‘บิ๊กตู่’ ยันตามติด!! ไม่ปล่อยน้ำท่วมทุ่งนาน พร้อมเทงบ 504 ล้าน ดูแล 16 โครงการ

นายกฯ ยันรัฐบาลไม่ปล่อยน้ำท่วมทุ่ง ระบุไม่นิ่งนอนใจสั่งเร่งระบายน้ำออกทันที พร้อมจัดสรรงบบริหารจัดการในพื้นที่ 16 โครงการ วงเงิน 504 ล้าน

เมื่อ (24 ต.ค. 65) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ภายหลังรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด ซึ่งได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งแก้ปัญหาการระบายน้ำ และรัฐบาลได้ดูแลจัดสรรงบประมาณแผนงาน โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ปี 65 มีจำนวนโครงการทั้งสิ้น 16 โครงการ วงเงิน 504 ล้านบาท ประชาชนได้รับประโยชน์ 3,476 ครัวเรือน และพื้นที่ได้รับการป้องกัน 6,569 ไร่ ตัวอย่างโครงการ ได้แก่...

1. แก้มลิงลำบางชัน ต.บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี (สำนักชลประทาน) 

2. อาคารป้องกันตลิ่งแม่น้ำน้อย ต.ไม้ดัด อ.บางระจัน (สำนักชลประทาน) 

3. ก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองสิงห์บุรี ระยะที่ 2 (กรมโยธาธิการและผังเมือง) 

4. งานวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำ ต.ม่วงหมู่ อ.เมืองสิงห์บุรี (การประปาส่วนภูมิภาค) โดยได้กำหนดแผนงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งสำรวจดูแลความเดือดร้อน เพื่อลดและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้เหลือน้อยที่สุด รวมทั้งเร่งระบายน้ำให้เร็วขึ้น เพื่อลดความเสียหายให้กับประชาชน และมีระบบการแจ้งเตือนให้ประชาชนเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

ในส่วนของบริเวณจุดที่มีความเสียหายที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก หรือน้ำท่วมทุ่ง จะต้องแก้ไขปัญหาระบายน้ำทันที ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจสาเหตุน้ำท่วม ระบบการระบายน้ำ และการปรับสภาพความเป็นอยู่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ปล่อยน้ำให้ท่วมทุ่ง ซึ่งบางพื้นที่ได้รับการแก้ไขปัญหาแล้ว แต่บางพื้นที่ยังทรงตัว อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ อะไรที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลพร้อมจะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยได้เตรียมงบประมาณไว้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแล้ว

นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม ทั้งแผนหลัก แผนสำรอง เพื่อรองรับและแก้ปัญหาในอนาคตด้วย โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาการระบายน้ำให้สมบูรณ์ และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ เพราะขณะนี้น้ำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ จึงขอให้ระมัดระวังสถานการณ์น้ำที่ต้องพบกับภาวะโลกร้อน และต้องเตรียมวางแผนจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้โลกร้อนอีกด้วย

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดสิงห์บุรี ส่วนใหญ่เป็นปัญหาอุทกภัยที่เกิดในพื้นที่ราบลุ่ม สภาพน้ำท่วมเกิดจากปริมาณน้ำจำนวนมากที่ไหลมาจากตอนบน ไหลล้นตลิ่งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เข้าท่วมพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่การเกษตร ส่งผลให้น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี, อำเภอเมืองสิงห์บุรี, อำเภอท่าช้าง, อำเภอพรหมบุรี, อำเภอบางระจัน และอำเภอค่ายบางระจัน ในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรีได้รับผลกระทบ จำนวน 6 อำเภอ 25 ตำบล 13 ชุมชน 167 หมู่บ้าน 20,419 หลังคาเรือน 58,811 คน ผู้เสียชีวิต 6 ราย ได้มีการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ อาทิ จัดสถานที่พักพิง การแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่ม แจกถุงยังชีพ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ สนับสนุนจัดเรือท้องแบน จำนวน 40 ลำ ทหารเรือและทหารบก อปพร. เข้ามาช่วยเหลือในพื้นที่

ส่วนการดำเนินการฟื้นฟูหลังน้ำลด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสูบน้ำออก ทำความสะอาดบ้านเรือนและที่อยู่อาศัย เพื่อคืนพื้นที่ให้ประชาชนกลับสู่คืนสู่สภาวะปกติ สำรวจความเสียหายของบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย วัด โรงเรียน สิ่งสาธารณประโยชน์ต่างๆ และความเสียหายภาคการเกษตร เพื่อให้ได้เงินชดเชยเยียวยาตามระเบียบฯ อีกทั้งจิตอาสาจัดทำสารบำบัดน้ำเสียและขจัดกลิ่นเหม็น (EM และ EM ball) เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียในพื้นที่


ที่มา: https://www.thaipost.net/hi-light/248373/