Tuesday, 7 May 2024
หม่อมปลื้ม

‘หม่อมปลื้ม’ ปลื้ม!! เดินหน้าโครงการเหมืองโปแตซ ยก ‘สุริยะ’ ตัวจริงพาฉลุย!! แนะอย่าแคร์เอ็นจีโอแขวะ

ถือเป็นความเคลื่อนไหวจากภาครัฐ โดยเฉพาะผลงานที่ถูกขับเคลื่อนโดยกระทรวงอุตสาหกรรม จนทำให้พิธีกรฝีปากกล้าอย่าง ‘หม่อมปลื้ม’ หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้ดำเนินรายการ ‘The Daily Dose’ ที่ออกมาเชียร์ให้รัฐบาลเดินหน้าสุดซอยกับโครงการเหมืองโปแตซ โดยหม่อมปลื้มได้ลงรายละเอียด ระบุว่า...

ข่าวดี!! ครม.อนุมัติ ‘เอเชีย แปซิฟิค’ บริษัทในเครืออิตาเลียนไทย เดินหน้าเหมืองโปแตซ อุดรฯ ลงทุน 3.6 หมื่นล้านบาท เตรียมให้ประทานบัตร กำลังการผลิตปีละ 2 ล้านตัน เพื่อลดการพึ่งพาปุ๋ยต่างประเทศเสียที

ทุกวันนี้ประเทศไทยนำเข้าปุ๋ยปีละ 4 ล้านตัน มูลค่า 60,000 ล้านบาท เป็นปุ๋ยโปแทชเซียมประมาณ700,000 ตัน คิดเป็น 9,000 ล้านบาทต่อปี ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตโปแตซเซียมสูงมาก ซึ่งคาดว่าไทยมีสำรองแร่โปแตชสูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลกอยู่ที่ 400,000 ล้านตัน รองจากแคนาดา, เบลารุส และเยอรมนี

สำหรับพื้นที่พบแร่โปแตชขนาดใหญ่ในไทยมี 2 แหล่ง คือ ‘แอ่งสกลนคร’ ประกอบด้วย จังหวัดสกลนคร, หนองคาย, อุดรธานี และ นครพนม

และ ‘แอ่งโคราช ประกอบด้วย จังหวัดขอนแก่น, กาฬสินธุ์, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ, นครราชสีมา และ ชัยภูมิ

แน่นอนว่าตอนนี้ ‘กระทรวงอุตสาหกรรม’ ได้อนุมัติประทานบัตรให้กับเอกชน 2 ราย คือ บริษัท ไทยคาลิจำกัด จ.นครราชสีมา และ บริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) จ.ชัยภูมิ เพื่อเข้ามาดำเนินโครงการเหมืองโปแตซ ที่จะนำไปสู่การผลิตปุ๋ยใช้เองในประเทศได้แล้ว

โดยล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเมื่อวันที่ (28 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโครงการของบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตชคอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอพีพีซี) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์จำกัด (มหาชน) หรือ ไอทีดี ซึ่งเข้าไปซื้อกิจการบริษัทเอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่นจำกัด เมื่อปี 2549

สำหรับเรื่องของการเคาะโครงการเหมืองโปแตช ‘อุดร’ นั้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยขั้นตอนจากนี้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จะไปเร่งออกประทานบัตร เพื่อเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาการขาดแคลนปุ๋ยช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป

ถึงตรงนี้ ผมขอปรบมือให้ครับ!! โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรัฐมนตรีอย่างคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน

เขา 2 คนเป็นคนที่อยู่เงียบๆ แต่ทำงานจริง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการอนุมัติโครงการสำคัญต่อประเทศ อย่างโครงการเหมืองโปแตซนี้ ที่ได้รับการอนุมัติจากคุณสุริยะ มันสำคัญมากๆ

(กลับมาที่เนื้อหาต่อ) ทั้งนี้ในส่วนของโครงการเหมืองแร่โปแตช จังหวัดอุดรธานี ถือเป็นเหมืองแร่ขนาดใหญ่โดยเหมืองดังกล่าว มีแผนการผลิต 2 ล้านตันต่อปี โดยประเมินว่า จะมีปริมาณการผลิตตลอดอายุโครงการ 25 ปี อยู่ที่ 33.67 ล้านตัน เบื้องต้นมีมูลค่าการลงทุนของโครงการประมาณ 36,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมา บริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ยื่นขอประทานบัตรไปแล้ว

ที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และส่วนราชการตามกฎหมายถึงโครงการดังกล่าวแล้ว รวมทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้พิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมแล้วด้วย ซึ่งก็พบว่าเป็นไปตามข้อกำหนด ดังนั้นจึงได้เสนอเข้ามาใน ครม. เพื่อพิจารณาเห็นชอบ

หลังจากโครงการเหมืองแร่โปแตช จังหวัดอุดรธานี ได้ผ่านการเห็นชอบจาก ครม.แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะไปเร่งออกประทานบัตร ซึ่งภาคเอกชนก็อยากทำไห้เร็ว คาดว่า อย่างเร็วที่สุดภายใน 6 เดือน หรือ 1 ปีก็คงเริ่มต้นดำเนินการได้ โดยจะค่อยๆ เริ่มทำไป ซึ่งเหมืองแร่แห่งนี้มีปริมาณการผลิตอยู่ที่ 2 ล้านตันต่อปี

ส่วนอีก 2 บริษัทที่ได้รับประทานบัตรทำเหมืองแล้ว คือ บริษัท เหมืองแร่โปแตชอาเซียน จำกัด (มหาชน) จังหวัดชัยภูมิ อยู่ระหว่างให้กระทรวงการคลังดำเนินการเริ่มการเพิ่มทุน ขณะที่บริษัท ไทยคาลิ จำกัด จังหวัดนครราชสีมา อยู่ระหว่างการขุดอุโมงค์เพื่อเริ่มทำเหมืองตามขั้นตอน แต่ยังไม่ได้เปิดการทำเหมืองได้ โดยในส่วนของกำลังการผลิตเหมืองโพแทชในประเทศไทยทั้งหมด หากสามารถเปิดเหมืองทั้ง 3 แห่งได้นั้น จะอยู่ที่ 3.2 ล้านตันต่อปีเลยทีเดียว

'หม่อมปลื้ม' ยก 'เสี่ยเฮ้ง' คว้าความสำเร็จได้ในสังคมปากกัดตีนถีบ เกิดมาโดยไม่มี 'สิทธิพิเศษ' แต่ดิ้นรนจนก้าวถึง 'รัฐมนตรี'

จากรายการ The Daily Dose โลกการเมือง ดำเนินรายการโดย หม่อมหลวง ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ได้มีการพูดถึง นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ว่า...

'สุชาติ' เกิดมาโดยไม่มี 'สิทธิพิเศษ'
เค้าดิ้นรนเรียน ทำงาน
และวันนี้ ได้เป็น 'รัฐมนตรี'

ผมคิดว่า 'สุชาติ ชมกลิ่น' เป็นเรื่องราวที่ประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องราวของการเติบโตขึ้นมาในสังคม ในการทำธุรกิจ ในการไต่เต้าทางการเมือง ที่น่าเป็นต้นแบบ

‘หม่อนปลื้ม’ ชี้ ยกเลิกเครื่องแบบลูกเสือ อาจทำเด็กขาดวินัย ลั่น!! อย่าใช้ความเหลื่อมล้ำเป็นข้ออ้างเพื่อยกเลิกการเรียนลูกเสือ

เมื่อไม่นานมานี้ หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ ‘คุณปลื้ม’ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น เรื่องการเครื่องแบบ ในความคิดของก้าวไกล ไว้ว่า ตนเข้าใจดีในเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการถูกสังคมในปัจจุบันกดดันเรื่องของความเหลื่อมล้ำ ที่เกิดจากเครื่องแบบนักเรียนลูกเสือ ที่คนรุ่นใหม่หัวก้าวหน้ายกขึ้นมาอ้างเพื่อให้มีการพิจารณายกเลิกการใส่เครื่องแบบลูกเสือ

โดยคุณปลื้มได้กล่าวว่า ตนไม่มีปัญหา และเข้าใจ หากมีคนต้องการให้มีการยกเลิกการใส่เครื่องแบบลูกเสือ แต่ด้วยความที่กระทรวงศึกษาธิการถูกกดดัน และสั่งการไปถึงทุกโรงเรียน ให้ทำหนังสือชี้แจ้งผู้ปกครอง เรื่องการอนุญาตให้นักเรียนไม่ต้องสวมเครื่องแบบลูกเสือ โดยให้สวมแค่ผ้าพันคอลูกเสือเพียงเท่านั้น แบบนี้เมื่อถึงเวลาอาจทำให้เกิดความสับสน นักเรียนบางส่วนอาจใส่เครื่องแบบมา อีกส่วนอาจไม่ใส่มา แบบนี้จะเวิร์กหรือไม่?

ถ้าคุณเคยเป็นทหาร คุณจะรู้ว่าส่วนสำคัญในการฝึกวินัยของทหาร มันเริ่มตั้งแต่การใส่เครื่องแบบ เพราะถือเป็นสิ่งสำคัญ เป็นการฝึกวินัยในการดูแลเครื่องแบบ ตั้งแต่การซักรีด การติดดาว ติดยศให้ถูกต้อง การขัดรองเท้าให้เงา ทั้งหมดนี้เป็นการฝึกวินัย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นลูกเสือที่ดี ที่ไม่ได้มีแค่เรื่องจิตอาสาเพียงเท่านั้น แต่ยังสอนในเรื่องของการทำอาหาร การเดินป่า การผูกเชือก และทักษะการเอาตัวรอด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนทั้งสิ้น

ดังนั้น หากจะมีการรณรงค์ให้ยกเลิกการสวมเครื่องแบบลูกเสือ ในสถาบันการศึกษาของภาครัฐฯ และเอกชน อย่างที่มีการบังคับกันอยู่ในขณะนี้ ผมมองว่า หากจะให้มีการเรียนลูกเสืออยู่ ก็ควรจะต้องมีการสวมเครื่องแบบลูกเสือ

คุณปลื้มยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในสมัยก่อนที่มีการเรียนและแต่งเครื่องแบบลูกเสือ ก็ไม่ได้มีความเหลื่อมล้ำ เพราะฉะนั้น หากจะอ้างเรื่องของความยากจนและภาระทางการเงิน แล้วทำไมสมัยก่อนถึงแต่งเครื่องแบบลูกเสือกันได้? แล้วถ้าหากมีการประกาศว่าไม่ต้องมีการแต่งเครื่องแบบลูกเสือ แต่เมื่อถึงวันสำคัญที่ต้องแต่งเครื่องแบบจะทำอย่างไร?

“หากเราต้องการอยู่ในสังคมที่ไร้การฝึกวินัยในเรื่องการแต่งกาย นี่นับเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการถกเถียงกันในแง่ของนโยบายต่อไป และผมคิดว่า ไม่ควรยกเรื่องของความเหลื่อมล้ำ และความยากจนมาอ้างเพื่อเป็นการต่อยอดวาระในการยกเลิกการเรียนลูกเสือแบบถาวร”

ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ ‘คุณปลื้ม’ พิธีกร และผู้ดำเนินรายการข่าว กล่าวถึงกรณี ‘หยก-ธนลภย์’ เยาวชนอายุ 15 ปี

จากประเด็นถูกไล่ออกจากโรงเรียน หลังจากสวมชุดไปรเวทและย้อมสีผมไปเรียน ผ่านรายการ ‘The Daily Dose Live! ยามเช้า’ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 66 ว่า…

“ผู้ใหญ่คนไหนที่ให้ท้ายคุณ เขาไม่ได้รักคุณ นั่นคือข้อเท็จจริง ผู้ใหญ่คนไหนที่ตักเตือนคุณ ให้มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น เพื่ออยู่ร่วมกับสังคมได้ นั่นคือ คนที่รักคุณจริงๆ”

 

'หม่อมปลื้ม' ยกกรณีปรากฏการณ์ชังชาติในอเมริกา ความเพ้อเจ้อของซ้ายที่โทษทุกเรื่องแม้อยู่ยูโทเปีย

(6 ก.ค. 66) ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ 'หม่อมปลื้ม' พิธีกร และผู้ดำเนินรายการข่าว โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมแนบลิงก์ยูทูประบุว่า...

เลิกกิน Ice Cream ยี่ห้อ Ben & Jerry's เพราะมันคือพวกโว้คชังชาติในสหรัฐฯ รวมทั้งความเป็นจริงที่ว่าราคาของ Ice Cream เเบรนด์นี้ก็เเพงจนเว่อร์ ไม่มีใครเขาซื้อไหว รสชาติก็งั้นๆ

ปรากฏการณ์ปฏิเสธวันชาติของตนเองเพียงเพราะเชื่อผิดๆ ว่าเป็นสัญลักษณ์เเห่งการกดขี่ เป็นสิ่งที่มีในสหรัฐฯ เช่นกัน ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย ฝ่ายซ้ายใหม่ในหลายประเทศชูลัทธิรังเกียจชาติตนเองซึ่งเเสวงหาความชอบธรรมด้วยการใช้วาทกรรมกดขี่

ถ้าเป็นสหรัฐฯ ก็จะปั่นวาทกรรมผู้ชายผิวขาวที่รักเพศตรงข้าม (Hetero-normative Caucasian Male) นั้นเป็นผู้กดขี่ ถ้าในฝรั่งเศสรอบล่าสุดก็จะเป็นการปั่นว่าตำรวจผู้ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในเครื่องเเบบเป็นผู้เหยียดเเละกดขี่ผู้อพยพ

โดยเเนวคิดตาม Dialectic นี้จะมีผู้ซึ่งทำหน้าที่กดขี่เสมอเเล้วก็มีเหยื่อตลอดเวลา (Perpetual Victimhood Status) ถ้าเป็นเมืองไทยก็จะเป็นวาทกรรมซึ่งเรามักจะคุ้นเคยกันอยู่เเล้วผมคงไม่ต้องอธิบาย นั่นคือการกล่าวโทษทุกอย่างไปที่ทุนเเละก็กล่าวโทษทุกอย่างไปที่ศักดินา

ฝ่ายซ้ายไม่เคยมีที่สิ้นสุดในการเคลื่อนไหว พอโค่นสิ่งหนึ่งได้ก็จะกล่าวหาสิ่งอื่นต่อไปในสังคม ไม่เคยคิดที่จะนำความกตัญญูกตเวทิตาคุณเป็นคุณธรรมหลักในการขับเคลื่อนสังคมเเละชีวิตส่วนตัวบ้าง ทั้งชีวิตก็ไม่มีความสุขไม่ว่าอยู่ที่ไหนหรือได้เกิดใน Utopia เเห่งใด เพราะในใจเพ้อเจ้อถึงความเท่าเทียมทัดเทียมในรูปเเบบที่มัวเเต่คิดว่าไม่มีเเต่จริงๆ มีอยู่เเล้วเเต่ดันไม่เคยหัดที่จะมองให้เห็น...ฟังเบ็น ชาปิโร่ ซัด Ben & Jerry's ครับ สมควรโดนเบ็นด่า

'หม่อมปลื้ม' แฉ!! นักวิชาการฝ่ายซ้าย ล้างสมองนักศึกษาจนคลั่งเสรีภาพ

(8 ก.ค. 66)  หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ ‘คุณปลื้ม’ พิธีกร และผู้ดำเนินรายการข่าว ได้เผยแพร่บทความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า...

นักวิชาการฝ่ายซ้ายล้างสมองนักศึกษาไปซ้ายสุดโต่งจนล้นเกิน คลั่งสิทธิเสรีภาพอย่างไม่รอบด้าน คิดทุกอย่างในมิติของการถูกกดขี่จึงต้องปลุกตนเองให้ลุกขึ้นสู้ตลอดเวลา ทำอย่างนี้ในสถาบันการศึกษาชั้นนำ ทั้งในสหรัฐฯ เเคนาดา ยุโรป เเละในประเทศไทยของเรา

อุดมการณ์ทางสังคม จริยธรรม การเมือง เศรษฐกิจ อุดมการณ์ต่างๆ เปรียบเสมือนน้ำในตู้ปลา คุณและผมคือปลาในตู้ปลา คุณจะมีอุดมการณ์อะไรมันขึ้นอยู่กับว่า ใครเป็นผู้เทน้ำนั้นเข้าไปในตู้ปลา เราคิดว่า เราได้เลือกว่าเราจะมีอุดมการณ์ชุดใด ในความเป็นจริง ไม่เป็นเช่นนั้น เเท้ที่จริงเเล้วมันอยู่ที่ว่า คุณถูกบ่มเพาะจากใคร ที่ไหน อย่างไร เเละเมื่อไรต่างหาก

บางคนได้อุดมการณ์หลักมาจากพ่อแม่ บางคนได้มาจากช่วงวัยเรียน ช่วงมัธยม ช่วงที่ถูกสั่งสอนโดยครูตั้งเเต่สมัยวัยหนุ่มสาว หรือบางครั้งก็จากการคบเพื่อนเเละพวกพ้องในสมัยวัยเรียน คบคนอย่างไรที่มีอิทธิพลต่อเราก็อาจได้การหล่อหลอมเช่นนั้นมา ประสบการณ์เป็นส่วนหนึ่งในการในสร้างอุดมกาณ์ด้วยเช่นกัน บางคนไม่ได้ใกล้ชิดกับใครในสมัยเรียนตอนเด็กแต่เมื่อเริ่มเรียนในระดับมหาวิทยาลัยก็เริ่มสนใจ ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่มันสมองเริ่มเปิดกว้างเพื่อให้เกิดการซึมซับมากที่สุด

ดังนั้น คนที่มีโอกาสไปแนวซ้ายมากที่สุด อาจจะเป็นคนซึ่งอยู่ในตู้ปลาที่ขาดการเติมเต็มจากมุมมองด้านอื่นจากผู้ปกครองเเละจากโรงเรียนในสมัยวัยเด็ก เสร็จเเล้วในช่วงที่สมองเปิดรับข้อมูลเเละชุดความคิดในวัยที่เรียนระดับอุดมศึกษา เมื่อเข้าเรียนในสถาบันระดับอุดมศึกษาไม่ว่าในประเทศใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับชั้นนำในทุกทุกประเทศ นั่นนะเเหละตัวดี

เพราะองค์กรเหล่านี้ ถ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสาย Liberal Arts ถ้าบังเอิญเรียนรัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ สังคมวิทยา หรือ เรียนประวัติศาสตร์ ก็จะเต็มไปด้วยนักวิชาการทั้งระดับอาวุโสเเละที่เพิ่งบรรจุใหม่ที่ล้วนแล้วเเต่หัวเอียงซ้าย ถึงเเม้ว่าจะไม่ทั้งหมด เชื่อในรัฐสวัสดิการเสมอ เเถมมักจะมีเสริมการสอนเรื่องการย่อยสลายวัฒนธรรมอำนาจนิยม ปั่นวาทกรรมว่าทุกคนโดนกดขี่

เริ่มกระบวนการในการล้างสมองเด็กเข้ามา (บ่อยครั้งทำโดยไม่รู้ตัวเพราะตนเองก็ถูกล้างสมองมาอีกทีจากครูบาอาจารย์ชื่อดังในต่างประเทศเเละในประเทศที่เป็น Leftists อีกรอบหนึ่ง) เมื่อเข้าไปเรียนในระดับอุดมศึกษา ปลาตัวน้อย ๆ โดยเฉพาะที่ไม่เคยรับน้ำก็จะขาดภูมิคุ้มกันจากการหว่านล้อมอุดมการณ์ Keynesian สุดขั้ว Social Democracy สเเกนดิเนเวียนสุดทาง หรือไม่ก็นีโอมาร์กซิสต์ตามสูตรโรงเรียนเเกรมเชี่ยนจนสติเเตก

กลุ่มเดียวที่อาจจะรอดจากการถูกล้างสมองเช่นนี้ในโปรเเกรม Liberal Arts ต่าง ๆ ก็คงจะเป็นนักศึกษาที่สามารถเจียดเวลาไปเรียนวิชาปรัชญาอย่างรอบด้านหรือไม่ก็พวกซึ่งเรียนสายเศรษฐศาสตร์ที่มีโอกาสดีพอที่จะได้ศึกษาจากอาจารย์ที่เน้นหลักการณ์ด้านกลไกตลาดเสรีในเเบบที่ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์สำนักสังคมนิยม ที่วัน ๆ เอาแต่คิดจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ รัฐสวัสดิการ รัฐสวัสดิการ ทำอย่างไรให้ไม่รู้สึกผิดต่อคนยากคนจน ทำจนเศรษฐกิจพัง นักธุรกิจไม่ต้องเหลือเงินกัน เก็บภาษีให้เยอะ อย่างนี้เป็นต้น

ในโลกเเห่งการเเข่งกันออกนโยบายทางการเมืองเเละในโลกเเห่งการเขียนรายงานในมหาวิทยาลัยยุคปัจจุบัน วัน ๆ เอาแต่นั่งคิดเรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ สร้าง Living Wage ที่เป็นจริง ยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยการใช้เงินผู้อื่น จะเปลี่ยนประเทศเป็นรัฐสวัสดิการ ทำยังไงให้ไม่รู้สึกผิดต่อคนยากไร้ เอาแต่คิดแบบเนี้ยจนเศรษฐกิจพังไปหมด มีเเต่การสอนให้บิดเบือนกลไกตลาดตลอดเวลาโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อภาคธุรกิจเเละนายจ้างที่เดือดร้อนต้องลดส่วนเเบ่งกำไรไม่รู้จักจบ

นโยบายต่าง ๆ เหล่านี้ในที่สุดก็จะนำไปสู่การลดการจ้างงานผู้ซึ่งมีทักษะเเรงงานน้อยกว่าผู้อื่นก่อนเพื่อน สังคมเราจึงเต็มไปด้วยบัณฑิตที่ควรจะรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์เเต่ดันคิดเเบบนักสังคมนิยมที่ต้องการตัดต่อพันธุกรรมระบบเศรษฐกิจที่เวิร์คดีอยู่เเล้ว

คนที่มีโอกาสไปซ้ายมากที่สุดคือคนที่อยู่ในตู้ปลาที่เป็นปลา แล้วบังเอิญในสมัยวัยเด็ก ผู้ปกครองไม่ได้เทน้ำเข้ามา หรือไม่ก็เป็นอีกประเภทหนึ่ง ที่พ่อเเม่พี่น้องปู่ย่าตายายอุตส่าห์เทน้ำเข้ามาเเต่ก็ถูกสลัดทิ้ง เป็นคนที่ไม่สามารถซึมซับข้อมูลจากผู้ปกครองได้ เสร็จแล้วพอเรียนช่วงมัธยมก็มัวแต่คิดว่าเรียนยากจัง อ่านหนังสือก็ง่วง จึงโดดเรียนไปเดินตามห้าง ไปเที่ยวเตร่ ในตู้ปลาที่ปลาว่ายน้ำกันอยู่ มันจึงขาดน้ำ

กลุ่มนี้เมื่อเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยในระดับอุดมศึกษา ระดับปริญญาตรี โอ้โห! ก็จะมีโอกาสเจอบรรดานักวิชาการตัวพ่อที่เป็นประเภท Left-wing Liberal Democratic Socialists เทน้ำเข้ามาเต็มเปี่ยมเลย ที่นี้พอจบมา เลยล้นเลย คือเกิน คือล้นเลย มันเเปลว่าล้นวิชาการเกิน ล้นซีกซ้ายอย่างเดียวเเต่ไม่รอบด้าน ขาดประสบการณ์จริงกับเรื่องที่เรียนมา เฉกเช่นเดียวกันกับปฏิกิริยาปลาดิ้นพลิกไปพลิกมาเวลามีคนเทน้ำเข้าไปในตู้ปลานั้น ๆ อย่างเเรงเเรงเร็วเร็ว

กลุ่มนี้ก็จะมีความกระตือรือร้นที่จะชุมนุมต่อต้านทุกอย่างตามที่อุดมการณ์สั่งสมบ่มเพาะมา กลายมาเป็น Activists ที่เพิ่งโดนกดปุ่ม Activated

ผู้ซึ่งผลักดันนโยบายเศรษฐกิจสิ้นคิดเช่นนี้ในที่สุดถ้าได้ก็จะพยายามนำเสนอ Redistribution of Income ในรูปเเบบที่เอาเปรียบเจ้าของเงิน เมื่อปล่อยไปก็จะค่อยๆ คล้อยไปเป็นเสมือนรูปเเบบ French-Scandinavian Style Progressive Taxation ยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ในไทยตอนนี้ ยิ่งฐานะรายได้ดีก็จะยิ่งมีการเสนอให้ตัดฐานะรายได้นั้นเเละทำลาย Dominant Market Positioning ของทุกบริษัทชั้นนำให้มันเหี้ยน

เเนวคิดซ้ายทางเศรษฐกิจนี้คือต้องการให้คนรวยกลายเป็นคนจนลง จนไม่มีใครอยากลงทุนเหมือนในเเถบสแกนดิเนเวีย ให้คนที่ไม่ต้องทำงานสามารถมีบ้านอยู่ได้โดยที่วันๆ ไม่ต้องออกไปทำอะไรเลย ให้มี Universal Basic Income อย่างขาดวินัยการเงินการคลัง สิ่งนี้คือความฝันอันเกือบสูงสุดของฝ่ายซ้ายด้านเศรษฐกิจ

บ่อยครั้งในมหาวิทยาลัยอาจารย์จะมีโอกาสเติมเต็มมากๆ เพราะในช่วงเข้าไปศึกษาใหม่ๆ ปรากฎว่าในตู้ปลานั้น เป็นตู้ปลาซึ่งไม่เคยมีใครเคยเติมน้ำเข้าไปได้สำเร็จ หรือบางทีผู้ปกครองหรืออาจารย์แนะแนวและครูประจำชั้นในสมัยมัธยมเคยพยายามเติมน้ำ แต่เป็นพวกประเภทไม่ยอมซึมซับน้ำเลย แต่เมื่อถึงวัยมหาวิทยาลัย ได้บังเอิญพบเจอกับอาจารย์ที่เป็น Socialist-Liberal เทน้ำลงมา…โอ้โหว ล้นเต็มเปี่ยม

อุดมการณ์ที่คุณและผมมีอยู่ มันเป็นอุดมการณ์ที่ผ่านการบ่มเพาะมา คำถามที่คุณต้องถามตนเองคือ คุณเติมเต็มหรือยังเเละที่ผ่านมาใครคือผู้ซึ่งบ่มเพาะคุณเเละผู้นั้นหวังดีต่อคุณเเละสังคมจริงหรือ? หรือเป็นไปได้ไหมว่าผู้ซึ่งบ่มเพาะคุณมาทางด้านการเมืองในสถาบันการศึกษาต่างๆ ล้วนเเล้วเเต่เคยได้รับการเทน้ำมาอีกทีหนึ่งจนล้นเกินจากซ้ายอกหักจากยุคสมัยสงครามเย็นที่ในวันนี้ต้องการเอาคืน เเก้มือ หรือเเก้เเค้นอดีตที่ได้เคยพ่ายเเพ้เเละเจ็บปวดไปเมื่อ 47 ปีที่เเล้ว

'หม่อมปลื้ม' ลั่น!! การล้างสมองของนักวิชาการฝ่ายซ้าย บิดเบือนกลไกตลาด ยกระดับชีวิตด้วยการใช้เงินผู้อื่น ไม่คำนึงเศรษฐกิจจะพัง

"การล้างสมองคนจากนักวิชาการฝ่ายซ้าย คือ วันๆ คิดแต่เรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นรัฐสวัสดิการ...บิดเบือนกลไกตลาด...ยกระดับชีวิตด้วยการใช้เงินผู้อื่น ไม่คำนึงว่าเศรษฐกิจจะพัง และนายจ้างเดือดร้อนจากการแบ่งกำไรไม่รู้จบ"

ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้ดำเนินรายการ The Daily Dose โลกการเมืองทาง Voice TV กล่าวในรายการเมื่อวันที่ 7 ก.ค.66

>> ติดตามรายละเอียดได้ที่ >> https://thestatestimes.com/post/2023070810 

'หม่อมปลื้ม' ติง!! ผู้จุดชนวนการกำหนดชะตากรรม ‘ปกครองตนเอง’ หากนํามาปฏิบัติจริง อาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง

(7 ส.ค. 66) ผู้ใช้ TikTok บัญชี @s_garden456 ได้แชร์คลิปวิดีโอ หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ ‘คุณปลื้ม’ พิธีกร และผู้ดำเนินรายการข่าว ได้พูดถึงประเด็น ‘Self Determination’ หรือสิทธิในการกําหนดชะตากรรมทางด้าน ‘ปกครองของตนเอง’ โดยระบุว่า…

“คุณจุดชนวนเรื่องนี้ขึ้นมา มันเป็นสิ่งที่อันตราย เวลาผมใช้คําว่า ‘คุณ’ ผมไม่ได้ใช้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นักการเมือง หรือพรรคการเมืองไหน แต่ผมใช้กับคนที่ได้ศึกษาเรื่องนี้มา และมาผลักดันเรื่องนี้ แล้วไปหว่านล้อมเมล็ดพันธุ์ทางความคิดต่างๆ เหล่านี้กับชาวบ้าน ทั้งในภาคใต้และในแวดวงทางวิชาการ รวมถึงในกรุงเทพมหานครด้วย สิ่งที่มันอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย สำหรับบางเรื่องโดยคอนเซ็ปต์มันมีไว้ให้เรียนเฉยๆ คุณเคยเรียนเศรษฐศาสตร์ไหม? เสร็จแล้วเวลาคุณเรียนเศรษฐศาสตร์ มันก็จะมีสูตรระบบการเงิน สูตรระบบการค้าการลงทุนต่างๆ บางเรื่องพอนํามาปฏิบัติ มันก็ไม่เวิร์ก Self Determination หรือการปกครองตนเอง เมื่อนํามาปฏิบัติจริง มันเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง และบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศชาติ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญไม่ได้อนุญาตให้ทํา และโดย Spirit ซึ่งควรที่จะมีต่อผืนแผ่นดิน ที่บรรพบุรุษของประเทศชาติได้รวบรวมเข้ามา และสถาปนาอํานาจทางการปกครองขึ้นมา”

“แม้กระทั่งสําหรับคนที่กำลังศึกษาเรื่องรัฐศาสตร์ แล้วก็มีไอเดียเรื่อง Self Determination หรือสิทธิในการกําหนดชะตากรรมทางด้านปกครองของตนเอง สิทธิในการทําตามใจตนเอง เรื่องของอํานาจทางการปกครองเหนือพื้นแผ่นดินที่ตนเองอาศัยอยู่ แม้กระทั่งคนที่เรียนด้านนี้มา น่าจะเข้าใจว่าประเด็นอย่างงี้มันเปราะบางเกินไป ที่คุณจะมานั่งให้คนคิดว่า “อยู่เมืองไทยไม่มีความสุขนะ” เพราะว่าบางทีสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจและสังคม มันไม่ค่อยเอื้อให้มีการใช้ชีวิตอย่างผาสุขเลย มันมีการหว่านเมล็ดพันธุ์ในลักษณะนี้ แล้วเมื่อคุณไปถามประชาชนว่า อยากปกครองตนเองไหม? มันเป็นไปได้อยู่แล้วตามกิเลสตัณหาของมนุษย์ ที่ในวันหนึ่งอาจจะมีความรู้สึกว่า เอ่อ…ดีนะ ปกครองตนเอง”

“มีกลุ่มคนที่เป็นเน็ตเวิร์กเครือข่ายหมู่พลเมืองที่ไหนในโลกไหม? ที่ไม่อยากมีพื้นที่ที่ตนเองสามารถดูแลปกครองเป็นของตนเองได้ ดังนั้นอํานาจมันเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร ในที่สุดแล้วคนที่ต้องการมีอํานาจทางการเมือง ลึกๆ ต้องการมีสิ่งที่เขาเรียกว่า Dominion ของตนเอง”

“มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐที่ต้องการมี Dominion ของตนเอง เพราะฉะนั้นความที่มนุษย์มีกิเลสตัณหาด้านนั้น ในที่สุดแล้วความต้องการในการปกครองตนเองลึกๆ มันมีอยู่แล้ว แต่มันไม่ใช่ว่าคุณอยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง คุณตื่นขึ้นมา แล้วมีความรู้สึกว่าประเทศนี้ไม่ค่อยได้ให้เราเท่าที่เราควรได้ เพราะฉะนั้นเราไม่ใช่จะย้ายไปอยู่ที่อื่น ไม่เอา แต่เราจะยึดพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่เป็นของเรา โดยที่เราจะสถาปนาตนเองขึ้นมาเป็นผู้นํารัฐใหม่อะไรอย่างงี้…ซึ่งมันไม่ใช่”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top