‘ไทย-ตุรกี’ หารือฟื้น FTA ลดช่องว่างการค้า เล็งเชิญผู้นำไทยเยือนตุรกีในรอบ 20 ปี

(12 ต.ค. 66) นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยหลังการหารือกับนางแซรัป แอร์ซอย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย ว่า ไทยและตุรกีเห็นพ้องกันที่จะผลักดันความตกลงการค้าเสรีหรือ FTA ระหว่างกันให้ก้าวหน้า เนื่องจากที่ผ่านมามีการเจรจากันถึง 7 รอบ แต่ต้องหยุดชะงักลงเมื่อปี 2564 จากเหตุปัจจัยภายในประเทศของตุรกี โดยไทยพร้อมและยินดีจะกลับเข้าสู่การเจรจาทันทีเมื่อตุรกีเสร็จสิ้นกระบวนการทบทวนนโยบาย ซึ่งเอกอัครราชทูตตุรกียืนยันว่าแนวทางการพิจารณาของตุรกี น่าจะเป็นรูปเป็นร่างได้ในช่วงต้นปี 2567 

ทั้งนี้ หากการจัดทำ FTA ร่วมกันสำเร็จ ทั้ง 2 ประเทศก็จะได้ประโยชน์โดยเฉพาะการลดช่องว่างดุลการค้าและด้านอื่น ๆ เช่น การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม โดยในปีนี้ไทยและตุรกีมีความสัมพันธ์ครบรอบ 65 ปีอีกด้วย

นางนลินี กล่าวว่า ตุรกีเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูง มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 19 ของโลก ไทยสามารถใช้ตุรกีเป็นสะพานเชื่อมต่อทางการค้าไปสู่ยุโรปตะวันออก กลุ่มประเทศบอลข่าน และแอฟริกาตอนเหนือได้ และสินค้าไทยที่จะได้รับประโยชน์จาก FTA เช่น ยานพาหนะ ตู้เย็น พลาสติกชนิดโพลิสไตลีน ผ้าทอ เมล็ดพืช อาหารฮาลาล ผลไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น 

ส่วนทางตุรกีนั้น สามารถใช้ไทยเป็นประตูการค้าไปสู่เอเชียตะวันออก อาเซียน และประเทศอื่นที่มีความตกลงการค้าเสรีกับอาเซียน โดยเฉพาะประเทศสมาชิก RCEP รวมทั้งการลงทุนใน EEC ขณะเดียวกันตุรกียังสนใจใช้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน โดยตุรกีมีความเข้มแข็งด้านอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากจีน

นางนลินี กล่าวอีกว่า สำหรับบริษัทไทยที่เข้าไปลงทุนในตุรกี เช่น CPF Indorama และ Dusit Thani ส่วนบริษัทตุรกีที่ลงทุนในไทย เช่น KOC Holding HIDROMEX Sabanci Holding เป็นต้น และทั้ง 2 ประเทศยังมีเที่ยวบินตรงระหว่างกันทั้ง Turkish Airlines และสายการบินไทยจำนวนหลายเที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยตุรกีเห็นว่าทั้ง 2 ประเทศยังร่วมกันพัฒนาด้านอื่นได้อีก ได้แก่ เศรษฐกิจสีเขียว ธุรกิจเพื่อความยั่งยืน อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และการจัดตั้งโรงเรียนในประเทศไทย และอยากให้ไทยพิจารณาผ่อนปรนเงื่อนไขการนำเข้าผลไม้จากตุรกีด้วย

"ท่านทูตตุรกีย้ำว่าไทยไม่ได้มีการเยือนตุรกีในระดับผู้นำเป็นเวลามากกว่า 20 ปีแล้ว จึงอยากเชิญนายกฯ และผู้แทนการค้าไทยไปเยือนตุรกี และยังแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่ราชวงศ์ไทย รัฐบาล ภาคเอกชน NGO และประชาชนชาวไทย ให้ความช่วยเหลือตุรกีในเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อเดือน ก.พ.66 ที่ผ่านมาด้วย" นางนลินี กล่าว