Saturday, 10 May 2025
ค้นหา พบ 47995 ที่เกี่ยวข้อง

‘พิธา’ ชี้แก้ฝุ่นพิษ PM 2.5 ต้องกล้าชนกลุ่มทุน ต้นตอนำเข้า ‘ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์’ ที่เผาป่าเพิ่มพื้นที่ปลูก

‘พิธา’ ชี้แก้ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่ต้นตอ ต้องกล้าชนกลุ่มทุน ยกข้อมูลพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เติบโตสัมพันธ์กับจุดความร้อน ลั่น ‘ก้าวไกล’ เป็นรัฐบาล ใช้สิงคโปร์โมเดล ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์-สินค้าเกษตรนำเข้า ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน GAP กำหนดกฎหมาย ผู้มีส่วนสร้างหมอกควันพิษ ต้องรับผิดชอบทั้งทางอาญา-แพ่ง

(27 มี.ค. 66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังอยู่ในสถานการณ์วิกฤติในหลายจังหวัดภาคเหนือว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์ PM2.5 ในภาคเหนือรุนแรงมาก บางจังหวัดเช่นเชียงใหม่ กลายเป็นเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก บางวันสถานการณ์รุนแรงเกินกว่าที่เครื่องวัดฝุ่นละอองจะวัดได้ ข้อเสนอในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ โดยเฉพาะด้านการป้องกัน บรรเทา และเตือนภัย คงมีคนพูดถึงไปเยอะแล้ว ตนจึงขอพูดอีกประเด็นสำคัญที่ยังไม่ถูกพูดถึงมากนัก นั่นคือต้นตอของสาเหตุที่ทำให้ PM2.5 รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

หลายคนรู้ปัญหาดีว่าต้นเหตุของฝุ่น PM2.5 ที่มากขนาดนี้มาจากการเผา โดยเฉพาะการเผาเพื่อขยายพื้นที่เกษตรกรรม แต่เบื้องหลังของการเผาเพื่อขยายพื้นที่เกษตรกรรม คือธุรกิจการเกษตรที่ทำธุรกิจอย่างไม่รับผิดชอบ ข้อมูลจาก GISTDA เปิดเผยว่าวันที่ 26 มีนาคม 2566 เพียงวันเดียว ประเทศเมียนมาพบจุดความร้อน 10,563 จุด สปป.ลาว 9,652 จุด และไทยพบจุดความร้อนถึง 5,572 จุด สูงที่สุดในรอบ 5 ปี จำนวนจุดความร้อนที่เพิ่มขึ้น สัมพันธ์กับจำนวนพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มขึ้นกว่า 10.6 ล้านไร่ ในรอบ 7 ปีที่ผ่านมาของประเทศลาว เมียนมา และไทย

สาเหตุของการเผาไม่ต้องไปหาอื่นไกล เกิดจากประเทศไทยของเราเอง ดังจะเห็นได้จากข้อมูลการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน คือเมียนมา ลาว กัมพูชา ที่เพิ่มขึ้นจากประมาณ 770 ล้านบาท ในปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 14,325 ล้านบาทในปี 2565 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 18 เท่า การขยายตัวของกลุ่มทุนไทยที่เข้าไปรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้าน คือต้นเหตุที่ทำให้เกิดการเผาป่าเพื่อขยายพื้นที่เกษตรกรรมในลาวและเมียนมา และเป็นที่มาของฝุ่น PM2.5 ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในภาคเหนือของประเทศไทย

“ทุกตันข้าวโพด-ปาล์มน้ำมันที่มาจากการเผาป่า แลกมาด้วยอากาศบริสุทธิ์และอายุขัยคนไทย จะแก้ปัญหา PM2.5 นอกจากต้องมีมาตรการผ่านกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศแล้ว สิ่งสำคัญที่จะแก้ได้จากใจกลางของปัญหา คือต้องกล้าจัดการกับต้นตอที่ทำให้เกิดการก่อมลพิษในประเทศของเราเองด้วยการประกาศนโยบาย ‘ไม่ยอมรับการเผาทุกกรณี’ ” พิธากล่าว

พิธากล่าวต่อว่า ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราจะประกาศทันทีว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสินค้าเกษตรที่นำเข้ามาในประเทศไทย โดยเฉพาะที่ผ่านด่านการค้าในภาคเหนือ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) เป็นอย่างน้อย เพื่อไม่ให้นำเข้าสินค้าเกษตรที่มีที่มาจากการเผาเหล่านี้เข้าสู่ประเทศไทย ตัดวงจรการเผา ลบจุดแดงบนแผนที่ทางอากาศ

มือปืนหญิง บุก รร.ประถมเมืองแนชวิลล์ สหรัฐฯ ก่อเหตุกราดยิง เด็กและ จนท. เสียชีวิตรวม 6 ราย

หญิงวัย 28 ปีพร้อมอาวุธครบมือ บุกสังหารเด็ก 3 รายและเจ้าหน้าที่ 3 รายในโรงเรียนประถมเอกชนของเมืองแนชวิลล์ ก่อนถูกตำรวจวิสามัญ ถือเป็นการก่อเหตุรุนแรงด้วยอาวุธปืนครั้งล่าสุดที่สร้างความตกตะลึงให้กับสหรัฐอเมริกา

(28 มี.ค.66) เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 28 มีนาคม 2566 กล่าวว่า เกิดเหตุกราดยิงอุกอาจในโรงเรียนของเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมือปืนหญิงรายหนึ่งนำปืนไรเฟิลจู่โจมอย่างน้อย 2 กระบอกและปืนพก 1 กระบอกเข้าไปในโรงเรียน Christian Covenant School ทางประตูด้านข้าง ก่อนจะเปิดฉากยิงจนมีผู้เสียชีวิตรวม 6 ราย

ดอน อารอน โฆษกตำรวจแนชวิลล์กล่าวในการแถลงข่าวว่า ผู้ก่อเหตุซึ่งตำรวจเชื่อว่าเป็นอดีตนักเรียนของโรงเรียน ทำการกราดยิงหลายนัดโดยไม่เจาะจงเหยื่อ

เจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุภายในเวลา 15 นาทีหลังจากรับสายแจ้งเหตุครั้งแรกในเวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) และได้ยิงปะทะกับมือปืน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะถูกตำรวจยิงเสียชีวิต

ดอน อารอน กล่าวว่า ตำรวจยังไม่พบข้อบ่งชี้เบื้องต้นเกี่ยวกับแรงจูงใจในการกราดยิง แต่เจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวตนเบื้องต้นได้ว่า เด็กนักเรียน 3 รายที่เสียชีวิตมีอายุระหว่าง 8-9 ขวบ และผู้ใหญ่ 3 รายที่เสียชีวิตมีอายุระหว่าง 60-61 ปี เช่นเดียวกับตัวมือปืนเองที่ถูกระบุว่าเป็นหญิงข้ามเพศ

เขายังเสริมด้วยว่า นอกจากตำรวจบาดเจ็บ 1 นายแล้ว ก็ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บอื่นๆจากเหตุครั้งนี้ ส่วนนักเรียนที่เหลือทั้งหมดถูกนำตัวออกจากอาคารได้พร้อมกับอาจารย์และเจ้าหน้าที่โรงเรียนคนอื่นๆ โดยกลุ่มคนทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์อุกอาจนี้จะได้รับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเพื่อตรวจสอบอาการให้แน่ใจ

The Covenant School เป็นสถาบันเพรสไบทีเรียนเอกชนที่มีนักเรียนมากกว่า 200 คนในระดับอนุบาลจนถึงอายุประมาณ 12 ปี และผู้ใหญ่ 3 รายที่ถูกยิงเสียชีวิตนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในโรงเรียนซึ่งมีจำนวนทั้งหมดราว 40-50 คน

'ตั๊น จิตภัสร์' ลูกหม้อ ปชป. ส่อย้ายพรรค หลังโพสต์เป็นนัย “อยู่ที่ไหนก็ได้ถ้าเห็นคุณค่า”

'ตั๊น จิตภัสร์' ส่อโบกมือลา ปชป. หลังโพสต์ข้อความเป็นนัย บอกอยู่ที่ไหนก็ได้ถ้าเห็นคุณค่า ไม่ยึดติดต้องอยู่บ้านหลังใด

(28 มี.ค.66) เมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว มีใจความว่า “อยู่ที่ไหนก็ได้ ที่เค้าเห็นคุณค่าและผลงานของเรา 13 ปี กับ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก ในนามพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกเสมอมาว่าเป็นความภาคภูมิใจของตัวเราเองที่ได้ลงในนามพรรค เป็นพรรคที่สอดคล้องกับอุดมการณ์เพื่อพี่น้องประชาชนตามความตั้งใจของตั๊นตั้งแต่เด็ก วันนี้ตั๊นไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นบ้านหลังไหน ขอเพียงมีอุดมการณ์เดียวกัน และให้โอกาสเราได้ทำงาน เพราะตั๊นยังยึดมั่นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และ ประเทศชาติเป็นหลัก”

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ผนึกกำลัง มช. สร้างความร่วมมือ “พัฒนาระบบกล้องวงจรปิดแบบบูรณาการ

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ผนึกกำลัง มช. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ“การศึกษาพัฒนาระบบกล้องวงจรปิดแบบบูรณาการ เสริมการทำงานตำรวจท่องเที่ยว เพื่อความปลอดภัยนักท่องเที่ยว”

รองศาสตราจารย์ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ พลตำรวจโท สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย อาจารย์ ดร.ดนัยธัญ พงษ์พัชราธรเทพ รองคณบดีวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ พลตำรวจตรี อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การศึกษาพัฒนาระบบกล้องวงจรปิดแบบบูรณาการเพื่อความปลอดภัยนักท่องเที่ยว” ร่วมกัน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 เวลา  13.30 น. ณ ห้องประชุมพระยาศรีวิสารวาจา สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนความร่วมมือด้านการวิจัย เน้นการพัฒนาต้นแบบกล้องวงจรปิด AI ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  เพื่อช่วยการทำงานของตำรวจท่องเที่ยว ให้มีความรวดเร็วเห็นผลและได้คุณภาพมากยิ่งขึ้นโดยได้กำหนดขอบเขตของความร่วมมือด้านการวิจัย  ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล  จำนวนนักท่องเที่ยว รวมทั้งการตรวจจับการจำกัดเขตหวงห้ามในจุดเสี่ยงและเวลาที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม

รองศาสตราจารย์ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวว่า “ความร่วมมือกับกองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันนี้ จะเป็นอีกก้าวหนึ่งของความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกันในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาระบบกล้องวงจรปิดแบบบูรณาการ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้ว และยังนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ซึ่งมีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่รับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนาที่ยั่งยืนดังค่านิยมด้าน Community Engagement  การเชิดชูรับใช้สังคม โดยมุ่งเน้นท้องถิ่นและมีความรับผิดชอบต่อสังคม”

ด้านพลตำรวจโท สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวถึงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในครั้งนี้ว่า “สืบเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เห็นว่าความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการทำงานของตำรวจท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการทำงานของตำรวจท่องเที่ยวที่มีกำลังพลอยู่อย่างจำกัด กอปรกับนโยบายของรัฐบาลที่มีแนวคิดพัฒนาในการพัฒนางานด้านนิติวิทยาศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และที่ผ่านมาผมได้ตระหนักมาตลอดว่างานด้านนิติวิทยาศาสตร์ของเรา มีทั้งองค์ความรู้ทางวิชาการ และประสบการณ์ในการทำงานที่จะนำมาแลกเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าและวิจัย และมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่ปฎิบัติหน้าที่จริงและสถาบันการศึกษา เพื่อการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ความสามารถ และต่อยอดงานด้านวิชาการเกี่ยวกับงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ไปในอีกมิติหนึ่ง การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการดำเนินงานนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการทำงานของตำรวจท่องเที่ยวที่มีกำลังพลอยู่อย่างจำกัด

ผช.ผบ.ทร.ตรวจเยี่ยมสหกรณ์กองทัพเรือ พื้นที่ กทม. 3 แห่ง มุ่งหวังสนับสนุนการออมพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิก ได้อย่างยั่งยืน

(27 มี.ค.66) พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือและประธานกรรมการส่งเสริมสหกรณ์ทหารเรือ พร้อมคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมสหกรณ์ภายในกองทัพเรือ พื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย สหกรณ์ออมทรัพย์กรมอู่ทหารเรือ สหกรณ์ออมทรัพย์วังเดิม และสหกรณ์เคหะสถานราชนาวี

การตรวจเยี่ยมครั้งนี้ นอกเหนือจากการติดตามผลการดำเนินการของสหกรณ์ทั้ง 3 แห่ง ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ในการส่งเสริมให้สหกรณ์บริหารจัดการและบริหารการเงิน เป็นไปตามพระราชบัญญัติ ข้อบังคับ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ดำเนินงานด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลตามข้อมูลที่ได้รับทราบการรายงานแล้ว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top