Wednesday, 25 June 2025
ค้นหา พบ 49019 ที่เกี่ยวข้อง

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (12 มกราคม พ.ศ. 2564)

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน โดยประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 287 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 10,834 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิต 67 ราย รักษาหายเพิ่ม 166 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 6,566 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 4,035 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 287 ราย เป็น ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จากสาธารณรัฐประชาชนจีน 1 ราย,ญี่ปุ่น 1 ราย,สหรัฐอเมริกา 2 ราย,สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย,สหราชอาณาจักร 2 ราย,อินโดนีเซีย 1 ราย,อินเดีย 1 ราย

ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 153 ราย

ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก 125 ราย

ขณะเดียวกันสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศในกลุ่มอาเซียนมีการอัพเดทดังนี้

ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 173 ราย รักษาหายแล้ว 153 ราย เสียชีวิต 3 ราย

ประเทศกัมพูชา ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 392 ราย รักษาหายแล้ว 374 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศอินโดนีเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 8.37 แสน ราย รักษาหายแล้ว 6.89 แสน เสียชีวิต 24,343 ราย

ประเทศลาว ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 41 ราย รักษาหายแล้ว 40 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศมาเลเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.38 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.09 แสน ราย เสียชีวิต 555 ราย

ประเทศพม่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.31 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.15 แสน ราย เสียชีวิต 2,858 ราย

ประเทศฟิลิปปินส์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 4.9 แสน ราย รักษาหายแล้ว 4.58 แสน ราย เสียชีวิต 9,416 ราย

ประเทศสิงคโปร์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 58,929 ราย รักษาหายแล้ว 58,668 ราย เสียชีวิต 29 ราย

ประเทศเวียดนาม ยอดรวมติดเชื้อ 1,515 ราย รักษาหายแล้ว 1,361 ราย เสียชีวิต 35 ราย

คณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาฯ จูงใจเอกชนบริจาคเงินเข้ากองทุนวิจัย 4 หน่วยงาน สามารถใช้ลดหย่อนภาษี ได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิ

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร พ.ศ. ....

ซึ่งเป็นมาตรการทางภาษีเพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนร่วมบริจาคเงินให้แก่กองทุนวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม โดยยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดา บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย

1.) กองทุนเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

2.) กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม

3.) กองทุนเพื่อการพัฒนาระบบมาตรวิทยา

และ 4.) กองทุนเพื่อการพัฒนาระบบสาธารณสุข

ซึ่งมาตรการนี้เป็นการขยายเวลามาตรการทางภาษีเดิมที่สิ้นสุดไปแล้วเมื่อ 31 ธันวาคม 2562 โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้มีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 สาระสำคัญมีดังนี้

1.) บุคคลธรรมดาที่บริจาคเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้กับ 4 หน่วยงาน สามารถนำเงินที่บริจาคมาหักเป็นค่าใช้จ่ายหรือค่าลดหย่อนได้ 2 เท่าของจำนวนที่บริจาค แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้ หลังหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อนแล้ว

2.) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้กับ 4 หน่วยงาน สามารถนำเงินที่บริจาคมาหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาคแต่ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลฯ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือการกีฬา

น.ส.รัชดา กล่าวว่า "แม้มาตรการนี้จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 5 ล้านบาท แต่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการจูงใจให้ภาคเอกชนร่วมบริจาคให้แก่กองทุนวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมเพิ่มขึ้น และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ

อีกทั้งยังเป็นแหล่งเงินทุนเพื่อดำเนินการและสนับสนุนการวิจัยพัฒนาและนวัตกรรม ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวอีกด้วย ทั้งนี้ ในลำดับต่อไป จะส่งร่างพระราชกฤษฎีกาให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้"

ครม.อนุมัติ ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ระดับโลก RoboCup 2022 คาด ส่งเสริม-เสริมสร้าง-เชื่อมโยง-การลงทุนระหว่างประเทศ โดยงานจะจัดขึ้นช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2565 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า อนุมัติหลักการให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ระดับโลก RoboCup 2022 ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ใช้กรอบงบประมาณวงเงิน 20 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า "การแข่งขันจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2565 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา แบ่งกิจกรรมออกเป็น 4 ส่วนได้แก่ การจัดการแข่งขัน RoboCup แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มอายุไม่เกิน 19 ปี หรือ RoboCup Junior League และกลุ่มอายุ 19 ปีขึ้นไป หรือ RoboCup Major League

ส่วน Exhibition เป็นพื้นที่สำหรับนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และส่วนแสดงวัฒนธรรมไทย, ส่วน Symposium เป็นการนำเสนอแลกเปลี่ยนองค์ความรู้โดยนักวิชาการด้านหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ และระบบอัตโนมัติที่มีชื่อเสียงระดับโลก และส่วน Startup Pitching เป็นเวทีกลางที่เปิดโอกาสให้ผู้ประดิษฐ์ ผู้ประกอบการ นักวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์ได้เข้ามามีโอกาสในการนำเสนอนวัตกรรมการประดิษฐ์ของตนต่อกลุ่มผู้ลงทุน"

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า "ในการจัดงานแข่งขันครั้งนี้คาดว่าประโยชน์ที่จะได้รับประกอบด้วย

1.) การเสริมสร้างและพัฒนาบุคลากรและเพิ่มจำนวนบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถในด้านปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ของประเทศให้มีความสามารถในการแข่งขันระดับสากล

2.) เสริมสร้างพัฒนาการวิจัย และการต่อยอดงานวิจัยในด้านปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ รวมทั้งสาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของประเทศไทยที่มีความเชื่อมโยงและร่วมมือระหว่างประเทศ

3.) เป็นการเชื่อมโยงและสนับสนุนกับภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะระบบอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของประเทศ รวมถึงแสดงศักยภาพของนักประดิษฐ์ ผู้ประกอบการ นักเรียน และนักศึกษาไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล

4.) เกิดการลงทุนระหว่างประเทศจากอุตสาหกรรมขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ และหุ่นยนต์ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ"

‘อาบน้ำเย็น’ ได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด!

อากาศกลับมาหนาวอีกครั้ง แถมวันนี้ยังหนาววววกว่าปกติ ค่ำนี้ใครที่กำลังข่มใจอาบน้ำเย็น บอกเลยว่า คุณคือผู้กล้า!! แต่ก่อนที่จะเอาร่างกายสัมผัสความเย็นยะเยือก มาดูความดีงาม หากว่าคุณอาบน้ำเย็นในวันที่อากาศหนาวกัน

ประการแรก ความเย็นมีประสิทธิภาพในการลดความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะถ้าเราใช้กล้ามเนื้อมาทั้งวัน หรือไปออกกำลังกายหนัก ๆ น้ำที่อุณหภูมิต่ำ จะทำให้เส้นเลือดหดตัว รวมทั้งช่วยลดสารที่ทำให้เกิดอาการอักเสบ ทำให้กล้ามเนื้อกลับมาสมบูรณ์ได้เร็วขึ้น

ประการต่อมา น้ำเย็น ๆ ช่วยลดน้ำหนักได้ เคยมีวารสารทางการแพทย์ระบุว่า น้ำเย็นจะช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญของร่างกายให้มากขึ้น ซึ่งมีผลต่อการควบคุมน้ำหนัก รวมถึงความเย็นยังช่วยสลายเซลล์ไขมันได้ นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนในการช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เนื่องจากเมื่อร่างกายมีอัตราการเผาผลาญสูงขึ้น จะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้มากขึ้น ส่งผลให้มีการผลิตเซลล์ ‘เม็ดเลือดขาว’ ที่ทำหน้าที่เหมือนกองทหารของร่างกาย คอยต่อสู้กับเชื้อไวรัสและแบคทีเรียนั่นเอง

อีกข้อที่น่าสนใจ คือน้ำเย็น ๆ ยังสามารถช่วยต้านอาการซึมเศร้าได้ เนื่องจากความเย็นจะทำให้สารโดพามีนเพิ่มขึ้น ซึ่งสารตัวนี้มีผลต่อพฤติกรรมการนอนหลับ รวมถึงสภาวะทางอารมณ์ของเรา ใครที่บอกอากาศเย็น ๆ ทำให้เหงาและเศร้าใจ อาจต้องเปลี่ยนความคิดซะใหม่

มาถึงข้อดีอีกประการ คือการอาบน้ำเย็น ๆ ทำให้ผิวพรรณผ่องใส เนื่องจากน้ำเย็นจะช่วยกระชับรูขุมขน ลดความมันบนใบหน้า ทำให้หน้าดูสดใส เต่งตึง และสุดท้าย ข้อดีที่คุณผู้ชายต้องฟัง การอาบน้ำเย็นช่วยให้ปริมาณสเปิร์มเพิ่มขึ้น จากการศึกษาพบว่า เมื่ออุณหภูมิภายในร่างกายเพิ่มขึ้นจาก 28 องศาเซลเซียส ไปเป็น 33 องศาเซลเซียส ส่งผลให้อัตราการตายของอสุจิสูงขึ้น

ในทางกลับกัน อสุจิจะมีคุณภาพสูงเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเย็น นอกจากนี้ยังมีการตั้งสมมติฐานเรื่องภาวะการเจริญพันธุ์ จะดีขึ้นต่อเมื่ออุณหภูมิลดลง เอาเป็นว่า ยกคุณงามความข้อดีของน้ำเย็นมาซะขนาดนี้ ก็ได้เวลากลั้นใจ เดินฝ่าสายน้ำอันเย็นยะเยือกกันได้แล้วล่ะ เอื้อก!!


ที่มา: https://cinnamonvogue.com/blog/shocking-benefits-of-a-cold-shower/

ครม.อนุมัติงบประมาณกว่า 473 ล้าน ให้กระทรวงกลาโหม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการพื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) เพิ่มเติม รองรับผู้กักกันตัวในระยะที่ 5

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ในการดำเนินการพื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) เพิ่มเติม เพื่อรองรับผู้กักกันตัว จำนวน 22,248 คน ในระยะที่ 5 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. - 30 พ.ย 2563 วงเงิน 473,150,000บาท

ตามที่กระทรวงกลาโหม เสนอ แบ่งเป็นค่าตอบแทนบุคลากร ค่าเช่าที่พักกักกันตัวค่าวัสดุการแพทย์และยานพาหนะ เป็นต้น โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้เบิกจ่ายในงบดำเนินงาน

นายอนุชา กล่าวว่า "ที่ผ่านมากระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกันจัดสถานที่ พื้นที่สำหรับสังเกตอาการ เพื่อใช้ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โดยเป็นสถานที่ราชการ 2 แห่ง และโรงแรมเอกชน 26 แห่ง เพื่อรองรับผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและเข้ารับการกักกันตัว จำนวน 63,570 คน ตั้งแต่ 7 มี.ค - 30 ก.ย.2563 ระยะที่ 1 -ระยะที่ 4 โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายการดำเนินการพื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ รวมวงเงินรวมทั้งสิ้น 1,536,340,514 บาท"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top