Friday, 27 June 2025
ค้นหา พบ 49051 ที่เกี่ยวข้อง

ปิดฉาก 'ฟ้าเดียวกัน' วารสารวิจารณ์สถาบันฯ เหตุขาดแคลนต้นฉบับ ผันผลิตหนังสือเล่ม-ชุดแทน

เนื่องจากภาวะขาดแคลนต้นฉบับ สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกันจึงขอแจ้งว่าเราจะตีพิมพ์วารสารฟ้าเดียวกันปีที่ 20 ฉบับที่ 2 เป็นเล่มสุดท้าย

(21 มิ.ย.65) เพจ ฟ้าเดียวกัน ของสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน วารสารที่วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมี ธนาพล อิ๋วสกุล คนใกล้ชิดนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ได้แจ้งข่าวได้ปิดตัวเองลงแล้ว โดยระบุรายละเอียดว่า

แจ้งข่าวผู้อ่านที่เคารพรัก

เรื่อง : ขาดแคลนบทความ ยุติการทำวารสาร แต่ยังมุ่งผลิตหนังสือเล่มและหนังสือชุดต่อไป
เนื่องจากภาวะขาดแคลนต้นฉบับ สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกันจึงขอแจ้งว่าเราจะตีพิมพ์วารสารฟ้าเดียวกันปีที่ 20 ฉบับที่ 2 เป็นเล่มสุดท้าย

นับจากปี 2545 ซึ่งเป็นปีแรกที่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราผลิตวารสารฟ้าเดียวกันจำนวน 56 เล่ม และได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากมิตรรักนักอ่าน ตลอดจนนักวิชาการและบุคคลทั่วไปที่ได้ร่วมส่งบทความมาตีพิมพ์ แม้มีค่าตอบแทนเพียงน้อยนิด

เรารู้สึกได้รับเกียรติและซาบซึ้งในน้ำจิตน้ำใจของทุกท่าน อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีบทความส่งเข้ามาน้อยลง อาจเนื่องจากสื่อ social media ที่ทำหน้าที่ได้รวดเร็วกว่า หรือวารสารของมหาวิทยาลัยที่ทำหน้าที่นี้ได้ดีขึ้น จึงเป็นเรื่องยากที่เราจะตีพิมพ์วารสารที่มีคุณภาพในแบบที่เราเองพอใจต่อไปได้

ในส่วนของวารสารฟ้าเดียวกันนั้น แม้จะยุติจากการเป็นวารสารที่ออกตามระยะเวลา แต่ถ้ามีสถานการณ์ที่เราเห็นว่าจำเป็นต้องออกฉบับพิเศษ ดังที่เราเคยทำหนังสือ รัฐประหาร 19 กันยา: รัฐประหารเพื่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นปฏิกิริยาต่อการรัฐประหาร 19 กันยา 2549 ที่ผลักดันให้เราทำหนังสือที่ “ไม่เป็นกลาง นำเสนอด้านเดียว รวมทั้งใช้อัตวิสัยของการไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารเป็นธงนำ”

การยุติการตีพิมพ์วารสารไม่ได้หมายความว่าสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกันจะปิดตัวลง (อย่างที่อาจมีผู้ตั้งตารอ) เรายังมุ่งมั่นทำหนังสือเล่ม/หนังสือชุด อีกจำนวนมาก ที่คาดว่าจะถูกใจผู้อ่าน

เพจบีทีเอสขอร้อง อย่าสะบัดผม! แนะ ระมัดระวังปลายผมขณะผู้โดยสารแน่น

เมื่อวันที่ (20 มิ.ย.65) เพจเฟซบุ๊ก รถไฟฟ้าบีทีเอส โพสต์ข้อความระบุว่า...

ร่วมสร้างสังคมดี มีน้ำใจในการเดินทาง...ระมัดระวังปลายผม (ขณะมีผู้โดยสารหนาแน่น)

แอดมินได้รับข้อความจากผู้โดยสารหลายท่าน และฝากมาที่คอมเมนต์เพจรถไฟฟ้าบีทีเอส กรณีผู้ที่มีผมยาว หรือผู้โดยสารที่มัดผมหางม้า ขณะอยู่ในขบวนรถไฟฟ้าที่มีผู้โดยสารหนาแน่น อาจจะเผลอสะบัดผมไปมา ทำให้โดนหน้าผู้โดยสารท่านอื่นโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ จึงฝากประชาสัมพันธ์ผ่านทางหน้าเพจครับ

ขอความกรุณาผู้โดยสารที่มีผมยาว ระมัดระวังปลายผมของท่านขณะหันหน้าซ้ายขวา ทั้งขณะนั่ง-ยืน เนื่องจากผมอาจสะบัดโดนหน้า ไหล่ หรือเข้าตา/ปาก ของผู้อื่นได้

'อัษฎางค์' ไขปมเยาวชนทะลุแก๊สพกระเบิดเพลิง อะไรคือเสรีภาพ? อะไรคือการละเมิดสิทธิผู้อื่น?

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กถึงการจับกุมเยาวชนที่พกระเบิดเพลิงเตรียมเข้าร่วมกับม็อบทะลุแก๊สว่า ...
“คนไทยทุกคนมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ”

ตำรวจนครบาลจับ 2 เยาวชน พกอุปกรณ์ครบมือ กำลังประกอบระเบิดเพลิง โดยการบรรจุระเบิดเพลิงใส่ขวด พร้อมของกลางหลายรายการ อาทิ เช่น ขวดแก้ว  น้ำมันก๊าด น้ำมันเบนซิน กระป๋องฉีดสี และมีด 1 ด้าม 

เพื่อเตรียมปาใส่ตำรวจควบคุมฝูงชน ที่ตั้งแนวรักษาความสงบ เนื่องจากรู้สึกโกรธแค้นที่ตำรวจจับกุมตัวแก๊งทะลุแก๊สและแนวร่วมไปแล้ว 10 กว่าราย ซ้ำยังไม่ได้รับการประกันตัว

เยาวชนทั้ง 2 คน มีอายุ 18 ปีและกำลังศึกษาอยู่ในสถาบันอาชีวะ ถึงแม้จะยังเป็นเด็ก แต่อายุไม่น้อยแล้ว แถมเป็นผู้มีการศึกษา แต่กลับแยกแยะไม่ออกระหว่าง ศัตรูคู่อริ กับเจ้าหน้าที่ของบ้านเมือง ซึ่งต้องปฏิบัติตามหน้าที่

ตำรวจ คือเจ้าหน้าที่ของรัฐ  มีหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวน ป้องกันปราบปราม ตรวจตรา รักษาความสงบ จับกุม รวมถึงบังคับใช้กฎหมาย เพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรม โดยมีอำนาจหน้าที่โดยชอบตามกฎหมาย เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 

ตำรวจควบคุมฝูงชน  เป็นหน่วยเฉพาะทางของตำรวจที่ถูกฝึกฝนมาเพื่อปฏิบัติการในการควบคุมสถานการณ์ที่มีความรุนแรงเกินกว่าตำรวจท้องที่ 

ภารกิจในการต่อต้านความไม่สงบ การจัดการเหตุฉุกเฉินและภารกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน นั้นอยู่ในขอบเขตอำนาจการปฏิบัติการของตำรวจ

'ปิยบุตร' เปิด 8 ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ หลังถูกแจ้งความดำเนินคดีผิด ม.112

(21 มิ.ย.2565) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล หัวข้อ เปิด 8 โพสต์ปิยบุตร ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ถูกแจ้งความดำเนินคดีผิด ม.112

ในช่วงปี 2564 สถานการณ์การเมืองเข้มข้น การแสดงออกของม็อบเยาวชนและข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์กำลังเป็นไปอย่างดุเดือดแหลมคม มีการสลายการชุมนุมอย่างรุนแรง มีผู้ถูกจับกุมดำเนินคดีจำนวนมากจากการแสดงออกถึงสถาบันกษัตริย์

ผมเองอยากให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ต้องเปิดพื้นที่พูดคุยกันได้อย่างปลอดภัย เอาใจเขามาใส่ใจเรา พูดคุยกันด้วยเหตุผลและวุฒิภาวะ ผมจึงประมวลข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เพื่อให้อยู่คู่กับสังคมไทยได้ในยุคปัจจุบัน แต่การกระทำของผมเช่นนี้กลับถูกกล่าวหา นำไปสู่การดำเนินคดีตามมาตรา 112

โดยข้อเท็จจริงทั้งหมด ตามนี้:

“เปิดร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 2 พระมหากษัตริย์ เดินหน้าปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ พร้อมแนบเอกสารร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พุทธศักราช….” โพสต์เมื่อ (10 ส.ค.64) https://www.facebook.com/PiyabutrOfficial/posts/3076450455972150

2.“ข้อเรียกร้องแห่งยุคสมัย ทำไมต้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” โพสต์เมื่อ (17 ส.ค. 64) https://www.facebook.com/PiyabutrOfficial/photos/a.2260389780911559/3081844162099446/ 

3.“กษัตริย์กับนายกรัฐมนตรี ใครมีอำนาจแต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่งกันแน่?” โพสต์เมื่อ (17 ก.ย. 64) https://www.facebook.com/PiyabutrOfficial/photos/a.2260389780911559/3105582616392267/

4.ข้อความทวิตเตอร์กล่าวว่า “ในสังคมหนึ่ง ความคิดคนแต่ละคนแตกต่างกันมากมาย มีคนรัก คนเฉย ๆ คนไม่ชอบ ถึงบังคับยังไงก็ไม่เปลี่ยนความคิดเลย แต่ทำอย่างไรที่เราจะอยู่ในสังคมเดียวกันได้ เหลือทางเดียวคือเปิดให้มีเสรีภาพในการแสดงออก แล้วอดทนอดกลั้นซึ่งกันและกันต่อความเห็นที่แตกต่าง” https://twitter.com/Piyabutr_FWP/status/1457578245369393154

5.ข้อความทวิตเตอร์กล่าวว่า “ประยุทธ์ตบหัวลูกน้องอ้างว่าทำด้วยความเอ็นดู ดังนั้น ประยุทธ์ก็ยอมให้ลูกพี่ตนเองตบหัวด้วยความเอ็นดูเช่นกัน ปัญหามีอยู่ว่าในสายตาของประยุทธ์ ประชาชนไม่ใช่ลูกพี่ของเขา แล้ว “ลูกพี่” ของเขาคือใคร? ต้องไปดูว่า “ใคร” ที่ตบหัวสั่งประยุทธ์ แล้วเขาไม่หือ ยิ้มรับ และยอมทำตามสั่ง” https://twitter.com/Piyabutr_FWP/status/1443897877030334465

*6.ข้อความทวิตเตอร์กล่าวว่า “สภาพสังคมปัจจุบันนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะอยู่ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราย์จำแลงได้อย่างสันติ แต่การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ กองทัพ ศาล เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่รักษาสถาบันกษัตริย์ไว้อยู่ใต้รัฐธรรมนูญต่างหากที่เป็นไปได้และทำให้ทุกคนอยู่อย่างสันติ #ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” https://twitter.com/Piyabutr_FWP/status/1452124952828678144

สุลต่านรัฐยะโฮร์ สุดทน ขู่ ‘แยกประเทศ’ โวยรบ.มาเลเซียผิดสัญญา-จัดสรรงบไม่เป็นธรรม

สุลต่านอิบราฮิม อิสมาอิล เจ้าผู้ครองรัฐยะโฮร์ในมาเลเซีย เอ่ยเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าอาจพิจารณา “แยกตัว” ออกจากสหพันธรัฐมาเลเซีย โดยทรงกล่าวหารัฐบาลกลางว่า “ผิดสัญญา” และปฏิบัติต่อรัฐที่มั่งคั่งแห่งนี้อย่าง “ไม่เป็นธรรม”

สุลต่านอิบราฮิม ทรงมีพระดำรัสในพิธีเปิดการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งรัฐยะโฮร์ครั้งที่ 15 เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (16 มิ.ย.) โดยระบุว่า “หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ชาวยะโฮร์อาจเรียกร้องให้มีการแยกตัวออกจากมาเลเซีย เพราะบางทียะโฮร์อาจพัฒนาได้ดีกว่านี้ หากเรายืนหยัดด้วยตัวเอง”

“ข้าพเจ้ารู้สึกว่ารัฐยะโฮร์ถูกปฏิบัติเหมือนเป็นแค่ลูกเลี้ยง (stepchild) ทั้ง ๆ ที่เราสร้างรายได้ค้ำจุนเศรษฐกิจของประเทศมากเป็นอันดับต้น ๆ”

สุลต่านอิบราฮิมตรัสว่า รัฐยะโฮร์ของพระองค์ส่งเงินรายได้เข้าคลังของรัฐบาลกลางปีละเกือบ 13,000 ล้านริงกิต แต่กลับได้รับการจัดสรรงบประมาณด้านการพัฒนาจากรัฐบาลเพียงแค่ 4,600 ล้านริงกิตในปีนี้

พระองค์เอ่ยถึงโครงสร้างพื้นฐานของรัฐยะโฮร์ที่เริ่มเก่าแก่ทรุดโทรมและไม่ได้รับงบประมาณดูแลเท่าที่ควร เช่น โรงพยาบาลสุลตานาห์อามีนะห์, โรงพยาบาลสุลต่านอิสมาอีล รวมถึงด่านศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองสุลต่านอิสกันดาร์ (Sultan Iskandar Customs, Immigration and Quarantine (CIQ))


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top