Monday, 30 June 2025
ค้นหา พบ 49099 ที่เกี่ยวข้อง

ตลาดซื้อขายเงินดิจิทัล ส่อแววแข่งเดือด 3 นักลงทุนไทย ‘สมโภชน์ อาหุนัย’ – ‘ปรีชา ไพรภัทรกุล’ – ‘ชัชวาลย์ เจียรวนนท์’ ร่วมลงขั้น เปิดตัว ‘Upbit Thailand’ บริการเทรดคริปโตฯออนไลน์ เปิดฉากอัดโปรโมชั่นหั่นค่าธรรมเนียมจูงใจ หลังก.ล.ต.ไฟเขียวใบอนุญาต

นายพีรเดช ตันเรืองพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัพบิต เอ็กซ์เชนจ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Upbit Thailand เปิดเผยว่า Upbit Thailand ได้เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 64 ที่ผ่านมาหลังจากที่ผ่านการตรวจสอบขั้นตอนสุดท้ายจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมได้รับอนุมัติให้เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว

โดย Upbit Thailand ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายคริปโตเคอเรนซี , ศูนย์ซื้อขายโทเคนดิจิทัล , นายหน้าซื้อขายคริปโตเคอเรนซี และนายหน้าซื้อขายโทเคนดิจิทัล ซึ่งบริษัทฯให้ความมั่นใจระบบการเทรดที่ปลอดภัยและเสถียร อีกทั้งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด 4 ประเภท จะช่วยตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี

“เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นอย่างมากสำหรับการเติบโตของอุตสาหกรรมคริปโตฯ ทั้งในไทยและในระดับโลก ด้วยความเชี่ยวชาญและชื่อเสียงที่ Upbit ได้รับการยอมรับในระดับโลก เราตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์การเทรดที่ดีเยี่ยม เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภายใต้การกำกับดูแลการประกอบธุรกิจในประเทศไทย และความร่วมมือกับผู้ให้บริการระดับโลกจะทำให้เราสามารถนำเสนอบริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความล้ำสมัย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบและกรอบของกฎหมาย”

ทั้งนี้ ผู้ใช้สามารถใช้งาน Upbit Thailand ได้จากทุกแพลตฟอร์ม (เว็บไซต์ PC, Android App และ iOS App) สำหรับแคมเปญเปิดตัว Upbit Thailand เสนอส่วนลดค่าธรรมเนียมแก่ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนในช่วงแรกเหลือเพียง 0% สำหรับ makers และ 0.1% สำหรับ takers โดยใช้ได้กับคำสั่งทุกประเภท

สำหรับ Upbit Thailand เกิดจาการร่วมมือระหว่าง Upbit APAC Pte. Ltd. จากเกาหลีใต้ และนักลงทุนชาวไทยซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่ ประกอบไปด้วย นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA, นายปรีชา ไพรภัทรกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท MOL Global จำกัด และนายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ เจ้าของ Fortune Magazine

ขณะที่ Upbit ก่อตั้งโดย Dunamu Inc. ในปี 2560 ซึ่งถือว่าหนึ่งในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกและใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยวัดจาก volume การเทรด ปัจจุบัน Upbit เปิดให้บริการในประเทศเกาหลีใต้ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย

 

 

‘กูเกิล’ ขู่เลิกฟังก์ชันสืบค้นข้อมูลในออสเตรเลีย หากถูกบีบให้จ่ายค่าคอนเทนท์สื่อ หลังรัฐบาลออสเตรเลีย เสนอร่างกฎหมาย Media Code ให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ จ่ายค่าคอนเทนท์สื่อท้องถิ่น เมื่อเดือนก่อน

บริษัท กูเกิล อิงค์ ประกาศว่า กูเกิลจะยกเลิกฟังก์ชันการสืบค้นข้อมูลในออสเตรเลีย หากรัฐบาลออสเตรเลียบังคับใช้กฎหมาย Media Code ซึ่งเป็นการบีบให้กูเกิลและเฟซบุ๊ก ต้องจ่ายเงินให้กับบรรดาบริษัทสื่อท้องถิ่น เมื่อมีการนำคอนเทนท์ของสื่อเหล่านั้นไปใช้

ขณะนี้ ทางรัฐบาลออสเตรเลียกำลังเร่งอนุมัติกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งจะทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ต่างๆ ต้องเจรจาเรื่องการจ่ายเงินให้กับบรรดาสำนักข่าวและสถานีโทรทัศน์ในท้องถิ่นเมื่อมีการนำคอนเทนท์ของสื่อเหล่านั้นไปใช้

ทั้งนี้ หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ คณะอนุญาโตตุลาการของรัฐบาลออสเตรเลียจะเข้ามาเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับการกำหนดราคา

รัฐบาลออสเตรเลียได้เสนอร่างกฎหมาย Media Code ในเดือนที่แล้ว หลังจากมีการตรวจสอบพบว่า กูเกิลซึ่งเป็นบริษัทลูกของอัลฟาเบท และโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊ก มีอำนาจทางการตลาดมากเกินไปในอุตสาหกรรมสื่อ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจเป็นภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตยที่เป็นไปด้วยดีในออสเตรเลีย

แน่นอนว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกูเกิลครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงข้อพิพาทที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น นับตั้งแต่มีรายงานว่า รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมออกกฎหมายที่จะบังคับให้เฟซบุ๊กและกูเกิลจ่ายค่าคอนเทนต์ข่าวให้กับธุรกิจสื่อ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโลกที่รัฐบาลมีคำสั่งในลักษณะดังกล่าว

‘ศรีสุวรรณ’ เตรียมบุกทำเนียบรัฐบาล ทวงถาม ‘บิ๊กป้อม’ ส่ง ส.ส.-หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ไปตีกินโครงการเจาะบ่อบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์หรือไม่ หลังพบเรียกรับค่าคอมมิสชัน 30% ของมูลค่าโครงการไปแล้ว แต่กลับไม่ได้งานแต่อย่างใด

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯได้รับการร้องเรียนจากผู้รับเหมาหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสาน ว่า มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่ง ส่งทีมงานไปเจรจาชักชวนให้ร่วมรับงานเหมาขุดเจาะบ่อบาดาลในโครงการประปาบาดาลด้วยระบบพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตรในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ และโครงการสนับสนุนสร้างบ่อบาดาลประปาโซล่าเชลล์พลังงานแสงอาทิตย์ ในราคาบ่อละ 500,000 บาท โดยอ้างว่าสามารถดึงโครงการดังกล่าวมาให้ทำได้ เพราะใกล้ชิดกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงการดังกล่าว

ด้วยความเชื่อถือในชื่อเสียงของพล.อ.ประวิตร ผู้รับเหมาต่างๆ จึงได้ร่วมพูดคุยตกลงรับข้อเสนอของทีมงานของ ส.ส.หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลคนดังกล่าวที่ที่ทำการพรรคฯ จ.อำนาจเจริญว่าจะนำงานดังกล่าวมาให้ดำเนินการอย่างน้อย 70 บ่อ แต่มีข้อตกลงว่า เมื่อทำสัญญาว่าจ้างแล้วจะต้องจ่ายค่าคอมมิสชันเป็นเงินสดให้ 30% ของมูลค่างานในโครงการฯ โดยมีการเรียกรับเงินล่วงหน้าไปก่อนจำนวน 450,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.2563 และมีการขอให้โอนเพิ่มเติมอีก 3 งวดรวม 50,000 บาท ซึ่งการโอนเงินดังกล่าวจะเข้าบัญชีธนาคารของทีมงาน ส.ส.หัวหน้าพรรคดังกล่าวโดยตรง

หลังจากนั้น ผู้รับเหมาได้พยายามติดตาม สอบถามถึงงานที่จะต้องดำเนินการ ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด โดยอ้างว่าต้องรอให้หัวหน้าพรรคฯประสานกับพล.อ.ประวิตรในรายละเอียดกันเสียก่อน ส่วนเงินที่รับมาและที่โอนมาให้ได้ส่งต่อไปยังหัวหน้าพรรคฯทั้งหมดเพื่อนำไปเคลียร์กับผู้หลักผู้ใหญ่แล้ว กระทั้งบัดนี้การดำเนินงานดังกล่าวก็ยังไม่มีคำตอบแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าถูกนักการเมือง และคนของนักการเมืองหลอกลวง ต้มตุ๋นเสียแล้ว จึงนำความมาร้องเรียนต่อสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เพื่อประสานงานเรียกร้องขอความเป็นธรรม และดำเนินการทางกฎหมายให้

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจะนำความดังกล่าว ไปสอบถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีว่าได้มอบหมายให้หัวหน้าพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลรายดังกล่าวไปวิ่งเต้นเจรจาชักชวนให้ผู้รับเหมาในแต่ละจังหวัดมารับงานโครงการดังกล่าวแบบลับ ๆ หรือไม่ หากใช่ มีการเปิดประมูลกันตามกฎหมายหรือไม่ หากไม่ใช่จะได้ดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายต่อหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลดังกล่าว พร้อมทีมงานทุกคนอย่างไร โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องสอบถามในวันจันทร์ที่ 25 ม.ค.64 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ทำเนียบรัฐบาล

‘บิ๊กตู่’ ไฟเขียว เอกชนนำเข้าวัคซีนโควิด-19 แต่ต้องขึ้นทะเบียนกับ อย. ให้ถูกต้องก่อน ชี้ต้องผ่านเกณฑ์ 3 ด้าน ‘คุณภาพ -ความปลอดภัย – ประสิทธิผล’ เล็งระดมผู้เชี่ยวชาญร่วมพิจารณา เพื่ออนุมัติวัคซีนเร็วที่สุด

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายให้เอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ได้ โดยขอให้ยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนวัคซีนกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ถูกต้อง

ทั้งนี้ อย. จะพิจารณาตรวจสอบวัคซีนที่จะขอนำเข้ามาใช้ในประเทศไทย ซึ่งจะต้องได้รับการประเมินก่อนนำไปใช้จริง โดยทาง อย.จะประเมินทั้งในด้านคุณภาพ ด้านความปลอดภัย และด้านประสิทธิผลของวัคซีน ว่าเหมาะสมกับคนไทย โดยผู้ที่ต้องการขึ้นทะเบียนจะต้องแสดงข้อมูลเอกสารหลักฐานเพื่อประเมินคุณสมบัติของวัคซีนทั้ง 3 ด้านดังกล่าว

นายอนุชา กล่าวว่า โดย อย. ได้ปรับการทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 อย่างเต็มที่ ด้วยการระดมเพิ่มผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและภายนอกมาร่วมพิจารณา เพื่อให้สามารถอนุมัติวัคซีนได้โดยเร็วที่สุด แต่ยังคงไม่สามารถผ่อนคลายกฎเกณฑ์หรือลดหย่อนการกำกับดูแล เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของประชาชน

“การจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 นี้ ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ภายใต้สถานการณ์ที่มีความต้องการใช้สูงทั่วโลก อีกทั้งวัคซีนที่มีอยู่ เพิ่งเสร็จจากงานวิจัยเข้าสู่กระบวนการผลิตของแต่ละบริษัท ดังนั้น การนำเข้าวัคซีนต้องมั่นใจว่าเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย มีคุณภาพมาตรฐาน และมีประสิทธิผล เนื่องจากวัคซีนที่ อย. รับขึ้นทะเบียนเป็นวัคซีนที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ที่จะต้องมีระบบการกำกับติดตาม เฝ้าระวังความปลอดภัยจากการใช้อย่างต่อเนื่อง” นายอนุชา กล่าว

'อนุทิน' เมินเปิดเผยสัญญาแอสตร้าเซนเนกา กับ สยามไบโอไซเอนซ์ เพราะเป็นเรื่องระหว่างเอกชนกับเอกชน นอกเหนืออำนาจรัฐ อัด ข้อมูล 'ธนาธร' บิดเบือน ไร้ความจริง พร้อมยืนยันไม่หวั่นถูกซักฟอกปมโควิด เชื่อเป็นโอกาสดีได้ชี้แจง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงข้อกล่าวหาการจัดซื้อวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยยืนยัน การดำเนินการไม่ได้ล่าช้ากว่าประเทศอื่น แต่ต้องยึดหลักความปลอดภัย และคุณภาพของวัคซีน ซึ่งการจัดซื้อมีขั้นตอน ไม่ใช่สั่งซื้อแล้วจะได้ของทันที อีกทั้งการจัดซื้อวัคซีนยังติดเงื่อนไขของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดซื้อจัดจ้าง ที่การจ่ายเงินซื้อจะต้องมีสินค้าอยู่จริงซึ่งแตกต่างกับบางประเทศที่ยอมเสี่ยงจ่ายเงินไปก่อน โดยยังไม่ทราบว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะหากเกิดความเสียหายเงินที่จ่ายไปก็จะสูญเปล่า

ส่วนกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เรียกร้องให้เปิดสัญญาการจัดซื้อวัคซีน ที่ทำกับบริษัท แอสตร้าเซนเนกา จำกัด กับ สยามไบโอไซเอนซ์ นั้น เห็นว่า ไม่สามารถทำได้เนื่องจากคู่สัญญาเป็นเอกชนทั้งคู่ และอยู่เหนือการควบคุมของรัฐ ยืนยันไม่ใช่วัคซีนผูกขาด เพราะมีการเจรจาซื้อหลายบริษัท ซึ่งเรื่องวัคซีนคนที่รู้ดีที่สุดคือหมอและ คณะกรรมการวิชาการที่ตั้งขึ้นมาศึกษาการใช้วัคซีนโดยเฉพาะ รัฐมนตรีมีหน้าที่เห็นชอบตามที่คณะกรรมการวิชาการเสนอเรื่องมา ซึ่งข้อมูลที่นายธนาธรนำมาเปิดเผยปราศจากข้อเท็จจริง

นายอนุทิน ยังเปิดเผยถึงกรณีที่ไม่มีบริษัทผลิตวัคซีนอื่นมาขอจดทะเบียนกับองค์การอาหารและยา (อย.) ไทย ว่า เราไม่ได้ปิดกั้นแต่ การจดทะเบียนช่วงนี้การใช้ตามสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ อียูเอ ไม่ใช่การจดทะเบียนเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ พร้อมย้ำถึงนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่เพียงกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น

พร้อมกันนี้ นายอนุทิน ยังได้กล่าวถึงกระแสข่าวมีชื่อถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ยืนยันไม่รู้สึกกังวลใจ เพราะเป็นเรื่องปกติที่สถานการณ์โควิด - 19 จะต้องมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าไปอยู่ในโผรายชื่อที่จะถูกอภิปราย แต่เห็นว่าเป็นเรื่องดีที่จะได้มีโอกาสชี้แจง และบางประเด็นอาจช่วยเสริมคำชี้แจงของรัฐบาลได้ด้วย

ส่วนแนวทางการโหวตของพรรคภูมิใจไทย หากฝ่ายค้านหยิบยกประเด็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวขึ้นมาอภิปราย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งแนวทางของพรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นด้วยกับการต่อสัญญาสัมปทาน30 ปี ซึ่งตรงกันกับฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า โครงการนี้ ยังไม่ได้ถูกผลักดันเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงยังไม่มีการดำเนินการใดๆเกิดขึ้น จึงมองว่าไม่ใช่ประเด็นที่จะนำมาสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจได้

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top