‘หม่อมปลื้ม’ ปลื้ม!! เดินหน้าโครงการเหมืองโปแตซ ยก ‘สุริยะ’ ตัวจริงพาฉลุย!! แนะอย่าแคร์เอ็นจีโอแขวะ

ถือเป็นความเคลื่อนไหวจากภาครัฐ โดยเฉพาะผลงานที่ถูกขับเคลื่อนโดยกระทรวงอุตสาหกรรม จนทำให้พิธีกรฝีปากกล้าอย่าง ‘หม่อมปลื้ม’ หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้ดำเนินรายการ ‘The Daily Dose’ ที่ออกมาเชียร์ให้รัฐบาลเดินหน้าสุดซอยกับโครงการเหมืองโปแตซ โดยหม่อมปลื้มได้ลงรายละเอียด ระบุว่า...

ข่าวดี!! ครม.อนุมัติ ‘เอเชีย แปซิฟิค’ บริษัทในเครืออิตาเลียนไทย เดินหน้าเหมืองโปแตซ อุดรฯ ลงทุน 3.6 หมื่นล้านบาท เตรียมให้ประทานบัตร กำลังการผลิตปีละ 2 ล้านตัน เพื่อลดการพึ่งพาปุ๋ยต่างประเทศเสียที

ทุกวันนี้ประเทศไทยนำเข้าปุ๋ยปีละ 4 ล้านตัน มูลค่า 60,000 ล้านบาท เป็นปุ๋ยโปแทชเซียมประมาณ700,000 ตัน คิดเป็น 9,000 ล้านบาทต่อปี ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตโปแตซเซียมสูงมาก ซึ่งคาดว่าไทยมีสำรองแร่โปแตชสูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลกอยู่ที่ 400,000 ล้านตัน รองจากแคนาดา, เบลารุส และเยอรมนี

สำหรับพื้นที่พบแร่โปแตชขนาดใหญ่ในไทยมี 2 แหล่ง คือ ‘แอ่งสกลนคร’ ประกอบด้วย จังหวัดสกลนคร, หนองคาย, อุดรธานี และ นครพนม

และ ‘แอ่งโคราช ประกอบด้วย จังหวัดขอนแก่น, กาฬสินธุ์, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ, นครราชสีมา และ ชัยภูมิ

แน่นอนว่าตอนนี้ ‘กระทรวงอุตสาหกรรม’ ได้อนุมัติประทานบัตรให้กับเอกชน 2 ราย คือ บริษัท ไทยคาลิจำกัด จ.นครราชสีมา และ บริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) จ.ชัยภูมิ เพื่อเข้ามาดำเนินโครงการเหมืองโปแตซ ที่จะนำไปสู่การผลิตปุ๋ยใช้เองในประเทศได้แล้ว

โดยล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเมื่อวันที่ (28 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโครงการของบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตชคอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอพีพีซี) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์จำกัด (มหาชน) หรือ ไอทีดี ซึ่งเข้าไปซื้อกิจการบริษัทเอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่นจำกัด เมื่อปี 2549

สำหรับเรื่องของการเคาะโครงการเหมืองโปแตช ‘อุดร’ นั้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยขั้นตอนจากนี้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จะไปเร่งออกประทานบัตร เพื่อเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาการขาดแคลนปุ๋ยช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป

ถึงตรงนี้ ผมขอปรบมือให้ครับ!! โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรัฐมนตรีอย่างคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน

เขา 2 คนเป็นคนที่อยู่เงียบๆ แต่ทำงานจริง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการอนุมัติโครงการสำคัญต่อประเทศ อย่างโครงการเหมืองโปแตซนี้ ที่ได้รับการอนุมัติจากคุณสุริยะ มันสำคัญมากๆ

(กลับมาที่เนื้อหาต่อ) ทั้งนี้ในส่วนของโครงการเหมืองแร่โปแตช จังหวัดอุดรธานี ถือเป็นเหมืองแร่ขนาดใหญ่โดยเหมืองดังกล่าว มีแผนการผลิต 2 ล้านตันต่อปี โดยประเมินว่า จะมีปริมาณการผลิตตลอดอายุโครงการ 25 ปี อยู่ที่ 33.67 ล้านตัน เบื้องต้นมีมูลค่าการลงทุนของโครงการประมาณ 36,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมา บริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ยื่นขอประทานบัตรไปแล้ว

ที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และส่วนราชการตามกฎหมายถึงโครงการดังกล่าวแล้ว รวมทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้พิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมแล้วด้วย ซึ่งก็พบว่าเป็นไปตามข้อกำหนด ดังนั้นจึงได้เสนอเข้ามาใน ครม. เพื่อพิจารณาเห็นชอบ

หลังจากโครงการเหมืองแร่โปแตช จังหวัดอุดรธานี ได้ผ่านการเห็นชอบจาก ครม.แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะไปเร่งออกประทานบัตร ซึ่งภาคเอกชนก็อยากทำไห้เร็ว คาดว่า อย่างเร็วที่สุดภายใน 6 เดือน หรือ 1 ปีก็คงเริ่มต้นดำเนินการได้ โดยจะค่อยๆ เริ่มทำไป ซึ่งเหมืองแร่แห่งนี้มีปริมาณการผลิตอยู่ที่ 2 ล้านตันต่อปี

ส่วนอีก 2 บริษัทที่ได้รับประทานบัตรทำเหมืองแล้ว คือ บริษัท เหมืองแร่โปแตชอาเซียน จำกัด (มหาชน) จังหวัดชัยภูมิ อยู่ระหว่างให้กระทรวงการคลังดำเนินการเริ่มการเพิ่มทุน ขณะที่บริษัท ไทยคาลิ จำกัด จังหวัดนครราชสีมา อยู่ระหว่างการขุดอุโมงค์เพื่อเริ่มทำเหมืองตามขั้นตอน แต่ยังไม่ได้เปิดการทำเหมืองได้ โดยในส่วนของกำลังการผลิตเหมืองโพแทชในประเทศไทยทั้งหมด หากสามารถเปิดเหมืองทั้ง 3 แห่งได้นั้น จะอยู่ที่ 3.2 ล้านตันต่อปีเลยทีเดียว

ทั้งหมดที่กล่าวมาจนถึงตอนนี้ ผมมองว่าเป็นข่าวดีมาก!! และไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นข่าวแบบนี้!!

ปัญหา คือ อีกเดี๋ยวเราจะเห็นการออกมาเรียกร้องของบรรดาเอ็นจีโอ, สื่อมวลชน, พิธีกรข่าว และเหล่าคอลัมนิสต์ ช่องการเมืองดังๆ ออกมาหาเรื่องนั่งสวดรัฐบาล ว่าไม่แคร์พี่น้องประชาชน ไม่แคร์สภาพแวดล้อม เอื้อทุนใหญ่ ด่าโครงการนี้ เพื่อให้เห็นว่าตนเองแคร์สิ่งแวดล้อม อย่างแน่นอน

แต่ผมขอบอกรัฐบาลไว้เลยว่า ไม่ต้องไปฟัง!! เพราะเรื่องนี้ คือ สิ่งที่รัฐบาลควรทำ!!

...ปุ๋ยในประเทศต้องมี และต้องมีเยอะ เพราะว่าอะไร พูดดังๆ ซิ?
...เพราะว่าคนไทยต้องใช้ปุ๋ย #ทำไมคนไทยต้องใช้ปุ๋ย?
...เพราะคนไทยเป็นเกษตรกร และเกษตรกรต่างจังหวัด เค้าไม่อยากซื้อปุ๋ยแพง เพราะเขามีกำลังการซื้อน้อย 
...#แล้วทำไมปุ๋ยถึงแพง? เพราะเรานำเข้าตลอดเวลา 
...#แล้วทำไมเราถึงนำเข้า? เพราะเราไม่ทำเหมืองโปแตซไง 

ฉะนั้นผมจีงขอให้อิตาเลียนไทยทำงานนี้ให้ได้สำเร็จ โดยเร็ว!!

ผมไม่รู้ฝ่ายค้านจะเอายังไง แต่ผมไม่ต้องการเล่นการเมือง ผมไม่อยากลงเลือกตั้งหาเสียง ผมจะมีจุดยืนเรื่องนี้แค่ ‘ไทยต้องมีปุ๋ย’ และต้องขุดปุ๋ยเอง

ประเทศไทยต้องมีเหมืองโปแตซ ส่วนราคาที่ต้องจ่ายทางสิ่งแวดล้อม หรือการเยียวประชาชนในพื้นที่ ก็ต้องทำไป 

อ้อ!! สุดท้ายนี่คือผลงานของกระทรวงอุตสาหกรรมที่ต้องปรบมือให้ 

แม้ทั้งหมดนี้ อาจจะทำไม่สำเร็จ แต่ผมเชียร์!!

สำหรับปุ๋ยโปแตซ หรือ Potash ที่ว่านี้ มีชื่อทางเคมีว่าโพแทสเซียมคลอไรด์ (Potassium Chloride) จัดในกลุ่มเกลืออนินทรีย์ (inorganic salt) ประกอบ ด้วยสารเคมี 2 ชนิด คือ โปแตชเซียมคลอไรด์ (สูตรเคมี KCl) ในปริมาณร้อยละ 95-100 และโซเดียมคลอไรด์หรือเกลือแกง (สูตรเคมี NaCl) ในปริมาณร้อยละ 0-5. ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของแร่โปแตช คือ การนำไปสกัดให้ได้เป็นโปแตชเซียมในการผลิตปุ๋ยนั่นเอง


ที่มา: https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/videos/701749437594030