Saturday, 14 June 2025
ค้นหา พบ 48795 ที่เกี่ยวข้อง

จอยักษ์ หนัก 600 กก. หล่นกลางเวทีคอนเสิร์ต ทับแดนเซอร์วง 'มิลเลอร์' บาดเจ็บ 2 ราย

จอยักษ์ หนัก 600 กิโลกรัมบนเวทีคอนเสิร์ตบอยแบนด์ดังของฮ่องกงอย่าง ‘มิลเลอร์’ ตกลงบนกลางเวที ขณะวงกำลังทำการแสดงในฮ่องกงโคลิเซียม ก่อนที่จอจะกระแทกใส่แดนเซอร์ 2 ราย ต่อหน้าแฟนคลับที่ตกอยู่ในความหวาดกลัวสุดขีด มีการบันทึกภาพขณะจอยักษ์หลุดถล่มลงมาบนเวที เผยนาทีที่จอตกลงใส่แดนเซอร์หนึ่งรายบริเวณศีรษะ ก่อนที่จอจะล้มทับใส่แดนเซอร์อีกราย โดยหลังจากที่จอถล่มลงมา ดนตรีของคอนเสิร์ตถูกหยุดลงในทันที และผู้จัดการวงบอยแบนด์ได้เร่งออกมากล่าวกับแฟนคลับข้างล่างเวที เพื่อขอให้ผู้ชมทั้งหมดเดินทางออกจากบริเวณสนามจัดคอนเสิร์ตในทันที

สำนักข่าว The South China Morning Post รายงานว่า แดนเซอร์ทั้งสองรายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน โดยแดนเซอร์รายแรกได้รับบาดเจ็บบริเวณคอ และกำลังอยู่ในอาการวิกฤต ในขณะที่มีรายงานว่าแดนเซอร์อีกรายอยู่ในอาการทรงตัว ทั้งนี้ มีแฟนคลับหญิงอีกหลายรายที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากตกอยู่ในอาการช็อกกับเหตุที่เกิดขึ้น

รัฐบาลท้องถิ่นของฮ่องกงได้ออกแถลงการณ์ เพื่อย้ำเตือนในทัวร์คอนเสิร์ตยังคงรักษาระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการแสดงครั้งต่อไป ก่อนจะย้ำว่าทางการจะเร่งสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ “ผมรู้สึกตกใจจากเหตุการณ์นี้ ผมขอส่งความปรารถนาดีไปยังผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และหวังว่าเขาจะหายดีในเร็ววัน” จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงระบุ

ในขณะที่ เควิน ยัง เลขาธิการด้านวัฒนธรรมของฮ่องกงออกมาระบุว่า การแสดงของวงมิลเลอร์จะถูกระงับเอาไว้ก่อน จนกว่าโครงสร้างของเวทีจะได้รับการจัดการใหม่เพื่อให้มีความปลอดภัย โดยมิลเลอร์มีแผนการแสดงในฮ่องกงโคลิเซียมอีก 12 โชว์ ก่อนที่จะจัดการแสดงครั้งต่อไปที่ท่าเรือวิกตอเรีย

ด้านชาวฮ่องกงที่เข้าไปชมในคอนเสิร์ตต่างพากันระบุว่าพวกเขารู้สึกแย่มากๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น...“ฉันไม่เคยรู้สึกว่าการไปคอนเสิร์ตแย่ขนาดนี้ การเดินออกจากโคลิเซียมให้ความรู้สึกเหมือนเดินออกจากโรงฝังศพ มันอึมครึมไม่มีใครพูด” ผู้ชมคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์บอกวาไรตี้ “ผู้หญิงคนอื่นๆ ในกลุ่มผู้ชมกำลังร้องไห้ เพื่อนอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นแม่ของเขาตั้งคำถามว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เลวร้ายและไม่อาจยอมรับได้ในฮ่องกงที่โคลิเซียม”

ไทยสร้างชื่อกระหึ่มยุโรป ‘เฉลิมชัย’ นำทีมกระทรวงเกษตรฯ เปิดงานสัปดาห์ไทย เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พร้อมโชว์ศักยภาพเกษตรไทยสู่สายตาชาวโลกในงานพืชสวนโลก เนเธอร์แลนด์

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดกิจกรรม 'วันประเทศไทย' (Thailand National Day) และงานสัปดาห์ประเทศไทย ในงานพืชสวนโลก The International Horticultural Expo (EXPO 2022 Floriade Almere) ณ เมืองอัลเมียร์ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 28 ก.ค. - 3 ส.ค. 65 เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งเป็นการโชว์ศักยภาพเกษตรไทยสู่สายตาชาวโลก โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีนายชาตรี อรรจนานันท์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก อัครราชทูตที่ปรึกษา ฝ่ายการเกษตร ณ กรุงบรัสเซลส์ พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่ร่วมดำเนินการจัดงาน ได้แก่ ผู้แทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมงาน

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า งาน Thailand National Day หรืองานเสมือนวันชาติไทย จัดขึ้นในวันที่ 28 ก.ค. 65 ช่วงเช้า ณ บริเวณ Main Stage ภายในงาน The Expo 2022 Floriade Almere โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน และได้รับเกียรติจากนายกเทศมนตรีเมือง Almere และ Commissioner General กล่าวต้อนรับ พร้อมมีพิธีเชิญธงชาติไทย พร้อมทั้งการแสดงทางวัฒนธรรมไทย และการนำคณะผู้บริหารเยี่ยมชม Pavilion ของประเทศ และองค์กรต่างๆ ทั้งนี้รมว.เกษตรฯ ยังได้เชิญชวนผู้สนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าร่วมงานมหกรรมพืชสวนโลก 2569 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ระหว่างเดือน พ.ย. 69 - มี.ค. 70 ณ จ.อุดรธานี อย่างเป็นทางการ

ส่วนช่วงบ่าย รมว.เกษตรฯ เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค. 65 ณ บริเวณอาคาร Thailand Pavilion และมีพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ แขกผู้มีเกียรติ ผู้แทนจากประเทศและองค์กรที่เข้าร่วมจัดงาน และชุมชนชาวไทยในเนเธอร์แลนด์เข้าร่วมพิธีในช่วงค่ำ โดยตลอดทั้งวันมีกิจกรรมการสาธิตนวดแผนไทย การแกะสลักผัก-ผลไม้ สาธิตประกอบอาหารไทย การแสดงถนนสายอาหาร การแสดงนาฏศิลป์ไทย ดนตรีสากล และเพลงพระราชนิพนธ์

ตำรวจ PCT ร่วมกับ บูรพา 491 ขยายผลตัดวงจรขบวนการส่งคนไทยข้ามแดนไปทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพิ่มอีก 2 ราย ได้ค่าจ้าง 1,000 บาทต่อหัว 

วันนี้ (29 ก.ค.65) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอส.ตร) หรือ PCT  เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ชุดปฏิบัติการที่ 5 ร่วมกับ กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 หรือ “บูรพา491” ขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่งคนไทยไปทำงานในประเทศกัมพูชาได้อีก 2 ราย เผยเคยทำมาแล้วหลายครั้ง ได้ค่าจ้าง 1,000 บาทต่อหัว อาศัยบ้านตนเองเป็นที่พักเหยื่อก่อนพาข้ามแดนไปกัมพูชา 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาศัยประเทศเพื่อนบ้านเป็นฐานปฏิบัติการ คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 65 เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ชุดปฏิบัติการที่ 5 ร่วมกับ กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 หรือ 'บูรพา491' จับกุมตัว นายอรรถชัย มีโพธิ์ อายุ 30 ปี ขณะลักลอบนำพาคนไทยไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผ่านทางช่องทางธรรมชาติ ที่เรียกกันว่า 'ช่องทางธรรมชาติ คลองบ้านตาโจ๊ย ใกล้กับวัดป่าหนองเอี่ยน' โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ยุทธวิธีเข้าจับกุมแบบฉับพลัน (Car block) หยุดรถคนร้ายไว้ได้ก่อนจะข้ามแดน จากการสืบสวนขยายผลทราบว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย ยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย โดยขบวนการนี้ลักลอบพาคนไทยข้ามแดนไปทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา มาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 คน

รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า วันนี้ (29 ก.ค. 65) ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2/หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก.สส.บช.ภ.2 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สืบสวน ภ.จว.ระยอง, พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ประชาชัยศรี ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ หาญแท้ รอง ผกก.กก.1 บก.ปส.3 พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 และ บูรพา 491 บก.สืบสวน ภ.2 นำกำลังบุกจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย คือ

1.) น.ส.รุ่งฤดี อุดมดี อายุ 38 ปี ที่อยู่ 33 ม.11 ต.กาบิน อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ จ.415/2565 ลงวันที่ 27 ก.ค. 65 

2.) นายพงษ์ธนา พิมพา อายุ 36 ปี ที่อยู่ 114 ม.2 ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ จ.416/2565 ลงวันที่ 27 ก.ค. 65 

ในข้อหา 'ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันโดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน'

โดยจับกุม น.ส.รุ่งฤดี ได้ขณะกำลังขับรถกระบะ อีซูซุ ดีแมกซ์ ทะเบียน ผอ 3218 ชลบุรี ได้ที่บริเวณ ม.4 ถ.บายพาส ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากนั้นได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ 125/2565 ลงวันที่ 27 ก.ค. 65 เข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 96 ม.1 ต.โนนหมากนุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นบ้านที่ น.ส.รุ่งฤดี อุดมดี เคยนำเหยื่อที่ถูกหลอกไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาพักไว้ก่อนข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติ ตรวจยึด รถยนต์กระบะคันดังกล่าว ซึ่งใช้เป็นรถในการกระทำความผิด โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 7 เล่ม 

ในชั้นจับกุม น.ส.รุ่งฤดี ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า “ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค. 65 เป็นต้นมา ได้เริ่มทำงานรับ-ส่ง ผู้ที่ต้องการเดินทางข้ามไปทำงานเป็นแอดมิน ที่ประเทศกัมพูชา โดยจะได้รับค่าตอบแทน รายละประมาณ 1,000 บาท เป็นเงินสดจากผู้ว่าจ้าง ซึ่งเป็นชายชาวกัมพูชา ในการรับส่งแต่ละครั้ง จะนัดรับบริเวณ ร้านสะดวกซื้อ 7-11 บขส.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ไปที่บ้านพักของตนแล้วพาเดินข้ามทางช่องทางธรรมชาติ บริเวณใกล้กับหมู่บ้านที่ตนพักอาศัย ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งจะมีชาวกัมพูชา รอรับอยู่ และในแต่ละครั้ง น.ส.รุ่งฤดี รับว่า ตนใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีขาว หมายเลขทะเบียน ผอ 3218 ชลบุรี ในการรับ-ส่ง” 

นอกจากนี้ได้ตรวจสอบประวัติบุคคลในครอบครัว พบว่านายบุญยัง ศิลศัทธา เป็นแฟนหนุ่มของ น.ส.รุ่งฤดี กับนายศักดิ์ชัย ศิลศัทธา พี่ชายของนายบุญยัง ถูกดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์ ในท้องที่ สภ.โคกสูง เมื่อช่วงเดือน พ.ค. 65 ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของ น.ส.รุ่งฤดีว่า หลังจากแฟนหนุ่มกับพี่ชายของตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไปดำเนินคดี ตนจึงได้มารับงานรับ-ส่ง คนข้ามไปฝั่งกัมพูชาต่อ กระทั่งวันนี้ถูกจับกุมตัว

เวลาเดียวกัน จับกุม นายพงษ์ธนา พิมพา ที่บ้านเลขที่ 166 ซ.อ่อนนุช 17 แยก 18 สวนหลวง สวนหลวง กรุงเทพ ขณะกำลังพักอาศัยอยู่ในบ้าน 

แต่ นายพงษ์ธนาฯ ยังให้การปฏิเสธ ว่า “ตนเองเป็นลูกน้องของ นายอรรถชัย มีโพธิ์ (ถูกจับกุมที่ จ.สระแก้วเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 65) โดยยอมรับว่าเคยส่งคนพาข้ามชายแดนจริง แต่ไม่ทราบว่าคนไทยที่ออกไปนั้นจะไปทำคอลเซ็นเตอร์ โดยได้รับค่าจ้างจาก นายอรรถชัย วันละ 1,000 บาท ในวันที่มีคนข้าม โดยการจ่ายค่าข้าม นายอรรถชัย คิดค่าดำเนินการคนละ 6,500 บาท และยังยอมรับว่าเคยรับโอนเงินจากลูกค้าให้กับ นายอรรถชัย จำนวน 20 กว่าคน โดยการรับส่งจะเดินทางไปรับคนไทยที่จะข้ามแดนที่ บขส.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และนำตัวไปส่งข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติที่ สวนหนองเอี่ยน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และจากการตรวจค้นบ้านเลขที่ 166 ซ.อ่อนนุช 17 แยก 18 สวนหลวง สวนหลวง กรุงเทพ ที่ นายพงษ์ธนา พิมพา หลบหนีมากบดานที่นี่ พบว่าเป็นที่ตั้งของออฟฟิศเว็บพนันออนไลน์กว่า 5 URL คือ betflixvip168, b.e.t.f.l.i.x.9.8.8, megagames168, Boom xo และ slotfun168 และตรวจค้นพบ คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง, หน้าจอคอมพิวเตอร์ 6 จอ, โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 4 คน คือ

1.) นายสราวุธ มูลฟู อายุ 20  ปี ที่อยู่ 94 หมู่ที่ 12 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
2.) นายณัฐภัทร ทองใส อายุ 21 ปี ที่อยู่ 367 หมู่ที่ 13 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
3.) น.ส.ทิพวรรณ รวมขุนทด อายุ 23 ปี ที่อยู่ 39/1 หมู่ที่ 14 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
4.) น.ส.วารุณี ลำภา อายุ 26 ปี ที่อยู่ 26  หมู่ที่ 03 ตำบลโนนหมากเค็ง  อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว

โดยกล่าวหาว่า 'ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต' ซึ่งทั้ง 4 ราย ให้การรับสารภาพว่า “มีหน้าที่ในการชักชวนให้บุคคลอื่นๆ เข้าเล่นการพนันออนไลน์ ถาม-ตอบ ให้บริการลูกค้าผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ และโปรแกรมสนทนาอื่นๆ ดูแลเรื่องระบบการฝาก-ถอน และปัญหาต่างๆ ของลูกค้า” จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตันดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

'เสก โลโซ' ถวายพระสังกัจจายน์-เทียนพรรษา เป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ในหลวง ร. ๑๐ 

เสก โลโซ (ศิลปินนักร้องดัง) ถวายพระสังกัจจายน์หน้าตัก ๔๐ นิ้ว พร้อมถวายเทียนเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๑๐ )

เมื่อวันที่  ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๗.๓๐ น ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดตระพัง ตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ คุณวิภากร ศุขพิมาย หรือกานต์ วิภากร พร้อมด้วยนักดนตรีและทีมงานรวมพลพรรคพวกเพื่อนฝูงร่วมถวายพระสังกัจจายน์หน้าตัก ๔๐ นิ้วและถวายเทียนพรรษาเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาและถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๑๐) 

มีพระปลัดจักรกฤษณ์ ขนฺติโก เจ้าอาวาสวัดตระพัง (เป็นประธานฝ่ายสงฆ์) ส่วนบรรยากาศพิธีถวายพระสังกัจจายน์หน้าตัก ๔๐ นิ้วและถวายเทียนพรรษาเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาและถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๑๐) ก่อนเริ่มพิธีมีทีมงานเสก โลโซ เพื่อนฝูงพี่น้อง ศิษย์ยานุศิษย์ ได้เดินทางมาที่วัดตระพังซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน 

'ตำรวจท่องเที่ยว' แนะนำ 6 มาตรการท่องเที่ยวช่วงหยุดยาว

วันนี้ (29 ก.ค. 65) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการและโฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ให้ฝากความห่วงใยต่อนักท่องเที่ยวว่า

ในช่วงหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 28-31 ก.ค. 65 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจท่องเที่ยวทุกคนหวังเป็นอย่างยิ่งว่านักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทยในช่วงนี้ จะมีความสุขสดชื่นกับการท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทยที่มีมากมายหลากหลายความรู้สึกและอารมณ์ที่ตัวเองต้องการ จึงถือโอกาสนี้มอบคำแนะนำต่อนักท่องเที่ยวดังนี้ 

1.) ด้วยการท่องเที่ยวไทยยึดถือตามนโยบายขององค์การการท่องเที่ยวโลกเรื่องการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืน (sustainable tourism) ดังนั้น ขอความกรุณาอย่าทำร้ายและทำลายธรรมชาติ และหากดีที่สุด ช่วยกันเสริมความแข็งแรงให้กับธรรมชาติจะเป็นการดียิ่ง
2.) วางแผนการเดินทางอย่างรอบคอบและโดยละเอียดทุกครั้ง โดยไม่เพียงพิจารณาเส้นทางการเดินทางเท่านั้น แต่ให้ตรวจสอบสภาพอากาศด้วยเพราะจะทำให้การเดินทางและการท่องเที่ยวมีความปลอดภัยและไม่เครียด 
3.) หาข้อมูลในสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปเยี่ยมชมให้ดี จะได้มีพฤติกรรมเหมาะสมถูกต้องสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นโดยไม่มีพฤติกรรมใดที่มีลักษณะเชิงลบ
4.) สนับสนุนเศรษฐกิจและกิจการของท้องถิ่นนั้นๆ หากมีโอกาส เพื่อให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นมีกำลังที่จะสร้างสรรค์และปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวให้อยู่กับเราต่อไป 
5.) ในเรื่องของกัญชา ขอความร่วมมือคนไทยทุกคนช่วยกันประคับประคองการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องโดยคำนึงถึงภาพลักษณ์ของประเทศและของสังคมไทยให้อยู่ในบริบทที่เหมาะสม ไม่ผิดกฎหมายและไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
6.) หากต้องการความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยวสามารถโทรได้ที่หมายเลข 1155 ซึ่งสามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศหลักได้ 5 ภาษาคือ อังกฤษรัสเซีย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี หรือจะติดต่อผ่านแอพพลิเคชั่น tourist police I-lert-u ก็ได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top