Wednesday, 2 July 2025
ค้นหา พบ 49159 ที่เกี่ยวข้อง

‘รบ.ทหารเมียนมา’ กำราบ ‘อิรวดี’ สื่อร่างทรงปชต. ส่วนไทยปล่อยให้จรรยาบรรณจอมปลอมลอยนวล

กระทรวงสารสนเทศของเผด็จการทหารพม่าประกาศผ่านทางสื่อรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลเผด็จการได้ทำการเพิกถอนใบอนุญาตสื่อสิ่งพิมพ์ของอิรวดี ตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 2565 และกล่าวหาว่าสื่ออิรวดี สร้างความเสียหายต่อ ‘ความมั่นคงของรัฐ’ และ ‘ความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง’ 

เมื่อเอย่าเห็นข่าวนี้ เอย่าก็รีบเปิดเว็บไซต์ดูทันที ซึ่ง ณ วันที่เขียนบทความนี้ ก็หลังจากการรายงานข่าวนี้มาร่วมอาทิตย์ แต่เว็บไซต์ของสำนักข่าวอิรวดี (Irrawaddy) ก็ยังปกติดี ไม่ได้ต่างอะไรกับสำนักข่าวอื่น ๆ ที่เคยโดนไปอย่าง Mizzima หรือ Myanmar Now ที่ทางรัฐบาลไม่สามารถควบคุมสื่อได้ และทำให้สื่อหลายสื่อกลายเป็นเครื่องมือในการโค่นล้มผู้มีอำนาจในรัฐบาลโดยการล้างสมองประชาชน

ก่อนอื่นเราควรมารู้จักสื่ออิรวดีให้ดีก่อนว่าเป็นมาอย่างไร...

สื่ออิรวดี ก่อตั้งขึ้นในไทยเมื่อปี 2536 เป็นสื่อที่เป็นปฏิปักษ์กับระบอบเผด็จการทหารในพม่าจากการที่พวกเขารายงานข่าวเชิงส่งเสริมประชาธิปไตย เสรีภาพสื่อ และสิทธิมนุษยชนในพม่า เมื่อมีการเปิดประเทศ อิรวดีจึงย้ายสำนักงานใหญ่เข้าไปในพม่าเมื่อปี 2555 เพื่อรายงานข่าวสถานการณ์ในพม่า จนถึงการทำรัฐประหารปี 2564

เมื่อมีนาคม 2564 รัฐบาลทหารเมียนมาเคยดำเนินคดีอิรวดี ด้วยกฎหมายมาตรา 505 (a) โดยอ้างว่า ‘เพิกเฉยต่อ’ กองทัพพม่าในการรายงานข่าวการประท้วงต่อต้านเผด็จการทหารที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนั้น แม้ต่อมาจะมีการจับกุม ‘อูต่องวิน’ ผู้ตีพิมพ์เผยแพร่สื่ออิรวดี แต่ก็ไม่สามารถทำให้สำนักข่าวอิรวดีหยุดเผยแพร่ได้ 

และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่มีการดำเนินการกับสื่ออย่างอิรวดี แต่ด้วยความที่สื่อมีสำนักงานที่ไทย ทำให้น่าจะลำบากต่อจัดการของรัฐบาลเมียนมาอยู่พอตัว

ถามว่าทำไมสื่ออย่างอิรวดี มีอิทธิพลนัก... 

หากค้นข้อมูลลึก ๆ จะเห็นว่าสำนักข่าวอิรวดี เคยรับทุนจากองค์กร National Endowment for Democracy (NED) ของอเมริกา ซึ่งใคร ๆ ก็รู้ว่าอเมริกาชักใยหลาย ๆ ประเทศผ่านการจ่ายเงินผ่านกองทุนนี้ โดยสำนักข่าวอิรวดีเคยได้รับทุนจาก NED จำนวน 150,000 ดอลลาร์ในปี 2016 และนั่นคงไม่ต้องถามว่าสื่ออิรวดีจะเป็นสื่อที่มีความเป็นกลางได้จริงหรือไม่? หรือเป็นเพียง ‘สื่อร่างทรง’ ให้แก่ประเทศผู้แจกทุนที่พยายามจะหาทางเข้ามาในภูมิภาคนี้ 

‘รมว.เฮ้ง’ เผย ชุมชนมุสลิมปลื้ม ‘บิ๊กตู่’ หลังฟื้นสัมพันธ์ ‘ไทย-ซาอุดิอาระเบีย’ ได้สำเร็จ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ‘วันรวมใจ สู่นูรุ้ลฮิดายะห์ (แสงประทีป)’ โดยมี นายมีศักดิ์ อิทธิธนากุลชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลละหาร ดร.จำลอง ช่วยรอด คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และคณะกรรมการจัดงาน ให้การต้อนรับ ณ มัสยิดนูรุ้ลฮิดายะห์ (แสงประทีป) ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 

นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบที่มีอยู่กว่า 22 ล้านคน เพราะแรงงานทุกคนถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เจริญก้าวหน้า 

ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามผลักดันโครงการเยียวยาต่าง ๆ ให้ครอบคลุมแรงงานทุกกลุ่มทั้งในระบบและนอกระบบ ซึ่งในส่วนของแรงงานนอกระบบได้มีโครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 40 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง แท็กซี่ หาบเร่แผงลอย นักร้อง นักดนตรี ผู้ที่ทำงานในกิจการสถานบันเทิงฯ ใน 29 จังหวัด คนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 2 เดือน เป็นเงินเกือบ 60,000 ล้านบาท 

นอกจากนี้ รัฐบาลยังผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ.…ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 9) มีกองทุนเพื่อแรงงานนอกระบบใช้เพื่อเป็นแหล่งเงินกู้มีทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ ซึ่งจะทำให้พี่น้องแรงงานนอกระบบมีหลักประกันทางสังคมและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งการจัดงานในวันนี้ถือว่าเป็นการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมให้ชุมชนมีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมขององค์กรชุมชนให้มีความเข้มแข็ง อันจะเป็นการยกระดับให้ชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

'สุริยะ' หนุน!! มาตรการส่งเสริมตัดอ้อยสด ส่งเสริมราคาดี พร้อมคุมอ้อยไฟไหม้ต้องไม่เกิน 5% ก่อนเข้าหีบ

'สุริยะ' ลุยแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ต่อเนื่อง พร้อมหนุนมาตรการส่งเสริมตัดอ้อยสด ตั้งเป้าฤดูการผลิตปี 2565/66 อ้อยไฟไหม้ไม่เกิน 5%

กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมมาตรการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้อย่างต่อเนื่อง พร้อมหนุนมาตรการส่งเสริมตัดอ้อยสด สำหรับในฤดูการผลิตปี 2565/2566 ให้มีปริมาณอ้อยไฟไหม้ไม่เกิน 5% ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด สนองนโยบายรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่น PM 2.5

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ณ หอประชุมใหญ่สมาคมเพื่อเกษตรกรภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2564/2565 กรอบวงเงินช่วยเหลือ 8,159 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2565 ได้จ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้ว จำนวน 125,194 ราย เป็นเงิน 8,103.74 ล้านบาท โดยการช่วยเหลือเพื่อช่วยลดต้นทุนการตัดอ้อยสดในครั้งนี้ จะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดส่งโรงงานมากขึ้น รวมทั้งตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 โดยจะพยายามผลักดันมาตรการขอรับเงินสนับสนุนจากภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 เช่นเดียวกับฤดูการผลิตปีที่ผ่านมา

‘โรม’ โต้ปม ‘ก้าวไกล’ ล็อบบี้เลือกร้านอาหาร ส.ส. แซะกลับ!! แค่การเสียผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม

‘โรม ก้าวไกล’ โต้ ‘วัชระ’ กล่าวหาก้าวไกลล็อบบี้คัดเลือกร้านอาหาร ส.ส. ชี้ กระบวนการคัดเลือกมีกรรมการที่มีสัดส่วนจากทุกพรรคดูแลอยู่ ยืนยันไม่มีรับผลประโยชน์เด็ดขาด ย้อนกลับกรณีระบุประชาธิปัตย์จะไม่จับมือก้าวไกล ชี้ ก้าวไกลก็จะจับมือกับพรรคที่ยึดคุณค่าประชาธิปไตยเท่านั้นเหมือนกัน

รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ตอบโต้กรณีวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแถลงข่าวกรณีการคัดเลือกผู้ประกอบการในการจัดหาอาหารและเครื่องดื่มให้กับ ส.ส. พร้อมกล่าวหาว่า ตัวแทนจากพรรคก้าวไกลในคณะกรรมการคัดเลือกมีการล็อบบี้ให้คัดเลือกผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะ

รังสิมันต์ ระบุว่า โดยปกติแล้วผู้ประกอบการที่ได้รับการว่าจ้างสภาผู้แทนราษฎร ในการรับเหมาให้บริการอาหารสำหรับ ส.ส. จะได้รับการต่อสัญญารายปี โดยมีคณะกรรมการที่รัฐสภาตั้งขึ้นจากตัวแทนของพรรคการเมืองต่าง ๆ เป็นผู้พิจารณา ซึ่งร้านที่ได้รับการว่าจ้างในปัจจุบัน เป็นร้านที่มีความเกี่ยวพันกับนักการเมืองบางคนในฝั่งรัฐบาล จึงไม่แปลกที่การคัดเลือกครั้งนี้ ซึ่งมีการเปลี่ยนตัวผู้ประกอบการจะนำไปสู่การเสียผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม และทำให้มีการออกมาแสดงความไม่พอใจ

‘ชัยวุฒิ’ โยนถาม ‘บิ๊กตู่’ ยังอยู่กับ พปชร.หรือไม่ หลังลือสะพัดเตรียมย้ายซบ ‘รวมไทยสร้างชาติ’

‘ชัยวุฒิ’ โยนสื่อถาม ‘บิ๊กตู่’ ยังอยู่กับ พปชร.หรือไม่ หลังมีลือสะพัดเตรียมย้ายซบ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ แจงลูกพรรคบอกชื่อ ‘ประยุทธ์’ ขายไม่ได้ เป็นความเห็นส่วนตัว แต่เชื่อยังไงทุกคนก็อยู่กับ 3 ป.

นายชัยวุฒิ ธนาคณานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสยุบสภา รวมไปถึงการเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ว่า ข่าวที่สื่อมวลชนออกมาบางครั้งก็ไม่มีแหล่งข่าวที่ชัดเจน เป็นสิ่งที่คาดการณ์กันไป ซึ่งวันนี้คิดว่าทุกคนก็ตั้งใจทำงานเพื่อให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง ก็ยังพอมีเวลาที่จะพูดคุยกันว่าใครจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top