉาชีพจะอาศัยความไม่รู้ และความโลภ ของประชาชนเป็นเครื่องมือ ใช้ความสมัครใจของเหยื่อให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม มีการใช้สัญลักษณ์ของหน่วยงาน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันหลายหน่วยงานได้ประกาศยกเลิกการส่งข้อความสั้น (SMS) หรือส่งอีเมลไปยังประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันการเงิน หรือธนาคารต่างๆ ทั้งนี้ฝากย้ำเตือนไปยังประชาชน ไม่ว่ามิจฉาชีพจะมาในรูปแบบใดๆ ก็ตาม ให้ระมัดระวังและมีสติอยู่เสมอ โดยหากพบเห็นข้อความสั้น (SMS) หรือลิงก์ ในลักษณะดังกล่าวให้แจ้งเตือนไปยังบุคคลใกล้ชิด และหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานนั้น ๆ ให้ช่วยตรวจสอบทันที เพื่อลดการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

​ทั้งนี้ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงแนวทางการป้องกัน ดังนี้
​1. ไม่กดลิงก์ที่เเนบมากับข้อความสั้น (SMS) หรือที่ส่งมาทางสื่อสังคมออนไลน์ ไม่กดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ เพราะอาจเป็นการดักรับข้อมูล หรือการฝังมัลแวร์ของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาพร้อมกับข้อความในลักษณะการให้สิทธิพิเศษ ให้รางวัล หรือโปรโมชันต่างๆ
2. หากได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย และมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ให้ขอชื่อนามสกุล และหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับของเจ้าหน้าที่ โดยให้แจ้งว่าจะติดต่อกลับไปภายหลัง
3. ตรวจก่อนว่ามาจากหน่วยงานนั้น ๆ จริงหรือไม่ โดยการโทรศัพท์ไปสอบถามผ่านหมายเลขคอลเซ็นเตอร์ หรือผ่านเว็บไซต์ทางการของหน่วยงานนั้น โดยตรง รวมถึงตรวจสอบว่ามีการประกาศแจ้งเตือนการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวหรือไม่

‘ชวน’ บุกตลาดท่าดินแดง เป็นเขตแรกใน กทม. หลังยุบสภาฯ ช่วย ‘ศิริภา’ หาเสียง อ้อน ปชช.หนุนคนดี ทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง

(7 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็น วันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ตลาดท่าดินแดง เขตคลองสาน ช่วย น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร ผู้สมัคร ส.ส. กทม. หมายเลข 11 เขตธนบุรี คลองสาน และราษฎร์บูรณะ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หาเสียง ซึ่งถือเป็นการประเดิมช่วยพรรคหาเสียงเลือกตั้ง เป็นเขตแรก ของ กทม. หลังมีการยุบสภาฯ

โดยนายชวน ได้เดินพบปะพี่น้องประชาชน และศักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปึงเถ่ากงม่า พร้อมนำ น.ส.ศิริภา เดินแจกเอกสารแนะนำตัว ในตลาดท่าดินแดง โดยมีประชาชนมาขอถ่ายรูปและเข้ามาทักทายจำนวนมาก

‘ธนาธร’ ลั่น!! เลือกก้าวไกล ทำงานได้จริง ชี้ หาก 4 ปีไร้ผลงาน เทใจพรรคอื่นได้เลย

ประกาศขอ ปชช.เลือกคนที่ทำงานได้จริง ทำเพื่อประชาชน หาก 4 ปีในสภาฯ บอกหาก ‘ก้าวไกล’ ไม่มีผลงานให้เห็น เปลี่ยนใจเลือกพรรคอื่นได้ ย้ำพรรคเป็นประชาธิปไตยแน่นอน

(7 เม.ย. 66) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์, นางสาวรัชนก ศรีนอก, นายปูอัด ไชยยามพวาน ผู้สมัคร ส.ส.ฝั่งธนบุรี ลงพื้นที่หาเสียงภายในซอยโรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา มาจนถึงห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีพระราม 2

หลังลงพื้นที่หาเสียงแล้ว นายธนาธรพร้อมผู้สมัคร ส.ส.ได้ปราศรัยย่อย บริเวณตลาดนัดหน้าบิ๊กซีพระราม 2 โดยย้ำถึงจุดยืนของพรรคก้าวไกล ว่ามีความพร้อมมากกว่าพรรคอนาคตใหม่ เมื่อปี 2562 เพราะ ส.ส.ทุกคนมีคุณภาพ ทำงานเรียนรู้และมีประสบการณ์มาตลอดระยะเวลา 4 ปีในสภาผู้แทนราษฎร มั่นใจจะทำงานตอบโจทย์แก้ปัญหาประชาชนได้ดีกว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่ปี 2562 จึงอย่าปล่อยให้ ส.ส.มีคุณภาพหลุดมือไม่ได้รับใช้ประชาชน ‘พวกเราก้าวไกล พร้อมรับใช้ประชาชน’

ขณะที่หลังการลงพื้นที่หาเสียง และปราศรัยย่อยเสร็จสิ้นแล้ว มีประชาชนเดินเข้ามาหานายธนาธร พร้อมยื่นสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 ใบ ที่ใบเลขท้ายตรงกับหมายเลขพรรคก้าวไกล คือ เลข 31 และบอกนายธนาธร ว่า หากถูกรางวัลที่ 1 ให้นำเงินไปขึ้นได้ทันที พร้อมสะท้อนเรื่องการประกอบอาชีพของเด็กจบใหม่ว่า สร้างตัวว่ายากแล้ว มีกินมีใช้ไปวัน ๆ ยังยากเลย หางานไม่ยากแต่หาเงินใช้รายวันยากกว่า บางเดือนรายได้รายรับลดลง รายจ่ายกลับสวนทาง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top