Thursday, 19 June 2025
ค้นหา พบ 48901 ที่เกี่ยวข้อง

ก้าวไกลปล่อยโปสเตอร์ชวนประชาชนร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ใบ้หัวข้อแซ่บเพียบ งานนี้สงสัย 'เผาจริง'!

เฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล เผยแพร่โปสเตอร์เชิญชวนประชาชนร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในธีม “ตอกตะปูปิดตาย ทลายระบอบประยุทธ์” โดยโปสเตอร์ถูกออกแบบให้คล้ายคลึงกับการ์ดเชิญงานศพ และมีการบอกใบ้หัวข้ออภิปรายที่น่าสนใจหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องตรวจจับระเบิด GT-200 ซึ่งเคยมีคดีทุจริตตลอดหลายปีผ่านมา คดีทุจริตอนุสาวรีย์ การอภิปราย “นักรบไซเบอร์” ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะเป็นภาคต่อของการอภิปรายปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของกองทัพ ซึ่งพรรคทำมาตั้งแต่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก

นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังยืนยันว่ามีหัวข้อการอภิปราย “บิ๊กเซอร์ไพรซ์” ที่จะอภิปรายโดยรังสิมันต์ โรม แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องใด ซึ่งที่ผ่านมา รังสิมันต์เปิดประเด็นที่แหลมคมและเป็นไฮไลท์ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้ง

'ธัญวัจน์’ ชี้ เรียกร้อง ‘สมรสเท่าเทียม’ ในยูเครนคือการเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพ

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ผลักดันร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมเข้าสู่สภา กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดจากภาวะสงครามของยูเครนและรัสเซีย กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศได้ขับเคลื่อนรวบรวมรายชื่อ 28,000 คน ถึงรัฐสภายูเครนและประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ให้พิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อยอมรับบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศในประเทศยูเครนที่มีการเคลื่อนไหวเรื่องนี้มาแล้ว 9 ปี นับจากหมุดหมายสำคัญในการจัดงาน #PrideMonth ในปี 2013 จนนำมาสู่มีร่างกฎหมายขจัดการเลือกปฏิบัติเมื่อปี 2015 แต่อย่างไรก็ดีกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศยังไม่สามารถทำได้

“การไม่มีกฎหมายรองรับสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวนั้นไม่ได้หมายความว่ากลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศไม่ประสบปัญหา เพราะการที่อยู่ด้วยกันไม่มีกฎหมายประกันสิทธิใด ๆ และยิ่งในภาวะสงครามที่มีการสูญเสีย การพลัดพราก ที่ไม่ต่างจากเพศชายหญิงทั่วไป ส่งผลกระทบทางตรงเมื่อพวกเขาไม่มีกฎหมายรับรองและประกันสิทธิ์ในฐานะคู่สมรส”  

ธัญวัจน์ ยังระบุอีกว่า การเรียกร้องของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในยูเครน ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การเรียกคืนสิทธิ์ที่ถูกพรากไป แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่ทำให้โลกเราเห็นภาพใหญ่คือ “สงคราม” หรือ “สันติภาพ” ด้วย เพราะสมรสเท่าเทียมคือสัญลักษณ์ของความรักและสันติภาพ 

“เราทุกคนล้วนแล้วแต่อยากที่อยู่ใกล้กับคนที่เรารัก อยากดูแลกัน แบ่งปันกัน สร้างครอบครัวด้วยกัน ในขณะที่สงครามนั้นเกิดจากความเกลียดชังและบ้าคลั่งในอำนาจ ต้องการชัยชนะ แม้จะยืนอยู่บนความพ่ายแพ้ของผู้อื่น เราทุกคนไม่ได้อะไรจากสงครามและความเกลียดชัง”

'นายกฯ' ห่วงใยเด็ก-เยาวชน สั่งตำรวจ-ดีอีเอส ปราบปรามสื่อลามก

(17 ก.ค. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความห่วงใย กรณีปรากฏเป็นข่าวการจำหน่ายคลิปลามกอนาจารแพร่หลายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน ที่สามารถเข้าถึงโดยง่าย จึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฯลฯ ให้เข้มงวดกวดขัน การเผยแพร่สื่อที่ไม่เหมาะสมในโลกออนไลน์ ส่งผลเสียต่อเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นวัยสำหรับการเรียนรู้ โดยขอให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ต่อกรณีพบการกระทำความผิด

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ผู้ปกครองช่วยกันสอดส่องดูแล ให้คำแนะนำบุตรหลานในการใช้สื่อออนไลน์อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยเชื่อว่าสถาบันครอบครัวจะมีส่วนสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชน ป้องกันการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร เช่นเดียวกับโรงเรียน ต้องช่วยให้เด็กและเยาวชน ได้เรียนรู้เท่าทันสื่อในโลกออนไลน์ เพื่อใช้ประโยชน์จากสื่อออนไลน์เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ให้ได้มากที่สุด พร้อมกับรู้ทันพิษภัยของการเสพสื่อในทางที่ผิด

น.ส.ไตรศุลี ย้ำเตือนว่า การขายคลิปลามกอนาจารมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา โดยกรณีสื่อลามก อายุตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป เพื่อการค้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

'ดีอีเอส' แนะ 3 ช่องทางช่วยประชาชน หากถูกแอบอ้างชื่อไปสร้างโซเชียลปลอม 

กระทรวงดิจิทัลฯ แนะประชาชน-คนดัง พบถูกแอบอ้างชื่อ/รูปภาพไปสร้างบัญชีโซเชียลปลอม รีบแจ้งด่วนผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ กดรายงานไปที่เจ้าของแพลตฟอร์ม แจ้งผ่านโทร. 1212 และแจ้งความได้ทั้งเว็บไซต์แจ้งความออนไลน์/ตำรวจ ยืนยันดีอีเอส พร้อมประสานทุกภาคส่วนเร่งปิดบัญชีปลอม และติดตามผู้กระทำผิดเข้ามาดำเนินคดี  

นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า ที่ผ่านมายังพบแนวโน้มปัญหามิจฉาชีพแอบอ้างนำชื่อและรูปภาพคนอื่น ไปสร้างบัญชีโซเชียลปลอมทั้งเฟซบุ๊ก เพจปลอม ไลน์ปลอม และ IG เพื่อนำไปหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง เสียชื่อเสียง โดยเฉพาะยิ่งถ้าผู้ที่ถูกแอบอ้างชื่อและโปรไฟล์เป็นดารา หรือคนมีชื่อเสียง ความเสียหายก็จะยิ่งขยายวงกว้าง เนื่องจากมักมีแฟนคลับหรือผู้ติดตามจำนวนมาก โอกาสที่จะมีเหยี่อหลงเชื่อก็ยิ่งเพิ่มจำนวนเช่นกัน ขณะที่เจ้าตัวก็เสี่ยงต่อการสูญเสียชื่อเสียง

สำหรับรูปแบบการหลอกลวงที่พบบ่อยจากบัญชีโซเชียลสวมรอยเหล่านี้ ได้แก่ หลอกยืมเงิน หลอกขายของ หลอกลงทุน หลอกร่วมทุน โดยเหยื่อที่หลงเชื่อจะสูญเงินโดยไม่ได้รับสินค้าหรือผลตอบแทนใดๆ นอกจากนี้ ยังมีการหลอกลวงที่เป็น Romance Scam หรือหลอกให้หลงรักและสูบเงินเหยื่อผ่านทางออนไลน์ ขณะที่ บางกรณีจะเป็นการแอบอ้างตัวตนคนดัง สร้างเฟซบุ๊กปลอมเพื่อใช้เป็นพื้นที่โพสต์เนื้อหา หรือแสดงความคิดเห็นเพื่อหมิ่นประมาทผู้อื่น เป็นต้น 

นางสาว นพวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหานี้ รวมถึงอำนวยความสะดวกให้ผู้เสียหายซึ่งถูกแอบอ้างชื่อไปสร้างบัญชีโซเชียลปลอม เข้าถึงช่องทางความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว เพื่อเร่งยุติการขยายวงของความเสียหาย เร่งประสานงานเพื่อปิดบัญชีปลอม และติดตามมิจฉาชีพมาดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญคือ ขอให้ผู้ที่ถูกแอบอ้างตั้งสติ และดำเนินการผ่าน 3 ช่องทางดังต่อไปนี้ประกอบกัน เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการประสานการปิดบัญชีโซเชียลที่แอบอ้าง ได้แก่ 

1.) แจ้งรายงานไปที่แพลตฟอร์มโซเชียล โดยการ report ไปยังเว็บไซต์ผู้ให้บริการ Social Network ที่ถูกแอบอ้าง ซึ่งทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ และ IG มีเมนูให้รายงานบัญชีปลอมโดยตรงอยู่แล้ว จากนั้นรอขั้นตอนการตรวจสอบของทางแพลตฟอร์ม

2.) ช่องทางของกระทรวงดิจิทัลฯ ที่สายด่วน โทร.1212 OCC ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ในสังกัดดีอีเอส + ช่องทางอื่นๆ ภายใต้การดูแลของกระทรวงฯ 

และ 3.) แจ้งตำรวจ ทั้งการไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ หรือกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) โดยให้รวบรวมหลักฐานไว้ เช่น capture จับภาพหน้าจอสนทนา หรือหน้ารูป Profile ที่ถูกปลอมขึ้นมา 

สาวแชร์คลิปสุดซึ้ง ลุงวินพามาเลี้ยงสเต็ก เป็นการอำลาก่อนไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย 

สาวโพสต์คลิปวิดีโอลงใน TikTok เผยลุงวินคู่ใจจู่ๆ พามาร้านสเต็ก บอกขอเลี้ยงก่อนแยกย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัย พบใช้บริการกันนานกว่า 5 ปี

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ผู้ใช้ TikTok @stamptyr ได้โพสต์คลิปสุดซึ้ง กับลุงวินจักรยานยนต์ที่เคยใช้บริการตั้งแต่ ม.2 จนถึง ม.6 ล่าสุดตัวผู้โพสต์เองกำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย คุณลุงได้พาตนเองมาเลี้ยงสเต็ก ซึ่งเป็นคลิปวิดีโอที่ได้ใจชาวเน็ตเป็นอย่างมาก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top