Wednesday, 9 July 2025
ค้นหา พบ 49289 ที่เกี่ยวข้อง

‘สายเลี้ยว’ TikToker สายดื่ม ขับเคลื่อนสังคม ‘ดื่มไม่ขับ’ | TIME TO LISTENING EP.2

TikToker ชื่อดัง ‘สายเลี้ยว’ เปิดเรื่องราวหลังกล้อง ขวัญใจสายดื่ม

กว่าจะวันนี้มีชื่อเสียงขนาดนี้ ผ่านเรื่องเสี่ยงตายจากสุรามาแล้ว!

พร้อมรณรงค์ขับเคลื่อนสังคม ‘ดื่มไม่ขับ’ 

 

แขกรับเชิญสุดพิเศษ คุณวิทยา วนศิริกุล

Tiktoker : สายเลี้ยว (@witbenmoreallright) 

 

ดำเนินรายการโดย ไอยรา อัลราวีย์ Content Manager 

 

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES PODCAST

และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://www.youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyLBnnkZJ5-QgtyID5DqrnG4 

 

🎥 ช่องทางรับชม

Facebook: THE STATES TIMES PODCAST

YouTube: THE STATES TIMES PODCAST

TikTok: THE STATES TIME PODCAST

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บินตรวจความคืบหน้าคดี ครูโรงเรียนนานาชาติกระทำอนาจารเด็กอนุบาล

จากกรณีเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ผู้ปกครองได้พาตัวเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ให้ดำเนินคดีกับ ครูโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง กล่าวหาว่าถูกครูรายดังกล่าวกระทำอนาจารหลายครั้ง ขอให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด นั้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ศรัญญู ชำราญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด ดำเนินการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานในคดีดังกล่าวอย่างละเอียดรอบคอบ สอบสวนปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

จากการซักถามปากคำเด็กร่วมกับสหวิชาชีพแล้วให้การว่า ได้ถูกคุณครูที่โรงเรียนนานาชาติที่ตนศึกษาอยู่ กระทำอนาจารโดยการจับอวัยวะเพศหลายครั้ง โดยเกิดเหตุในช่วงเดือนสิงหาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดเกาะสมุย และจับกุมตัวครูดังกล่าวมาดำเนินคดีในความผิดฐาน “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและกระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก” รวมทั้งตรวจค้นที่พัก โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นครูรายดังกล่าวให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

‘พุทธิพงษ์’ นำทัพ ‘อดีตส.ส.-คนรุ่นใหม่’ สมัครเข้าภท. พร้อมย้ำอุดมการณ์ ขอทำเพื่อคนกทม. ตลอด 24 ชม.

(11 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 12.55 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต ส.ส.กทม. นำอดีต ส.ส.กทม. ประกอบด้วย นายจักรพันธ์ พรนิมิตร, น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์, นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์, น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ และนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา รวมถึงทีมคนรุ่นใหม่ เช่น น.ส.พีร์ปภาอร เสถียรไทย หลานสาวนายสุรเกียรติ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นางศลิษา สิงหเสนี, น.ส.พิชามญช์ ชมะนันทน์, น.ส.อัชญา จุลชาต และนายพศิน ชาญศิลป์ นั่งรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้ามาตาม ถ.พหลโยธิน เข้ามายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรค และเปิดตัวทีม ‘ภูมิใจไทย ภูมิใจกรุงเทพฯ’ 

ทั้งนี้ เมื่อเดินทางมาถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งขอเป็นคนทดลองขับรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า โดยมีนายพุทธิพงษ์ และว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. บางส่วน ร่วมนั่งบนรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าด้วย ซึ่งนายอนุทินได้ขับวนรอบพรรคหนึ่งรอบก่อนนำทั้งหมดขึ้นมาบริเวณชั้น 2 ของที่ทำการพรรค เพื่อทำกิจกรรมเปิดตัว

ต่อมาเวลา 13.48 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ยินดีต้อนรับครอบครัวภูมิใจไทย พี่น้องภูมิใจไทยในเขตกทม. สู่บ้านหลังนี้ ความสัมพันธ์ของตนกับนายพุทธิพงษ์ มีมายาวนานตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ คุณแม่ จนถึงรุ่นลูก ซึ่งนายพุทธิพงษ์ มีความทุ่มเท เสียสละ ทำงานรับใช้บ้านเมือง ตรงตามเจตนารมณ์ของพรรค วันนี้ดีใจที่ท่านมาเป็นตัวแทนพรรคเสนอเป็นทางเลือกให้ประชาชนในเขตกทม. ต้องถือว่าท่านเป็นผู้เติมเต็ม เราพยายามรับใช้ประชาชนทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่พรรคเราเริ่มต้นมาจากต่างจังหวัด ไม่มีพื้นฐานในกทม. เราอาจจะประหม่าในการเข้าถึงจิตใจคนกทม. แต่ช่วงที่ผ่านมา 4 ปี ที่เราได้ร่วมบริหารราชการแผ่นดิน เรามองว่ากทม. เป็นหัวใจของประเทศอีกหนึ่งจังหวัด เราไม่เคยมองข้าม ตนเชื่อว่า นายพุทธิพงษ์ และทุก ๆ คน คงมองว่าถึงเวลาที่พรรคภูมิใจไทยจะเข้า พื้นที่กทม.แล้ว เราจะทำจนสุดความสามารถที่ทำให้คนกทม. เชื่อมั่นในพรรค เหมือนกับคนทั่วประเทศที่เชื่อมั่น และให้โอกาสพรรคมาทำงาน 

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า พรรคนี้เข้าถึงทุกคน ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รองหัวหน้าพรรค และผู้บริหารพรรค เดินไปเดินมาตลอดไม่มีห้องกั้น ไม่ต้องแลกบัตร ปั๊มบัตร ปั๊มมือ ไม่ต้องเขียนชื่อเข้าพบ เราอยู่กันแบบพี่น้อง แบบครอบครัวที่อบอุ่น นี่คือจุดแข็งของพรรค ความเป็นเอกภาพถือเป็นเอกลักษณ์ของพรรค ขอให้ท่านนำสิ่งเหล่านี้มาสิงในตัวเอง หรือเรียกว่าองค์ลง สิ่งที่คนเชื่อว่ายากก็จะขับเคลื่อนได้ ถ้าเรามีประชาชนเป็นเป้าหมายก็จะประสบความสำเร็จ สุดท้ายขอแสดงความยินดีกับตัวเอง และผู้บริหารพรรคทุกคน ที่ได้คนดี ๆ มาร่วมงาน ขอคารวะทุกท่านที่มาร่วมงานด้วยกัน 

ด้านนายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น และยินดีที่ได้มาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย วันนี้นำทีมคนรุ่นใหม่ 60-70 คน มาเป็นทีมทำงานร่วมกัน ครั้งนี้ตนจึงไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับทีมกทม. ทั้งนี้ หากย้อนดูตลอด 3 ปีที่ป่านมา พรรคภูมิใจไทย ไม่มีส.ส.กทม แต่ผลงานในหลายกระทรวงจากรัฐมนตรีของพรรค ทำประโยชน์สร้างโครงการต่าง ๆ ในกทม.จำนวนมาก ผลงานที่ทำไว้ แม้พรรคจะไม่มีส.ส.กทม.เลย แต่ถ้าการเลือกตั้งครั้งหน้าเราเสนอคนดี คนเก่ง มาเป็นจุดกลางทำนโยบายให้เกิดขึ้นจริง ลองคิดดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นในกทม. นี่คือเหตุผลว่าทำไมตนต้องมาพรรคภูมิใจไทย

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า เราเชื่อตรงกันว่าคนกทม.มีปัญหามาก สิ่งที่คนกทม. รอคอยไม่ค่อยได้รับการแก้ไขได้ตรงจุด และทันเวลา วันนี้เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยให้โอกาสพวกเราได้คิดเป็นนโยบาย และนำกลับไปทำประโยชน์ให้ประชาชน คำว่า ‘พูดแล้วทำ’ มีความหมายมาก เราจะนำคำนั้นกลับไปในกทม. ว่าพวกเราพูดแล้วทำ เราไม่ได้มาแค่ให้ท่านสวมแจ็คเก็ตให้เรา แต่เราเตรียมนโยบายที่คิดว่านำไปปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่นโยบายเมกะโปรเจกต์ แต่เป็นนโยบายบ้าน ๆ เรียบง่าย มาจากปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ทำได้จริงไม่เพ้อฝัน 

เปิด ‘5 นักษัตร’ ถูกจัดหนักจัดเต็มในปีเถาะ 66 พร้อมแนะ 3 วิธีลดผลกระทบ หมดเคราะห์พ้นภัย

ผ่านพ้นช่วงเทศกาลปีใหม่มาแล้ว 10 วัน เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงอยากรู้ว่าในปี 2566 หรือ ปีกระต่าย (ปีเถาะ) นี้ มีปีนักษัตรไหนบ้างที่ถือว่า ‘ชง’ เผื่อหากตรงกับตัวเองจะได้ระแวดระวังการใช้ชีวิตให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจะได้เตรียมตัวทำบุญแก้ชงกันด้วย

ทั้งนี้ทีมงาน THE STATES TIMES ได้หยิบยกมุมมอง ข้อคิดเรื่องปีชง ประจำปี พ.ศ.2566 จากนักฮวงจุ้ยวิทยา หรือ ‘นายสมศักดิ์ ชาคริตฐากูร’ CEO ของ Fengshui Biz Designer ที่ได้พูดถึง ‘5 นักษัตรถูกจัดหนักจัดเต็ม’ ในปีนี้ พร้อมทั้งแนะนำวิธีแก้ชง โดยระบุว่า…

นักษัตรระกา ‘酉’ (อิ้ว) จะปะทะหรือ ‘沖’ (ชง) กับปีจรเถาะ ‘卯’ (เบ้า) โดยตรง จะส่งผลให้ได้รับบาปเคราะห์เต็ม ๆ หากชะตาตกอาจถึงแก่ชีวิต มีเกณฑ์ประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ ถึงเลือดตกยางออก ร่างกายจะเจ็บป่วย ถูกคนปองร้าย จิตใจว้าวุ่น กลุ้มวุ่นวาย ธุรกิจมีอุปสรรค เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น

นักษัตรเถาะ ‘卯’ (เบ้า) จะทับซ้อนหรือ ‘壓’ (เอี๊ยบ) กับปีจรเถาะ ‘卯’ (เบ้า) จะมีเกณฑ์เกิดเหตุประสบเภทภัย จึงไม่ควรเดินทางไกล มีโอกาสได้ทุกขลาภ เสียทรัพย์ เงินทองรั่วไหล เพื่อนฝูงคนสนิทจะเอารัดเอาเปรียบ เบียดเบียนให้เดือดร้อน อีกทั้งตัวเราเองจะสร้างปัญหาให้วุ่นวาย

นักษัตรมะเมีย ‘午’ (โง้ว) จะแตกหักหรือ ‘破’ (ผั่ว) กับปีจรเถาะ ‘卯’ (เบ้า) จะส่งผลให้มีแต่คนคอยกลั่นแกล้ง จนเกิดการแตกหัก ทำให้ชีวิตพบแต่เรื่องวุ่นวายรำคาญใจ ถูกเบียดเบียนให้เดือดร้อนเสียหาย

นักษัตรชวด ‘子’ (จื้อ) จะวุ่นวายหรือ ‘刑’ (เฮ้ง) กับปีจรเถาะ ‘卯’ (เบ้า) จะส่งผลให้ถูกเบียดเบียนให้เดือดร้อนเสียหาย อีกทั้งตัวเราเองจะสร้างแต่ปัญหา

นักษัตรมะโรง ‘辰’ (ซิ้ง) จะให้ร้ายหรือ ‘害’ (ไห่) กับปีจรเถาะ ‘卯’ (เบ้า) ควรระวังจะถูกศัตรูคู่แข่งแทงหลัง ส่งผลให้ความมั่นคงในชีวิตเริ่มมีความเปราะบางเพิ่มขึ้นจนยากที่จะก้าวข้ามอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ ได้

นอกจากนั้นยังกล่าวว่า ชะตาชีวิตของคนเรามิได้มีเพียงแค่เสาปีเกิดเพียงเสาเดียวเท่านั้น แต่ยังประกอบขึ้นจาก 4 เสาหลักตามรหัสอัตลักษณ์ของแต่ละบุคคล ทั้งเสาปีเกิด เสาเดือนเกิด เสาวันเกิด และเสาเวลาเกิด โดยมีนักษัตรประจำอยู่ที่ฐานเกิดทั้ง 4 ฐานเสา หากปีพ.ศ.ใดมีนักษัตรประจำปีจรมากระทบถึงแต่ละฐานเสาใดเสาหนึ่งหรือหลายเสาก็ตาม ย่อมส่งผลร้ายตามวิบากกรรมต่อชะตาชีวิตในปีนั้น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งในปีจรเถาะนี้ มี 5 นักษัตรที่ได้รับบาปเคราะห์ดังต่อไปนี้คือ    

เกิดปีนักษัตร
นักษัตรระกา นักษัตรเถาะ นักษัตรมะเมีย นักษัตรชวด และนักษัตรมะโรง

เกิดเดือน
เดือนมีนาคม เดือนเมษายน เดือนมิถุนายน เดือนกันยายน และเดือนธันวาคม 

เกิดวัน
วันเกิดต้องเปิดในปฏิทินจีน 100 ปี 

เกิดเวลา
ตั้งแต่เวลา 05:00-08:59, เวลา 11:00-12:59, เวลา 17:00-18:59 และเวลา 23:00-00:59 น.

จาก 3 องค์ประกอบแห่งลิขิตฟ้า ชะตาดิน และวิถีคน สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ 3 วิธี ดังนี้

วิธีที่ 1 แก้ลิขิตฟ้า 
โดยการกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตาประจำปี 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) องค์รวมที่วัดมังกรกมลาวาส และวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ หรืออาจจะกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตาประจำปี 2566 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ‘皮時大星軍’ (ผ่วยซี้ไต่แชกุง) ได้ที่ 
- ศาลเจ้าหน่าจา ซาไท้จื้อ จ.ชลบุรี 
- วัดมังกรบุปผาราม (วัดเล่งฮัวยี่) จ.จันทบุรี
- วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ จ.กาญจนบุรี

‘สุชาติ’ เสียใจ เหตุเครื่องย่อยยางบดร่างแรงงานดับ สั่ง ‘กสร.-สปส.’ ตรวจสอบเหตุ-ช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต

รมว.แรงงาน ห่วงเหตุลูกจ้างถูกเครื่องบดย่อยยางดึงร่างเข้าไปทำให้เสียชีวิต จังหวัดบุรีรัมย์ สั่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ร่วมกับสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุ และเร่งช่วยเหลือให้ญาติได้รับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามกฎหมาย โดยเชิญนายจ้างสอบ 12 มกราคมนี้

(11 ม.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงอุบัติเหตุลูกจ้างถูกเครื่องจักรซึ่งเป็นเครื่องบดย่อยยางดึงร่างเข้าไปทำให้เสียชีวิต ว่า ทันทีที่ทราบข่าว ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวลูกจ้างผู้เสียชีวิต พร้อมได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ส่งพนักงานตรวจความปลอดภัย สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ และศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 3 (นครราชสีมา) ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ ตรวจสอบหาสาเหตุ และเร่งดำเนินการช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายทันที 

เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 22.30 น. สถานที่เกิดเหตุสถานประกอบกิจการในอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายยางพารา มีลูกจ้างประมาณ 1,092 คน ทำงานประจำแผนกเครื่องจักร จำนวน 47 คน โดยมีนายศุภชัย ศรีผง อายุ 31 ปี ลูกจ้างผู้เสียชีวิต กำลังปฏิบัติงานที่แผนกเครื่องจักรอยู่ ขณะเกิดเหตุได้นำแผ่นยางเพื่อใส่เครื่องบดย่อยยาง ซึ่งแผ่นยางได้ติดค้างที่เครื่องบดย่อยยาง นายศุภชัยฯ จึงได้โน้มตัวเข้าไปดึงแผ่นยางออก โดยไม่ได้ปิดสวิตช์หยุดเครื่องจักร ทำให้ตัวนายศุภชัยฯ ถูกเครื่องบดย่อยยางดึงเข้าไปในเครื่องพร้อมแผ่นยางเป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที ซึ่งพนักงานตรวจความปลอดภัย สสค.บุรีรัมย์ ได้มีหนังสือเชิญนายจ้าง และ ผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในวันที่ 12 มกราคม 2566 และสำนักงานประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ญาติลูกจ้างผู้เสียชีวิตพึงได้รับตามกฎหมายต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top