Sunday, 18 May 2025
ค้นหา พบ 48168 ที่เกี่ยวข้อง

‘เม็ดทราย’ สู่ ‘เม็ดเงิน’ ไอเดียเจ๋ง!! ถมทะเลด้วยเม็ดทรายราคาถูก ยกระดับ ‘หาดจอมเทียน’ สู่ ‘ไมอามี่เมืองไทย’

(17 มี.ค.66) เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้ TikTok ชื่อว่า ‘Kim Property Live’ โดยคุณคิม ชัชวาลย์ วัฒนะโชติ ได้ออกมาวิเคราะห์ถึง ‘ไมอามี่เมืองไทย’ ที่เกิดจากการนำเม็ดทรายมาถมทะเลจนเกิดพื้นที่ใช้สอยทางเศรษฐกิจว่า…

‘พัทยา’ ของบ้านเราจะเปลี่ยนเป็นไมอามี่เมืองไทย เนื่องจากมีโปรเจกต์การถมทะเลความกว้างกว่า 35 เมตร ซึ่งโดยปกติแล้วการถมทะเลนั้นก็มีประเทศหลายทั่วโลกทำกัน เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง ที่มีการถมทะเลทำสนามบิน 

เนื่องจากทรายมีราคาถูก พอทำเป็นเกาะราคาที่ดินก็เพิ่มมหาศาล ยิ่งถมที่ทำสนามบินยิ่งดี เพราะว่าเป็นไม่ต้องเว้นระยะรอบชุมชน แถมไม่ต้องยุ่งกับโครงสร้างเก่า แต่คนที่ทำได้ต้องไม่ใช่ประชาชนแต่เป็น ‘รัฐบาล’ เท่านั้น

ซึ่งฝั่งไทยเราก็มีการถมเช่นกัน คือ ‘แหลมฉบัง’ มีการเพิ่มที่กรมท่าเรือให้มีเพิ่มมากขึ้น แต่ที่น่าสนใจคือ ‘หาดจอมเทียน’ เพราะทางกรมเจ้าท่าก็ได้ทุ่มงบเกือบ 1 พันล้านบาท ในการถมทะเลตรงนี้ เพื่อให้มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้น้ำทะเลได้ซัดชายฝั่งจนแถบไม่เหลือเลย เมื่อลองเทียบเคียงกับชายหาดระดับโลกแล้ว ก็ต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำกิจกรรมได้มาก เดินเล่นได้ จุคนได้มาก หากนึกไม่ออกให้นึกถึง ‘ไมอามี่บีช’ เลย

และคาดการณ์ว่าการถมทรายทะเลตรงบริเวณ ‘หาดจอมเทียน’ นั่นจะทำให้หาดแห่งนี้กลายเป็น ‘ไมอามี่เมืองไทย’ อีกทั้งที่ดินของหาดจอมเทียนก็มีราคาสูงอยู่แล้ว คอนโดโรงแรมขึ้นเต็มมากมาย 

รมว.พิพัฒน์ เปิดกิจกรรมสัมมนาเพื่อสร้างการรับรู้แนวทางการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน

วันศุกร์ท่ี ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๖
ณ ห้องสมิหลา แกรนด์ โรงแรมบีพี สมิหลา บีช แอนด์ รีสอร์ท อําเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา นายพิพัฒน์  รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดกิจกรรมสัมมนา เพื่อสร้างการรับรู้แนวทางการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการดําเนนิ งาน ตามมาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน Sustainable Tourism management Standards หรือเรียกสั้นๆว่า (STMS) ซึ่งจัดโดย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. โดยมีนาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยอย่างยั่งยืน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 142 องค์กร ให้การต้อนรับ

รมว.พิพัฒน์ กล่าวว่า พื้นที่ลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ มีความหลากหลายทางระบบนิเวศ มีวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ มีวิถีชีวิตที่เป็นอัตลักษณ์ ท่ีโดดเด่น และเป็นพ้ืนท่ีท่ีมีศักยภาพด้านการท่องเท่ียว อย่างไรก็ตาม พื้นท่ีลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา ยังคงต้องการการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นด้านการอนุรักษ์ การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และวิถี ลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลาให้มีความยั่งยืน และช่วยกันยกระดับเพื่อนําไปสู่มาตรฐาน ท้ังในระดับประเทศ และระดับโลก อพท. จึงได้เสนอคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ให้ความเห็นชอบ การประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา และเห็นชอบ แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา ระยะ ๕ ปี (พ.ศ.๒๕๖๖ - ๒๕๗๐) ท่ีประกอบด้วยโครงการกว่า ๒๗๐ โครงการ งบประมาณ รวมกว่า ๕,๐๐๐ ล้านบาท

ภายใต้วิสัยทัศน์ “ลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา ต้นแบบการท่องเที่ยว เชิงนิเวศและวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน” ซึ่งจะเป็นกรอบและแนวทางสําหรับบูรณาการ ความร่วมมือและดําเนินงานร่วมกับของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการมีส่วนร่วม ขับเคลื่อน การพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างสรรค์ จากฐานทรัพยากรการท่องเที่ยว ที่มีคุณค่าของทะเลสาบสงขลา และวิถีเขาโหนด-นา-เล สู่การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและยั่งยืนในบริบทของการเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน โดยมี โครงการภายใต้แผนยุทธศาสตร์ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จํานวน ๑๖๖ โครงการ งบประมาณรวมเกือบ ๓,๔๐๐ ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนงบประมาณกว่า ๗๐ เปอร์เซ็นต์ในแผน ที่มีหน่วยรับผิดชอบคือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของพวกท่าน ซึ่งเป็นผู้พัฒนาและดูแลพื้นที่อย่างแท้จริง “มาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน Sustainable Tourism management Standards (STMS)” เป็นมาตรฐานท่ีได้รับการรับรองว่าเทียบเท่ากับ หลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสําหรับสถานที่ท่องเที่ยวของสภาการท่องเที่ยว อย่างยั่งยืนโลก ซึ่งเป็นองค์กรระดับสากล มาตั้งแต่ปี ๒๕๖๑ นั่นหมายความว่า มาตรฐานนี้ เป็นแนวปฏิบัติที่ได้รับความเช่ือถือในระดับนานาชาติ การนําแนวทางตามมาตรฐานดังกล่าว ไปดําเนินงาน จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กรต่างๆ ที่มีภารกิจในการบริหาร จัดการการท่องเที่ยวให้สามารถบริหารจัดการการท่องเที่ยวได้อย่างมีระบบและบูรณาการ งานท่องเที่ยวที่สามารถตอบสนองความต้องการของทุกภาคส่วนได้

อพท. จึงได้นํามาตรฐาน ดังกล่าวไปส่งเสริมและประเมินผลการดําเนินงานองค์กรที่มีบทบาทในการบริหารจัดการ การท่องเที่ยว โดยเริ่มที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นองค์กรหลักในพื้นที่ที่จะบริหาร จัดการการท่องเท่ียวได้อย่างย่ังยืน

‘หน่วย AITF’ ผนึกกำลัง ‘ไต้หวัน’ ยึดไอซ์ซุกใน ‘ขันโตก’ พร้อมจับกุมผู้รับชาวไต้หวัน 1 ราย เร่งขยายผลหาเครือข่าย

(17 มี.ค. 66) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เผยถึง ความร่วมมือระหว่างหน่วย AITF ประเทศไทย และกระทรวงยุติธรรมไต้หวัน MJIB (Ministry of Justice Investigation Bureau) ในการขยายผลจากการจับกุมไอซ์ 5,060 กรัม ที่ประเทศไทย ก่อนประสานงานขยายผลจนสามารถจับกุมไอซ์ 3,320 กรัม พร้อมผู้รับพัสดุ ที่สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 หน่วยสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดทางท่าอากาศยานสากล (Airport Interdictoin Task Force : AITF) ประเทศไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือของ สำนักงาน ป.ป.ส., กรมศุลกากร, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และศูนย์รักษาความปลอดภัย ได้ตรวจยึดไอซ์ น้ำหนัก 5,060 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในขันโตกบรรจุกล่องกระดาษ 2 กล่อง ก่อนถูกส่งไปยังสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เหตุเกิดที่คลังสินค้าขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

หลังจากกทราบข้อมูลการจับกุมดังกล่าว ตนได้มอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. เร่งประสานงาน กระทรวงยุติธรรมไต้หวัน (MJIB) โดยเร็วที่สุด เนื่องจากทราบข้อมูลว่าเครือข่ายยาเสพติดนี้ได้มีการส่งยาเสพติดซุกซ่อนในรูปแบบเดียวกันไปยังไต้หวัน

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง นราธิวาส สตูล และสงขลา จัดทีมลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่า 9 ล้านบาท ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด

วานนี้ (วันที่ 16 มีนาคม 2566) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋องน้ำมันพืช และน้ำปลา ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอนาหม่อม และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รวม 3,400 ชุด โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งมูลนิธิสงเคราะห์ 14 จังหวัดภาคใต้ และ มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี รวมทั้งอาสาสมัครมูลนิธิฯ นำโดย นายสำอาง สว่างแจ้ง ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกอาสาสมัคร นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์ และนางศิริพร โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์ ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคในพื้นที่

โดยระหว่างระหว่างวันที่ 6-18 มีนาคม 2566 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง นราธิวาส สตูล และสงขลา รวม 5 จังหวัด คิดมูลค่าเครื่องอุปโภคบริโภคทั้งสิ้น 9,000,000 บาท (เก้าล้านบาทถ้วน) โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งมูลนิธิสงเคราะห์ 14 จังหวัดภาคใต้ และ มูลนิธิฯ / สมาคม ประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี  

นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อเป็นการฟื้นฟูหลังน้ำลดทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และพื้นที่ส่วนภูมิภาค รวม 24 จังหวัด รวมงบประมาณเครื่องอุปโภคบริโภคในการแจกจ่ายไม่ต่ำกว่า 14.8 ล้านบาท

‘กกต.’ แจงสั่งยุติ 61 คำร้องยุบพรรค ยึดตาม กม. เตือนนักร้อง!! ระวังเจอร้องเท็จ มีโทษหนัก

(17 มี.ค. 66) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์กรณีมีความเห็นว่าคำร้องยุบพรรค 61 เรื่องไม่มีมูล จึงสั่งยุติเรื่อง ว่า การพิจารณาการยุบพรรคของนายทะเบียนพรรคการเมือง ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร เพราะกฎหมายเขียนไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ต้องทำตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ถือเป็นเรื่องของกฎหมายพูด เป็นความยุติธรรมตามกฎหมาย ไม่ใช่นายทะเบียนคิดเอาเอง

นายแสวง ยังกล่าวด้วยว่า โดยหลัก เมื่อความปรากฏต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ก็จะให้สำนักงานดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบ กกต.ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง 2564 ที่กำหนดให้ต้องให้โอกาสผู้เกี่ยวข้องได้มีโอกาสชี้แจงเพื่อให้ความยุติธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย

จากนั้นจึงมาพิจารณาว่า การการกระทำนั้น กฎหมายกำหนดเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมืองหรือไม่ หลายคำร้องมีการกระทำตามที่ร้องเกิดขึ้นจริง แต่การกระทำนั้นไม่ใช่เหตุแห่งการยุบพรรคการเมืองก็จะไม่รับไว้พิจารณา หรือสั่งยุติเรื่อง

“แต่ถ้าพิจารณาแล้วการกระทำตามคำร้องนั้นอาจเป็นเหตุให้ยุบพรรคได้ ก็จะรับไว้พิจารณาว่า การกระทำนั้นครบองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ หรือถึงขนาดให้ต้องยุบพรรคหรือไม่ ซึ่งก็แล้วแต่กรณี แต่ที่ผ่านมาพบว่าเป็นคำร้องที่ไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคเป็นส่วนมาก”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top