Sunday, 25 May 2025
ค้นหา พบ 48341 ที่เกี่ยวข้อง

FED เรียกประชุมด่วน!! สหรัฐฯ หารือป้องกันวิกฤต Bank Run  หวั่น!! หากมีธนาคารอื่นล้มตาม SVB

(12 มี.ค.66) World Maker เผยว่า ท่ามกลางวิกฤตศรัทธาและวิกฤตสภาพคล่องของธนาคาร SVB ซึ่งส่อแว่วจะลุกลามต่อไปยังธนาคารอื่น ๆ ที่มีปัญหาคล้ายกันนี้ ล่าสุดสหรัฐฯ ได้เริ่มหารือถึงการจัดตั้งกองทุนหนุนเงินฝากแล้ว ! ขณะที่ FED เตรียมเรียกประชุมด่วนทันทีวันจันทร์นี้ (13) เพื่อหาทาง Take Action สำหรับวิกฤตที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ธนาคารหลายแห่งจะล้มตามมาอีก 

ปัญหาสำคัญสุดคือเรื่องของความเชื่อมั่น เพราะถ้าไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้ มีแนวโน้มว่าผู้บริโภคจะแห่ถอนเงินออกไปมากกว่าเดิมและยิ่งทำให้ปัญหา Bank Run รุนแรง เพราะแม้ว่าธนาคารบางแห่งจะยังไม่เกิดวิกฤต แต่ถ้ามีการแห่ถอนจนขาดสภาพคล่องเมื่อไหร่ก็จะกลายเป็น Bank Run ทันที ! เพราะกลุ่มธนาคารขาดทุนค้างพอร์ตรวมกันกว่า -21.5 ล้านล้านบาทหรือ -6.2 แสนล้านดอลลาร์ตอนนี้ !

ทำให้ตอนนี้ FDIC และ FED ต้องเริ่มชั่งน้ำหนักเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโดยด่วน โดยไม่ปล่อยให้ตลาดคาดเดากันเองต่อไป เพราะยิ่งปล่อยผ่านไปเฉย ๆ จะยิ่งทำให้ Panic มากขึ้น แม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดในตอนนี้ว่ามาตรการป้องกันต่าง ๆ จะออกมาในรูปแบบใดบ้าง

แต่นักลงทุนบางส่วนก็คาดการณ์ว่า FED จะไม่ขึ้นดอกเบี้ย +0.5% ในครั้งนี้ เพราะจะยิ่งทำให้ตลาดตึงเครียดเข้าไปอีก เพราะแค่ตอนนี้ก็ลามไปมากกว่า SVB แล้ว ยกตัวอย่างเช่น First Republic และ PacWest ที่หุ้นร่วงตาม SVB มาเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น ซึ่งที่น่าห่วงไม่แพ้กันก็คือตลาดอสังหาฯ เพราะถ้าเกิดมีการล้มเป็นโดมิโน่เกิดขึ้น จะทำให้ราคาอสังหาฯ ที่สูงลิ่วในตอนนี้มีความเสี่ยงสูงมากที่จะร่วงลงมาอย่างมีนัยสำคัญ

วิกฤตการล้มของ SVB นั้นถือว่าเป็นการล้มของธนาคารที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลก และถือเป็นธนาคารจริง ๆ แห่งแรกที่มีการล้มในรอบกว่า 10 ปี ซึ่งไม่ใช่น่าใหม่ด้วย แต่เป็นธนาคารที่มีประวัติและประสบการณ์มานานราว 40 ปีแล้ว เพราะ SVB ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1983 ดังนั้นแรงสั่นสะเทือนจึงมากกว่าวิกฤต Crypto และธนาคาร SilverGate ที่ล้มไปก่อนหน้านี้

SVB ได้รับการลงนามสนับสนุนจาก VC และสถาบันการลงทุนร่วมกว่า 100 แห่ง เนื่องจาก VC และบิรษัทเทคฯ ต่าง ๆ นั้นถือว่ามีผลประโยชน์โดยตรงกับธุรกิจของ SVB จึงน่าสนใจว่าจะมีใครเข้ามาอุ้มหรือจะปล่อยให้ล้มไปเฉย ๆ กันแน่ ? ตอนนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน แต่คาดว่าในวันจันทร์นี้จะมีความคืบหน้าออกมาเพิ่มเติมอีกแน่นอน

ทั้งนี้ ไม่ได้แปลว่าผลกระทบต่าง ๆ จะจบลงในเร็ว ๆ นี้ เพราะว่ายังมีเหตุการณ์อีกมากมายที่รอจะเกิดขึ้น ! แต่สำหรับคำถามที่ว่าจะรุนแรงเหมือนวิกฤตการเงินโลกหรือไม่นั้น เราก็คงต้องติดตามดูกันต่อไป โดยที่ไม่ควรจะประมาทหรือ Panic มากเกินไปว่ามันจะเบาหรือจะแรง

สำหรับผลกระทบต่อตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงนั้น คงจะเห็นภาพชัดขึ้นในวันจันทร์นี้ ว่าหุ้นจะร่วงหรือไม่ ? เรื่องของค่าเงินจะเป็นอย่างไร ? รวมไปถึงทองคำและ Crypto ซึ่งในช่วงนี้อาจมีความเคลื่อนไหวที่รุนแรงและผันผวนมากกว่าเดิมได้ เพราะถือเป็นช่วงเวลาที่ฝุ่นกำลังตลบอยู่

นั่นทำให้ Trader และนักลงทุนจำนวนไม่น้อยเข้าสู่โหมด Risk-off (ลดการรับความเสี่ยง) แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นข้อการันตีหรือเป็นการรับประกันว่าตลาดกำลังจะร่วงลงอย่างรุนแรง เพราะอย่างที่ World Maker ย้ำเสมอว่าตลาดนี้ไม่มีอะไรแน่นอน 100%

งานนี้เกือบเจ็บ!! ‘ประเสริฐ’ วืดตกเวทีปราศรัย ต่อหน้าประชาชน 3,000 คน ทีมงานเข้าช่วยเหลือ โชคดีไร้บาดเจ็บ

จากกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นำทีม ครอบครัวเพื่อไทย ทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และผู้เกี่ยวข้องเดินทางไปปราศัยที่จังหวัดพิษณุโลกนั้น

ระหว่างที่มีการแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 5 เขต คือ น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท ว่าที่เขต 1, นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.เพื่อไทยพิษณุโลก, นาย จเด็ศ จันทรา ว่าที่เขต 3 , น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุกกิจเจริญ ว่าที่เขต 4และ นาย ธนวิน โรจน์สุนทรกิตติ ว่าที่เขต 5 ขึ้นโชว์ตัวบนเวที พร้อมกับคณะโดยมีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด และน.ส.ขัตติยา สวัสดิผล เป็นพิธีกร ซึ่งการกล่าวแนะนำตัวขึ้นเวทีนั้นเกิดการผิดพลาด เมื่อแนะนำตัว นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขึ้นไปหน้าเวที กลับก้าวขาเดินหน้า เหยียบผ้าสีแดง ซึ่งปิดบังไว้ แต่บังเอิญปลิวขึ้นมาเสมือนผืนเวที ทำให้เลขาฯ ก้าวพลาดท่า พลัดตกลงเวทีต่อหน้าประชาชนทั้ง 3,000 คน แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆมากนัก สามารถกลับขึ้นเวทีได้

มองชีวิตเป็นที่ตั้ง เปิดทาง 'หลากศาสตร์' สู่กระบวนการทางการแพทย์ เพื่อรักษาผู้ป่วยสิ้นหวังด้วยหลักเมตตาธรรม

ทุกวันนี้สังคมไทยยังคงขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวทางการแพทย์อยู่อีกมากมาย โดยเฉพาะเรื่องของกระบวนการรักษาที่มีความสลับซับซ้อน แต่สิ่งซึ่งผู้เขียนอยากนำมาเสนอในบทความนี้คือ ความปรารถนาให้ผู้คนได้รู้และเข้าใจเรื่องราวของการเข้าถึงกระบวนการการรักษาด้วยหลักเมตตาธรรมทางการแพทย์  รวมทั้งไม่เพิกเฉยละเลยในศาสตร์ต่าง ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือและรักษาชีวิตมนุษย์ทุกผู้ทุกคนบนโลกใบนี้

ในการรักษาตามศาสตร์ทางการแพทย์แผนปัจจุบันนั้น กระบวนการในการรักษาต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานทางการแพทย์โดยหน่วยงานภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกำหนดขึ้นมา ครอบคลุมตั้งแต่ บุคลากร วิธีการปฏิบัติ ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ ฯลฯ ดังนั้นกระบวนการรักษาโดยรวมจึงเป็นไปตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานต่าง ๆ ที่ถูกกำหนดขึ้นมา แต่ก่อนถึงการกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานต่าง ๆ เหล่านั้นจะมีกระบวนการที่เรียกว่า “การวิจัยทางคลินิก” (Clinical Trial) อันเป็นหนึ่งในกระบวนการทดสอบใน “มนุษย์” ว่า ยา วัคซีน วิธีการรักษา วิตามิน อาหารเสริม หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ฯลฯ ที่คิดค้นขึ้นมาใหม่นั้น สามารถรักษาโรคได้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ และปลอดภัยเพียงพอสำหรับการขึ้นทะเบียนเพื่อใช้และจำหน่ายแล้วหรือยัง 

แต่ในความเป็นจริงแล้ว วิทยาการทางการแพทย์ในยุคปัจจุบันมีการศึกษาค้นคว้าวิจัยอยู่ตลอดเวลา ทำให้มียาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานสากล แต่ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าวเหล่านี้ได้ผ่านการทดลองในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่นเดียวกับมนุษย์ในแต่ละสิ่งอย่างนับร้อย ๆ ชีวิต เป็นร้อย ๆ ครั้ง ไม่ว่าจะเป็น หนู สุกร กระต่าย หรือ ลิง ซึ่งผ่านการทดลองอย่างปลอดภัยจนมั่นใจว่า สามารถนำไปใช้ในมนุษย์ได้แล้ว แต่อาจจะใช้ในการรักษาโรคผู้ป่วยที่หมดหนทางในการรักษาตามมาตรฐานสากลเท่าที่มีอยู่ และได้ใช้วิธีการรักษาที่มีอยู่จนหมดแล้ว 

โดยเฉพาะผู้ป่วยในกลุ่มที่เรียกว่า “ผู้ป่วยสิ้นหวัง” (Desperate patient) อันได้แก่ ผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคทางกายและ/หรือทางใจ โดยไม่มีโอกาสที่จะพ้นทุกข์ทรมาน และไม่สามารถใช้เวลาที่เหลือในชีวิตของตนให้เป็นประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นได้ ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ใหม่ ๆ ดังกล่าวอาจสามารถใช้รักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้ และเป็นหลักการที่ยอมรับของวงการแพทย์ทั่วโลก ตามที่เรียกกันว่า Compassionate treatment หรือการรักษาด้วยหลักเมตตาธรรม ตามปฏิญญาเฮลซิงกิของแพทยสมาคมโลก ค.ศ. 2013 (WMA Declaration of Helsinki 2013)

การรักษาด้วยหลักเมตตาธรรมจึงเป็นหลักการทางการแพทย์ที่ถือว่า มีความเป็นสากล เพราะการใช้ยาหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติ อาทิ ยาชนิดใหม่เพื่อการวิจัย หรือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ นอกการทดลองทางคลินิก โดยผู้ป่วยที่มีสภาวะร้ายแรงหรือมีภาวะถูกคุกคามชีวิต ซึ่งไม่ตรงตามเกณฑ์การลงทะเบียนสำหรับการทดลองทางคลินิกที่กำลังดำเนินอยู่

ในสหรัฐอเมริกา การรักษาด้วยหลักเมตตาธรรมเริ่มต้นจากการจัดหายาสำหรับผู้ป่วยบางรายในช่วงปลายทศวรรษ 1970 โดยโครงการที่เป็นทางการเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1987 เพื่อตอบสนองต่อผู้ป่วย HIV/AIDS ที่ร้องขอการเข้าถึงยาที่กำลังพัฒนา และทำให้เกิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างสำคัญคือ Right-to-try laws (กฎหมายว่าด้วยสิทธิในการทดลอง) กลายเป็นกฎหมายของมลรัฐในสหรัฐอเมริกากว่าสี่สิบมลรัฐแล้ว 

แล้วที่สุดกลายเป็นกฎหมายของรัฐบาลกลางที่จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายสามารถเข้าถึงการรักษาเชิงทดลอง (ยา สารชีวภาพ อุปกรณ์) ที่ได้ผ่านการทดสอบระยะที่ ๑ แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) เมื่อ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ก่อนที่จะมีกฎหมายว่าด้วยสิทธิในการทดลองใช้ ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) เพื่อใช้ยาทดลอง ในปี ค.ศ. 2018 มี ๔๑ มลรัฐของสหรัฐอเมริกาได้ผ่านกฎหมายว่าด้วยสิทธิในการทดลอง กฎหมายว่าด้วยสิทธิในการทดลองใช้ของรัฐบาลกลางผ่านในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2018 นับตั้งแต่การลงนามในร่างกฎหมาย ผู้ป่วยหลายพันคนสามารถใช้วิธีการรักษาแบบทดลองตามกฎหมายนี้ได้ จากข้อมูลของ Scott Gottlieb ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมาธิการของ FDA ในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ องค์การอาหารและยา (FDA) ได้อนุมัติคำขอของผู้ป่วยถึง 99% ในการเข้าถึงยาทดลอง ทั้งทางโทรศัพท์ทันทีหรือภายในไม่กี่วันก่อนที่จะมีการลงทะเบียนตามขั้นตอนของกฎหมายดังกล่าว

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของความสำเร็จในการรักษาด้วยหลักเมตตาธรรมคือ กรณีของ Martin A. Couney ผู้คิดค้นตู้อบทารกซึ่งคลอดก่อนกำหนด (Neonatal incubators) เมื่อย้อนกลับไปในช่วงต้นทศวรรษ 1900 นักสุพันธุศาสตร์ (นักวิชาการซึ่งทำการประมวลความเชื่อและวิธีปฏิบัติว่าด้วยการพัฒนาคุณภาพทางพันธุกรรมของประชากรมนุษย์) หลายคนได้เผยแพร่ความเชื่อที่ว่า ทารกที่คลอดก่อนกำหนดควรถูกกำหนดให้ตาย และไม่คุ้มค่าที่จะทำการรักษา

แต่ Martin Couney ท้าทายแนวคิดนั้นด้วยนิทรรศการของเขา ซึ่งเขาสร้างขึ้นหลังจากที่เขาดัดแปลงตู้ฟักไก่ให้เป็น “โรงเพาะฟักเด็ก” ในงาน Chicago world fair โดย Martin Couney ผู้ซึ่งไม่เคยได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ใด ๆ เลย แต่เขาได้ช่วยชีวิตทารกที่คลอดก่อนกำหนดมากกว่า ๗,๐๐๐ คนตลอดช่วงชีวิตของเขา โดยจัดแสดงไว้ในตู้อบทารกในนิทรรศการของเขาที่ Coney Island

จุดยืนไม่เปลี่ยน!! 'พิธา' ลั่น!! 33 ผู้สมัคร ส.ส.พร้อมเจาะไข่แดง กทม.  ชี้!! ไม่หวั่นผลโพลเป็นรอง พท. พร้อมย้ำไม่จับ 'รทสช.-พปชร.'

(12 มี.ค.66) ที่สามย่านมิตรทาวน์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จัดเวทีเปิดตัวผู้สมัครผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ทั้ง 33 เขตพร้อมเปิดตัวนโยบายที่ตอบโจทย์คนกทม. โดยนายพิธา ให้สัมภาษณ์ว่า กทม.เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของพรรคก้าวไกล โดยการเลือกตั้งในปี 2562 ได้คะแนนป๊อบปูลาร์โหวตในกทม. 8 แสนคะแนน  

ดังนั้นทั้ง 33 เขตในกทม. จึงเป็นพื้นที่ๆ เราหวังผลทั้งหมด เป็นเขตที่เราหวังที่จะรักษาเขตเดิมและเพิ่มเติมเขตใหม่ ด้วยคะแนนเก่าที่เรามี ด้วยการทำงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยแคนดิเดตที่มีความสดใหม่ และคนที่ทำงานในพื้นที่มาตลอด จึงพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า ส.ส.แบบพื้นที่ดี สภาเด่นก็ต้องพรรคก้าวไกลเท่านั้น รวมทั้งการทำงานของ ส.ก.พรรคก้าวไกลในช่วง 1 ปีทีผ่านมา เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาให้กับคน กทม.ได้

เมื่อถามว่าจุดเด่นในพื้นที่กทม.ของพรรคก้าวไกลคืออะไร นายพิธา กล่าวว่า จุดเด่นก็คือ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และนโยบายที่จับต้องได้ วันนี้มีปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งพรรคก้าวไกลจะผลักดันรถเมล์ไฟฟ้าให้ได้ภายใน 7 ปี รวมทั้งจะเสนอให้มีการเก็บค่าขยะสำหรับทุนใหญ่หรือห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม นอกจากนั้นยังมีเรื่องของส่วย หรือคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นในประเทศไทยซึ่งในการอภิปรายที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเราสามารถแก้ปัญหาเรื่องพวกนี้ได้ รวมทั้งการนำเสนอนโยบายหวยเอสเอ็มอี ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่กทม.อย่างครอบคลุม

เมื่อถามถึงผลการสำรวจของนิด้าโพลที่ในพื้นที่ จ.อุดรธานีที่พรรคก้าวไกลมาเป็นอันดับ 2 รองจากพรรคเพื่อไทย นายพิธา กล่าวว่า ไม่หวั่นไหว และตั้งใจทำงานต่อเต็มที่ ซึ่งนิด้าโพลกลุ่มตัวอย่างอยู่ที่ประมาณ 2,000 คน แต่ในส่วนของจ.อุดรธานีอยู่ที่ 1,020 คน ความมั่นใจอยู่ที่ร้อยละ 95 และเป็นการทำโพลในช่วง 24 ก.พ.-ต้น มี.ค. ในช่วงก่อนที่ตนจะลงพื้นที่ จ.อุดรธานี เพื่อช่วยผู้สมัครหาเสียง และได้พบปะนักธุรกิจและประชาชนในพื้นที่ จึงเชื่อว่าการทำงานของเราสำหรับพรรคก้าวไกลในพื้นที่อุดรธานีที่แพ้แค่ 3,000 คะแนน จะได้รับความนิยมและได้รับความเชื่อมั่นจากชาวอุดรมากขึ้น สำหรับตนโพลขึ้นไม่หลงโพลลงไม่ท้อ เราทำงานเต็มที่เพื่อประชาชนต่อแน่นอน

ไม่ขายฝัน!! ‘เลขาฯ รทสช.’ ขอปชช. หนุน ‘บิ๊กตู่’ สานต่อนโยบายเดิม ย้ำ!! ทุกนโยบายทำได้จริง ซัดบางพรรคขายฝัน ทำไม่ได้

(12 มี.ค. 66) ที่บ้านเอื้ออาทร หัวหมาก ซอยกรุงเทพกรีฑา 7 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค ลงพื้นที่พบประชาชนช่วย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ อดีตส.ส.กทม. ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครทสช.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง หาเสียง มีผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเอื้ออาทรหัวหมาก ร่วมรับฟังนโยบาย

นายเอกนัฏ กล่าวว่า พรรครทสช.ออกนโยบายมาหลายข้อ เพื่อสานต่อนโนบาย ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค อาทิ 5 นโยบายเด่นในการแก้ปัญหาปากท้องประชาชน การเพิ่มสิทธิบัตรสวัสดิการพลัสเป็น 1,000 บาทต่อเดือน และใช้สิทธิฉุกเฉินกู้ได้อีก 10,000 บาท การตั้งกองทุนฉุกเฉินประชาชนวงเงิน 30,000 ล้านบาท คืนเงิน 30% โครงการปลดหนี้ด้วยงาน โครงการคนละครึ่งจะทำต่อ และแก้กฎหมายที่รังแกประชาชน ที่เป็นอุปสรรคการทำกิน โดยนโยบายเหล่านี้สามารถทำได้แน่นอน หากพรรครทสช.เป็นรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกฯ ดังนั้นจะต้องเลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อให้เข้าไปเป็นส.ส.เพื่อเลือกพล.อ.ประยุทธ์ไปเป็นนายกฯ

นายเอกนัฏ กล่าวว่า เรารู้ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ นโยบายของพรรคเป็นนโยบายต่อเนื่องจากการที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯมา 8 ปี รู้ว่าจะมีงบประมาณดำเนินการหรือไม่ ทุกนโยบายพิจารณาอย่างดีแล้วว่าทำได้จริงและมีงบประมาณ ในช่วงใกล้ช่วงเลือกตั้งจะมีหลายพรรคการเมืองมาลงพื้นที่นำเสนอนโยบายต่างๆทั้งที่ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ เป็นนโยบายที่สวยหรูแต่ไม่มีงบประมาณ ยิ่งเลือกตั้งเสร็จไม่ได้เป็นรัฐบาลนโยบายเหล่านั้นก็ไม่มีประโยชน์

นายเอกนัฏ กล่าวว่า ขอฝากทุกคนถ้าอยากได้ลุงตู่กลับมาเป็นนายกฯต้องเลือกบัตรทั้ง 2 ใบเลือกพรรครทสช.และน.ส.ฐิติพัฒน์ อดีตส.ส.ที่เกาะติดพื้นที่มาตลอด ต้องเลือกส.ส.เพื่อให้ส.ส.ไปเลือกนายกฯ การคัดเลือกผู้สมัครของพรรคแม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่เราเลือกคนที่มีคุณภาพมาให้ประชาชนเลือก ยิ่งใกล้เลือกตั้งจะมีผู้สมัครหน้าใหม่จากหลายพรรคมาเสนอตัวอ้างสารพัด แต่พรรครทสช.เราเลือกคนที่มีจิตวิญญาณลงพื้นที่มาตลอดมาให้ท่านเลือกเวลาชาวบ้านเดือดร้อนต้องเลือกคนที่ช่วยเหลือได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top