Sunday, 29 June 2025
ค้นหา พบ 49099 ที่เกี่ยวข้อง

24 มกราคม พ.ศ. 2543 เกิดเหตุระทึกขวัญ กองกำลังก๊อดอาร์มี่ บุกยึดศูนย์โรงพยาบาลราชบุรี จับแพทย์ พยาบาล และผู้ป่วยเป็นตัวประกันนับพันคน เหตุการณ์ตรึงเครียดกว่า 20 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะยุติเรื่องราวลงได้

วันนี้เมื่อ 21 ปีก่อน เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญ เรียกว่าเป็นข่าวใหญ่ที่ประชาชนคนไทยต่างติดตามกันทั้งประเทศ เมื่อมีรายงานข่าวด่วนว่า มีกองกำลังก๊อดอาร์มี่ จำนวน 10 คน ได้ก่อเหตุบุกยึดโรงพยาบาลที่จังหวัดราชบุรี

สืบย้อนกลับไปก่อนเกิดเหตุการณ์หนนี้ กองกำลังทหารกะเหรี่ยงกลุ่มนี้ เคยเข้าบุกยึดสถานทูตพม่ามาครั้งหนึ่งแล้ว ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำสอง แต่คราวนี้มีเป้าหมายที่โรงพยาบาล โดยกลุ่มผู้ก่อการทั้งหมดปลอมตัวเป็นผู้โดยสารนั่งรถประจำทางสายสวนผึ้ง-ราชบุรี แล้วใช้ปืนเอ็ม-16 จี้คนขับให้ไปยังโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี ก่อนที่จะทำการบุกยึดโรงพยาบาล จับแพทย์ พยาบาล และผู้ป่วยพับพันชีวิตเป็นตัวประกัน

กลุ่มผู้ก่อเหตุยังได้วางระเบิดเอาไว้หลายจุด โดยเป็นทางเจ้าหน้าที่ของไทย พยายามเจรจาช่วยเหลือตัวประกัน และต่อมาก็ได้รู้ความต้องการของกลุ่มผู้ก่อเหตุว่า ต้องการนำตัวแพทย์ และพยาบาล ไปรักษาทหารกะเหรี่ยงที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทหารรัฐบาลพม่าปราบปรามอย่างหนัก

เวลาผ่านไปกว่า 20 ชั่วโมง กลุ่มก๊อดอาร์มี่ได้ร้องขอเครื่องมือสื่อสารและเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ เพื่อให้พากลับไปส่งยังชายแดน ที่อำเภอสวนผึ้ง เจ้าหน้าที่พยายามต่อรองเพื่อถ่วงเวลาให้ผู้ก่อเหตุอ่อนล้า กระทั่งเวลา 04.00 น. กองกำลังผสมของเจ้าหน้าที่จำนวนกว่า 50 นาย ได้บุกเข้าช่วยเหลือตัวประกัน ควบคู่ไปกับการจัดการขั้นเด็ดขาด โดยใช้เวลาเพียงไม่ถึง 20 นาที สามารถช่วยเหลือตัวประกันไว้ได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด เสียชีวิตทั้ง 10 คน

นับเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ระทึกขวัญและมีประชาชนติดตามตลอดข้ามคืนข้ามวัน ก่อนที่สถานการณ์ทุกอย่างจะคลี่คลาย ซึ่งต่อมากลุ่มกองกำลังก๊อดอาร์มี่ที่เหลือเพิ่มเติม ได้เข้ามอบตัวต่อทางการไทย ก่อนจะถูกส่งตัวไปยังค่ายผู้อพยพและดำเนินตามขั้นตอนหลักสากลต่อไป

‘โฆษกเพื่อไทย’ เปรียบ ‘บิ๊กตู่’ อยู่ 7 ปี ประสิทธิภาพการทำงานต่ำกว่า ‘ไบเดน’ ที่ทำงาน 1 วัน เชื่อหากวิสัยทัศน์ผู้นำไม่มี ประเทศไทยจะพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศยากจน

นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า ภายหลังการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโจ ไบเดน เพียงในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง นายไบเดนได้เซ็นคำสั่งพิเศษ 10 ฉบับ เพื่อรับมือกับการจัดการโรคโควิด-19 โดยให้ความสำคัญเร่งด่วนเทียบเท่ากับแผนรับมือสถานการณ์ในภาวะสงคราม

สิ่งที่ไบเดนให้ความสำคัญเป็นอย่างแรกคือการเร่งหาวัคซีน และการเยียวยาความเดือดร้อนให้ประชากรในประเทศ  ในขณะที่ประเทศไทยซึ่งติดเชื้อโควิดครบรอบ 1 ปี  สิ่งที่ได้เห็นจากรัฐบาลคือการตั้งคณะทำงานเกือบ 10 ชุด สวนทางกับคณะทำงานแก้ปัญหาโรคโควิด-19 ระดับโลกจะมอบอำนาจให้ผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุขดูแล

แต่ของไทยทำงานข้ามหัวรัฐมนตรี ไปรายงานและขออนุมัติโดยตรงที่พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งผูกขาดคำสั่งการไว้เพียงผู้เดียวในฐานะหัวหน้า ศบค. ซ้ำยังปล่อยให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงซึ่งเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดระลอก 2 มาควบคุมสถานการณ์และออกมาตรการ โครงสร้างแบบนี้ต่อให้มีนายกรัฐมนตรีเป็นร้อยคนก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ 

นอกจากนี้ในด้านแก้ปัญหาเศรษฐกิจยังล้มเหลว  เวลานี้ธนาคารพาณิชย์ทยอยประกาศผลประกอบการ เกือบทุกแห่ง 'กำไรลดลง'​ แต่แบงค์ยังคงมีกำไรเพียงแค่ลดลงจากที่เคยได้  แต่ประชาชนและเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นลูกค้าของธนาคารกำลังจะอดตาย พล.อ. ประยุทธ์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจทำอะไรได้บ้างนอกจากให้กู้ ขณะที่นายไบเดนประกาศพักหนี้-ดอกเบี้ย 3 เดือน  ทั้งหมดอยู่ที่วิสัยทัศน์ของผู้นำที่มองประชาชนเป็นนาย ไม่ใช่ผู้รับใช้

"ผู้นำไทยด้อยความสามารถ ทำทุกอย่างสวนทางผู้นำโลก หากยังคงทำหน้าที่ต่อไปประเทศไทยจะหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ไปสู่ประเทศยากจนอย่างเต็มตัว แล้วอาจจะกลายเป็นประเทศด้อยพัฒนาในที่สุด" นางสาวอรุณี กล่าว

‘ทิพานัน’ อบรมโฆษกเพื่อไทย อย่านั่งเทียนมโนดิสเครดิต ‘บิ๊กตู่’ ยันนายกฯไม่รวบอำนาจศบค.- มีรมต. ทุกกระทรวง และรับฟังรอบด้าน ชี้แนวโน้มรัฐบาลคุมโควิดดีขึ้น ยันไทยไม่กลายเป็นประเทศยากจน

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย วิจารณ์การทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่าผูกขาดคำสั่งการใน ศบค.ไว้เพียงผู้เดียวว่า

เป็นการแสดงความเห็นของนักการเมือง ควรอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล ข้อเท็จจริง ไม่ใช่การมโน เนื่องจากโครงสร้างของศบค.นั้น มีรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงร่วมอยู่ด้วย จะผูกขาดได้อย่างไร ที่สำคัญ ศบค. ยังกระจายอำนาจในการตัดสินใจ จากประกาศคำสั่งนายกรัฐมตรี 39/2563 ได้มีการปรับปรุงเพิ่มศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย ที่มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นหัวหน้าศูนย์ เพื่อช่วยในการบริหารจัดการ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดควบคุมพื้นที่จังหวัดของตัวเอง มีอำนาจสั่งการต่างๆในพื้นที่คล่องตัวขึ้น

จะเห็นได้ว่า การดำรงตำแหน่ง ผอ.ศบค.ของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นไปเพื่อความคล่องตัว เนื่องจากนายกฯมีอำนาจสูงสุด สามารถตัดสินใจในเรื่องเร่งด่วน ฉุกเฉินได้ ซึ่งเป็นผลดีกับคนทำงาน ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี โดยจะเห็นว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เริ่มทรงตัว ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ในระดับ 300 กว่ารายบวกลบ จึงมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เห็นได้จากการที่กรุงเทพมหานคร เริ่มผ่อนปรนมาตรการใน 13 กิจการและกิจกรรมแล้ว

"โฆษกพรรคเพื่อไทยจึงไม่ควรนั่งเทียนมโนสร้างข่าวเพื่อดิสเครดิตพล.อ.ประยุทธ์อย่างไม่ตรวจสอบข้อมูล หรือเห็นว่าแนวโน้มการจัดการโควิดเริ่มดีขึ้น จึงกังวลว่า จะถูกประชาชนลืม อาจต้องสร้างข่าวขึ้นมา การจะทำให้ประชาชนจดจำ คือผลงานที่ทำ นักการเมืองควรทุ่มเทให้ความช่วยเหลือประชาชนมากกว่า ใช้วาทะกรรมป้ายสี" น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การทำงานที่ผ่านมาของพล.อ.ประยุทธ์ ยังรับฟังความเห็นรอบด้าน เห็นได้จากการรับฟังข้อเรียกร้องของสมาคมภัตตาคารไทย ซึ่งเป็นการสร้างสมดุลระหว่างมาตรการที่เข้มข้นกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ประกอบกับมาตรการในการช่วยเหลือต่างๆ กำลังเข้ามาเสริมสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจไทย

ไม่ว่าจะเป็นมาตรการพักชำระหนี้ การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการพักชำระหนี้เงินต้น และดอกเบี้ย เงินกู้ลูกค้า ที่ได้รับผลกระทบ โครงการ "ชำระดีมีคืน" และการลดภาระหนี้สำหรับลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อีกทั้งโครงการ "เราชนะ" ที่จะให้ความช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน 3,500 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 2 เดือนคือ มกราคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งเมื่อเม็ดเงินกระจายลงไปก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนไปได้ นี่คือข้อมูลเบื้องต้น ที่โฆษกพรรคเพื่อไทยควรหาข้อมูลก่อนวิจารณ์

"เราไม่ไปสู่ประเทศที่ยากจนอย่างที่โฆษกพรรคเพื่อไทยกังวลอย่างแน่นอน ขนาดเราต้องสูญเสียงบประมาณไปมหาศาลหลายแสนล้านกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ประเทศไทยเรายังแข็งแกร่ง และประเทศไทยเราไม่จำเป็นต้องเดินตามชาติใด เพราะเราเคยชนะสงครามโควิดมาแล้วในรอบแรก จนเป็นตัวอย่างให้ประเทศทั่วโลกให้การยอมรับ และเชื่อมั่นว่าเราจะชนะอีกรอบ "น.ส.ทิพานัน กล่าว

วาระการออมแห่งชาติเดินหน้าฉลุย นายกชื่นชมทุกฝ่ายร่วมมือ ยอดสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ แตะ 2.4 ล้านคน พบอาชีพเกษตรสนใจสมัครสูงสุด

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้การออมเป็นวาระแห่งชาติ ผนวกกับเป้าหมายร้อยละ60 ของประชากรวัยทำงานเตรียมความพร้อมทางการเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณ การส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมอย่างเป็นระบบตั้งแต่ในวัยเยาว์ และในกลุ่มผู้มีอาชีพอิสระจึงเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ติดตามการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง และได้ชื่นชมผลงานการขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าว เพราะประสบความสำเร็จอย่างมาก

ทั้งนี้ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ได้เป็นหน่วยงานหลักที่ส่งเสริมการออมในกลุ่มผู้ฝากรายย่อย โดยรัฐออกเงินสมทบ 50%-100% ตามจำนวนเงินฝากและช่วงอายุของสมาชิก เริ่มออมตั้งแต่ 50 บาทต่อเดือน จำนวนสมาชิกกอช.นับจากปี 59 จนถึงสิ้นปี 63 มีเพิ่มขึ้นอย่างมาก จาก 4 แสนคน เป็นมากกว่า 2.4 ล้านคน อาชีพที่สนใจสมัครสูงสุดคือ อาชีพเกษตร 48% ผู้ประกอบอาชีพอิสระ 31% อาชีพค้าขาย 6%

นอกจากจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการทำงานร่วมกับหน่วยงานระดับท้องถิ่น ในการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถสมัครสมาชิกได้ที่อำเภอ คลังจังหวัด สถาบันการเงินชุมชน ตัวแทน กอช.ประจำหมู่บ้าน ทางกอช.ยังจับมือกับธนาคารออมสินทำสมุดเงินออมให้กับสมาชิก เพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องการอัพเดทความเคลื่อนไหวของเงินออม ซึ่งสมาชิกสามารถติดต่อขอรับสมุดเงินออมสะสม (Passbook) ได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ

มากไปกว่านั้น สำหรับกลุ่มเป้าหมายเยาวชนเพื่อสร้างนิสัยการออมและรู้จักวางแผนการเงินตั้งแต่วัยเรียน กอช.ได้ลงนามความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งขณะนี้ ได้นำร่องกับโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้ว จำนวน 119 โรงเรียน และมีนักเรียนนักศึกษาเป็นสมาชิก ร้อยละ 6 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ทั้งนี้ เมื่อจบการศึกษาแล้วนักเรียนสามารถออมเงินต่อได้ และสามารถนำเงินออมไปลดหย่อนภาษีได้เมื่อเข้าทำงาน

นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า การแพร่ระบาดของโควิด19 ทำให้เราตระหนักว่าการมีเงินออมไว้ใช้ยามฉุกเฉินเป็นเรื่องจำเป็นมาก การสร้างนิสัยการออมและการมีทักษะการวางแผนการเงินจึงเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีให้ความใส่ใจ และอยากให้ประชาชนมีพื้นฐานที่ดีในเรื่องนี้ มากไปกว่านั้น สำหรับสมาชิกกอช. ที่ในช่วงนี้ไม่สามารถส่งเงินออมอย่างต่อเนื่องได้ ทางกอช.ได้ยืนยันว่า สิทธิในการเป็นสมาชิกยังคงสภาพเดิม อย่างไรก็ตาม ควรส่งเงินออมสะสมอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี เพื่อรับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐ ตามช่วงอายุของสมาชิก

‘นายกรัฐมนตรี’ รับทราบข้อมูลประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสเรื่องแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย บ่อนการพนัน และกิจกรรมใดๆ ที่จะสุ่มเสี่ยงให้เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ผ่าน 1111 ทั้ง 5 ช่องทางแล้ว เป็นจำนวน 237 เรื่อง

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับทราบข้อมูลที่ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส เรื่องแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย บ่อนการพนัน และกิจกรรมใดๆ ที่จะสุ่มเสี่ยงให้เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ผ่าน 1111 ทั้ง 5 ช่องทางแล้วเป็นจำนวนถึง 237 เรื่อง

ทั้งนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รายงานการรับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือปล่อยปละละเว้นการกระทำผิดกฎหมาย บ่อน ค้าประเวณี แรงงานผิดกฎหมาย รวมทั้งเรื่องราวร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ สอบถามข้อมูล เสนอความคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโควิด-19 ผ่านทั้ง 5 ช่องทาง 1111 ได้แก่

1) สายด่วน 1111

2) ตู้ ปณ. 1111 ทำเนียบรัฐบาล

3) เว็บไซต์ www.1111.go.th

4) แอปพลเคชัน PSC1111

5 ) จุดบริการประชาชน 1111 ทำเนียบรัฐบาล

ตั้งแต่วันที่ 7 -22 มกราคม 2564 จำนวน 32,245 เรื่อง แบ่งเป็นเบาะแสแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย 25 เรื่อง เบาะแสบ่อนการพนัน 132 เรื่อง เบาะแสการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ฯ 80 เรื่อง ส่วนอีกจำนวน 32,008 เรื่องนั้น เป็นการที่ประชาชนได้แจ้งเรื่องร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ รวมถึงสอบถามข้อมูล เสนอความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะทั่วไปเกี่ยวกับโควิด-19

โดยขอให้ประชาชนผู้ให้ข้อมูล/แจ้งเบาะแส วางใจและมั่นใจว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส โดยจะปกปิดชื่อผู้แจ้ง กำหนดเป็นเรื่องลับ ไม่ให้ผู้แจ้งต้องได้รับภัยจากการแจ้งเบาะแสหรือการให้ข้อมูล

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังเน้นถึงประสิทธิภาพกระบวนการส่งข้อมูลเบาะแส โดยให้แจ้งข้อมูลและเบาะแสการเข้าเมืองผิดกฎหมาย แรงงานผิดกฎหมาย ไปยังคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีการเข้าเมืองผิดกฎหมายเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ส่วนข้อมูลและเบาะแสเกี่ยวกับบ่อนการพนันให้แจ้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในส่วนข้อมูลการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 9 พ.ร.บ. ฉุกเฉินฯ จะส่งไปยังส่วนศูนย์ปฏิบัติการด้านความมั่นคง (ศปม.) ซึ่งมีกองบัญชาการทหารสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยปฏิบัติ รวมทั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย ซึ่งทั้งหมดนี้ให้รายงานผลการดำเนินงานให้นายกรัฐมนตรีทราบในทุกระยะด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top