Friday, 25 April 2025
ค้นหา พบ 47655 ที่เกี่ยวข้อง

‘ทิพานัน’ เผย 3 วัน ประชาชนซื้อสลากดิจิทัลกว่า 4.2 ล้านใบ ชี้ราคา 80 บาท รัฐบาลทำได้จริง ‘บิ๊กตู่’ แก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงความคืบหน้ามาตรการ การแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาว่า จากโครงการซื้อสลากดิจิทัล ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเปิดจำหน่าย จำนวน 5 ล้านใบ ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2565 ถึง ณ วันนี้ 4 มิถุนายน 2565 เวลา 15.00 น. ประชาชนเข้ามาซื้อสลากดิจิตอล ที่เปิดขาย ผ่านแพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” แล้วจำนวน 4,233,931 ฉบับ ทั้งนี้ในส่วนของจึดจำหน่ายสลาก 80 บาท ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศเกือบ 300 จุด ก็มีประชาชนซื้อสลากเป็นจำนวนมากเช่นกัน 

“การซื้อขายสลากดิจิทัลผ่านแอปฯเป๋าตัง และจุดจำหน่าย 80 บาทเกือบ 300 จุดทั้วประเทศ ประชาชนตื่นตัวซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงแรกที่ทางคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าจะลดปัญหาการขายสลากเกินราคาได้ดีขึ้น สามารถสร้างกลไกราคาให้กลับมาที่ราคา 80 ได้ในไม่ช้า และเป็นรูปธรรม ทำได้จริง นอกจากนี้ผู้ซื้อยังมีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เชื่อถือได้ ในระบบที่มีรัฐบาลเป็นประกัน” น.ส.ทิพานัน กล่าว

เสกผิวสวย ด้วย ‘สาธิดาเฮิร์บ’ ชาติหน้าไม่รอ ขอสวยชาตินี้

ฮัลโหลลทุกๆ คนขาาาา ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนเลย ชื่อริต้านะคะ วันนี้ก็อาจจะเป็นโพสต์แรกที่ทุกคนจะมารู้จักริต้า ซึ่งบอกเลอะ โดนป้ายยาสะบัดแน่ๆ! 😏

ทุกคนค่ะ อีกหนึ่งเสน่ห์ของคนเราเนี่ย ก็คือผิวของเรา แต่เอ๊ะ! ไม่ได้บอกว่าต้องผิวขาวนะคะ แต่กำลังบอกว่าต้องเป็นผิวที่ดูสุขภาพดีต่างหาก คำถามถัดมา แล้วแบบไหนเรียกว่าผิวดูสุขภาพดี? นั่นคือการที่มีผิวที่ดูใส ไม่หมอง ผิวเรียบ เนียนนุ่มมม🥰

แล้วนี่ "สครับและสบู่สาธิดาเฮิร์บ" ตอบโจทย์ได้ดี แถมริต้าใช้เองด้วย ซึ่งตอนนี้ใช้สบู่หมดไป 20 ก้อนได้ สครับก็จะ 10 กระปุกแล้ว เพราะของเขาดีจริงๆ ใช้ของสมุนไพรทั้งหมด ออร์แกนิก 100% เพราะริต้าเคยลองชิมแล้ว (แต่รสชาติก็…..อื้มม ของใช้อะเนอะ ไม่ใช่ของกิน อย่าหาทำ) 5555 

แบตเตอรี่ Li-ion ขนาด 1 กิกะวัตต์ ต่อยอดอะไรได้บ้าง?

ความหวังสังคมรถไฟฟ้าเด่นชัดขึ้น เมื่อปัจจุบัน บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) บริษัทย่อยในกลุ่มของ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เดินเครื่องผลิตแบตเตอรี่ Li-ion AMITA เป็นที่เรียบร้อย 

โดยในระยะเริ่มต้นสามารถผลิตแบตเตอรี่ ขนาด 1 กิกะวัตต์ หรือ 1,000,000 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถนำมาใช้กับรถโดยสารไฟฟ้า ขนาด 11 เมตร ที่ขับเคลื่อนได้ระยะทางสูงสุด 240 กิโลเมตร ได้ถึง 4,160 คันต่อปีกันเลยทีเดียว 

Carroll Preparatory Primary & Preschool โรงเรียนแนวใหม่แห่งแรกในเอเชีย

Carroll Preparatory Primary & Preschool โรงเรียนแนวใหม่แห่งแรกในเอเชีย มาพร้อมดีไซน์สะดุดตา เต็มไปด้วยสีสัน เป็นโรงเรียนที่จะเปลี่ยนทัศนคติทางการศึกษาให้กับเด็กไทยรุ่นใหม่ 

Carroll Preparatory Primary & Preschool บองมาร์เช่ มาร์เก็ต พาร์ค ได้มีการจัดงานขอบคุณเหล่านักลงทุนและเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2565 โดย คุณพนิดา และ คุณจอร์จ แคร์โรลล์ ผู้ก่อตั้งได้กล่าวขอบคุณนักลงทุน โดยส่วนใหญ่เป็นเหล่าคุณพ่อคุณแม่ที่มีแนวคิดอยากจะสร้างโรงเรียนดีๆ ให้กับลูกและมีทัศนคติด้านการศึกษาเหมือนกัน พร้อมกันนั้นยังเปิดพื้นที่การเรียนรู้ ห้องเรียน ให้สื่อมวลชนได้เข้าชม 

“วัยเด็ก ควรเป็นวัยที่เต็มไปด้วยความน่าค้นหาและความสนุก เด็กๆ ของเราอยู่ในบรรยากาศที่เต็มด้วยความสวยงาม ความสดใส สร้างแรงบันดาลใจและจินตนาการ” คุณจอร์จ แคร์โรลล์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งกล่าว 

>> โรงเรียนที่รับนักเรียนทุกรูปแบบ 
“โรงเรียนที่ดี คือ โรงเรียนที่สอนนักเรียนได้ทุกรูปแบบ วิธีการเรียนการสอนที่ดี คือ วิธีที่เด็กทุกคนได้เรียน เราไม่มีการคัดนักเรียน ไม่มีการสอบเข้า ไม่มีการแข่งขัน เราช่วยนักเรียนทุกรูปแบบ มีการจัดการเรียนการสอนที่สร้างมาเพื่อนักเรียนรายบุคคล” คุณพนิดา แคร์โรลล์ กล่าวและว่า “เด็กๆ เรียนรู้ได้ดีในวิธีที่แตกต่างกันไป และมันคือหน้าที่ของเรา ที่จะหาวิธีการเหล่านั้น เราเลือกที่จะรักษาความรักที่จะเรียนรู้ไว้ก่อนอะไรทั้งหมด เพราะเรารู้ดีจากประสบการณ์กว่า 20 ปี ว่าความรัก จะทำให้เด็กๆ เรียนรู้ต่อเรื่อยๆแบบไม่รู้จบ” (ปัจจุบัน แคร์โรลล์ เพรพ มีทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่มีความต้องการการศึกษาพิเศษด้วย)

สำหรับห้องเรียนของที่นี่จะไม่มีโต๊ะเรียน ไม่มีกำแพงสี่ด้าน โดยแคร์โรลล์ เพรพ ได้จัดพื้นที่การเรียนรู้แบบ Open Classroom ไม่ได้แบ่งเป็นห้องๆ ครูจะมองเห็นทะลุทุกจุด เราออกแบบห้องเรียนให้เป็นสัดส่วนด้วยเฟอร์นิเจอร์ ทุกอย่างได้รับการออกแบบอย่างเฉาะเจาะจง เพื่อนำทางให้เด็กๆ เดินเข้าไปเรียนรู้ด้วยตัวเอง นักเรียนมีส่วนในการควบคุมการศึกษาของตัวเอง โดยได้รับการแนะแนวจากคุณครูตั้งแต่เด็ก

การออกแบบห้องเรียนแคร์โรลล์ เพรพ มีจุดหลักเป็นต้นไม้ที่สวยงาม แต่ละตนมีความหมาย มีจุดประสงค์ที่ชัดเจน เช่น ต้นซากุระ จะอยู่บริเวณโซนของ Parents & Baby เป็นสัญลักษณ์ของพ่อแม่ ที่กำลังปล่อยให้ลูกๆได้เติบโต ซึ่งในอาคารมีต้นไม้ถึง 12 ต้น ที่แตกต่างกันไป 

คุณจอร์จ แคร์โรลล์ กล่าว “เราอยากให้เด็กๆ รายล้อมไปด้วยบรรยากาศที่สวยงาม สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ เด็กๆ อยู่โรงเรียนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ถ้าต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ก็ยากที่จะกระตุ้นให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ได้ เราพบว่า การมีห้องเรียน โรงเรียนที่มีบรรยากาศดี ทำให้เด็กๆ ปรับตัวได้เร็ว อยากมาโรงเรียน อยากเรียนรู้” 

>> ครูรุ่นใหม่และสไตล์การสอนเฉพาะตัว แบบแคร์โรลล์ เพรพ 
นอกจากความสวยงามแล้ว สิ่งที่แคร์โรลล์ เพรพ ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก คือ การฝึกสอนคุณครูในโรงเรียนให้ได้มาตรฐานของแคร์โรลล์ เพรพ “เราฝึกสอนครูทุกคนที่จะเข้าทำงานที่นี่ เพราะประสบการณ์จากที่อื่นใช้กับโรงเรียนเราไม่ได้ ครูทุกคนต้องเรียนรู้ทุกอย่างใหม่หมด เวลาเราคัดเลือกคุณครู เราจึงมองหาคนที่ทุ่มเทให้กับผลประโยชน์ของนักเรียน มีความพยายาม ความอดทน และกล้าทำผิดพลาด เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ” การสอนครูใหม่ ไม่ต่างจากการสอนนักเรียน ถ้าเราเลือกครูที่มีความพยายาม มีทักษะการคิด ประยุกต์ใช้ ครูจะสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว

>> Mistake Based Learning สอนให้เด็กเรียนรู้จากความผิดพลาด
“ลูกๆ ของคุณจะทำผิดพลาดที่นี่!” ฟังดูแล้วน่าตกใจ แต่เราเจอเด็กๆและผู้ใหญ่เยอะมากที่กลัวความผิดพลาด ความกลัวนี้จำกัดความสามารถของพวกเขา ไม่กล้าเริ่มสิ่งใหม่ๆ มีความวิตกกังวลสูง เพราะขาดโอกาสที่จะผิดพลาด ประสบการณ์ที่ต้องประสบกับความล้มเหลวแล้วลุกขึ้นใหม่ ในโลกปัจจุบัน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราไม่สามารถหนีความแปลกใหม่ได้ เด็กยุคใหม่จึงต้องคุ้นเคยกับการลองสิ่งใหม่

>> ให้ความสำคัญกับสุขภาพใจ 
"บาดแผลทางใจมองไม่เห็น และคนมักมองข้ามมันไป" คุณพนิดา แคร์โรลล์ กล่าวและว่า "จริงๆแล้วสุขภาพใจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพกายโดยตรง ความแข็งแรงทางใจ ความพอใจและอิ่มเอมใจ ไม่ได้เกิดจากการทำให้ชีวิตเด็กๆ ราบรื่น แต่เกิดจากการได้ประสบปัญหาตามวัยและได้แก้ไขมัน รวมไปถึงการได้ค้นพบสิ่งที่ทำแล้วมีความหมายต่อตัวเองและผู้อื่น และนั่นคือสิ่งที่เราให้เด็กๆ ได้ที่แคร์โรลล์ เพรพ"

ในหลวงรัชกาลที่ 9 "ความทรงจำเมื่อพระองค์จากสยามสู่สวิตเซอร์แลนด์" | THE STATES TIMES STORY เรื่องจริง ฟังเพลิน โดย เจต ณ นคร EP.73

“ถ้าประชาชนไม่ “ทิ้ง” ข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะ “ละทิ้ง” อย่างไรได้”

ความรู้สึกในพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเปรียบดังพันธสัญญาที่พระองค์ทรงให้ไว้กับราษฎร ที่ถ่ายทอดผ่านข้อความในพระราชนิพนธ์ “เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์” ของพระองค์ท่าน ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ในรูปแบบบันทึกประจำวันตั้งแต่เสด็จจากประเทศไทย เพื่อไปทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศสวิทเซอร์แลนด์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2489 ก่อนเสด็จออกเดินทาง 3 วัน จนถึงวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2489

ทรงพรรณนาความรู้สึกของพระองค์ยามจากเมืองไทยด้วยความรักและห่วงใยพสกนิกร และยังได้ทรงบรรยายถึงการเดินทาง โดยจบลงด้วยหน้าที่ที่จะต้องทรงกระทำเพื่อบ้านเมืองต่อไป

และเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า พระองค์ไม่เคยทรงทอดทิ้งประชาชนของพระองค์เลย ตลอดรัชสมัย 70 ปีแห่งการครองราชย์ 

.

.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top