Wednesday, 21 May 2025
ค้นหา พบ 48259 ที่เกี่ยวข้อง

เมื่อ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ จะก้าวข้าม พร้อมผงาดนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

ได้ยินมาเต็มสองรูหูจากปาก ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่า เบื้องหลังหมายเลข 7 เบอร์ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคนั้น พระอาจารย์ภัตร อริโย แห่งวัดนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เป็นผู้จัดให้...

ตอนไปกราบพระอาจารย์บอกว่าอยากได้หมายเลข 1 แต่พระอาจารย์บอกว่าเลขที่ถูกโฉลกกับพรรคภูมิใจไทยงวดนี้คือ หมายเลข 7

แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามพระอาจารย์ว่า... แต่แค่นั้นยังไม่พอ อนุทิน เล่าด้วยว่า พระอาจารย์ภัตร อริโย ยังบอกว่า หลังวันที่ 14 พ.ค.วันเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยจะได้เลขสามหลัก ซึ่งตรงกับที่ตนคำนวณไว้ทุกประการ…

ครับ..วันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยอายุครบ14ขวบ ย่างสามขุมสู่ปีที่ 15 ว่ากันตามทฤษฎีการเมืองแบบไทยๆ  พรรคที่อายุเกินรอบนักษัตร 12 ปี ก็พอจะนับเป็น ‘สถาบันทางการเมือง’ ได้แล้ว…

และที่น่าจับตายิ่งปีนี้ หลังการเลือกตั้ง 14 พ.ค.เชื่อตรงกันแทบทุกสำนักว่า ภูมิใจไทย จะเข้าป้ายลำดับสอง รองจาก พรรคเพื่อไทย อยู่ที่ 100 บวกลบที่นั่ง...โดยประการสำคัญยิ่ง พรรคภูมิใจไทย จะเป็นแชมป์ในปีกขั้วอำนาจเดิมหรือรัฐบาลในปัจจุบัน

ดังนั้น ตามคณิตศาสตร์การเมือง...ภูมิใจไทย และ อนุทิน ชาญวีรกูล วันนี้ คือ ตัวเต็งนายกรัฐมนตรีและแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเลยทีเดียว...

คำนวณกันทีเล่นทีจริง ถ้าผลเลือกตั้งออกมาประมาณว่า ภูมิใจไทย 100 เสียง รวมไทยสร้างชาติ, ประชาธิปัตย์, พลังประชารัฐ ได้พรรคละ 50 เสียงเท่ากัน ก็นับได้ 250 เสียงแล้ว บวกกับอีกสองพรรคคือชาติไทยพัฒนาและชาติพัฒนากล้าอีกอย่างน้อย 15 เสียง เท่ากับ 265 เสียง..เป็นเสียงข้างมากในสภาฯ ตอนโหวตเลือกนายกฯ ถ้า ส.ว.ไม่งอแง ยกมือหนุนให้อนุทินเป็นนายกฯ ได้...

‘หัวไทร-ปากพนัง’ เขตที่ ‘แทน’ ต้องทำให้ ‘เท่ห์’ ชนะ แต่ต้องจับตา ‘มนตรี-เพื่อไทย’ พร้อมเสียบ

เดินเก็บข้อมูลอยู่ในเขต 3 นครศรีธรรมราช (ปากพนัง-หัวไทร) 3 วัน ได้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ถึงวิธีคิดของชาวบ้านที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยยะ

เขตหัวไทร-ปากพนัง เดิมเป็นเขตเลือกตั้งที่ 2 แต่ปัจจุบันเป็นเขต 3 ซึ่งมี ‘สัญหพจน์ สุขศรีเมือง’ เป็น ส.ส.อยู่ สังกัดพรรคพลังประชารัฐ และเลือกตั้งคราวนี้ยังอยู่ในสังกัดพลังประชารัฐเหมือนเดิม และเป็นพรรคที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค รวมทั้งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

ตามที่ได้ฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้าน กระแสของ ‘สัญหพจน์’ แผ่วเบามาก และแผ่วเบาพอ ๆ กับเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งสัญหพจน์ได้รับการเลือกตั้ง น่าจะเกิดจากกระแส ‘ลุงตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากกว่า เมื่อบวกรวมกับความต้องการเปลี่ยนของชาวบ้าน และสอนบทเรียนให้ประชาธิปัตย์ ทำให้สัญหพจน์ได้รับการเลือกตั้งเข้าไปเป็น ส.ส. และถือเป็นเขตล้มช้าง เพราะเอาชนะ ‘วิทยา แก้วภารดัย’ จากพรรคประชาธิปัตย์ ชนิดหักปากกาเซียน

แต่สำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ ‘ลุงตู่’ ไม่อยู่แล้ว ย้ายไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ กระแสลุงตู่สำหรับสัญหพจน์จึงไม่มี ไม่มีตัวช่วยเหมือนครั้งก่อน ตัวช่วยอย่าง พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ก็ไม่อยู่แล้ว คราวปี 2562 พ.อ.สุชาติ เป็นตัวช่วยในการทำคะแนนให้สัญหพจน์ไม่น้อย

ถามว่า ถ้าอย่างนั้นกระแสจะไปอยู่ตรงไหน ใครมีโอกาสได้รับเลือกเป็น ส.ส. ย้อนไปเมื่อ 5-6 เดือนก่อน กระแสของ ‘มานะ ยวงทอง’ จากพรรคภูมิใจไทย ค่อนข้างแรงกับคนรุ่นใหม่ กับพรรคที่กำลังมีกระแสแรงในภาคใต้ แต่วันเวลาผ่านไป กระแสของมานะเริ่มจะถดถอย ถดถอยอันเกิดจากหลายเหตุผล ประการแรกเกิดจากตัวมานะเองที่ไม่ชัดเจนในบางเรื่อง ทำงานจัดตั้งไม่เข้มแข็งพอ ได้หน้าลืมหลัง เดินไปข้างหน้า ไม่หันไปมองข้างหลัง หัวคะแนนระดับ ‘หัวกะทิ’ เริ่มถอยห่าง ซึ่งเป็นหัวกะทิในระดับจัดการคะแนนได้ จัดตั้งเป็น รู้จักคนในพื้นที่ดีว่าใครเป็นใคร น่าจะช่วยใคร แต่มานะกลับไม่เห็นคุณค่า ปล่อยให้เขาเคว้งคว้าง และคนอื่นมาคว้าพุงปลามันไปกิน

เมื่อบวกรวมกับกระแสพรรคภูมิใจไทยที่ไม่หวือหวาเหมือนเดิม ถูกโหมกระหน่ำหนักทั้งเรื่องกัญชา เรื่องศักดิ์สยาม ชิดชอบ ถูกศาลสั่งพักงาน ‘เสี่ยชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์’ ก็ตามบี้ไล่หลัง ยังมีเรื่องศาลสั่งให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง ที่ถูกกล่าวหาบุกรุกที่ดินรถไฟอีก…หนักหน่อยนะ

ใครเข้ามาคว้า ที่เห็นอย่างน้อยสองคน คนแรกคือ ‘เท่ห์’ พิทักษ์เดช เดชเดโช จากพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเขตเลือกตั้งชัด ‘เท่ห์’ ก็ชัดว่า จะลงเขต 3 และเริ่มลุยหัวไทรทันที โดยหลังจากบุกปากพนังมาแล้วหลายเดือนจนลงตัว ‘เท่ห์’ ก็เข้าหัวไทรถี่ยิบ โดยมีพี่ชาย ‘แทน’ ชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนชี้เป้า ชี้เป้าไปยังผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และผู้นำตามธรรมชาติ และบางคนแทนยกหูคุยเอง และเดินทางไปพบด้วยตัวเอง

ไม่ใช่แค่นั้น หลังแทนบุกเข้าไปชี้เป้าให้เท่ห์ ยังมี ‘เจ๊ต้อย’ กนกพร เดชเดโช นายกฯ อบจ.ผู้เป็นแม่ ตามไปสำทับ ผ่านองค์กรท้องถิ่น ผู้นำสตรีอีกครั้ง กระแสประชาธิปัตย์ที่เดิมไม่ค่อยดีนัก แต่การเข้ามาเองของ ‘แทน-ต้อย’ เริ่มมีคนกล่าวขานถึง กล่าวขานถึงการมีโอกาสได้รับเลือกตั้งสูง และเชื่อว่า ‘ต้อย-แทน’ จะต้องทำให้ ‘เท่ห์’ ชนะในเขตนี้ ไม่งั้นก็ ‘บัดสีคน’

ร้านซีฟู้ดเจ้าดัง ตามหาลูกค้าโอนเงินผิด ระบุ กินแค่หลักพัน แต่โอนเป็นหมื่น

(7 เม.ย. 66) เพจเฟซบุ๊ก แห้วซีฟู๊ด ปูดอง หัวปลาหม้อไฟ - บนถนนพุทธมณฑลสาย2 ประกาศตามหาลูกค้าที่โอนเงินค่าอาหารเกิน โดยระบุข้อความว่า "ตามหาลูกค้าที่เข้ามาทานอาหารที่ร้านแห้วซีฟู๊ด พุทธมณฑลสาย 2 เนื่องจากลูกค้าทำการโอนเงินเกินยอดบิล ทานอาหาร 2,018 บาท ลูกค้าโอนมา 20,183 บาท วันที่ 4/4/66 เวลา 19.57 น. ตำแหน่งโต๊ะในรูป

หากลูกค้าเห็นโพสต์นี้ สามารถติดต่อเพื่อ ขอรับเงินคืนได้ที่ เบอร์ 089-4974595, 062-8764595 เพจ แห้วซีฟู๊ด ปูดอง หัวปลาหม้อไฟ ได้เลยค่ะ รบกวนเพื่อนๆ ช่วยแชร์ให้ด้วย"

‘ชวน’ ประเดิมปราศรัยใหญ่ ลานคนเมืองเย็นนี้ ก่อนเดินหน้าลุยช่วย ‘ปชป.’ หาเสียงทั่วประเทศ

(7 เม.ย.66) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การปราศรัยใหญ่ของพรรคฯ ที่ลานคนเมือง กทม.ในวันนี้ (7 เม.ย. 66) ตั้งแต่เวลา 17.30 น.เป็นต้นไป นอกจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคฯ จะนำทัพผู้สมัคร ส.ส. กทม. ปชป. และผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พบปะประชาชนแล้ว นายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ประเดิมเป็นครั้งแรกด้วย ก่อนที่จะเดินสายรณรงค์หาเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคทั่วประเทศ โดยนายชวน พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวนหนึ่งจะร่วมคณะเดินสายช่วยรณรงค์หาเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส. ปชป. ทั่วประเทศจนเสร็จสิ้นการหาเสียงในเวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 พ.ค. ตามกฎหมายกำหนด ก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั่วประเทศในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 2566

‘อรรถวิชช์’ ย้ำ!! แบ่งเขตแบบนี้ ประชาชนสับสน ส.ส.ทำงานยากขึ้น ลดความผูกพันผู้คนในพื้นที่

(7 เม.ย. 66) ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวหลังศาลปกครองพิพากษายกฟ้องคดี กกต. ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. ไม่ขัดต่อกฎหมายว่า ถือเป็นสร้างบรรทัดฐานใหม่ เห็นได้ชัดว่า การเลือกตั้งรอบนี้ กกต. ยึดหลักเกณฑ์ค่าเฉลี่ย 10% คำนวณหา ส.ส. 1 คนต่อจำนวนราษฎร เป็นครั้งแรก ซึ่งตนได้เน้นย้ำว่า หลักเกณฑ์ดังกล่าว ส่งผลให้ละลายเขตเลือกตั้ง และ ศาลมีดุลยพินิจว่า การจะใช้หลักเกณฑ์คำนวณหา ส.ส.นั้น ล้วนเป็นอำนาจของ กกต. ในการกำหนดเกณฑ์ 10% โดยถือหลักจำนวนราษฎรสำคัญกว่า การนำอำเภอมาใช้แบ่งเขตเลือกตั้ง ก็แปลว่าในอนาคตการเดินลงพื้นที่ของ ส.ส. จะลำบากมากขึ้น เพราะเขตเลือกตั้งต่อจากนี้จะถูกแบ่งเขตได้ตลอดเวลา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top