ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. หญิงคนแรก หาก ‘ก้าวไกล’ กล้าดันวัดศรัทธาคนกรุง

ภายหลังจบศึกสมรภูมิการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ทั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.), สมาชิกสภาเทศบาล และสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เพิ่งจบไปหมาด ๆ นั้น

สมรภูมิถัดไปที่น่าจะแวะเวียนมาในเวลาอันใกล้ คงต้องเป็นคิวของเวทีเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งคาดกันว่าน่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2565 เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะครบวาระในปี 2566

พูดถึงสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ คนกรุง ก็ต้องบอกว่าถูกแช่แข็งมานาน ตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อปี 2557 นั่นจึงทำให้การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ครั้งที่จะถึงนี้ น่าจะมีความคึกคัก และดุเดือดมากกว่าครั้งไหน ๆ เพราะน่าจะเป็นการวัดพลังของบรรดาพรรคใหญ่ชื่อดังทั้งเก่าและใหม่ ว่าใครคือตัวจริงที่ยังยึดพื้นที่เมืองหลวงเป็นฐานที่มั่นไว้ได้ในรอบนี้ได้

>> สังเวียนวัดพลัง ‘พรรค’ ผู้อยู่เบื้องหลังเจ้าเมืองบางกอก

อย่างไรซะ แม้ตอนนี้จะยังไม่มีกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไร? แต่หลายพรรคการเมืองก็เริ่มเคลื่อนไหวกันแล้ว ทั้งพรรคเพื่อไทย, พลังประชารัฐ, ก้าวไกล และประชาธิปัตย์ เพียงแต่ยังอุบชื่อแคนดิเดตกันไว้อยู่

ทว่าถึงพรรคเหล่านี้จะยังอุบชื่อตัวผู้สมัครไว้ แต่วงในการเมือง เขาก็พอจะรู้กันเนือง ๆ ว่าพรรคไหนจะส่งใคร หรือจะสนับสนุนใคร

ถ้าใครที่พอจะติดตามข่าวสารการเมืองอยู่บ้าง คงทราบว่าเต็งหนึ่งในสนามเลือกตั้งผู้ว่ากทม. รอบนี้ คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ฉายารัฐมนตรีที่แกร่งที่สุดในปฐพี ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะทำโพลล์สำรวจกี่ครั้ง คนกรุงเทพฯ ก็ยังเทคะแนนให้เป็นอันดับแรกทุกครั้ง 

ถึงกระนั้นก็คงต้องตามกระแสลมของ ‘พรรคเพื่อไทย’ ดูไว้หน่อยว่าจะส่งผู้สมัครผู้ใดเข้าแข่งด้วยหรือไม่ เพราะถึงแม้ ‘ชัชชาติ’ จะมีสัมพันธ์อันดีกับพรรคเพื่อไทย แต่ในการลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ในครั้งนี้ เจ้าตัวลงสมัครในนามอิสระ และยืนยันมาตลอดว่า ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยอีกแล้ว

ข้ามฟากมา ‘พรรคพลังประชารัฐ’ ซึ่งยืนยันมาตลอดเช่นกันว่า จะไม่ส่งผู้สมัครชิงตำแหน่ง แต่หากพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่ากทม.คนปัจจุบัน ตัดสินใจลงแข่งเพื่อเป็นผู้ว่าอีกสมัย ก็ต้องวัดใจผู้ใหญ่ในพปชร. ว่าจะสนับสนุนต่อหรือไม่ หรือ จะมีทางเลือกอื่น ซึ่งตอนนี้เริ่มมีชื่อ ‘ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร’ หรือ ผู้ว่าหมูป่า ขึ้นมาเป็นแคนดิเดตอีกคน

ขณะที่ ‘พรรคประชาธิปัตย์’ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เก่ามายาวนานหลายปี ก่อนที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะถูกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจตาม ม.44 ปลดพ้นตำแหน่ง เมื่อปี 2559 ก็ดูเหมือนจะหมายมั่นปั้นมือที่จะกลับมาทวงคืนศรัทธาจากคนกรุงอีกครั้ง หลังจากเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 2562 พรรคประชาธิปัตย์ถูกเท ไม่ได้แม้แต่เก้าอี้เดียวในกทม. เพราะเจอทั้งกระแส ‘ลุงตู่ฟีเวอร์’ กับ ‘ความแรงของพรรคอนาคตใหม่’ 

กล่าวโดยสรุปแล้ว รายชื่อของผู้สมัคร ก็คงไม่น่าจะหนีจากกระแสข่าวหลักมากนัก ยิ่งไปกว่านั้นเหล่าคอการเมืองคงทราบกันดีว่า สมรภูมิการเลือกตั้งในกทม. นั้น จะต้องอาศัยทั้งชื่อชั้นของผู้สมัคร และ ความนิยมในพรรคการเมืองที่สังกัด จึงจะได้รับเสียงสนับสนุนจากคนกทม. ได้อย่างแท้จริง

>> โจทย์หินเจ้าเมืองบางกอก ต้องลอกคราบพรรคการเมือง

ฉะนั้นแม้จะมีภาพพรรคการเมืองอุ้มหลังแต่เก่าก่อน หากแต่วันนี้จะเว้าวอนให้คนกรุงเทใจให้ บรรดาผู้สมัครก็คงจะต้องสลัดพันธุกรรมการเมืองเมื่อคิดลงสู่สนามนี้ เหมือนที่ ชัชชาติ ประกาศชัดว่า จะลงผู้ว่ากทม. โดยไม่สังกัดพรรคการเมืองใด นั่นเพราะไม่ต้องการให้ติดภาพความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย เพราะยังมีคนกรุงจำนวนไม่น้อยที่ต่อต้านพรรคอยู่ เรียกว่าวัดกันที่แสงส่วนตัวไปเลยเพียว ๆ

นั่นก็เพราะภาพการเมืองที่ผ่านมาหลายปี มันทำลายหวังของคนกรุงไปพอควร ฉะนั้นหากต้องการให้กรุงเทพฯ มีความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา การให้โอกาสคนที่มีความรู้ความสามารถ สอดแทรกขึ้นมาบริหารกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือเก่า แต่ไร้กลิ่นการเมืองเกาะกาย ก็คงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ

พูดถึงคนรุ่นใหม่ ในสังเวียนนี้ พรรคคนรุ่นใหม่ อย่าง ‘ก้าวไกล’ ก็เป็นอีกหนึ่งพรรคที่ต้องจับตามอง เพราะได้ยืนยันมาตลอดว่าจะส่งผู้สมัครลงแข่งด้วยเช่นกัน แม้ขณะนี้ยังไม่มีตัวลงที่แน่นอน แต่ก็มีข่าวลือว่า ‘ส.ส.ไหม’ ‘ศิริกัญญา ตันสกุล’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นรายชื่อล่าสุดที่มีการพูดถึงอย่างหนาหู จากที่ก่อนหน้านี้ มีชื่อ ‘ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ’ พี่สาว ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ เป็นตัวเลือก แต่ก็เงียบไป

จะว่าไปแล้ว ส.ส.ไหม ศิริกัญญา เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจของกรุง เพราะภาพของเธอแม้จะอยู่กับพรรคก้าวไกล แต่การเคลื่อนไหวเน้นหนักมาในเชิงของผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ เน้นปล่อยฝีไม้ลายมือในการทำงาน ผ่านการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งล้วนแล้วแต่เกียร์ไปในทิศทางของการเสนอทางออกเพื่อช่วยเหลือประเทศ โดยเฉพาะการนำเสนอนโยบายด้านเศรษฐกิจและแนวทางเพื่อปากท้องประชาชนได้อย่างน่าสนใจทั้งสิ้น

คุณสมบัติแบบนี้ดูดี มีเสน่ห์ และน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจของคนกรุง ถึงแม้ในโลกของความเป็นจริง โอกาส อาจจะยังบางเบา แต่เชื่อว่าหากก้าวเข้ามาอยู่ในฟลอร์เด่น ๆ แบบนี้ จะเป็นตั๋วเบิกทางให้เธอผ่านฉลุยในครั้งหน้าๆ ได้ไม่ยาก!! 

สำหรับประวัติของ ‘ศิริกัญญา ตันสกุล’ นั้น เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีและโท จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แล้วคว้าปริญญาโทอีกใบจากมหาวิทยาลัยตูลูส ประเทศฝรั่งเศส และก่อนที่จะเข้าสู่สังเวียนการเมือง เธอคร่ำหวอดในวงการวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์นานนับสิบปี ตั้งแต่มูลนิธิสถาบันอนาคตไทยศึกษา (Thailand Future Foundation) และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กระทั่งได้รับการทาบทามให้สู่สังเวียนการเมือง ในสีเสื้อพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการดูแลงานนโยบายของพรรค

ขณะที่บทบาทในสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.ไหม ทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่คอยตรวจสอบรัฐบาลได้อย่างน่าชื่นชม โดยเฉพาะในช่วงการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่สามารถนำเสนอข้อมูลได้อย่างชัดเจนและลีลาการอภิปรายก็ไม่ธรรมดา จนสามารถกล่าวได้ว่า ส.ส.ไหม เป็นหนึ่งใน ส.ส.รุ่นใหม่ ที่กลายมาเป็นดาวสภาที่โดดเด่นคนหนึ่งในยุคนี้ก็ว่าได้


อ้างอิง : https://www.matichon.co.th/prachachuen/interview/news_1729097
https://mgronline.com/crime/detail/9640000118922
https://th.wikipedia.org/wiki/ศิริกัญญา_ตันสกุล