Sunday, 22 June 2025
ค้นหา พบ 48945 ที่เกี่ยวข้อง

‘อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด’ อัด ‘ลุงตู่’ เอาแต่โหนผลโพลที่เชียร์ตัวเอง จี้ลาออกรับผิดชอบ บริหารพลาดทำโควิดระบาดรอบใหม่

‘อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด’ อัด ‘ลุงตู่’ เอาแต่โหนผลโพลที่เชียร์ตัวเอง จี้ลาออกรับผิดชอบ บริหารพลาดทำโควิดระบาดรอบใหม่ ปล่อยประชาชนเผชิญชะตากรรม ทั้งที่เป็นความผิดพลาดจากมาตรการรัฐ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ให้เครือข่ายออกมาโหนผลโพล ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนมากที่สุดว่า ถ้าโพลไหนรัฐบาลได้ประโยชน์ รีบกระโดดเข้าใส่ ถ้าโพลไหนเข้าเนื้อ ติดลบ รีบออกมาปฏิเสธ กล่าวโทษคนอื่น ตั้งท่าจะตรวจสอบ ประชาชนตั้งคำถามว่าโพลสนับสนุนรัฐบาลไปถามประชาชนแถวไหนบ้าง กลุ่มตัวอย่างเพียงพอหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์จะอ้างโควิด หลบหลังผลโพลที่อวยรัฐบาล โดยไม่ทำอะไรเลยไม่ได้ 

มีประชาชนเข้าไปแสดงความเห็นสวนทางกับผลโพลอย่างกว้างขวางในช่องทางต่างๆ เฉพาะป้ายปริศนาที่ไปโผล่ในกระทรวงสาธารสุข  อาทิ COVID มาอีกรอบ แต่ประยุทธ์ยังอยู่ หนูการ์ดตก คุมเชื้อให้ดีเหมือนคุมม็อบ ปัญหาที่ใหญ่กว่าโควิดก็คือประยุทธ์ ล้วนเป็นภาพสะท้อนอรรถาธิบายผลงานพล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่มีโควิดมาให้อ้าง ป่านนี้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์อาจอยู่ไม่ได้แล้ว ระหว่างการปราบม็อบกับปราบโควิด รัฐบาลยังตัดสินใจเลือกเครื่องมือไม่ถูก และไม่รู้ว่าจะปราบอันไหนก่อน ความจริงระบบสาธารณสุขพร้อม ประชาชนให้ความร่วมมือมากขนาดนี้ ยังปล่อยให้โควิดมาระบาดระลอกใหม่ ถ้าเป็นผู้นำที่มีภาวะผู้นำ ต้องประกาศลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไปแล้ว

"โควิดกระจอก หากคิดจะใช้เป็นเพียงข้ออ้างในการกู้เงิน มาเยียวยาเพิ่มคะแนน จัดซื้อจัดจ้างอย่างเร่งรีบขาดการตรวจสอบ สร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน โควิดไม่กระจอก เพราะกระทบต่อสุขภาพความเป็นความตายของประชาชน ที่ถูกลอยแพให้เผชิญชะตากรรมจากมาตรการรัฐที่ผิดพลาด" นายอนุสรณ์ กล่าว 

‘แรมโบ้’ โดดป้อง ‘ลุงตู่’ ยืนยันไม่เคยโทษใคร และรัฐบาลได้พยายามหยุดการระบาดเชื้อโควิดเต็มที่ พร้อมสวน ‘อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด’ หยุดปั้นน้ำเป็นตัว อย่าหวังตีกินทางการเมือง

สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มองว่าคำพูดนายกรัฐมนตรี ที่วอนนักการเมืองอย่าฉวยโอกาสใช้โควิด-19 เล่นเกมการเมืองเป็นการโยนบาป นั้น ตนมองว่า นายกฯพูดถูกที่สุดแล้ว โดยเฉพาะนักการเมืองฝ่ายค้าน ที่นอกจากไม่เคยมีแนวคิดที่จะช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ ในสถานการณ์เช่นนี้ กลับนำเอาโอกาสนี้มาหากินทางการเมืองให้ตัวเองดูดี และให้ประชาชนสับสนเข้าใจผิดในตัวนายกฯและรัฐบาล ทั้งที่เข้าใจดี แต่เสแสร้งไม่เข้าใจ ปั้นน้ำเป็นตัว ใส่ความเป็นเท็จเพื่อให้ประชาชนเข้าใจในคำพูดของนายกฯในทางผิด ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

นายสุภรณ์ กล่าวว่า นายกฯไม่เคยกล่าวโทษใคร เพราะที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหาต่างๆได้รับความช่วยเหลือและร่วมมือกับคนทุกภาคส่วน ขณะนี้นายกฯ และรัฐบาลได้พยายามหามาตรการต่างๆ เพื่อยังยั้งการระบาดเชื้อโควิด-19 มั่นใจว่านายกฯและรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้วจนเป็นที่ยอมรับ 

"มองเห็นว่านักการเมือง โดยเฉพาะฝ่ายค้าน และนายอนุสรณ์ ที่ไม่เคยช่วยอะไรประเทศชาติ มีแต่ใช้ปากเสียพูดมากไปวันๆ พูดแต่เรื่องที่ไม่มีสาระ น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง หาประโยชน์อะไรไม่ได้ หวังดิสเครดิตนายกฯและรัฐบาล คนเช่นนี้มักจะมีสมองทึบปัญญานิ่ม พูดอะไรไม่เป็นความจริงเลยสักนิด ทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนในตัวนายกฯ และอาจทำให้บ้านเมืองเสียหาย สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายค้านก็ควรคิดทบทวนให้ดีว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ และหากเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ผมมองว่า ระวังประชาชนจะออกมาขับไล่พรรคฝ่ายค้านเช่นเดียวกัน"

นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า ตนเคยย้ำหลายครั้ง ถ้ายิ่งปล่อยให้นายอนุสรณ์ ออกมาพูดยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยยิ่งตกต่ำ และก็เป็นจริง ดูได้จากการแตกแยกทยอยลาออกของแกนนำในพรรค และผลการเลือกตั้งท้องถิ่นนายก อบจ.เมื่อ 20 ธันวาคมที่ผ่าน แพ้เกือบราบคาบไม่เข้าเป้าที่ตั้งไว้ แถมพอคนของตัวเองแพ้แล้ว แกนนำ และบรรดา ส.ส.ก็ทะเลาะกัน ในพรรคจนวุ่นวายไปหมด นี่คือความเสื่อมของพรรคเพื่อไทย ที่ยังปล่อยนายอนุสรณ์ คนปากตลาดออกมาแสดงความโง่อ่อนเขลาเบาปัญญา ในที่สุดอาจทำให้พรรคเพื่อไทยถึงจุดล่มสลายไปเรื่อยๆ เพราะประชาชนเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมนักการเมืองปากตลาดพูดจ้อๆรายวันและพูดจาเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ ซึ่งประชาชนคนไทยไม่ได้โง่ตามนายอนุสรณ์และพรรคเพื่อไทย อย่าหวังตีกินทางการเมือง

รัฐสภา ไม่รอด! หลังพบผู้ติดโควิดจากระยอง เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมาธิการ พนันออนไลน์ เมื่อ 21 ธ.ค. ด้าน “เลขาสภาฯ” ร่อนไลน์ สั่งยกระดับความเข้มข้นสกัดโควิด -19 ในสภาฯแล้ว

มีรายงานข่าวจากรัฐสภาว่า ในช่วงเช้าไลน์ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้รายงานสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุดด้วยความระทึกใจ จากนางพรพิศ  เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่า  

“เรียน ผู้บริหาร  ตามที่มีข่าวว่ามีผู้ป่วยโควิด เข้ามาสภา วันที่ 21 ธ.ค. เวลา 13.00น. เมื่อสักครู่เลขาสภาได้สัมภาษณ์ บุคคลดังกล่าวแล้ว ปรากฏข้อเท็จจริงว่า Mr A เข้ามาประชุม อนุ กมธ.พนันออนไลน์ เวลา 13.30-15.00 น เข้า-ออก ทาง B 2แล้วเดินทางกลับ ระยอง  วันที่ 23 ธ.ค. ไปพบป้า (ผู้ป่วยโควิด)ช่วงเที่ยง วันที่ 24 ธ.ค.Mr A พาครอบครัวไปตรวจโควิด ทุกคนผลเป็นลบ ยกเว้น Mr A มีผลก้ำกึ่ง สสจ.ระยอง ให้ Mr A ไปกักตัว@รพ ระยอง   ขณะนี้ Mr A กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการแยกมากักตัวที่ รพ.กทม.

นอกจากนี้ นางพรพิศ ยังได้มีข้อสั่งการ ระบุให้สำนักการแพทย์ติดตามข้อมูลการแพร่ระบาดให้ใกล้ชิด ยกระดับความเข้มข้นของการตรวจคัดกรองและแจ้งประสานทุกฝ่ายเฝ้าระวังและติดตามสังเกตอาการของตนตามมาตรการสาธารณสุขที่ได้แจ้งอย่างเคร่งครัด ทุกสำนัก ปฏิบัติตามมาตรการฯเร่งด่วนโดยเคร่งครัด  

สำหรับคณะอนุกรรมาธิการ(กมธ.) ศึกษาผลกระทบคาสิโนออนไลน์ที่มาจากต่างประเทศ (กมธ.พนันออนไลน์) ใน กมธ.การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร มีนายวินท์ สุธีรชัย ส.ส. บัญชีรายชื่อ  พรรคก้าวไกล  เป็น ประธานคณะอนุกมธ.

ล่าสุด นายวินท์ สุธีรชัย ระบุว่า ตนได้โทรคุยกับบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ได้รับการชี้แจงข้อมูลเบื้องต้นว่า ก่อนหน้าที่จะประชุมกับคณะเราในวันที่ 21 ธ.ค. เจ้าตัวอยู่แต่ที่บ้าน มีแค่ออกไปเลือกตั้ง อบจ. วันที่ 20 ธ.ค. และใส่แมสตลอดเวลาที่ออกจากบ้าน

ความเสี่ยงเดียวที่ได้เจอคือไปพบญาติที่บ้านญาติ(ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นผู้ป่วยโควิด-19) ในวันที่ 23 ธ.ค. และได้ถูกเชิญไปตรวจหลังจากที่ญาติถูกพบว่าติดโควิด-19

ผลตรวจ Swab Test ในเบื้องต้นออกมาก้ำกึ่ง ทางสาธารณสุขระยองจึงส่งผลไปตรวจใน Lab ใหญ่ที่ชลบุรีเพื่อตรวจสอบแบบละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผ่านมาแล้ว 3 วัน แต่ยังไม่รู้ผล(ทาง Lab ชลบุรีแจ้งว่ามีคิวตรวจเป็นจำนวนมาก) ดังนั้น จึงยังไม่ทราบ 100% ว่าติดโควิด-19 แล้วหรือยัง

ทั้งนี้ ตนในฐานะประธานอนุกรรมาธิการศึกษาผลกระทบคาสิโนออนไลน์ที่มาจากต่างประเทศ ได้กำชับทุกท่านในที่ประชุมวันที่ 21 ธ.ค. ถึงการใส่หน้ากากอนามัยและให้รักษาระยะห่าง ซึ่งทุกท่านรวมถึงเจ้าตัวเองได้แยกออกมากักตัวและได้ทำตามมาตรการได้อย่างดี และอีกทั้งในวันที่21 ธันวาคมที่ผ่านมาบุคคลดังกล่าวไม่ได้มีการพูดในที่ประชุมเข้ามาเพียงสังเกตการประชุม

“จากข้อมูลทั้งหมด ผมอยากให้ทุกท่านมั่นใจในมาตรการการป้องกัน โควิด-19 ของ รัฐสภา และ ที่ประชุมอนุกรรมาธิการ ของเรา โดยทางรัฐสภาจะมีการประชุมวันพรุ่งนี้เพื่อกำหนดมาตรการต่อไป ความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบทันทีหลังได้มติการประชุม” นายวินทร์ กล่าว

‘กสิกรไทย’ ประเมินเงินบาทมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 29.80-30.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ส่วนดัชนีตลาดหุ้นไทย หวังแรงซื้อจากกลุ่มกองทุน มีแนวรับที่ 1,460 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 1,510 จุด

จับตาค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทยสัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นปี ‘กสิกรไทย’ ประเมินเงินบาทมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 29.80 - 30.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ส่วนดัชนีตลาดหุ้นไทย หวังแรงซื้อจากกลุ่มกองทุน มีแนวรับที่ 1,460 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 1,510 จุด
.
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 29.80 - 30.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คือ สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนพ.ย. โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เช่นเดียวกับทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย รวมไปถึงบทสรุปของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค.2563 ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
.
ส่วนดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้า บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,475 และ 1,460 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,500 และ 1,510 จุดตามลำดับ โดยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การทำ Window Dressing หรือการทำตัวเลขทางบัญชีของบริษัท และแรงซื้อจากกลุ่มกองทุนในช่วงปลายปี สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงความชัดเจนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขายเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ของญี่ปุ่น

แผนรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินส่อเค้าวุ่น หลังลือสะพัด ย้าย ‘สถานีพัทยา’ ตามใจนายทุนใหญ่ ด้าน 'ก้าวไกล' เกาะติด หวั่นประชาชนเดือดร้อนโดนเวนคืนฟรี 

แผนรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินส่อเค้าวุ่น หลังมีข่าวสะพัด เตรียมหาทางย้าย ‘สถานีพัทยา’ ตามใจนายทุนใหญ่ ห่างออกไปอีก 15 กม. ด้านส.ส.ก้าวไกล ‘สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ’ เกาะติด หวั่นประชาชนเดือดร้อนโดนเวนคืนฟรี 
.
นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองเลขาธิการและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้ความเห็นหลังจากมีกระแสว่า ‘นายทุนใหญ่’ ที่สนับสนุนการรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจซึ่งได้สัมปทานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ต้องการจะย้ายสถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยาตามใจตัวเอง จากตำแหน่งเดิมคือทับกับสถานีรถไฟพัทยาในปัจจุบัน ไปเป็นตำแหน่งใหม่ใกล้ตลาดนํ้าสี่ภาคและสวนนงนุชซึ่งห่างออกไปนอกเมืองอีกถึง 15 กิโลเมตร 
.
“ได้เช็คข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบเรื่องอย่างเป็นทางการ เห็นแต่ในข่าว เรื่องนี้เคยทำหนังสือไปทวงถามแล้ว แต่นายทุนใหญ่ก็ไม่ยอมตอบ ทำให้การดำเนินงานในโครงการเกิดปัญหาคาราคาซัง ส่อแววล่าช้าและอาจเกิด ‘ค่าโง่’ ขึ้นได้หากเวนคืนและส่งมอบพื้นที่ตามแผนเดิมไม่ทัน เจ้าหน้าที่ก็ไม่กล้าเร่งรัดตามแผนเดิมเต็มที่เพราะหากเปลี่ยนตำแหน่งสถานีจริง ประชาชนที่จะโดนเวนคืนก็เดือดร้อนฟรีและฟ้องร้องเอาได้”
.
รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุอีกว่า ล่าสุด นายกเมืองพัทยาได้ออกมารับลูกจากนายทุนใหญ่ โดยจะมีการตั้งงบประมาณเพื่อศึกษาเพิ่มให้อีก 60 ล้านบาท หรือก็คือการใช้ภาษีประชาชนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทุนในการปรับแผนโมโนเรลให้สอดรับกับการพัฒนาพื้นที่ใหม่ของนายทุน ประเด็นคือนายทุนใหญ่ต้องสนิทสนมกับผู้มีอำนาจมากขนาดไหน ถึงได้ ‘กล้า’ สั่งเปลี่ยนตำแหน่งสถานีตามใจตัวเอง และผู้มีอำนาจทำไมถึงต้องยอมนายทุนใหญ่ขนาดนี้ 
.
นายสุรเชษฐ์ ชี้ว่า ตำแหน่งสถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยาและโครงข่ายระบบโมโนเรลต้องถูกวางแผนเพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นหลัก เมื่อวางแผนแล้ว ให้สัมปทานแล้ว ไม่ควรยอมให้เปลี่ยนตามใจนายทุนใหญ่ในลักษณะนี้ และพรรคก้าวไกลจะเกาะติดประเด็นนี้ต่อไป เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม ไม่ใช่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ทุนใหญ่  ผลประโยชน์ของโครงการควรต้องตกอยู่กับประชาชนโดยตรง และอย่าไปเชื่ออย่างที่เขาชอบหลอกลวงว่า “เมื่อทุนใหญ่ร่ำรวย รายเล็กรายน้อยก็จะได้ประโยชน์ไปด้วย”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top