'เพื่อไทย' จี้รัฐเร่งส่งปัจจัย 4 ช่วยปชช. พร้อมเตรียมมาตรการเยียวยาหลังน้ำลด

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ (17 ต.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ เช่น ที่ จ.อุบลราชธานี บางพื้นที่ปริมาณน้ำท่วมสูงกว่า 3-6 เมตร ประชาชนต้องออกจากบ้านมาอาศัยที่ศูนย์อพยพโดยไร้การช่วยเหลือที่เพียงพอ หรือล่าสุดที่ จ.กาฬสินธุ์ พนังกั้นลำน้ำชีขาด ทำให้กระแสน้ำท่วมไหลเข้าท่วม 4 หมู่บ้านของ อ.ฆ้องชัย ต้องเร่งอพยพประชาชนออกจากหมู่บ้านอย่างเร่งด่วน ที่ จ.ร้อยเอ็ด ถูกน้ำท่วมขังแล้ว 14 อำเภอ ที่ปริมาณน้ำในลำน้ำชี ลำน้ำมูล และลำน้ำข้างเคียง รวมถึงบางพื้นที่ถูกน้ำท่วมขังมาแล้ว 3 เดือน ขาดน้ำ อาหารและยารักษาโรค จนถึงวันนี้ยังไม่มีการเข้าไปดูแลช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างเพียงพอ

ทั้งนี้ ปัญหาเดิมในเรื่องการดูแลทุกข์ของพี่น้องประชาชนที่ถูกน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลานานนับเดือน และปัญหาใหม่ที่การบริหารจัดการน้ำในเขื่อน แม่น้ำ และน้ำทุ่งที่ไม่ได้รับการดูใจ หรือดูแลแก้ไขอย่างดีพอของรัฐบาลที่นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่คาดการณ์สถานการณ์ผิดพลาด การบริหารจัดการน้ำ และการให้ความช่วยเหลือไม่เป็นที่พึ่งที่หวังให้กับพี่น้องประชาชนได้

น.ส.ชญาภา กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยเห็นใจและเข้าใจถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพี่น้องในจ.อุบลราชธานี ที่ถูกน้ำท่วมสูงที่สุดในรอบ 44 ปี น้ำท่วมจนมองไม่เห็นฝั่ง พื้นที่การค้าขาย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นถูกปิดตาย ไม่สามารถกลับมาได้ในเร็ววัน หลายพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลางก็ล้วนได้รับความเดือดร้อนทั่วทุกหัวระแหง แต่พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำของประเทศยังเงียบหาย แม้ในวันเสาร์อาทิตย์ ยังคงเป็นวันหยุดที่นายกฯ ของประเทศ ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำงานเหมือนคนหมดไฟ ขณะที่ประชาชนต้องทนหนาวแช่น้ำท่วมที่ไม่รู้ปลายทางว่าน้ำจะลดลงเมื่อไหร่ และวันไหนที่จะมีภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาล 1.) ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วนทันที โดยเฉพาะการช่วยเหลือเฉพาะหน้าในเรื่องปัจจัยสี่ ทั้งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัยและยารักษาโรค ต้องนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทันที รวมทั้งขอให้เอ๊กซเรย์พื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างทั่วถึง โดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศหรือโดรนสำรวจ เพื่อให้การช่วยเหลือทำได้อย่างตรงจุด

น.ส.ชญาภา กล่าวอีกว่า 2.) การเยียวยาพี่น้องประชาชนหลังน้ำลด ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและเพียงพอต่อผลกระทบ อย่าล่าช้าซ้ำรอยน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งพี่น้องประชาชนร้องเรียนมายังพรรคพท.ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการเยียวยาจนถึงปัจจุบัน 

3.) การใช้งบประมาณในการจัดการน้ำของรัฐบาลหลายแสนล้านบาท ต้องเป็นไปอย่างคุ้มค่าและได้ผล แต่ที่ผ่านมางบประมาณแผ่นดินถูกใช้แบบสุรุ่ยสุร่าย เหมือนกับตำน้ำพริกละลายแม่น้ำใช่หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ไม่เห็นผลที่เป็นรูปธรรม หลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมหนักมาแล้ว 2 ครั้งคือในปี 2562 และล่าสุดในปีนี้ 

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยยังคงยืนยันว่าหากโครงการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบมูลค่า 3.5 แสนล้านบาทได้ดำเนินการสานต่ออย่างสมบูรณ์แบบในวันนั้น น้ำคงไม่ท่วมหนักจนพี่น้องประชาชนต้องลำบากทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสในวันนี้ โครงการ 3.5 แสนล้านบาท สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะผ่านกระบวนการคิดโดยผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขามาเป็นอย่างดี หากพรรคเพื่อไทยได้รับโอกาสจากพี่น้องประชาชนให้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง โครงการ 3.5 แสนล้านจะกลับมาอีกครั้ง และจะมาในรูปแบบที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย