Wednesday, 9 July 2025
ค้นหา พบ 49289 ที่เกี่ยวข้อง

‘ชูวิทย์’ หอบหลักฐาน ‘ทุนจีนสีเทา’ ส่งต่อ ‘โรม’ ชี้!! เป็นข้อมูลชุดใหญ่ อาจโค่น ‘รัฐบาลบิ๊กตู่’ ได้

(11 ม.ค. 66) เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองไทย ยื่นข้อมูลการทุจริตกลุ่มธุรกิจสีเทาต่อนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เพื่อพิจารณาใช้เป็นข้อมูลในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152

โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า มั่นใจว่ามีข้อมูลสำคัญ ไม่เคยเปิดเผยกับสื่อมาก่อน เป็นข้อมูลที่ตนคิดว่าควรที่จะนำมาพูดในสภา เพราะนายรังสิมันต์เป็นผู้แทนราษฎร ส่วนตนจะพูดอย่างไรก็ได้แค่นั้นเพราะตนพูดอยู่ข้างนอก จึงได้นำข้อมูลมาให้นายรังสิมันต์พิจารณาแต่จะรับหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ ซึ่งตนเป็นแค่ประชาชนเมื่อไม่มีใครติดต่อตน ตนก็มาที่นี่โดยตนเอง 

ทั้งนี้ นายรังสิมันต์พูดเรื่องตำรวจ หรือเรื่องผิดปกติของสังคมไทย หนึ่งในนั้นตนแน่ใจว่าเป็นเรื่องนี้ จึงได้นำเรื่องนี้มาให้นายรังสิมันต์พิจารณา 

ด้าน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องชื่นชมนายชูวิทย์จริง ๆ ในการรวบรวมข้อมูลและเปิดโปงขบวนการทุนจีนสีเทา และต้องเรียนว่า พรรคก้าวไกลตั้งทีมศึกษาเรื่องนี้เพื่อที่จะเจาะลึกข้อมูลและแสวงหาข้อเท็จจริงต่าง ๆ จากแหล่งข่าวต่าง ๆ จากตำรวจน้ำดีที่ยังมีอยู่ในระบบ ยืนยันว่าพวกเราทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการที่จะเอาเรื่องนี้มาพูดในสภาฯ เพียงแต่ว่าที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจนว่าจะอภิปรายมาตรา 152 จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ 

ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลเรามีความสนใจเป็นอย่างยิ่งในการที่จะนำไปศึกษา และหากมีข้อเท็จจริงที่หนักแน่นเพียงพอ เราก็พร้อมที่จะอภิปรายในสภาฯ ต่อไป ย้ำว่าเราจะทำหน้าที่อย่างหนักแน่นและจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่อย่างแน่นอน ทั้งนี้ เราต้องอาศัยพลเมืองดีแบบนี้ในการที่จะนำข้อมูลมาให้กับพวกเรา เพราะลำพังพวกเราที่ทำหน้าที่อยู่ในสภาฯ ไม่มีทางที่เราจะรู้เนื้อหาสาระ ความอัปลักษณ์ การทุจริตคอร์รัปชัน ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมากเท่ากับคนที่อยู่ในระบบแน่นอน 

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่านายชูวิทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลจำนวนมากที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทย และเชื่อว่าการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เราคงจะได้เห็นการพูดถึงเรื่องนี้อย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะไม่ใช่แค่ พรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่รวมไปถึงพรรคฝ่ายค้านอื่น ๆ ที่จะหยิบยกเรื่องนี้เข้ามาพูด รวมถึงมีหลักฐานต่าง ๆ ที่เพียงพอจะสาวไปถึงคนในรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี และขอฝากถึงประธาน และรองประธานฯ ที่จะควบคุมการประชุมว่า เรื่องนี้อาจมีความจำเป็นที่จะต้องพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 บ้าง แต่จะพยายามให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด หากท้ายสุดจะมีการฟ้องร้องก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อภิปรายต่อในศาล เพราะก่อนที่จะอภิปราย ต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลมาอยู่แล้ว จึงอยากให้ประธานสภาฯ และรองประธานฯ เข้าใจในการทำหน้าที่ของ ส.ส.ในสภา เพื่อประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติ

‘ผู้ช่วยฯสมพงษ์’แนะรู้เท่าทัน เตือน 5 กลโกงวิธีตุ๋นสุดอันตราย

11 มกราคม 2566 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) หัวหน้าอำนวยการด้านประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) , พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ ผบก./หัวหน้าฝ่ายแถลงข่าวและประสานงานสื่อมวลชน ศปอส.ตร. และ พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก./รองหัวหน้าฝ่ายแถลงข่าวและประสานงานสื่อมวลชน ร่วมกันเปิดเผยว่า มีประชาชนแจ้งความคดีออนไลน์ของศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ในส่วนของคดีออนไลน์จำนวนมาก ซึ่งทาง ศปอส.ตร. รวบรวมไว้ 5 อันดับแรก คือ 1.) หลวงลวงซื้อขายสินค้า 2.) หลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม 3.) หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน 4.) หลอกให้ลงทุนออนไลน์รูปแบบต่าง ๆ และ 5.) แก๊งคอลเซ็นเตอร์

สำหรับตัวอย่างของพฤติกรรมของ 'คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า' นั้น พบว่า สินค้ายอดฮิตที่ซื้อ-ขายกันมากที่สุด โดยสื่อผ่านโซเชียลทั้ง Facebook , Instagram , Twitter คือ 1. หลอกขายโทรศัพท์ 2. หลอกขายแท่งไฟศิลปินเกาหลี 3. หลอกขายอัลบั้มเพลงเกาหลี 4. หลอกขายนมผง 5. หลอกขายน้ำหอม

ข้อสังเกตที่ควรรู้ คือ 1. สังเกตสัญลักษณ์ยืนยันตัวตน จะขึ้นเครื่องหมาย 'ถูก' สีฟ้า ด้านหลังชื่อเพจ 2. สังเกตดูยอดไลค์ ถ้ามีน้อยหรือ ไม่มีรีวิว อาจจะไม่มีความน่าเชื่อถือ อย่าซื้อ 3. สังเกตดูหลายระเอียดที่เมนูความโปร่งใสของเพจ เช่น ดูหมวด ประวัติการสร้างเพจ สร้างเมื่อไร ถ้าเพจเพิ่งสร้างเร็วๆนี้ 1- 2 เดือนนี้ มีความเป็นไปได้สูงเป็นเพจหลอกลวง ดูหมวด คนที่จัดการเพจนี้ หัวข้อประเทศ/ภูมิภาคหลักของผู้ที่จัดการเพจนี้ ส่วนใหญ่ จะอยู่ต่างประเทศ เช่น China Argentina Cambodia ดูประวัติการเปลี่ยนชื่อเพจ จะเปลี่ยนชื่อเพจเรื่อย ๆ เช่น เปิดขายเพจ โกดัง นาฬิกา วันที่ 15 ธ.ค. 2021 ช่วงหน้าทุเรียน เปลี่ยนชื่อเพจไปขาย ทุเรียนเกรดพรีเมียม วันที่ 28 พ.ค.2022 และเปลี่ยนขายเก้าอี้เกมมิ่ง ในวันที่ 30 มิ.ย.2022

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนพฤติกรรมของมิจฉาชีพออนไลน์ คดีที่ติดอันดับ 2 คือ คดีหลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม กิจกรรมที่หลอกให้ทำมากที่สุด โดยสื่อออนไลน์ที่คนร้ายประกาศ/โฆษณามากที่สุด คือ Google ,Facebook , Tiktok คือ 1. ให้ซื้อสินค้าทำสต๊อก 2. ให้กดไลค์/กดแชร์/ดูคลิป 3. ปั่นยอดซื้อสินค้า/แพ็คสบู่ และอื่นๆ

ตำรวจพร้อม 3 มาตรการ ดูแลความปลอดภัย 'วันเด็กแห่งชาติ 2566'

​สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดแผนและมาตรการดูแลความปลอดภัยในห้วงวันเด็กแห่งชาติ พร้อมประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือในการดูแลเด็กและเยาวชนอย่างใกล้ชิด

วันนี้ 11 มกราคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงมาตรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลความปลอดภัยในห้วงวันเด็กแห่งชาติ เป็นมาตรการใน 3 ส่วนที่เกี่ยวข้องกัน เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ร่วมกิจกรรมอย่างสนุกสนาน และมีความปลอดภัย
1.) สร้างความปลอดภัยการจัดกิจกรรม โดยขอความร่วมมือผู้จัดงานทั้งในส่วนของหน่วยงานราชการ และเอกชน ซึ่งมีกิจกรรมที่มีเด็ก เยาวชน และผู้ร่วมงานจำนวนมาก ให้ระมัดระวังในเรื่องความปลอดภัยการทำกิจกรรม อันตรายจากอุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ ควรให้มีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ ดูแล  โดยเฉพาะสถานที่จัดงานที่อยู่ใกล้แม่น้ำลำคลอง หรือมีสระน้ำ บ่อน้ำ อยู่บริเวณใกล้เคียง
2.) สร้างการรับรู้ให้กับ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ในการดูแลเด็กและเยาวชนอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เด็กไปเที่ยวลำพัง และควรจัดทำบัตรที่ระบุชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ติดไว้กับตัวเด็ก
3.) สร้างความไม่ประมาทในการเดินทาง การใช้รถโรงเรียนหรือรถยนต์โดยสารรับจ้าง เป็นพาหนะในการเดินทางพานักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นหมู่คณะ ให้ผู้ขับขี่ ปฏิบัติตามกฎจราจร และให้ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ สอดส่องดูแลอย่าให้เด็กห้อยโหน รวมทั้ง ระมัดระวังการขึ้นรถลงรถของเด็ก และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

บช.ปส. อุปสมบทหมู่ข้าราชการตำรวจ ในสังกัด บช.ปส.เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 66 เวลา 10.00 น. ที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ได้มีการจัดพิธีอุปสมบทหมู่ข้าราชการตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จำนวน 41 รูป โดยมีเจ้าพระคุณสมเด็จมหาวีรวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมาสีมารามราชวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยภริยา ผู้บังคับบัญชาในสังกัดร่วมงาน ผบก.อก.บข.ปส., ผบก.ปส. 1-4 ,ผบก.สกส. ผบก.ขส. แม่บ้านตำรวจ และข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เข้าร่วมพิธีฯ 

ประดิษฐ์ภัทรประสิทธิ์ปลุกเครือข่ายบ้านสีเขียวบริจาคโลหิตช่วยเหตุรถตู้รับส่งนักเรียนชน 3 คันรวด

เจ้าสัวประดิษฐ์แห่งเมืองชาละวันระดมมวลชนคนเสื้อเขียว หนุนกาชาดพิจิตรร่วมบริจาคโลหิตช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ประสบเหตุรถตู้รับ-ส่งนักเรียน ชนกับรถตู้ฮุนได 7 ที่นั่ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย อาการสาหัส 2 ราย ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เลือดจำนวนมากในการรักษาและผ่าตัด โดย สนง.ปชส.พิจิตร ประกาศเชิญชวนขอรับบริจาคโลหิต ล่าสุด ผอ.รพ.พิจิตร ชี้แจงยังมีเด็กนักเรียนที่เป็นผู้ประสบอุบัติเหตุพักรักษาตัวอยู่ใน รพ.พิจิตร 9 ราย อยู่ในห้อง ICU 2 ราย เป็นเด็กชาย 5 ขวบ 1 ราย เด็กหญิง 7 ขวบ 1 ราย

วันที่ 11 มกราคม 2566 นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาใหญ่ของบ้านสีเขียว ซึ่งเป็นทีมงานในเครือข่ายที่ส่วนใหญ่เป็นกำนันผู้ใหญ่บ้าน-ผู้นำชุมชน-ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยวันนี้หลังจากที่ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีและเป็นอดีต ส.ส.พิจิตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้นำด้านจิตวิญญาณที่ผู้นำและชาวบ้านเคารพนับถือ เมื่อได้ทราบเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ได้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่ถนนทางหลวงหมายเลข 115 พิจิตร-สากเหล็ก คือ รถรับส่งนักเรียนชนประสานงากับรถตู้ฮุนได 7 ที่นั่ง และ รถเก๋งอีก 1 คัน รวมชนกัน 3 คันรวด ส่งผลให้มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเกือบ 20 คน และเสียชีวิตแล้วในเวลาต่อมารวมแล้ว 3 คน รวมถึงยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ยังอยู่ในห้อง ICU จำนวน 2 ราย  เป็นเด็กชาย 5 ขวบ 1 ราย เด็กหญิง 7 ขวบ 1 ราย ซึ่งต้องใช้โลหิตจำนวนมากในการรักษาและผ่าตัด แต่ปรากฎว่าจำนวนโลหิตมีไม่เพียงพอจึงต้องออกประกาศขอรับบริจาคโลหิต เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว โดย นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ได้ประกาศเชิญชวนสมาชิกเครือข่ายบ้านสีเขียวให้มาร่วมกันบริจาคโลหิตในวันนี้จำนวนนับร้อยคนที่สมัครใจร่วมบริจาคโลหิตดังกล่าว โดยได้ไปบริจาคโลหิตที่หอประชุมที่ว่าการเภอเมืองพิจิตร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top