Monday, 28 April 2025
ค้นหา พบ 47725 ที่เกี่ยวข้อง

เขาว่า 'คนไทย' มีเงินใช้แบบ 'เดือนชนเดือน'

ใครว่า ก็ไม่รู้แหละ!!

แต่จากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง 'สถานการณ์ทางการเงินของคนไทย ในปี 2563' โดยกรุงเทพโพลล์ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ พบว่า...

กว่าครึ่งหนึ่งของไทยตอนนี้ ไม่มีเงินออม ต้องใช้จ่ายแบบเดือนชนเดือน เหตุเพราะสินค้ามีราคาแพงขึ้น บวกภาระหนี้สินสะสม


ที่มา: กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

เรื่องทรัพย์..ทรัพย์

อันคำว่าทรัพย์นั้น ถ้ามีมากก็สบายใจ แต่หากมีน้อยไป อันนี้ก็ต้องเอามือก่ายหน้าผาก ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นเขาพูดกันเรื่องทรัพย์กันอยู่มากมายนะคะ

วันนี้ The States Classroom เลยขออนุญาตนำความหมายของทรัพย์มาบอกเล่ากัน อ่านกันสบาย ๆ นะคะ ไว้เป็นความรู้ ไม่ต้องเอาไปดีเบตนะคะ อุ๊บส์!!

ผลตรวจของคุณเป็น 'บวก' เช็คสุขภาพอสังหาฯ ไทยโค้งสุดท้าย 2020

ถ้าจะบอกว่าปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เหนื่อยแค่ไหน ก็คงต้องบอกว่าเหนื่อยมาก ยิ่งไปในช่วงคาบเกี่ยวของไตรมาส 2 และ 3 ที่เจอกับพิษโควิด-19 แบบจุก ๆ เข้าไป ทำให้หลาย ๆ บริษัทต้องงัดกลยุทธ์เพื่อประคองตัวแบบเต็มเหนี่ยว ทั้งโปรโมชันลดแหลกในหลาย ๆ โครงการ

แต่ในช่วงเวลาที่เหน็ดเหนื่อย ก็ยังมีแบรนด์อสังหาฯ ที่สร้างผลบวกให้กับธุรกิจได้อยู่พอสมควรมาดูกันว่ารายได้อสังหาฯ เจ้าไหนในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาอยู่ที่เท่าไร แล้วใครที่ยังทำตัวเลข 'บวก' ได้บ้าง


ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ไต้หวันประท้วงเดือด! ปาไส้หมูเละเต็มสภา

กลายเป็นข่าวดัง เจือกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วโลก เมื่อสส. ฝ่ายค้านประท้วงเดือด ด้วยการสาดถังไส้หมูใส่นายกรัฐมนตรีไต้หวันขณะที่กำลังแถลงนโยบายอยู่กลางสภา

สาเหตุของการประท้วงด้วยวิธีชวนแหวะนี้ เกิดจากนโยบายใหม่ของประธานาธิบดี "ไช่ อิงเหวิน" ที่ต้องการผ่อนปรนมาตรการการนำเข้าเนื้อหมู และเนื้อวัวจากประเทศสหรัฐอเมริกา

จากที่เคยแบนการนำเข้าเพราะมีการใช้สารเร่งเนื้อแดงประเภท Ractopamine ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ของสหรัฐ

ซึ่งการใช้สารเร่งเนื้อแดง Ractopamine นี้ถูกแบนจากจีน และยุโรปเช่นเดียวกัน แต่เป็นสารที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ได้ในสหรัฐ

และการที่ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน และพรรค DPP ที่เป็นพรรคฝ่ายรัฐบาลเห็นชอบที่จะอนุญาตให้เปิดตลาดนำเข้าเนื้อหมูที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงชนิดนี้จากสหรัฐอเมริกาได้ เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของข้อแลกเปลี่ยนในการเจรจาข้อตกลงทวิภาคีด้านการค้าร่วมกันนั่นเอง

เมื่อฝ่ายรัฐบาลพยายามดันนโยบายนี้ให้ผ่านสภา ทีมพรรคฝ่ายค้านที่นำโดนพรรคก๊กมินตั๋งก็ตั้งใจที่จะมาประท้วง และเมื่อนายซู เจินชาง นายกรัฐมนตรีไต้หวันกำลังอ่านแถลงนโยบายเรื่องนี้ในสภา สส.ฝ่ายค้านคนหนึ่งก็คว้าถังใส่ไส้หมูเข้ามาสาดโครมใส่นายกรัฐมนตรี

แล้วหลังจากนั้นก็กลายเป็นความชุลมุนเมื่อสส.ทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลก็กรูกันออกมาตะลุมบอน จิกต่อย ขว้างปา ไส้หมู เครื่องใน กันให้เละเทะ เหม็นคละคลุ้งไปทั้งสภา

ถึงแม้ว่าการชกต่อยกลางสภาไต้หวันจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรในประเทศนี้ แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นปาไส้หมูในสภามาก่อน ที่พรรคฝ่ายรัฐบาลก็ออกมาประณามว่า ช่างเป็นวิธีการที่น่าขยะแขยง คลื่นไส้แล้วยังเสียของ ที่เอาของกินมาขว้างปาอย่างไร้ค่า จนเหม็นไปทั้งสภา ต้องเสียเวลามากวาดล้าง ก่อนที่ต้องมาประชุมกันต่อในประเด็นถัดไป

ส่วนประชาชนชาวไต้หวันบางส่วนก็ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะอนุญาตให้นำเข้าเนื้อที่อาจปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดงจากสหรัฐ ก็ออกมาเดินขบวนประท้วงกันเป็นจำนวนมากเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ซึ่งทางพรรคฝ่ายค้านก็ออกมาร่วมโหนกระแส และวิจารณ์นโยบายเนื้อหมูของพรรค DPP ว่าเมื่อคราวที่เป็นฝ่ายค้านก็บอกว่าจะต่อต้านการนำเข้าเนื้อหมูที่ใช้สารเร่ง แต่เมื่อมาเป็นรัฐบาลก็กลับข้างมาเอาใจสหรัฐ โดยไม่คำนึงถึงผลข้างเคียงต่อประชาชน

แต่อย่างไรก็ตาม การประท้วงด้วยการปาไส้หมูกันเละเทะในสภาก็คลื่นไส้สุดจะทนจริง ๆ เอาเป็นว่าดูได้พอเป็นเยี่ยง แต่อย่าเอาอย่างจะดีกว่า


แหล่งข่าว

CBC

https://www.cbc.ca/news/world/taiwan-parliament-pork-brawl-1.5819250

CNN

https://edition.cnn.com/2020/11/28/asia/taiwan-pig-intestines-lawmakers-intl-hnk/index.html

The Guardian

https://www.theguardian.com/world/2020/nov/27/taiwan-politicians-throw-pig-guts-meat-row

"ชุดนักเรียน" เสรีภาพบนตัวหนู ๆ

หลาย ๆ คนที่เรียนในประเทศไทยเรา คงผ่านการใส่ชุดนักเรียนกันมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยไหน และชุดนักเรียนนี่แหละ ที่มักจะถูกบ่งบอกให้เห็นถึงสถานะว่าเขาเหล่านั้นเป็น "นักเรียน" จริง ๆ

แต่พอยุคสมัยเปลี่ยน อะไร ๆ ก็เปลี่ยนเด็กรุ่นใหม่มองว่าการใส่ชุดนักเรียนไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรไปกว่าการเรียนรู้ และมองว่าการใส่ชุดนักเรียนดูจะเหมือนเป็นการตีกรอบให้กับพวกเขาเสียมากกว่า

วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2563 กลุ่ม "ภาคีนักเรียนKKC" ได้ชักชวนให้นักเรียนแต่งไปรเวทไปโรงเรียน พร้อมทั้งตั้งคำถามเกี่ยวกับเครื่องแบบนักเรียนที่พวกเขาสวมใส่ว่า...

หากใส่ชุดไปรเวทไปแล้ว ครูจะไม่ให้เข้าเรียน เพียงเพราะไม่ได้ใส่เครื่องแบบ? ถ้าหากเป็นเช่นนั้นสุดท้ายแล้วนักเรียนทั้งหลายไปเรียนเพื่ออะไรกันหากสิ่งที่ครูและผู้ใหญ่ให้ความสนใจมากกว่าการเรียนคือเครื่องแบบนักเรียน?

และถ้าหากนักเรียนไม่มีเงินมากพอจะซื้อชุดนักเรียน = ไม่มีสิทธิเข้าเรียนหรอ?

ยิ่งไปกว่านั้นประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ คือ หากใส่ชุดไปรเวทไปโรงเรียนจะเพิ่มความเหลื่อมล้ำจริงหรือไม่?

จากการตั้งคำถามเหล่านี้ The States Times ก็เลยไปหาคำตอบ จากมุมมองของนักเรียนหลาย ๆ แห่ง ทั้งที่อยู่โรงเรียนที่เปิดโอกาสให้แต่งชุดไปรเวทไปเรียน และไม่ได้ให้ใส่ชุดไปรเวท

ผลปรากฎว่า ส่วนใหญ่มองว่าการใส่ชุดไปรเวทไปเรียนไม่ใช่เรื่องผิด หรือจะทำให้ตั้งใจและเรียนรู้ได้น้อยลง และก็ไม่เห็นด้วยกับการบอยคอตของผู้ใหญ่ที่พยายามมองว่าการไม่ใส่ชุดนักเรียนเป็นเรื่องที่ผิด

แน่นอนว่า ในมุมของผู้ใหญ่อาจจะมีเหตุผลที่ว่า ชุดนักเรียนมีไว้เพื่อความเป็นระเบียบ ทำให้เกิดการแยกแยะได้ และช่วยป้องกันปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ

แต่พวกเขาก็มองว่า ชุดนักเรียนก็เป็นเหรียญที่มีสองด้านด้านหนึ่งอาจจะเหมือนที่ผู้ใหญ่ว่ามา แต่อีกด้านหนึ่งนั้นชุดนักเรียนกลายเป็นเครื่องแบบที่ริดรอนเสรีภาพในการแต่งตัวของเหล่านักเรียนไปซะเฉย ๆ

เมื่อต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลของตัวเองไม่ว่าจะมุมเด็กหรือมุมผู้ใหญ่ แต่ดูเหมือนหนึ่งในคำตอบของคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ชัด ๆ นั่นก็คือ...ชุดนักเรียนจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้หรือไม่? หลายคนก็ยังแอบเกาหัว!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top