สํานักงานตํารวจแห่งชาติ เรียนชี้แจงกรณีความคืบหน้าการรับตัวผู้ต้องหาชาวจีน (ไต้หวัน) มาดําเนินคดีเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์ ในความรับผิดชอบของ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนชี้แจงความคืบหน้าการรับตัวผู้ต้องหาสัญชาติจีน(ไต้หวัน) จากสาธารณรัฐแอลเบเนีย มาดำเนินคดีเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์ ในความผิดชอบของพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน

ความคืบหน้าทางคดี เมื่อวันที่ 27 ก.ค.65 หลังจากที่ผู้ต้องหาได้เดินทางจากสาธารณรัฐแอลเบเนีย ถึงประเทศไทย  ตามช่องทางการส่งผู้ร้ายข้ามแดนผ่านผู้ประสานงานกลาง โดย พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในคดีได้เดินทางมารับตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ในข้อหา มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ กระทำการอันเป็นอั้งยี่และซ่องโจร ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน เพื่อนำตัวมายัง สน.คลองตันได้ทำการสอบปากคำและในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหา  ไปยื่นคำร้องขอฝากขังที่ศาลอาญาพระโขนง พร้อมทั้งคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีออกนอกประเทศ และมีการแจ้งอายัดตัวไว้ที่ สน.คลองตัน เกี่ยวกับคดีคอลเซ็นเตอร์อีกกว่า 33 คดี

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งรัดประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ สืบสวนและติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน อีกทั้งหากมีการนำเสนอข่าวที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวบนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอาจทำให้สังคมเกิดความสับสนและเข้าใจผิดได้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น