Saturday, 28 June 2025
ค้นหา พบ 49086 ที่เกี่ยวข้อง

ทันทีที่ ‘กลุ่มไทยภักดี’ ของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ได้จัดตั้งพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ก็ได้โพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณี ‘กลุ่มไทยภักดี’ ตั้งพรรคการเมืองทันที

“การตั้งพรรคโดยชูเรื่องปกป้องสถาบันกษัตริย์ ไม่ว่าหวังดีต่อสถาบันฯ หรืออ้างเพื่อทำลายผู้อื่น แต่ทั้งหมด คือ การนำสถาบันฯ เข้ามาอยู่ใน ‘แดนทางการเมือง’ หากประชาชนเลือกพรรคนั้นน้อย จะหมายความอย่างไร?

การปกป้องสถาบันฯ ที่ถูก ต้องช่วยกันรักษาสถานะความเป็นกลางทางการเมืองของสถาบันฯ”

หลังจากข้อความจากนายปิยบุตรถูกโพสต์ขึ้นได้ไม่นาน ด้าน ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ‘ดร.นิว’ นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความบนฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan สวนกลับสิ่งที่นายปิยบุตรได้ดึงสถาบันฯ เข้ามาเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวโดยทันที...

#เมื่อไหร่ปิยบุตรจะหยุดบิดเบือน

คนรกโลกและหนักแผ่นดินอย่างนายปิยบุตร ไม่ทำอะไรนอกจากบิดเบือนโจมตีให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ และคอยยุยงปลุกปั่นเพื่อปลุกม็อบล้มเจ้า ยัดเยียดความแตกแยกให้คนไทยทะเลาะกันเอง บั่นทอนความมั่นคงของประเทศชาติให้ระส่ำระสายไปวันๆ

สถาบันพระมหากษัตริย์ในต่างประเทศมีบทบาทในการบริหารราชการแผ่นดินมากกว่าประเทศไทยเสียอีก แต่นายปิยบุตรกลับไม่เคยพูดถึงเลยแม้แต่นิดเดียว

พระมหากษัตริย์ไทยเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญซึ่งไม่ได้มีพระราชอำนาจ (Royal prerogative) อย่างที่มีปรากฏในรัฐธรรมนูญของประเทศอื่นๆ ทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษรและไม่เป็นลายลักษณ์อักษร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชอำนาจในการพระราชทานการแนะนำ, การส่งเสริม และการตักเตือนแก่รัฐบาล ซึ่งตามรูปแบบปกติโดยทั่วไป นายกรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีจะต้องเข้าเฝ้าฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายรายงานการทำงาน และรับฟังคำปรึกษาแนะนำจากพระมหากษัตริย์เป็นประจำ (อังกฤษ, เบลเยียม, นอร์เวย์, เนเธอร์แลนด์, สวีเดน, เดนมาร์ก, สเปน)

โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศนอร์เวย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศประชาธิปไตยอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีจะต้องเข้าเฝ้าฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายรายงานการทำงาน และรับฟังคำปรึกษาแนะนำจากพระมหากษัตริย์นอร์เวย์รวมถึงองค์รัชทายาทเป็นประจำทุกสัปดาห์ แต่คนไทยกลับไม่เคยเห็นภาพอะไรแบบนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย อีกทั้งพระราชอำนาจและบทบาทสำคัญแบบนี้มักถูกบิดเบือนใส่ร้ายให้ดูเป็นเรื่องที่ผิดปกติและไม่เหมาะสมเสียด้วย ทั้งหมดเป็นเพราะลัทธิรัฐธรรมนูญตั้งแต่คณะราษฎรในอดีตเรื่อยมาจนถึงนายปิยบุตรในปัจจุบัน คอยยัดเยียดชุดความคิดบิดเบือน บั่นทอนความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ ลิดรอนพระราชอำนาจและบทบาทอันพึงมีตามปกติของพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

สถาบันพระมหากษัตริย์ในต่างประเทศเขาก็มีรายได้และธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป สถาบันพระมหากษัตริย์เกือบทุกประเทศในโลกมีธุรกิจเป็นของตัวเองแทบทั้งสิ้น แล้วการที่สถาบันพระมหากษัตริย์ในแต่ละประเทศร่ำรวยไม่เท่ากันก็เป็นเพราะภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และพระราชวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกัน ในแง่นี้สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยดูเหมือนจะมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างออกไป นั่นก็คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ช่วยเหลือประชาชน คอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขและอยู่เคียงข้างประชาชนมาโดยตลอด แต่ด้วยเจตนาอันโสมมของนายปิยบุตร นายปิยบุตรจึงไม่เคยพูดถึงความดีของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเลยแม้แต่นิดเดียว ตั้งแต่โบราณกาลนานมาตลอดจนถึงการสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์จำนวนมากของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนและรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด

นับได้ว่ามีเรื่องสำคัญอยู่ 2 เรื่องที่นายปิยบุตรไม่เคยพูดถึง 1.ความดีของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย 2. ความชั่วช้าสามานย์ของคณะราษฎร พฤติกรรมของนายปิยบุตรจึงมีแต่กัดเซาะบ่อนทำลายให้สถาบันพระมหากษัตริย์เหินห่างจากประชาชน ทั้งๆ ที่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นผู้วางรากฐานของชาติและระบอบประชาธิปไตยเพื่อประชาชนมาตั้งแต่ต้น

สิ่งที่ปิยบุตรทำมาทั้งหมดจึงเป็นไปเพื่อสร้างความแตกแยก บ่อนทำลายความมั่นคงของชาติและประชาชน พยายามยัดเยียดทำให้พระมหากษัตริย์กลายเป็นนักโทษ ตลอดจนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ลงในที่สุด

ในเมื่อนายปิยบุตรถูกเปิดโปงซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาจนถึงขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่หยุดสำรอกกำพืดชั่วๆ ออกมาอีก เมื่อพูดจากันดีๆ ด้วยหลักการและความจริงไม่รู้เรื่อง ถ้าเจอนายปิยบุตรที่ไหน ตบมันที่นั่นเลยดีไหมครับ?


ที่มา: เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan

อ้างอิง:

https://www.express.co.uk/.../queen-elizabeth-ii-news...

https://thecrownchronicles.co.uk/.../queen-conducts.../

https://www.newmyroyals.com/.../king-carl-gustaf-and...

https://www.newmyroyals.com/.../king-willem-alexander-and...

https://www.royalcourt.no/artikkel.html?tid=30068

https://www.businessinsider.com/royal-family-net-worth...

https://brandinside.asia/private-bank-war-lgt-open.../

https://maroc.mom-rsf.org/.../owner/owner/show/royal-family/

‘กอ.รมน.’ ยืนยัน ไม่มีเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. อุ้ม ‘เยล’ การ์ดราษฎร ตามที่กล่าวอ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมการเอาผิดในข้อหาแจ้งความเท็จเพื่อดำเนินคดีต่อไป

พล.ต. ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยถึงกรณีที่นายมงคล สันติเมธากุล หรือ เยล การ์ดราษฎร อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่จากกอ.รมน.อุ้มไปเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ตามที่มีภาพข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆนั้น ว่า

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ตามจุดต่างๆ รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสของกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ภายหลังการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งช่วงก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ รวมทั้งสอบสวนพยานบุคคลและพยานแวดล้อมโดยรอบ พบว่าสมาชิกกลุ่มการ์ด ที่อ้างว่าถูกกักตัวได้อยู่เพียงลำพังตลอดทั้งคืน จึงยืนยันได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีอยู่จริงตามที่ได้กล่าวอ้างแต่อย่างใด และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมการ เอาผิดในข้อหาแจ้งความเท็จเพื่อดำเนินคดีต่อไป

“กอ.รมน. ขอยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด จากการกล่าวหาข้างต้น” พล.ต.ธนาธิป กล่าว

ทั้งนี้ กอ.รมน. ขอประชาสัมพันธ์กับประชาชนที่ติดตามข่าวสาร โดยเฉพาะทางสื่อโซเชียล ขอให้มีการรับฟังอย่างรอบคอบในทุกๆด้าน ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด และอาจทำให้หน่วยงานรัฐ เกิดความเสียหาย และจะทำให้เกิดผลกระทบต่อตนเองในภายหลังได้

มาเลเซียประกาศล็อคดาวน์เมืองสำคัญไปกว่า 1 อาทิตย์ แต่ยอดผู้ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสยังไม่มีทีท่าลดลง ล่าสุดยอดผู้ป่วยสะสมใกล้แตะหลัก 2 แสนรายแล้ว

หลังจากรัฐบาลมาเลเซียประกาศล็อคดาวน์ MCO 2.0 รวมทั้งประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินมาแล้ว 1 สัปดาห์ แต่ยอดผู้ติดโควิด - 19 รายใหม่ยังไม่มีทีท่าจะลดลง

โดยวันนี้ยอดพุ่งไป 4,000 กว่า ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสม ณ วันนี้เกือบ 170,000 รายแล้ว เสียชีวิตเพิ่ม 11 ราย รวมเสียชีวิตแล้วทั้งหมด 630 ราย

รัฐที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในประเทศอยู่ที่รัฐสลังงอร์ คือ 1,391 ราย ส่วนใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ (KL) อยู่อันดับสอง 513 ราย

ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ก่อนทางกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาตรการ Home Quarantine 101 สำหรับผู้ที่ติดเชื้อโควิด – 19 ที่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการน้อยให้พักรักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน โดยจะมีบุคลากรทางการแพทย์คอยให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนเอง และผู้ป่วยจะต้องรายงานอาการอาการผ่านทางแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า MySejahtera เป็นประจำทุกวัน


Credit Info: KKM

ผิงกั่ว รายงานจากกัวลาลัมเปอร์

ประธานก้าวหน้า พร้อมบวก หลังถูกแจ้งความการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี คดีอาญา มาตรา 112 และผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กรณีวัคซีน ชี้ต่อให้ดิสเครดิตหรือเอาคดีความมาก่อกวนมากแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้ข้อสงสัยที่ผมตั้งไว้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีถูกแจ้งความการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี คดีอาญา มาตรา 112 และผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กรณีวัคซีนว่า…

ทำไมรัฐต้องรับหน้าแทนบริษัทเอกชนมากขนาดนี้ ยอมรับแล้วหรือไม่ว่า เราให้สิทธิพิเศษแก่บริษัทเอกชนนี้จริงๆ ถ้าอยากจบเรื่องนี้ก็ต้องชี้แจงด้วยเอกสาร-หลักฐานให้กระจ่าง โดยผมขอให้เปิดเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น...

1.สัญญาจ้างผลิตระหว่าง AstraZeneca กับ Siam Bioscince ว่าตกลงแล้วจะรับผลิตกี่โดส ราคาต้นทุนการผลิตของบริษัทเท่าไหร่ ราคาขายให้ AstraZeneca เท่าไหร่ มีรายละเอียดในสัญญาอย่างไรบ้าง

2. สัญญารับงบประมาณระหว่างสถาบันวัคซีนแห่งชาติกับ Siam Bioscience ว่ามีรายละเอียดเงื่อนไขอย่างไร มีมูลค่าเท่าไหร่กันแน่ และเอาไปใช้ทำอะไร ตรงตามที่เคยแถลงไว้หรือไม่

3. บันทึกการประชุมของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติและเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการวางเงื่อนไข คุณสมบัติ และรายละเอียดของเอกชนที่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐในการผลิตวัคซีน เพื่อให้ประชาชนแน่ใจว่าการเลือกสนับสนุน Siam Bioscience เป็นไปอย่างโปร่งใส ถูกต้องตามหลักการ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

“ยิ่งเปิดเผยมากยิ่งโปร่งใส” นายธนาธร ระบุ

นอกจากนี้ นายธนาธร ยังได้ทิ้งท้ายอีกว่า “ผมเห็นด้วยทุกประการที่รัฐหรือเอกชนไทยจะได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อผลิตวัคซีน แต่ผมตั้งคำถามถึงกระบวนการคัดเลือกเอกชน การใช้ประเด็นเรื่องวัคซีนมาสร้างความนิยมทางการเมือง และวิธีการบริหารจัดการที่ไม่มีการกระจายความเสี่ยง ทำให้ประชาชนได้รับวัคซีนช้าและครอบคลุมประชากรน้อยกว่าประเทศอื่น ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า หากยึดตามไทม์ไลน์ของรัฐบาล กว่าเราจะกลับทำมาหากินได้ตามปกติไม่ต้องเปิดๆ ปิดๆ แบบนี้ ก็อย่างน้อยปี 2565 ซึ่งประชาชนรอไม่ไหว”

กรมการขนส่งทางราง เคาะค่าโดยสารรถไฟสายสีแดง ทั้ง 2 เส้น คือ สายตลิ่งชัน-บางซื่อ และสายบางซื่อ- รังสิต จะจัดเก็บค่าโดยสารในอัตรา 14 – 42 บาท โดยจะมีการนำเสนอคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย เห็นชอบต่อไป

กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดให้บริการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงรังสิต-บางซื่อ-ตลิ่งชัน โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือถึงกรณีการกำหนดอัตราค่าโดยสาร เบื้องต้น ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดง ทั้ง 2 เส้น คือ สายตลิ่งชัน-บางซื่อ และสายบางซื่อ- รังสิต จะจัดเก็บค่าโดยสารในอัตรา 14 – 42 บาท ซึ่งขั้นตอนจากนี้ จะมีการนำเสนอคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เห็นชอบต่อไป

นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวว่า การกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟสายนี้ จะกำหนดอัตราแรกเข้าและอัตราค่าโดยสารต่อกิโลเมตร เพื่อให้ได้อัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม เป็นธรรมไม่เป็นภาระต่อประชาชน และไม่เป็นภาระหนี้สินต่อ รฟท. ในอนาคต

ทั้งนี้ในความคืบหน้าของโครงการนั้น กระทรวงคมนาคมจะเปิดทดลองการเดินรถเสมือนจริง ในเดือนมี.ค.2564 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้ รฟท. เตรียมความพร้อมรองรับ การเปิดทดลองการเดินรถเสมือนจริงในเดือนมี.ค.2564 และการเปิดทดลองให้บริการแบบไม่จัดเก็บค่าโดยสาร ในเดือนก.ค. –ต.ค.2564 และการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือนพ.ย.2564


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top