Tuesday, 24 June 2025
ค้นหา พบ 48981 ที่เกี่ยวข้อง

โดนัลด์ ทรัมพ์ เตรียมรับชะตากรรมหนัก หลังเป็นส่วนหนึ่งในต้นเหตุการจราจลที่ส่อเค้าบานปลาย

ในที่สุด ม็อบผู้สนันสนุน โดนัลด์ ทรัมพ์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะกลายเป็นอดีตก็มาตามนัด อย่างที่ทรัมพ์เคยส่งสัญญาณประกาศนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 6 มกราคม 2021 ที่สภาคองเกรสในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่หลายคนเคยปรามาสว่า ยังจะมีแฟนคลับเดนตายของทรัมพ์เหลืออยู่สักเท่าไหร่ หลังจากที่ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐเมื่อ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2020 มีการรับรองอย่างเป็นทางการแล้วว่าผู้ชนะคือ นาย โจ ไบเดน ไม่มีพลิกโผ

แต่พอถึงเวลาช่วงบ่าย เริ่มประชุมสภารับรองนายโจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ม็อบของเหล่าบรรดาแฟนคลับของทรัมพ์ก็มาชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภากันอย่างล้นหลามเต็มพื้นที่ บางส่วนมาพร้อมอาวุธปืน ชูป้ายสนับสนุนทรัมพ์ และไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัย

จุดประสงค์ของการมาชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ เพื่อต้องการประท้วงผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาว่ามีการทุจริต โกงคะแนนการเลือกตั้ง ตามที่โดนัลด์ ทรัมพ์เคยสื่อสารผ่านทางทวิตเตอร์มาโดยตลอดว่าเขาถูกโกง และมีการบุกรุกเข้าไปในรัฐสภา จนสมาชิกผู้แทนหนีกันกระเจิง เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เกิดเสียงปืนดัง และมีผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่หญิงที่โดนกระสุนปืน ภายหลังมีรายงานว่าเสียชีวิตแล้ว

ม็อบทรัมพ์ ได้บุกยึดรัฐสภาได้กว่า 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะมีการประกาศเคอร์ฟิวในเวลา 6 โมงเย็น และทางการจัดส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิมาควบคุมสถานการณ์จนสงบเรียบร้อย จึงสามารถเปิดประชุมสภาต่อได้ในเวลา 2 ทุ่ม

วันนี้จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในความอัปยศอดสูของมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ที่ได้เห็นภาพของกลุ่มคนที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และใช้กำลังและอาวุธบุกรุกเข้าไปในรัฐสภา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในระบบการปกครองของสหรัฐ และมีการใช้ความรุนแรงจนเกิดความสูญเสีย

ฟากประธานาธิบดีทรัมพ์ ที่ตอนนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของปัญหา แม้จะพยายามออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ ให้ร่วมชุมนุมกันอย่างสงบ และเคารพกฎหมาย แต่ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นแม้แต่น้อย ซึ่งตอนนี้ ทั้งทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และ อินสตาแกรม ต่างระงับบัญชีผู้ใช้ของทรัมพ์เป็นการชั่วคราวแล้ว

และหลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้คลี่คลายลง ผลกระทบตามหลังย่อมสะท้อนกลับไปทางโดนัลด์ ทรัมพ์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเขามีเวลาเหลือในตำแหน่งเพียงแค่ไม่ถึง 2 สัปดาห์จนถึงวันที่ โจ ไบเดน เข้าพิธีสาบานตนในวันที่ 20 มกราคม หลังจากนี้ โดนัลด์ ทรัมพ์ อาจต้องเจอพายุลูกใหญ่ จากคดีความค้างเก่าในการใช้คำสั่งประธานาธิบดีที่ศาลสูงบางรัฐพิจารณาว่าไม่ชอบด้วยกฏหมาย หรือยุยงปลุกปั่นจนเกิดความรุนแรง จนมีผู้เสียชีวิต ในวันที่เขาไม่มีสิทธิ์คุ้มกันในตำแหน่งแล้ว

ส่วนคนที่จะได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ ไม่ต่างจากทรัมพ์ หนีไม่พ้นรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ที่เขาคาดหวังจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยหน้า แต่ภาพลักษณ์และการกระทำของทรัมพ์อาจฝังแน่นลงในประวัติชีวิตในการดำรงตำแหน่งที่ไม่อาจสลัดหลุดได้ แม้ว่า ไมค์ เพนซ์ ได้ออกมาทวิตเตอร์ประณามกลุ่มผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรง และแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต โดยเน้นย้ำว่าฝ่ายที่ใช้ความรุนแรงจะไม่มีวันชนะ รวมถึงสมาชิกพรรครีพับลิกัน ต่างออกมาปฏิเสธว่าม็อบในวันนี้ ไม่ใช่กลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน แต่เป็นกลุ่มหัวรุนแรงที่ไม่เคารพกฎหมายที่ไม่อาจรับได้

และนี่อาจจะเป็นจุดแตกหัก แยกทางระหว่างทรัมพ์ และชาวรีพับลิกันแล้วก็เป็นได้

ส่วนทั่วโลกก็จับตาเหตุการณ์ในสหรัฐในมุมมองที่ต่างกันออกไป

ประธานาธิบดีเอมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นในกรุงวอชิตัน ดี.ซี. วันนี้ ไม่สมกับชาวอเมริกันเลย” และยังโพสต์ต่อในทวิตเตอร์ว่า “พวกเราเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย”

สตีเฟ่น โลฟเวน นายกรัฐมนตรีสวีเดนออกมากล่าวว่า ทั้งประธานาธิบดีทรัมพ์ และ ชาวสภาคองเกรสหลายคนต้องรับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนี้

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ก็ไม่พลาด ออกมากล่าวประณามความรุนแรงที่สภาคองเกรสว่าช่างเป็นซีนที่น่าหดหู่ใจที่ได้เห็น ยิ่งเกิดที่สหรัฐอเมริกา ประเทศที่กล่าวว่าเป็นเสาหลักของประชาธิปไตยทั่วโลก ซึ่งไม่ควรเลยที่จะเกิดเรื่องเช่นนี้ในวันที่มีการเปลี่ยนผ่านอำนาจ

ส่วนสำนักข่าว Global Times ของจีนรายงานความเห็นของชาวเน็ตจีน ที่มีต่อเหตุการณ์บุกยึดสภาคองเกรสของสหรัฐว่า เป็นเรื่องของกรรมเก่า ที่สหรัฐเคยสนับสนุนกลุ่มที่เรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงให้ก่อความไม่สงบในบ้านเมือง และวันนี้ก็ได้มาเจอกันตัวเอง โดยมามีการเปรียบเทียบเหตุการณ์ที่ชาวม็อบฮ่องกงบุกทำลายสภาฮ่องกงเมื่อปี 2019 กับเหตุการณ์ที่สภาคองเกรสของสหรัฐในวันนี้อย่างประชดประชันว่า อยู่ฮ่องกงเรียกฮีโร่ แต่อยู่ที่สหรัฐเรียกผู้ก่อการร้าย

แต่เรื่องนี้จะเป็นกรรมเก่าของสหรัฐ กรรมใหม่ของทรัมพ์ หรือกรรมสะสมของโจ ไบเดน ที่จะต้องมีดูแลชาวสหรัฐที่มีความแตกแยกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่างไร และจากเหตุการณ์นี้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นประเทศโลกที่ 3 หรือ ประเทศพัฒนาแล้ว หากประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ผิด ข่าวปลอม ข้อความในสื่อโซเชียลเต็มไปด้วยข้อความรุนแรง วาทกรรมที่สร้างความเกลียดชัง ความแตกแยกและความรุนแรงก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่


แหล่งข่าว

https://www.theguardian.com/us-news/2021/jan/06/trump-blows-up-us-democracy-the-world-watches-on-in-horror

https://www.aljazeera.com/news/2021/1/6/pro-donald-trump-protesters-storm-us-capitol

https://www.globaltimes.cn/page/202101/1212074.shtml

https://abcnews.go.com/US/timeline-pro-trump-protesters-stormed-capitol/story?id=75096094

8 มกราคม พ.ศ. 2530 วันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเจริญพระชันษา 34 ปี

 

วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของเมืองไทย โดยเป็นวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเจริญพระชันษาครบ 34 ปี พระองค์ทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10

 

โดยพระองค์สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนจิตรลดา ต่อมาได้สำเร็จการศึกษาศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 (เหรียญทอง) ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะทรงศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่ประเทศฝรั่งเศส ณ สถาบันเอโกล เดอ ลา ฌอมป์ซินดิกัล เดอ ลา กูตูร์ปารีเซียง

 

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระปรีชาสามารถหลากหลายด้าน อาทิ ทรงได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ ปี ค.ศ. 2005  ที่ประเทศฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังทรงสนพระทัยกีฬาขี่ม้า และทรงเป็นนักกีฬาขี่ม้า ได้รับรางวัลชนะเลิศในรายการไทยแลนด์แชมเปียนชิพคิงส์คัพ 2012 และรายการอื่นๆ อีกมากมาย

 

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ยังทรงได้รับเชิญจากห้องเสื้อปิแยร์บาลแมง ให้จัดแสดงผลงานการออกแบบเสื้อผ้า จำนวน 39 ชุด ในงานแสดงเสื้อผ้าปารีสแฟชั่นวีค (Paris Fashion Week : Spring/Summer 2008) ที่โอเปร่า การ์นิเย กรุงปารีส เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2550 ทั้งนี้ทรงมีแบรนด์เสื้อผ้าส่วนพระองค์คือ "สิริวัณณวรี" (Sirivannavari) และมีแบรนด์ของแต่งบ้านส่วนพระองค์ชื่อ "สิริวัณณวรีเมซอง" (Sirivannavari Maison)

 

วันนี้ถือเป็นวันคล้ายวันประสูติ เจริญพระชันษาครบ 34 ปี ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

‘ลุงตู่’ เตรียมพาเด็ก ๆ เข้าทำเนียบ พาทัวร์-ทำกิจกรรมร่วมกับตัวแทนเยาวชน นั่งเก้าอี้นายก พร้อมพูดคุยถึงการมีส่วนร่วมกับนโยบายรัฐบาล ผ่านคลิปวิดีโอ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องเอ็นบีที ในวันเสาร์ที่ 9 ม.ค. น. เวลา 10.00 น.

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการจัดงานวันเด็กของทำเนียบรัฐบาล ว่า การจัดงานวันเด็กในวันเสาร์ ที่ 9 ม.ค.ในปีนี้ทำเนียบรัฐบาลไม่ได้เปิดให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เหมือนปีที่ผ่านมา แต่จะรวบรวมกิจกรรมต่าง ๆ ทำเป็นคลิปวิดีโอ เพื่อออกอากาศสถานีโทรทัศน์ช่องเอ็นบีที ให้ประชาชนรับชมในช่วงเวลา 10.00 - 11.30 น.

ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้บันทึกเทปไว้เมื่อวันที่ 6 ม.ค. โดยช่วงแรกเป็นการทำกิจกรรมร่วมกับตัวแทนเยาวชน และพาเด็ก ๆ ชมห้องทำงานนายกฯ และนั่งเก้าอี้นายกฯ เหมือนเช่นทุกปี ในช่วงที่สองนายกฯ ได้พูดคุยกับเยาวชนที่เป็นตัวแทนเพื่อพูดถึงการมีส่วนร่วมกับนโยบายของรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีเรื่องสารคดี นิทานชุดคุณธรรม และส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงต่าง ๆ

‘นายสุชาติ ชมกลิ่น’ วอนผู้ประกอบการนำแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายมาขึ้นทะเบียนได้ตั้งแต่ 15 มกราคม - 13 กุมภาพันธ์ เชื่อว่าแรงงานที่เข้ามาแบบผิดกฎหมายเมื่อเข้าสู่ระบบจะเป็นประโยชน์กับกลุ่มประมง

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) ครั้งที่ 1/2464 ว่า ในส่วนของแรงงานเถื่อนนั้นหลายคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อาจไม่เข้าใจ บางกลุ่มอาจจะอยู่ในประเทศไทยหลายปีแล้ว ซึ่งผิดเอ็มโอยู ผิดนายจ้าง เป็นแรงงานเถื่อน ที่ไม่ได้เดินทางกลับประเทศ แต่ไม่ได้เป็นการมุดเข้ามาตามแนวชายแดนทั้งหมด ดังนั้นคำว่าแรงงานเถื่อนอย่าเหมารวมว่าเป็นการมุดเข้ามาทั้งหมด เพราะเรามีเจ้าหน้าที่ดูแลตามด่านถาวร วันนี้ขอฝากขบวนการหรือคนที่นำพาแรงงานเข้ามา ต้องนึกถึงความเป็นอยู่และความปลอดภัยของคนไทยด้วย ที่ผ่านมาฝ่ายความมั่นคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว กระทรวงแรงงานได้มีการตรวจสถานประกอบการและอำนาจหน้าที่ ซึ่งเราให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

ส่วนการดำเนินการกับสถานประกอบการที่นำแรงงานเถื่อนไปทอดทิ้ง รมว.แรงงาน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี สั่งการและกำชับให้กระทรวงแรงงาน และกระทรวงมหาดไทยแก้ปัญหา ซึ่งอยู่ในระหว่างการผ่อนผัน แต่ต้องยอมรับความจริงว่าการที่จะบอกให้สถานประกอบการนำแรงงานทั้งหมดมาตรวจโควิด-19 เพื่อตรวจสอบควบคุมโรค คงไม่มีใครกล้านำมาให้ตรวจทั้งหมด จึงจำเป็นต้องมีมาตรการออกมาเพื่อนำเข้าสู่ระบบ เพื่อไม่ให้สถานประกอบการขาดแรงงาน ขณะเดียวกันจะได้มีการตรวจคัดกรองโรคอย่างเข้มงวด จากนั้นแรงงานทั้งหมดจะเข้าสู่ระบบที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย หรือรายงานที่อยู่ใต้ดิน ให้ขึ้นมาอยู่บนดินอย่างถูกต้อง ถือเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น จากนั้นก็จะมีการแก้ปัญหาระยะกลางและระยะยาวต่อไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำแผน

เมื่อถามว่าปัจจุบันการจ้างงานในส่วนของแรงงานประมงมีความขาดแคลนจำนวนมากจะแก้ปัญหาอย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาทางสมาคมประมง ได้มาพบและขอให้ผ่อนผันเพราะแรงงานประมงไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม แรงงานประมงทุกคนที่มีอยู่ผ่านการคัดกรองอย่างถูกต้อง และยืนยันว่าไม่มีผิดกฎหมายอย่างแน่นอน แต่เมื่อคนงานกลับประเทศปัญหาการขาดแคลนแรงงานย่อมเกิดขึ้น

ซึ่งในขณะนี้ยังอนุญาตให้นำเข้าไม่ได้ เพราะการที่จะอนุญาตให้นำคนจากต่างประเทศเข้ามาเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ความพยายามนำแรงงานที่เข้ามาแบบผิดกฎหมายที่มีอยู่ในประเทศไทย เข้าสู่ระบบก็จะเป็นประโยชน์กับกลุ่มประมง เพราะหลังจากทำบัตรสีชมพูเสร็จ จะสามารถเข้าสู่แรงงานประมงได้ เสียเงินอีกเพียง 100 บาท เพื่อขึ้นทะเบียนประจำเรือ

ทั้งนี้ ระหว่าง วันที่ 15 มกราคม - 13 กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่รัฐบาลผ่อนผันให้กับผู้ประกอบการ ที่มีแรงงานไม่ถูกต้องมาขึ้นทะเบียน และหลังจากวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไปรัฐจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดจึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือ เราจะทำทุกอย่างเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้อง

ทิสโก้ ชี้หุ้นไทยปีนี้ฟื้นจาก 3 ปัจจัยบวก ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนฟื้น, นโยบายการเงินผ่อนคลายหรือ QE และนโยบายโจ ไบเดนหนุน คาดสิ้นปีอาจเห็นดัชนีแตะ 1,600

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ผลกระทบ COVID-19 ทำให้ตลาดหุ้นไทยปีที่แล้วปรับตัวลง 8% และเคลื่อนไหวแย่กว่าตลาดหุ้นโลก (MSCI World Index) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14% สำหรับมุมมองหุ้นไทยในปีนี้ บล.ทิสโก้ คาดว่า หุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวจากปีที่แล้วจาก 3 ปัจจัยบวก คือ

1.) การฟื้นตัวของตัวเลขเศรษฐกิจและกำไรของบริษัทจดทะเบียน โดยบล.ทิสโก้คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะกลับมาเติบโต 3.4% จากปี 2564 ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 6.3%

ส่วนกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยในปี 2564 คาดว่าจะฟื้นตัวแรง 34% ขณะที่ปี 2563 คาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนไทยจะติดลบ 38% สาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้นแรงมาจากกำไรในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของกำไรตลาดโดยรวมจะเติบโต 79% และ 25% ตามลำดับ ขณะที่ปี 2565 คาดกำไรโดยรวมจะเติบโตอีก 16% อานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้เต็มที่หลังมีวัคซีน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว

2.) นโยบายการเงินยังคงอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายมากเมื่อเทียบกับในอดีต หรือการทำ QE โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ได้ปรับเป้าหมายนโยบายการเงินไปใช้ “อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย” ที่ 2% ซึ่งจะทำให้ FED สามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินได้นานกว่าในอดีต ทั้งการคงดอกเบี้ยในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และการอัดฉีดสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง จากการประเมินคาดว่า FED จะอัดฉีดสภาพคล่องในปีนี้เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ฯ

3.) นโยบายด้านเศรษฐกิจของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ที่มีแผนการใช้จ่ายเงินจำนวนมากจะกดดันเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลง เป็นผลดีต่อตลาดหุ้นและราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวม ขณะเดียวกัน นโยบายต่างประเทศของไบเดนที่ประนีประนอมกว่าทรัมป์ และคาดการณ์ข้างหน้าได้ง่ายกว่าทรัมป์ น่าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลก และช่วยลดความผันผวนของตลาดลงได้

จากปัจจัยสนับสนุนดังกล่าว ทางบล.ทิสโก้ จึงได้ประเมินดัชนีหุ้นไทยที่เหมาะสมในปี 2564 ที่ 1,450-1,590 จุด โดยในครึ่งปีหลังมีโอกาสสูง ที่จะเหวี่ยงตัวขึ้นไปใกล้ ๆ ระดับ 1,600 จุด หรือเทียบเท่าตอนสิ้นปี 2562 ก่อนที่ COVID-19 จะระบาด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top