Tuesday, 24 June 2025
ค้นหา พบ 48981 ที่เกี่ยวข้อง

กระทรวงแรงงาน ชวนประชาชนใช้แอป “รวมช่าง” บนสมาร์ตโฟน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการติดต่อช่างซ่อมแซมที่พักอาศัยและอุปกรณ์ที่ชำรุด เว้นระยะห่างลดการเผชิญหน้า สู้ภัยโควิด-19

นายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ รัฐบาลและกระทรวงแรงงานภายใต้การนำของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือแรงงานและประชาชนทั่วไปในหลายมาตรการด้วยกัน

สำหรับ กพร. กระทรวงแรงงาน แนะนำบริการแอปพลิเคชัน “รวมช่าง” (Fixer Finder) บนสมาร์ตโฟน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เพิ่มความสะดวกในการติดต่อช่างซ่อมแซมที่พักอาศัยและอุปกรณ์ที่ชำรุด ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ และระบบประปาและสุขภัณฑ์ ซึ่งมักพบปัญหาเหล่านี้อยู่เป็นประจำ

ซึ่งมีบริการช่าง 3 สาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 5,183 คน แบ่งเป็น (1) ช่างไฟฟ้า ให้บริการเดินสายไฟฟ้าและติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในอาคาร ที่พักอาศัย เปลี่ยนหลอดไฟ ปลั๊ก สวิตซ์ เบรกเกอร์ (2) ช่างเครื่องปรับอากาศ ให้บริการติดตั้ง ล้างเติมน้ำยาแอร์ และตรวจเช็คความผิดปกติของเครื่องปรับอากาศ และ (3) ช่างประปาและสุขภัณฑ์ ให้บริการเปลี่ยนก๊อกน้ำ ซิ้งค์ ท่อน้ำและติดตั้งสุขภัณฑ์ ซึ่งบริการด้วยราคาที่เป็นธรรมและมีมาตรฐานงานบริการ

นายธวัช กล่าวต่อไปว่า ในสังคมดิจิทัลที่เน้นความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย ได้งานที่ดีมีคุณภาพ แอปพลิเคชัน “รวมช่าง” ตอบโจทย์อย่างยิ่ง คือสามารถติดต่อนัดหมายช่างได้บนสมาร์ตโฟน จะมีฟังก์ชั่นที่ บริการประชาชนผู้ใช้บริการและช่างผู้ให้บริการ ดังนี้

ประชาชนที่ใช้บริการ (1) สามารถค้นหาช่างตามประเภทงานที่ต้องการ ระบุชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ รูปภาพที่แสดงตัวตนของช่างอย่างชัดเจน (2) จองเวลาใช้บริการตามที่สะดวกได้อย่างรวดเร็ว (3) ค้นหาช่างที่พร้อมให้บริการที่อยู่ใกล้ตัว (4) สามารถรีวิวและให้คะแนนช่างได้ ส่วนช่างผู้ให้บริการ (1) มีระบบแจ้งเตือนเมื่อมีงานใหม่เข้ามา (2) มีตารางนัดหมายงาน (3) เช็คประวัติการทำงานที่ผ่านมาได้

ประชาชนที่สนใจสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันโดยการค้นหาคำว่า “รวมช่าง” ได้ใน play store หรือ app store จากนั้นดาวน์โหลดและติดตั้งบนสมาร์ตโฟน ใช้ได้ทั้งระบบแอนดรอยด์และไอโอเอส

พรรคเพื่อไทยตั้งคำถามรัฐบาล ประชาชนจะได้รับวัคซีนแก้โควิด-19 ครบทุกคนหรือไม่ ยืนยันการได้รับวัคซีนป้องกันโรคระบาดร้ายแรงถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองที่จะได้รับจากรัฐบาล จวกรัฐเอื้อนายทุนใหญ่ เหตุซื้อวัคซีนจีนมีเจ้าสัวไทยถือหุ้น

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ และอสม. ที่ทำหน้าที่ในช่วงเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดนี้ และส.ส.ของพรรคเพื่อไทยทั้ง 135 เขต มีความห่วงใย และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชนอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม เรามีความกังวลการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่อาจจะไม่ทั่วถึงกับประชาชนทุกคนอย่างทันท่วงที

เบื้องต้นเราเห็นด้วยที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดลำดับความสำคัญในการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงก่อน แต่ประชาชนกลุ่มที่เหลือที่ไม่เข้าเกณฑ์ รัฐได้เตรียมวัคซีนเพียงพอหรือไม่ เมื่อไรประชาชนจะได้รับวัคซีนครบทุกคน เพราะกว่าที่วัคซีนจะออกฤทธิ์เห็นผลต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ทั้งนี้ ยืนยันว่าการได้รับวัคซีนป้องกันโรคระบาดร้ายแรงถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองที่จะได้รับจากรัฐบาล คนไทยต้องได้รับวัคซีนทุกคน

น.ส.อรุณี กล่าวว่า สำหรับวัคซีนที่รัฐบาลสั่งมาจากบริษัท Sinovac จากจีน มีราคาถูกกว่าผู้ผลิตที่จำหน่ายราคาสูง แต่ราคาถูกนั้นได้มาตรฐานและมีผลต่อการป้องกันโรคได้มากน้อยเพียงใด เนื่องจากมีข่าวว่าทางการบราซิลได้สั่งหยุดทดสอบวัคซีน Sinovac จากจีนในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว เพราะทำให้เกิดผลร้ายแรงตามมา

แต่รัฐบาลไทยยังยืนยันที่จะสั่งซื้อเพราะถูกกดดันจากสังคมกรณีได้รับวัคซีนล่าช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งที่สั่งซื้อวัคซีนยี่ห้อเดียวกัน จนเปลี่ยนมาสั่งซื้อกับบริษัท Sinovac ของจีน สะท้อนว่ารัฐบาลนี้การขาดการวางแผนในการรับมือสถานการณ์โควิด-19 อย่างรุนแรง ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าบริษัทเจ้าสัวรายใหญ่ของไทยทุ่มเงิน 1.54 หมื่นล้านบาท เข้าถือหุ้น 15% ในบริษัท Sinovac Life Sciences หน่วยผลิตวัคซีนซิโนแวค เป็นการเตรียมการเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนใหญ่หรือไม่

น.ส.อรุณี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้รัฐบาลต้องเร่งเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการสั่งปิดธุรกิจ โดยร้านค้ารายย่อยและโรงงานหลายแห่งเลิกจ้างพนักงาน ปิดกิจการ การจ่ายเงินเยียวยาต้องทำให้รวดเร็ว โดยเฉพาะธุรกิจภาคการท่องเที่ยวที่ไม่มีโอกาสฟื้นตัวได้เลย ซึ่งพรรคเพื่อไทยเคยเสนอให้รัฐบาลก่อตั้งธนาคารเพื่อการท่องเที่ยวและพักชำระหนี้ ก่อนที่จะเกิดการระบาดระลอกที่ 2 หากไม่รีบแก้ปัญหาโควิด-19 รอบนี้ อาจจะฝังประชาชนให้ตายทั้งเป็น

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเตรียมจัดฟอรั่มพิเศษ “รับมือโควิดอย่างไร ไม่ให้ประเทศพัง” ในวันที่ 11 ม.ค.นี้ เวลา 11.00 น.ที่พรรค พท.เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนหาทางออกเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 ในมิติเชิงสังคมและผลกระทบทางเศรษฐกิจ

โดยมีนายนพดล ปัทมะ ประธานคณะกรรมการนโยบายและวิชาการพรรคเพื่อไทย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรองนายกฯ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีต รมว.พลังงาน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ผอ.ศูนย์นโยบายฯ พรรคเพื่อไทย ร่วมเสวนา โดยจะถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย

เรียนรู้และเข้าใจ ‘แอปฯ หมอชนะ’ แบบง่าย ๆ เพื่อประโยชน์ของตัวคุณเอง

#ดราม่าวันนี้ เห็นทีต้องยกให้ ข่าวการประกาศเรื่องการใช้แอปฯ หมอชนะ ที่หากใครไม่โหลด ถือว่า ‘มีความผิด!!’ ไอ๊หย๋า!!?? เรื่องผิด เรื่องถูก ค่อยว่ากัน แต่ประเด็นสำคัญที่ควรรู้คือ โหลดแล้วได้อะไร? มีประโยชน์ยังไง? ทำไมถึงต้องโหลด? The States Times มีสรุปง่าย ๆ ให้ดังนี้!   

เรื่องจริงที่มาเลเซีย ร้านอาหารตกแต่งสไตล์คอมมิวนิสต์จนกลายเป็นไวรัล แต่โดนดีถูกตำรวจเรียกซิวตัว

คอลัมน์ สายตรงเคแอล

เหตุเกิดในจอร์จทาวน์ รัฐปีนัง

ตำรวจมาเลเซีย (PDRM) ได้เข้าตรวจสอบร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งได้รับแจ้งว่ามีการตกแต่งร้านในรูปแบบของลัทธิคอมมิวนิสต์ ร้านอาหารนี้มี 2 สาขา ในภาพคือสาขาปูเลาติกัส (Pulau Tikus) และอีกแห่งใน Auto City, Juru

โดยพบว่าภายในร้านมีการติดวอลเปเปอร์รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งในธีมคอมมิวนิสต์รวมถึงปรากฎใบหน้าของเหมาเจ๋อตุง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน

รูปภาพของร้านอาหารถูกแชร์สู่โลกออนไลน์เมื่อวันเสาร์ที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว พร้อมตามมาด้วยการวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตซึ่งเป็นไปในทางลบอย่างมาก

หลายคนเรียกร้องให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับเจ้าของร้าน บางคนถึงกับเรียกร้องให้ปลดสัญชาติเขาไปเลยทีเดียว! (โอ้โห...ใคร ๆ ก็ไม่ปลื้มคอมมิวนิสต์)

รายงานเพิ่มเติมจาก New Straits Times รายงานว่า หัวหน้าแผนกสอบสวนคดีอาญาของรัฐปีนัง ผู้ช่วยผู้บัญชาการอาวุโส นาย Rahimi Ra’ais ได้ให้สัมภาษณ์ว่า

ทางตำรวจได้เข้าตรวจสอบทันทีหลังจากได้รับเรื่องและในการสอบถามเบื้องต้นพบว่า ร้านอาหารแห่งนี้เป็นของชายวัย 40 ปี แต่ยังไม่ได้สามารถพบตัวได้ในขณะนี้ เนื่องจากเขาอยู่ระหว่างการกักตัวโควิด -19 เป็นเวลา 14 วัน

Rahimi กล่าวว่า คดีนี้จะถูกสอบสวนภายใต้มาตรา 47 ในการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อเข้าสู่สังคมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและเข้าข่ายมาตรา 505 (b) ของประมวลกฎหมายอาญาสำหรับการจัดทำการเผยแพร่หรือเผยแพร่คำแถลงการณ์อันเป็นข่าวลือหรือรายงานใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความกลัวหรือความตื่นตระหนกสู่สาธารณะ

และภาพวอลเปเปอร์รวมทั้งของตกแต่งในร้านได้ถูกรื้อออกโดยตำรวจในเวลาอันรวดเร็ว (มาไวเคลมไวมาก)

สำหรับโทษที่ต้องได้รับในคดีดังกล่าว ภายใต้มาตรา 47 ผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดนี้จะต้องถูกจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 5,000 ริงกิต

ในขณะเดียวกันผู้ที่พบว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 505 (b) ต้องระวางโทษจำคุกสูงสุดถึงสองปีหรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ก็ไม่รู้ว่าเจ้าของเป็นพวกฝักใฝ่ใจรักคอมมิวนิสต์หรือแค่พิเรนสร้างกระแสให้ร้านกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ เล่นแบบนี้ปังจริง ๆ ปังปินาศ! 555

Credit news story: https://www.thesundaily.my/local/penang-cops-probe-cafe-owner-for-putting-up-communism-themed-wallpaper-DL5915270


เรื่องโดย "ผิงกั่ว"

สาวเมืองชล ตั้งรกรากอยู่ชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ ตามสามีชาวจีนมาเลย์ ชีวิตท่ามกลางคนจีน แขกมาเลย์ และแขกอินเดีย พหุวัฒนธรรม ส่องมุมมองจากประเทศเพื่อนบ้านด้านล่างแผ่นดินแม่ มาเล่าสู่กันฟัง

National Association of Manufacturers (NAM) สมาคมที่เป็นตัวแทนขององค์กรธุรกิจกว่า 14,000 แห่งในสหรัฐฯ เช่น Exxon Mobil, Pfizer และ Toyota Motor ได้เรียกร้องให้ พิจารณาปลด โดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีทันที

หลังก่อหวอดให้เกิดความวุ่นวาย ที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ

Jay Timmons ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NAM กล่าวว่า “ทรัมป์ ได้ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง เพื่อพยายามรักษาอำนาจและตำแหน่งของเขาไว้ และใครก็ตามที่กำลังปกป้องเขา เท่ากับกำลังละเมิดต่อรัฐธรรมนูญ และปฏิเสธ ระบอบประชาธิปไตย”

ทั้งนี้ กำหนดวันลงจากทำเนียบขาวของ ทรัมป์ คือ วันที่ 20 มกราคม นี้ และโจ ไบเดน จะเข้าสาบานตน และรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ อย่างเป็นทางการ แต่จากเหตุการณ์นี้ ทำให้มีภาคธุรกิจ และสมาชิกสภานิติบัญญัติหลายคนในรัฐสภา เรียกร้องให้มีการแก้ไข้กฎหมายเพิ่มเติมเพื่อปลด 'ทรัมป์' ออกจากตำแหน่ง โดยทันที

สำหรับเหตุรุนแรงในสหรัฐ เกิดจากการที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์โซเชียลปลุกม็อบสหรัฐ ค้านการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จนเกิดความวุ่นวายที่รัฐสภา สหรัฐ


อ้างอิง : https://www.reuters.com/article/us-usa-elections-companies/corporate-group-urges-officials-consider-trumps-removal-to-preserve-democracy-idUSKBN29B2WR

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top