Saturday, 14 June 2025
ค้นหา พบ 48795 ที่เกี่ยวข้อง

นายกห่วงใยประชาชน กำชับ!! สธ. ติดตามคัดกรอง หลังพบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 2 วอนประชาชนอย่าตระหนก 'งด-เลี่ยง' พฤติกรรมเสี่ยง

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานจากทางสาธารณสุขยืนยันไทยพบผู้ป่วยฝีดาษวานรรายที่ 2 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร  ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทีมเจ้าหน้าที่ติดตามและคัดกรองผู้มีความเสี่ยง เพื่อความปลอดภัยในพื้นที่ พร้อมเตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนกเกินไปประชาชนทั่วไป สามารถดำเนินชีวิตตามปกติ แต่ขอให้งดหรือหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยง ทั้งนี้ โรคโควิด-19 และโรคฝีดาษวานร สามารถป้องกันการติดเชื้อ ด้วยการดูแลตนเองด้วยมาตรการสุขอนามัย

'สี จิ้นผิง' ออกเตือน 'ไบเดน' กำลังเล่นกับไฟ หลังข่าว 'ประธานรัฐสภาฯ' เยือนไต้หวันสะพัด

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เตือนประธานาธิบดีไจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ว่า 'กำลังเล่นกับไฟ' ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยทางโทรศัพท์กันในรอบที่ 5 ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญความตึงเครียดทางเศรษฐกิจและทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยหนึ่งในนั้นประเด็นที่โหมกระพือความตึงเครียดคือ ความเป็นไปได้ที่ประธานรัฐสภาของอเมริกาจะเดินทางเยือนไต้หวัน

สื่อมวลชนแห่งรัฐของจีนรายงานว่า สี ได้บอกกับ ไบเดน ไปว่าสหรัฐฯ ยึดมั่นต่อ 'หลักการจีนเดียว' และเน้นย้ำอย่างหนักแน่นต่อจุดยืนของจีนที่คัดค้านความเป็นเอกราชของไต้หวันและการแทรกแซงจากกองกำลังภายนอก 'ใครที่เล่นกับไฟ รังแต่จะถูกไฟแผดเผา' สีบอกกับไบเดน "เราหวังว่าฝ่ายสหรัฐฯ จะสามารถเล็งเห็นเรื่องนี้อย่างชัดเจน"

ส่วนทำเนียบขาวระบุในถ้อยแถลง เผยว่าไบเดนได้บอกกับสี ไปว่านโนยายของสหรัฐฯ นั้นไม่เปลี่ยนแปลง และวอชิงตัน "คัดค้านอย่างหนักแน่นต่อความพยายามฝ่ายเดียวในการเปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันหรือบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน" อ้างถึงน่านน้ำที่กั้นกลางระหว่างเกาะไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่

การพูดคุยทางโทรศัพท์ครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (28 ก.ค.) และกินเวลาราวๆ 2 ชั่วโมง มีขึ้นในขณะที่ ไบเดน กำลังเล็งหาหนทางใหม่ๆ ในการทำงานร่วมกับจีน ท่ามกลางการแข่งขันระดับนานาชาติระหว่าง 2 ฝ่ายที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ และความตึงเครียดระหว่าง 2 ชาติเกี่ยวกับประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน สาธารณสุขโลกและนโยบายเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับประเด็นอื่นๆ

ล่าสุด จีนประกาศเตือนด้วยถ้อยคำแข็งกร้าว เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่นางแนนซี เพโลซี ประธานรัฐสภาอาจเดินทางเยือนไต้หวัน โดยระบุพวกเขาจะมองการเดินทางดังกล่าวว่าเป็นการยั่วยุ

เกาะปกครองตนเองแห่งนี้ได้รับแรงสนับสนุนด้านป้องกันตนเองอย่างไม่เป็นทางการจากสหรัฐฯ แต่ จีน มองเกาะแห่งนี้ในฐานะส่วนหนึ่งของดินแดน

"ถ้าสหรัฐฯ ยืนกรานจะเดินหน้าในแนวทางนี้และท้าทายเส้นใต้ที่จีนขีดไว้ มั่นใจได้เลยว่าจะต้องเผชิญกับการตอบโต้อย่างเต็มกำลัง" จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนบอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ "รับประกันได้เลยว่าสหรัฐฯ ต้องแบกรับผลลัพธ์ที่ตามมาทั้งหมดทั้งมวล"

เพโลซี จะเป็นสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ระดับสูงสุดคนที่ 2 ที่เดินทางเยือนไต้หวัน พันธมิตรใกล้ชิดของอเมริกา ต่อจากประธานรัฐสภา นิวต์ กิงริช เมื่อ 25 ปีก่อน แต่ทางประธานาธิบดีไบเดน แสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บอกกับผู้สื่อข่าวว่า กองทัพคิดว่าโปรแกรมเยือนไต้หวันของเธอในเวลานี้ "ไม่ใช่ความคิดที่ดี"

'เด็กเพื่อไทย' ซัด!! 'ประยุทธ์' อย่าสับสนเรื่องการท่องเที่ยว แนะ!! เร่งส่งเสริมเพิ่มนักท่องเที่ยวช่วยเหลือผู้ประกอบการ

นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เชียงราย เขตอำเภอพาน และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่พรรคเพื่อไทย โดยนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการพรรค ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องการท่องเที่ยว แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กลับตอบสับสนและยังเข้าใจผิดคิดไปเองว่าบริหารการท่องเที่ยวได้ดี ทั้งที่ล้มเหลว ภูมิใจกับตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ยังต่ำมาก โดยการท่องเที่ยวของประเทศไทยน่าจะต้องฟื้นมากกว่านี้ เห็นได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศสิงคโปร์และประเทศในยุโรปที่นักท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างชัดเจน โรงแรมถูกจองเต็มกันหมด ในขณะที่โรงแรมในประเทศไทยยังมีห้องว่างมาก ขนาดนายกสมาคมการท่องเที่ยวยังบ่นและเรียกร้องให้รัฐบาลต้องทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวหนักกว่านี้

ทั้งนี้ หากมองย้อนหลังจะพบว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ดำเนินนโยบายท่องเที่ยวแบบสับสน ช่วงต้นปี 63 ขณะที่ท่องเที่ยวยังไม่แย่ รัฐบาลเสนอให้แจกเงินนักท่องเที่ยวต่างประเทศในโครงการ 'ชิมช้อปใช้ อินเตอร์' เพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่ถูกประชาชนและสื่อมวลชนตำหนิกันมาก จนต้องล้มเลิกไป พอมาปี 2565 หลังจากวิกฤตการณ์โควิด การท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวดีนักนักท่องเที่ยวยังน้อย แต่รัฐบาลกลับมีแนวคิดย้อนแย้งที่จะเก็บค่าเหยียบแผ่นดินกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศคนละ 300 บาท และก็ถูกตำหนิอย่างรุนแรงจากประชาชนและจากสื่อมวลชน จึงต้องเลื่อนมาเรื่อยๆ แต่ยังไม่ยกเลิก 

เปิดประวัติ 'เจ้าสัวจุน' เจ้าของพัดลมฮาตาริ ผู้อุทิศตนเพื่อสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง กว่า 50 ปี

หลังจากที่ บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด โดย คุณจุน-คุณสุนทรี วนวิทย์ และครอบครัว บริจาคเงิน 900,000,000 บาท แก่มูลนิธิรามาธิบดีฯ

โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ภาวิทย์ เพียรวิจิตร รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นตัวแทนร่วมรับมอบ

ทั้งนี้ บริจาคสมทบทุนเพื่อโครงการปรับปรุงอาคารโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี เป็นเงินจำนวน 160,000,000 บาท บริจาคสมทบทุนโครงการศูนย์การแพทย์รามาธิบดีศรีอยุธยา เป็นจำนวนเงิน 300,000,000 บาท และบริจาคสมทบทุนโครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี เป็นจำนวนเงิน 440,000,000 บาท เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565

วันนี้จะพาไปดูประวัติ เจ้าสัวจุน วนวิทย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด บริจาคเงินจำนวน 900 ล้านบาท ให้มูลนิธิรามาธิบดี จนกลายเป็นที่ฮือฮาบนโลกโซเชียล

จุน วนวิทย์ หรือ อากงจุน ผู้ก่อตั้งฮาตาริ ปัจจุบันอายุ 86 ปี ชีวิตวัยเด็กยากจน ต้องดิ้นรนสู้ชีวิต จบการศึกษาแค่ ป.2

เริ่มต้นการทำงานในวัย 17 ปี ด้วยการขับแท็กซี่ แล้วเริ่มต้นมาเป็นลูกจ้างร้านทอง เป็นช่างทำโมล ทำของเล่น และอะไหล่พัดลม เป็นผู้มีพรสวรรค์ในด้านงานช่าง ก่อนจะตัดสินใจทำพัดลมทั้งตัว เมื่อปี 2528 โดยเริ่มต้นในแบรนด์ที่ชื่อ “k” และ “Tory” ตามลำดับ

ต่อมาเมื่ออายุ 52 ปี จึงได้ผลิตพัดลมยี่ห้อฮาตาริออกจำหน่ายเป็นครั้งแรก จนกลายเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่ง จำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออก ทำยอดขายได้ปีละหลายพันล้าน มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับพัดลมทุกประเภท รวมทั้งเครื่องฟอกอากาศ และเครื่องซักผ้าขนาดเล็กออกสู่ตลาด และแม้ว่าในบางช่วงจะประสบวิกฤตทางด้านการเงินเป็นอย่างมาก ก็ยังสามารถบริหารจัดการให้บริษัทผ่านพ้นมรสุมได้เป็นอย่างดี

เมื่อประสบความสำเร็จในอาชีพการงานแล้ว 'จุน วนวิทย์' ไม่เคยลืมตอบแทนสังคม แต่กลับคิดเสมอว่า จะต้องตอบแทนสิ่งที่ดีงามให้แก่สังคม ช่วยเหลือผู้อื่นที่เดือดร้อน หรือด้อยโอกาส ด้วยความบริสุทธิใจ โดยไม่แสดงตัว ได้บริจาคทรัพย์สิ่งของให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ สร้างศูนย์วิปัสสนา และมอบเงินอุดหนุนให้แก่ยุวพุทธิกสมาคม ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสอยู่เป็นประจำ พร้อมทั้งให้การจุนเจือครอบครัวของพนักงาน ด้วยการให้ทุนการศึกษาแก่บุตร และมอบเครื่องอุปโภคให้เป็นประจำทุกปี จึงเป็นผลให้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นสายสะพายปฐมดิเรกคุณาภรณ์ 

KTA ผุดฟรีสัมมนา พาธุรกิจไทยคว้าโอกาสในคาซัคสถาน ประตูเชื่อม 'ทวีปเอเชีย-ยุโรป' ตลาดใหม่ที่ไม่ควรพลาด

ห้ามพลาด!! สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาโอกาสในตลาดใหม่ กับสัมมนาครั้งแรก ครั้งสำคัญที่จะเปิดโอกาสในการเชื่อมธุรกิจคุณ​ สู่ภูมิภาคเอเชียกลาง : ประเทศคาซัคสถาน | ประตูเชื่อมระหว่างทวีปเอเชีย และทวีปยุโรป 

ในสัมมนา...
KTA | Central Asia Business Forum:

SEEK OPPORTUNITIES IN TRADE & INVESTMENT IN CENTRAL ASIA : KAZAKHSTAN

📆วันที่ 2 สิงหาคม 2565 
🕗เวลา 10:00 - 16:00 น.
———————————————-
📢 HIGHLIGHT:
(.)General information, economical and political situation of Kazakhstan
(.)Investment opportunities of Kazakhstan
(.)Research : Opportunity Perspective for Thai's investor in Kazakhstan, Kazakhstan business perspective
(.)Investment : iSmart series of micro integrated intelligent data center
(.)Logistic : Air, land and sea to Kazakhstan
(.)Expert : Organising and operating company in Kazakhstan / Taxation / Visa / Real estate in Kazakhstan
(.)Expert : Possibilities of the transport and logistics infrastructure of Kazakhstan in cargo transportation
(.)B2B survey : Trip to Kazakhstan, meet your buyers
———————————————-
📌สัมมนาฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ 
สำรองที่นั่งด่วน ที่นั่งมีจำนวนจำกัด (100 ท่าน)
1.) ผ่าน QR Code บนโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์
2.) ผ่าน Link ลงทะเบียน https://us06web.zoom.us/webinar/register/WN_Uv5wr9l2Th6x2hrApvHE3Q
———————————————-
จัดโดย
Kazakh Thai Alliance หรือ KTA ในการสนับสนุนของ สถานทูตสาธารณรัฐคาซัคสถานประจำประเทศไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top