Sunday, 18 May 2025
ค้นหา พบ 48172 ที่เกี่ยวข้อง

อนุชา ชี้ ประชุมใหญ่ที่ขอนแก่นไร้วาระเปลี่ยนเลขาพรรค โยน แล้วแต่บิ๊กป้อม-ยืนยัน รัฐบาลอยู่ครบวาระ ไม่มียุบสภา

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคพลังประชารัฐที่จังหวัดขอนแก่นในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ ว่า สำหรับตน ยังไม่มีข่าวใดๆ ในเรื่องนี้ ส่วนที่มีข่าวอย่างนั้นอย่างนี้ก็ถือเป็นข่าวที่ถูกนำเสนอไปข้างนอก ส่วนจะมีวาระการประชุมใดบ้างนั้นขึ้นอยู่กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นหลัก 

ผู้สื่อข่าวถาม ถึงวาระการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ นายอนุชา กล่าวว่า สำหรับตนยังไม่ได้ยินเรื่องนั้น ก็เพียงได้ยินจากข่าว ทุกอย่างอยู่ที่หัวหน้าพรรคเพียงคนเดียว หัวหน้าพรรคจะเป็นคนสั่งการทุกอย่าง ซึ่งก็คงเรียบร้อย 

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเดินทางไปร่วมประชุมพรรคพลังประชารัฐที่ขอนแก่นด้วยตัวเองใช่หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ไปร่วมด้วยอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ทราบโปรแกรมโดยละเอียด ซึ่งตามหมายกำหนดการของพรรคพลังประชารัฐเป็นการประชุมเพื่อรับรองงบประมาณของพรรคตามระเบียบที่พรรคการเมืองจะต้องประชุมใหญ่สามัญเพื่อรับรอง

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรต่อกรณีที่มีเสียงสนับสนุนให้นายอนุชาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐต่อไป นายอนุชา กล่าวว่า ก็ต้องขอบคุณ ส่วนการที่ใครจะสนับสนุนใครอย่างไร หรือไม่นั้นตนคิดว่าทางพรรคเป็นสำคัญ เพราะตนไม่ได้มองว่า ใครจะเลือกที่รักมักที่ชังอย่างไร เพราะถึงอย่างไรก็แล้วแต่พรรคจะต้องเป็นสิ่งสำคัญ ใครจะคิดอ่านอย่างไรขอให้คิดถึงประโยชน์ของพรรคเป็นหลักเป็นสำคัญ ตนคิดว่าหัวหน้าพรรคเป็นผู้ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจสุดท้ายเหนืออื่นใด เพราะฉะนั้นเราต้องเคารพการตัดสินใจของหัวหน้าพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่าภายในพรรคพลังประชารัฐมีการประเมินถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการยุบสภาหรือไม่อย่างไร นายอนุชา กล่าวว่า เรื่องยุบสภาไม่มี ตน ยืนยันได้ ตนทำงานเต็มที่ ในคณะรัฐมนตรีทั้งรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีก็ทำงานอย่างเต็มที่ ทุกคนช่วยกัน เรื่องของปัญหาอะไรเล็กๆน้อยๆมันย่อมมีเป็นธรรมดาอยู่แล้วของการทำงาน แต่ในเรื่องจะถึงขั้นยุบสภานั้น ไม่มีรับรองได้ ผมคิดว่ารัฐบาลคงอยู่ครบวาระ

“อนุทิน” เผยแผนรับเปิดเทอม ต้องระดมฉีดวัคซีนโควิด-19 ครู

จากกรณีการกำหนดเปิดภาคเรียนในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 โดยแต่ละพื้นที่ มีมาตรการแตกต่างกันออกไป ซึ่งมีความกังวลว่าอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ล่าสุด  11 มิถุนายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เมื่อมีการกำหนดอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติกันไปเช่นนั้น สำหรับทางกระทรวงสาธารณสุข จากที่เคยให้บริการวัคซีนโควิด-19 แก่บุคลากรด้านการคมนาคมขนส่ง จากนี้จะเร่งให้บริการครู และบุคลากรด้านการศึกษาด้วย นอกจากนั้น ยังต้องร่วมมือกัน ฝึกให้เด็กคุ้นชินกับการใช้หน้ากากป้องกันโรค แน่นอน ว่าเป็นเรื่องยาก หากจะหวังให้เด็กรู้จักการเว้นระยะห่าง แต่ถ้าเด็กมีหน้ากาก ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้มาก  สำหรับการให้บริการวัคซีนแก่เด็ก ปัจจุบันนี้ กำลังดำเนินการนำเข้าวัคซีนของไฟเซอร์ ซึ่งทางผู้ผลิต ยืนยันว่าใช้กับเด็กได้ และไทยมีแผนฉีดให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ขณะเดียวกัน ยังรอพิจารณาผลการทดสอบวัคซีน Sinovac กับเด็ก 3 ขวบ หากมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ไทยก็ต้องนำมาพิจารณาปฏิบัติ เพื่อให้บริการนั้นครอบคลุมทุกช่วงอายุมากที่สุด 

นายอนุทิน ยังกล่าวย้ำด้วยว่า การนำเข้าวัคซีนของแอสตราเซนเนกา ยังยึดถือตามสัญญา และปัจจุบัน ได้หารือทำสัญญาระยะยาวกับผู้ผลิตเจ้าอื่น เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการบริหารจัดการ และปัจจุบัน ได้มองไปถึงการฉีด เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ให้กับผู้ที่เคยรับบริการวัคซีนเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งอาจจะได้รับวัคซีนในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากการ ให้บริการ ต้องเป็นไปด้วยความต่อเนื่องเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และรักษาระดับภูมิคุ้มกันในประชาชน ชัดเจนว่า เรื่องวัคซีนต้องวางแผนระยะยาว เช่นนี้ จึงให้ความสำคัญกับการให้ไทยได้เป็นฐานการผลิตวัคซีน ไปจนถึงการมีวัคซีนเป็นของตัวเอง

ปัจจุบันวัคซีนที่ผลิตในไทย ได้ให้บริการไปแล้วนับล้านโดส ก็ยังไม่มีปัจจัยที่บ่งบอกว่าด้อยคุณภาพ ไม่มีความปลอดภัย ตรงนั้นสะท้อนความสามารถของคนไทย ระบบสาธารณสุขของไทยอยู่ในมาตรฐานที่สูง การรักษา เรายังยึดหลักว่าทุกคน ต้องได้รับการดูแลจากทีมแพทย์ ขณะที่เรื่องวัคซีน มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าไทยเริ่มต้นช้า ทั้งที่ไทยหารือกับผู้ผลิตมาตั้งแต่กลางปี 2563 ประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวให้ผู้ผลิตเลือกไทยเป็นฐาน ในวันนี้ เราได้มีการจองวัคซีนเป็นจำนวนมาก และได้ทยอยฉีดไปกว่า 5 ล้านโดสแล้ว

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า การทำงานกับหน่วยงานอื่น อาจมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่ทุกฝ่ายมองการทำงานเป็นสำคัญ มองประชาชนเป็นสำคัญ ย่อมคุยกันรู้เรื่อง ยิ่งกับท่านนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอย้ำว่าตนเคารพท่านในฐานะผู้บังคับบัญชา จึงไม่เคยมีเรื่องให้ขุ่นข้องหมองใจกัน ส่วนการอภิปรายที่ผ่านมา สังเกตได้ว่าสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้มุ่งวิจารณ์ท่านนายกฯ หรือรัฐบาล แต่สงสัยในการทำงานของสำนักงบประมาณ และสภาพัฒน์ ซึ่งท่านเอางบวัคซีนไปไว้ในงบกลาง และงบเงินกู้ แต่ไม่ปรากฏในเอกสารร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ ซึ่งเป็นเอกสารหลัก แต่กลับไม่มีเรื่องของวัคซีนปรากฏอยู่ ย่อมถูกวิจารณ์ได้ง่าย แต่เมื่ออธิบายแล้ว เข้าใจข้อเท็จจริง ก็ทำงานกันต่อ 

“ตนไม่เคยกังวลเรื่องยุบสภา เพราะที่ผ่านมา เมื่อตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมือง จะกลัวการเลือกตั้งไม่ได้ กลับกัน ต้องพร้อมตลอด ถ้าต้องเลือก ก็พร้อมลงสนาม ทั้งนี้ อยู่ในถนนสายการเมืองมาตั้งแต่ปี 2535 เข้าใจธรรมชาติการเมืองดี และที่ผ่านมา ทั้งตน และพรรคก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ หลักการทำงานของเราคือการลงมือทำให้สมกับได้ชื่อว่าเป็นพรรคปฏิบัติการเท่านั้นเอง” 

“สมศักดิ์” ไม่พูดชัด ตำแหน่งเลขาฯ พปชร. ยังต้องอยู่กับสามมิตร เตือน นักการเมือง อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง ให้พึงสังวรไว้ ทำงานวันนี้ ผลจะสะท้อนตอนเลือกตั้ง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมพรรคพลังประชารัฐที่มีกระแสข่าวเรื่องการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค ว่า ตอนประชุมกรรมการบริหารเพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่นั้นตนไม่ได้ร่วมประชุม เรื่องการปรับกรรมการบริหารพรรคมีข่าวออกมาเรื่อยๆ ตนก็คิดในทางที่ดี ว่าอาจจะดีก็ได้ เรื่องการปรับโครงสร้างนั้นตนยังไม่ทราบรายละเอียด จึงไม่กล้าคิดอะไร ส่วนตนจะไปร่วมประชุมด้วยหรือไม่นั้น ขอดูก่อน 

ผู้สื่อข่าวถามว่าตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐยังต้องอยู่ กลับกลุ่มสามมิตรหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ อยู่ที่ทุกคนต้องเข้าใจ ต้องคุยกัน เมื่อถามว่า ถึงเวลาแล้วหรือยัง ในการปรับเปลี่ยนเลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คนที่จะตอบเรื่องนี้หากไม่ถามเลขาธิการพรรค ก็ต้องถามหัวหน้าพรรค 

เมื่อถามว่า เราจะแก้ปัญหา อย่างไรในกรณีที่เมื่อมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในพรรคแล้วเลขาธิการพรรคไม่ทราบเรื่อง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา อย่าไปวิจารณ์เขา เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ นายสมศักดิ์เองเคยพูดทีเล่นทีจริงว่าหากมีการเปลี่ยนเลขาธิการพรรคก็จะเข้าไปเป็นเลขาพรรคเสียเอง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เวลามันข้ามมาหลายเดือนแล้วจากตอนนั้นที่พูด เมื่อถามย้ำว่า ตอนนี้ยังคิดเช่นนั้นอยู่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่คิด 

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดข่าวการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค จึงออกมาในช่วงนี้หนาหู นายสมศักดิ์ กล่าวว่าตนมองว่ามีคนพยายามทำให้เกิดข่าว  ส่วนจะเป็นคนในพรรคหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เพราะตนอาจจะให้ความสนใจเรื่องพรรคน้อยไป เนื่องจากส่วนตัวคิดว่าการทำงานต่างๆ ถ้าเราพยายามทำให้ได้งานออกมา ทั้งที่มีสถานการณ์โควิด-19 ก็น่าจะเป็นเรื่องดี ตนมุ่งเน้นเรื่องงานต่างๆ ของกระทรวงที่ออกมา ตนอยากจะทำมากที่สุด เช่น กฎหมายให้ผู้หญิงและเด็กเกิดความปลอดภัยจากอาชญากรต่อเนื่อง คิดว่าตนจะเสนอ ครม.ได้ในสิ้นเดือนนี้ 

"ถ้าเรามายุ่งเรื่องส่วนตัวมาก เช่น เรื่องในพรรคมากไป อยากเป็นโน่นเป็นนี่ อาจเสียงานในภาพรวม ผมจึงอยากให้นักการเมืองสังวรไว้ว่าประชาชนมองเราอยู่ อย่าคิดว่าวันนี้เราเดินได้สบายอยู่กับสิ่งที่เป็นอำนาจ แล้วทำให้ท่านสบาย แต่เวลาเลือกตั้งขอเรียนว่าสิ่งที่ทำไว้ในวันนี้มันจะสะท้อนในวันเลือกตั้ง ฝ่ายที่เป็นคู่แข่งเรา เขาจะเอามาโจมตีเราไม่ยั้ง แค่ภาพเดียวหรือสองภาพก็แทบตายแล้วในการเลือกตั้ง จึงอยากบอกว่าให้พึงสังวรตัวเองไว้ วันนี้อาจอยู่สบาย แต่วันเลือกตั้งมันยาก ผมก็เตือนตัวเองตลอด ต้องสร้างงาน” 

เมื่อถามว่ามองว่า ขณะนี้ปี่กลองเลือกตั้งเริ่มดังขึ้นแล้วใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมองว่ายังไปได้อยู่เพราะมีปัจจัยอื่นที่จำเป็นต้องให้รัฐบาลทำงาน ขอให้ใจเย็นๆ ส่วนจะเป็น 1 ปีเหมือนที่นายกฯพูดหรือไม่นั้น มันอาจจะช้าไปกว่านั้น ก็ได้เพราะเป็นช่วงที่เรามองเห็นปัญหาที่ผ่านมา วันนี้เป็นวันที่ตั้งต้นเดินหน้า ทุกกระทรวงต้องรีบทำเพราะรู้ว่าต้องแข่งผลงานกันเพื่อให้ชาวบ้านรู้สึกว่าช่วงปลายรัฐบาลดีจริงๆ 

คุณโอ สุพิชญา ณ สงขลา | THE STUDY TIMES STORY EP.40

บทสัมภาษณ์ คุณโอ สุพิชญา ณ สงขลา ปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ เอกคหกรรม สาขาอาหารและโภชนาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, นักแสดงอิสระ 
ความสุุขจากการเป็นจิตอาสา คือการได้รับรอยยิ้มกลับมาจากการให้

ช่วงมัธยมคุณโอเรียนอยู่ที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ในสายวิทย์-คณิต เรียกได้ว่าเป็นเด็กกิจกรรมตัวยง ทั้งเป็นตัวแทนหัวหน้าห้องเข้าสภานักเรียน เป็นตัวแทนในการทำกิจกรรมของโรงเรียนอยู่ตลอด รวมทั้งทำกิจกรรมอาสาร่วมกับมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด

คุณโอเลือกเข้าเรียนระดับปริญญาตรี ในคณะวิทยาศาสตร์ เอกคหกรรม สาขาอาหารและโภชนาการ เป็นสาขาที่เกี่ยวกับคหกรรมศาสตร์ แบ่งได้เป็นสามสาขา คือ อาหารและโภชนาการ การกำหนดอาหารและโภชนาการ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งสาขาอาหารและโภชนาการที่คุณโออยู่ เน้นไปที่การทำอาหารและมีวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง สาขานี้จะคล้ายนักโภชนาการ ทำอาหารให้ผู้ป่วย โดยมีแรงบันดาลใจมาจากความชื่นชอบในการทำอาหารและขนมมาตั้งแต่วัยเด็ก เข้าชมรมทำอาหารมาตลอด จึงตัดสินใจเข้าเรียนในคณะที่เกี่ยวกับการทำอาหารตามความชอบส่วนตัว 

นอกจากด้านการเรียนแล้ว ความเป็นเด็กกิจกรรมก็เด่นไม่แพ้กัน เพราะคุณโอเข้าร่วมเป็นสันทนาการประจำคณะ คอยเต้นเฮฮา ให้ความสุขกับน้องๆ เวลาที่น้องเครียดจากห้องเชียร์  อีกทั้งยังขึ้นชื่อว่าเป็นนักจิตอาสา อาสาสมัครตัวยง โดยมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงมัธยม เนื่องจากที่โรงเรียนจะมีกลุ่มรุ่นพี่ศิษย์เก่าจัดกิจกรรมอาสาช่วยเหลือชุมชน ให้ความรู้ผู้คนในชุมชน ทำกิจกรรมกับน้องๆ นักเรียนในโรงเรียน คุณโอเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าร่วมกิจกรรมมาตั้งแต่ตอนนั้น จนเกิดเป็นความรู้สึกชอบในงานจิตอาสา จากนั้นเมื่อเข้ามหาวิทยาลัย หากมีเวลาว่างก็จะหากิจกรรมจิตอาสาเพื่อเข้าร่วมมาโดยตลอด เรียกได้ว่า มีที่ไหนไปที่นั่น 

สำหรับคุณโอความสุขของการทำกิจกรรมจิตอาสาคือ การที่ได้รับรอยยิ้ม คำขอบคุณ และพลังบวกกลับมา ทำให้รู้สึกมีความสุขที่ได้มอบความรู้ให้กับน้อง และการเป็นจิตอาสายังทำให้ได้เห็นความเป็นจริงของสังคม เหมือนเป็นการเปิดประสบการณ์ตัวเองว่าเราไม่ได้มีโลกแค่ในโรงเรียนหรือในมหาวิทยาลัย คุณโอกล่าวว่า คนที่ลำบากกว่าเราก็ยังมี ถ้าได้ช่วยเขาไม่มากก็น้อย เราก็ดีใจ เพื่อให้เขาดีขึ้นสักวันสองวันก็ยังดี ดีกว่าเขาไม่มีเลย

ปัจจุบันคุณโอเป็นนักแสดงอิสระ มีจุดเริ่มต้นมาจากตอนเรียนจบมหาวิทยาลัย ช่วงนั้นต้องไปดูแลคุณพ่อที่ไม่สบาย เลยไม่มีเวลามากพอที่จะไปหางานประจำทำ จึงเริ่มจากการไปถ่ายรูป Portrait จนมีคนชักชวนไปถ่ายโฆษณา รู้สึกว่าเหมาะกับชีวิต ณ ตอนนั้น เมื่อได้เข้าไปทำรู้สึกรักและชื่นชอบในงานแสดง อีกทั้งยังมีเวลาว่างแบ่งมาดูแลคุณพ่อ จึงตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้

คุณโอชอบการได้สวมบทบาทต่างๆ เพราะบทบาทแสดงถึงลักษณะนิสัยและความเป็นอยู่ของคน การได้สวมบทบาทไปตามแต่ตัวละครทำให้สนุกกับการได้เรียนรู้ตรงนั้น 

คุณโอมีความสามารถพิเศษ คือการสื่อสารภาษามือ เนื่องจากคุณพ่อและคุณแม่มีความบกพร่องด้านการได้ยิน ทำให้วิธีการสื่อสารเดียวที่ทำได้คือ ภาษามือ ในงานจิตอาสาต่างๆ คุณโอก็ได้ใช้ความสามารถในการสื่อสารภาษามือ เป็นตัวกลางในการสื่อสารบอกความต้องการระหว่างผู้พิการหูหนวกและทีมงานได้ 

สุดท้ายคุณโอฝากถึงคนที่มีความฝันอยากเป็นนักแสดงว่า ทุกคนสามารถเป็นได้ ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตา หรือลักษณะเป็นยังไง แค่มีใจรักที่อยากจะเป็น ช่องทางการโปรโมทตัวเองมีเยอะ ไม่ต้องกลัวไม่ต้องอายว่าเราจะเป็นไม่ได้ แค่ลองทำเท่านั้นก็สามารถเป็นได้

.

.

.

States TOON EP.17

อยากได้วัคซีนแบบไหน ถามใจเธอดูวว์?


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top