สธ.ขอความร่วมมือ งดหลับนอนกับคนแปลกหน้า ลดเสี่ยงฝีดาษลิง หลังทั่วโลกพบติดเชื้อแล้วกว่า 2.2 หมื่นราย ขณะที่ไทยยังเจอ 2 รายแรก
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง(Monkeypox) พบการระบาดในยุโรปส่วนใหญ่เกิดในกลุ่มชายรักชาย โดยเฉพาะผู้ที่มีคู่นอนหลายคน ซึ่งหากมีการป้องกันที่ถูกต้องและปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยงโดยการไม่สัมผัสใกล้ชิดและมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า จะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงได้ สถานการณ์โรคทั่วโลก ข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.ค. 65 มีผู้ป่วยยืนยันทั่วโลก 22,485 ราย พบเพิ่มขึ้นเป็น 79 ประเทศ โดยพื้นที่การแพร่ระบาดส่วนใหญ่พบอยู่ในแถบทวีปยุโรป ประเทศที่มีผู้ป่วยสูง 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 4,906 ราย สเปน 4,298 ราย เยอรมนี 2,595 ราย สหราชอาณาจักร 2,546 ราย ฝรั่งเศส 1955 ราย และมีผู้เสียชีวิต 5 ราย อยู่ในแอฟริกาทั้งหมดซึ่งเป็นผู้ที่มีโรคร่วม
นพ.โสภณกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ฝีดาษลิงในประเทศไทย ผู้ป่วยรายที่ 1 เป็นชายชาวไนจีเรีย อายุ 27 ปี เริ่มป่วย วันที่ 9 ก.ค.65 ผลตรวจยืนยันวันที่ 18 ก.ค. 65 และหลบหนีไปกัมพูชาวันที่ 21 ก.ค.65 ปัจจุบันแผลแห้งตกสะเก็ดแล้ว ผลตรวจเป็นสายพันธุ์ Western African A.2 และจากการเฝ้าระวังผู้สัมผัสโรคในพื้นที่ภูเก็ตและผู้ที่พบปะในสถานบันเทิงรวมกว่า 50 ราย ยังไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่
ส่วนผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นชายไทยอายุ 47 ปี ติดเชื้อจากชายต่างชาติ มีอาการวันที่ 15 ก.ค.65 เป็นตุ่มหนองที่อวัยวะเพศและใบหน้าแขนขา วันที่ 26 ก.ค.65 ไปรักษาที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล วันที่ 27 ก.ค.65 ผลตรวจ PCR ยืนยันโรคฝีดาษวานรวันที่ 28 ก.ค.65 และผลตรวจวิเคราะห์พบเป็นสายพันธุ์ Western African B.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในแถบประเทศยุโรป กำลังติดตามชายชาวยุโรปที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยและคาดว่าเป็นผู้แพร่เชื้อโดยขณะนี้ทีมสอบสวนโรคได้ทำการฆ่าเชื้อในบ้านของผู้ป่วยแล้ว พร้อมเก็บตัวอย่างจากผู้สัมผัสในบ้าน 2 หลัง รวม 17 คน เพื่อส่งตรวจในวันที่ 29 ก.ค.65 ผลตรวจออกมาแล้ว 16 ราย ผลเป็นลบ และรอผลตรวจอีก 1 ราย ทั้งนี้ต้องเฝ้าระวังต่อจนครบ 21 วัน
