‘อียู’ เล็งยึดทรัพย์ ‘รัสเซีย’ ไปซื้ออาวุธป้อนยูเครน ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เมื่อวานนี้ (20 มี.ค.67) วังเครมลินชี้ว่าสหภาพยุโรป (อียู) จะละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน หากว่าพวกเขาใช้ยึดทรัพย์สินของรัสเซียที่อายัดไว้ นำไปจัดหาอาวุธป้อนแก่ยูเครน

ทั้งนี้ บรรดาประเทศสมาชิกอียูถกเถียงกันมานานหลายเดือนว่าจะทำอย่างไรกับทรัพย์สินของรัสเซียที่อายัดไว้ โดยที่ โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศ ผลักดันแผนการหนึ่งในวันพุธ (20 มี.ค.) ให้นำดอกเบี้ยที่ได้จากทรัพย์สินของรัสเซียที่อายัดไว้ นำไปป้อนแก่เคียฟ

"พวกประเทศยุโรปทราบดีว่าความเสียหายจากการตัดสินใจลักษณะนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรกับเศรษฐกิจของพวกเขา ภาพลักษณ์ของพวกเขา ชื่อเสียงของพวกเขาในฐานะผู้รับประกันที่น่าเชื่อถือ" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครามลินกล่าว "พวกเขาจะตกเป็นเป้าหมายของการดำเนินคดีไปอีกหลายทศวรรษ"

มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวในวันพุธ (20 มี.ค.) ว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มอสโกจะต้องทำการตอบโต้การชิงทรัพย์และลักขโมยอย่างโจ่งแจ้งครั้งนี้

พวกเจ้าหน้าที่อียูประมาณการว่าข้อเสนอล่าสุดนี้ จะได้เงินทุนราว 3,000 ล้านยูโรต่อไป สำหรับนำไปช่วยเหลือยูเครน

ปัจจุบัน อียูอายัดทรัพย์สินต่างๆ ที่ธนาคารกลางรัสเซียถือครองอยู่ในสหภาพยุโรป อยู่ราว 200,000 ล้านยูโร ส่วนหนึ่งในมาตรการคว่ำบาตรลงโทษที่กำหนดเล่นงานมอสโก ต่อกรณีส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยเงินทุนส่วนใหญ่ถือครองโดย Euroclear องค์กรที่ทำหน้าที่รับฝากหลักทรัพย์ ชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ระหว่างประเทศ ที่มีสำนักงานในเบลเยียม

ภายใต้แผนของอียู 90% ของเงินที่ดึงออกมาจากดอกเบี้ยจะถูกนำไปป้อนเข้าสู่กองทุนหนึ่งเพื่อใช้สำหรับเป็นทุนสำรองค่าใช้จ่ายด้านอาวุธสำหรับยูเครน ส่วนอีก 10% ที่เหลือ จะถูกป้อนเข้าสู่งบประมาณของอียู ซึ่งพวกเขาจะนำไปใช้เพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมป้องกันตนเองของยูเครน

ความพยายามผลักดันของอียูในการควานหางบประมาณเพิ่มเติมสำหรับยูเครน มีขึ้นในขณะที่แพ็กเกจสนับสนุนมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากอเมริกา ชาติผู้หนุนหลังรายใหญ่ที่สุดของเคียฟ ยังคงติดแหง็กอยู่ในสภาคองเกรส

ท่ามกลางอาวุธที่ลดน้อยถอยลงในสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี ส่งผลให้กองกำลังยูเครนกำลังตกเป็นรองในแนวหน้าต่างๆ และประสบปัญหาในการสกัดการรุกคืบของรัสเซีย

รายงานข่าวระบุว่า พวกผู้นำอียูเตรียมหารือกันเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ ณ ที่ประชุมซัมมิต ในบรัสเซลส์ ในวันที่ 21 มี.ค. และพวกเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเงินจะเริ่มถูกส่งป้อนเข้าไปช่วยยูเครนในเดือนกรกฎาคม หากว่าสามารถบรรลุข้อตกลงอย่างรวดเร็

พวกเจ้าหน้าที่อียูยืนยันว่าแผนของเขาฟังดูเหมือนมีความชอบธรรมตามกฎหมาย เพราะว่าดอกเบี้ยที่อยู่ในเป้าหมายของพวกเขาเป็นรายได้จากการรับฝากสินทรัพย์ ผลจากมาตรการคว่ำบาตร และไม่ได้เป็นของรัสเซีย

สมาชิกบางชาติของอียู อย่างเช่นเยอรมนี มีความระมัดระวังอย่างยิ่งต่อความเคลื่อนไหวใดๆ ที่อาจบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างแดนต่อระบบการเงินของยุโรป แต่ในขณะเดียวกัน บรัสเซลส์ก็ถูกกดดันจากยูเครนและสหรัฐฯ ให้ดำเนินการมากกว่าที่เป็นอยู่ และทำการยึดทรัพย์สินทั้งหมดของรัฐบาลรัสเซีย มูลค่า 200,000 ล้านยูโร