Saturday, 20 April 2024
Y WORLD

กระทรวงศึกษาธิการ โอนเงินเยียวยานักเรียน 2,000 บาท เริ่ม 1-7 ก.ย. เช็กช่องทางตรวจสอบสิทธิ ผ่านระบบออนไลน์ ได้ที่ https://student.edudev.in.th

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนักเรียนและนักศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ขณะนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ดำเนินการ โดยมีความคืบหน้าดังนี้

กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ได้เริ่มการเบิกจ่ายเงินสำหรับโครงการ “อว.ลดค่าเทอม” แล้วตั้งแต่ 26 ส.ค. 64 สำหรับมหาวิทยาลัยและสถาบันที่ได้จัดส่งข้อมูลผ่านการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้อง ขณะนี้มีจำนวน 29 แห่ง รวมเป็นเงิน 2,250 ล้านบาท ซึ่งมหาวิทยาลัย/สถาบันอุดมศึกษาจะนำไปใช้ลดค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการศึกษาภาคเรียนที่ 1/2564 ในสัดส่วนเงินสนับสนุนจากรัฐบาลตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้เร่งติดตามและตรวจสอบระบบการเบิกจ่ายเงินอย่างใกล้ชิด เงินทุกบาทที่รัฐบาลสนับสนุน ต้องถึงมือนิสิตนักศึกษา คืนให้กับคนที่ได้ชำระค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการศึกษาไปแล้ว หรือใช้ลดค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการศึกษาสำหรับผู้ที่กำลังจะชำระเงิน โดยมหาวิทยาลัยไม่เก็บเงินดังกล่าวไว้แต่อย่างใด 

ทั้งนี้ได้ขอความร่วมมือมหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งให้เร่งตรวจสอบและยืนยันข้อมูลนักศึกษาส่งมาที่กระทรวงโดยเร็ว เพื่อดำเนินการอนุมัติเบิกจ่ายแก่สถาบันที่เหลือ อีกประมาณ 100 กว่าแห่ง ให้เป็นไปตามเป้าหมายและกรอบระยะเวลาต่อไป

ส่วนการจ่ายเงินเยียวยาผู้ปกครองและนักเรียน จำนวน 2,000 บาท กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับงบประมาณ จำนวน 1.95 หมื่นล้านบาท สำหรับเด็กนักเรียน 9.79 ล้านคน เมื่อ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา และทำการจัดสรรไปยังหน่วยงานที่กำกับดูแลแล้ว ได้แก่

 - สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รับเงินเยียวยานักเรียน คนละ 2,000 บาท ทั้งการรับเงินโอนเข้าบัญชี หรือรับเงินสดที่โรงเรียน

- สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) รับเงินเยียวยานักเรียน คนละ 2,000 บาท ทั้งการรับเงินโอนเข้าบัญชี หรือรับเงินสดที่โรงเรียน

- สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) รับเงินเยียวยานักเรียน คนละ 2,000 บาท ทั้งการรับเงินโอนเข้าบัญชี หรือรับเงินสดที่สถานศึกษา

- สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) รับเงินเยียวยานักเรียน คนละ 2,000 บาท โดยรับเงินสดที่สถานศึกษา 

ทั้งนี้ ผู้ปกครองที่ไม่ได้รับเงินภายในเวลาดังกล่าว ขอให้ติดต่อโรงเรียนที่บุตรหลานศึกษาอยู่ หรือโทร หมายเลข 1579 / 1693

“นายกรัฐมนตรีกำชับให้ทั้งสองกระทรวง ติดตามตรวจสอบระบบการจ่ายเงินอย่างใกล้ชิด ทุกขั้นตอน ไม่ให้มีการทุจริต ให้เป็นไปอย่างโปร่งใส และต้องถึงมือผู้ปกครองนักเรียน และนักศึกษาอย่างครบถ้วน ” น.ส.รัชดา กล่าว

สำหรับ ช่องทางเช็กสิทธิรับเงินเยียวยา 2,000 บาท สามารถเข้าตรวจสอบสิทธิ ได้ที่ https://student.edudev.in.th โดยระบบจะให้กรอกเลขประจำตัวประชาชนของนักเรียน เลขประจำตัวนักเรียน เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูล
 

จีนออกคำสั่งเฉียบขาด!! หั่นชั่วโมงเล่นเกมเด็กจีนเหลือเพียง 1 ชั่วโมงต่อวัน เฉพาะสุดสัปดาห์ สกัดโรคติดเกม ละลายชั่วโมงครอบครัวบนโลกเสมือน

รัฐบาลจีนได้ออกคำสั่งตรงถึงผู้ให้บริการเกมออนไลน์ในจีน จำกัดการเข้าถึงของผู้เล่นเกมที่เป็นเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ให้สามารถล็อคอินเล่นเกมได้ในช่วงเวลา 20.00 - 21.00 น. เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่าเด็กจีนสามารถเล่นเกมออนไลน์ได้เพียง 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จีนมีนโยบายจำกัดการเล่นเกมออนไลน์ของเยาวชน เมื่อปี 2019 จีนได้ออกระเบียบที่ระบุว่าเยาวชนไม่ควรเล่นเกมเกินวันละ 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อป้องกันปัญหาการติดเกมในเยาวชน ที่เปรียบเหมือนกับการติดยาเสพติดทางจิตใจที่จะส่งผลเสียต่อเด็กทั้งทางสุขภาพกาย และสุขภาพจิตอย่างมากในอนาคต

นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังระบุว่า ผู้สมัครใช้บริการเกมออนไลน์ จะต้องลงทะเบียนด้วยชื่อจริง และข้อมูลจริงเท่านั้น และจำกัดวงเงินในการเติมเกมสำหรับผู้เล่นเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปี ใช้ได้ไม่เกิน 200 หยวนต่อเดือน หากอายุ 16-18 ปีใช้ได้ไม่เกิน 400 หยวนต่อเดือน โดยทางการจีนจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบระบบผู้ให้บริการออนไลน์อยู่เสมอเพื่อให้มั่นใจว่า มาตรการใหม่นี้จะมีการบังคับใช้จริงอย่างเคร่งครัด

มาคราวนี้มีการยกระดับให้เข้มยิ่งกว่าเดิม จำกัดช่วงเวลา เหลือเพียง 1 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่า คำสั่งของรัฐบาลจีนนี้มีผลกระทบกับผู้ให้บริการเกมออนไลน์ รายใหญ่ของจีนอย่าง Tencent และ NetEase ที่มีข่าวว่าหุ้นร่วงลงทันทีที่รัฐบาลจีนออกมาตรการจำกัดการเล่นของผู้ใช้งานกลุ่มเยาวชน ที่มีมากกว่า 110 ล้านคนทั่วประเทศ และที่สำคัญ จีนมีตลาดเกมออนไลน์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก เป็นรองเพียงแค่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น

จึงไม่แปลกที่นโยบายการจำกัดชั่วโมงเล่นเกมออนไลน์ของเด็กจีน ถูกโยงไปถึงนโยบายของรัฐบาลจีน ที่ต้องการตัดตอนบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยี ที่มีเครือข่ายผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์จำนวนมหาศาลในจีน อย่าง Alibaba, Tencent, Baidu, Didi หรือ Meituan ไม่ให้มีอิทธิพลในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจในจีนมากเกินไป

แต่ทั้งนี้ จีนก็ได้ออกมาตรการหลายๆ อย่าง เพื่อส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพเยาวชนจีนรุ่นใหม่ อาทิ การยกเลิกระบบการสอบในชั้นเรียนของเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี เพื่อลดความกดดันในการสอบแข่งขันตั้งแต่ในวัยเด็ก

นโยบายงดการเรียน การสอนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ห้ามธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และต้องจดทะเบียนในรูปแบบองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ที่ต้องเสียให้แก่โรงเรียนกวดวิชานอกชั่วโมงเรียน แทนที่เด็กจะเรียนอย่างเต็มที่ในชั้นเรียน และมีเวลาว่างเหลือให้ใช้ร่วมกับครอบครัวในวันหยุด

แต่สุดท้าย การพัฒนาคุณภาพของเด็กจีนจะดีขึ้นตามเป้าหมายของรัฐบาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคนในครอบครัวเป็นสำคัญ ว่าจะสามารถดึงความสนใจของเด็กจากหน้าจอ สู่ครอบครัวได้มากน้อยเพียงใด

.

อ้างอิง

BBC

The Guardian


โดย Jeans Aroonrat

หลาย ๆ คนคงมีประสบการณ์ในการโดยสารเครื่องบินนาน ๆ ทำให้เกิดความเหนื่อยล้า และอยากให้เครื่องบินมีความรวดเร็วในการโดยสารมากขึ้น สายการบิน United Airlines ก็มีการวางแผนในการให้ทุกคนสามารถโดยสารบนเครื่องบินได้รวดเร็ว ลดระยะเวลาเดินทางไปถึงครึ่ง !

หลายท่านที่เคยนั่งเครื่องบินข้ามทวีปที่ต้องใช้เวลาบินนาน ๆ คงรู้สึกเมื่อยล้า และอ่อนเพลียจากการเดินทาง หากสามารถลดระยะเวลาเดินทางได้ครึ่งหนึ่ง ด้วยค่าโดยสารที่ไม่สูงจนเกินไป คงเป็นสิ่งที่นักเดินทางหลายคนใฝ่ฝัน

สายการบิน United Airlines กำลังจะทำให้ความฝันนั้นกลายเป็นจริง ด้วยการประกาศแผนการสั่งซื้อเครื่องบิน Supersonic รุ่น Overture จำนวน 15 ลำ จาก Boom Supersonic ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหม่ในสหรัฐอเมริกา และคาดว่าจะพร้อมให้บริการได้ในปี 2029

โดยปกติเครื่องเจ็ทสำหรับโดยสาร บินด้วยความเร็วประมาณ 900 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่เครื่องบินแบบ Supersonic มีความสามารถในการบินได้ความเร็วเหนือเสียง โดยเครื่อง Overture ถูกออกแบบให้บินได้ที่มัค 1.7 หรือ 1.7 เท่าของความเร็วเสียง นั้นคือประมาณ 1,805 กิโลเมตร/ชั่วโมง ความเร็วเป็นสองเท่าของเครื่องบินเจ็ทปกติ

การใช้เครื่องบินพาณิชย์ที่มีความเร็วเหนือเสียงไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในปี 1976 สายการบิน British Airways และ Air France เปิดตัวการให้บริการด้วยเครื่องบิน Concorde เครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียง โดยเส้นทางการบินหลักคือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อเชื่อมโยงลอนดอนและปารีสกับนิวยอร์ก ใช้เวลาบินเพียงครึ่งเดียวของการบินปกติ แต่ข้อจำกัดของเครื่องบินคอนคอร์ดคือการบริโภคเชื้อเพลิงและค่าซ่อมบำรุงที่สูง จึงจำเป็นต้องขายตั๋วโดยสารไปกลับเมื่อเทียบกับค่าเงินปัจจุบันด้วยราคา 20,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 620,000 บาทต่อคน !!!!! ด้วยราคานี้จึงไม่ใช่การเดินทางปกติ แต่เป็นสิ่งที่บางคนอยากทำสักครั้งในชีวิต จึงเป็นการยากที่จะหาผู้โดยสารให้เต็ม 100 ที่นั่งในแต่ละเที่ยว

นอกจากนั้นยังมีประเด็นเรื่องของเสียง เนื่องจากหากเครื่องบินทำความเร็วเกินความเร็วเสียง จะก่อให้เกิดช็อคเวฟ ที่มีเสียงดังคล้ายฟ้าร้องที่เรียกกันว่า โซนิคบูม (Sonic Boom) ดังนั้นในหลายประเทศจึงห้ามการบินด้วยความเร็วเหนือเสียง บนแผ่นดินหรือพื้นที่ที่มีผู้คนอยู่อาศัย จึงเป็นข้อจำกัดของเส้นทางการบินที่จะทำความเร็วได้เฉพาะเมื่อบินเหนือทะเล จากข้อจำกัดดังกล่าว และประกอบกับภาวะขาลงของธุรกิจการบินหลังเหตุการณ์ 9/11 จึงทำให้เครื่องบินคองคอร์ดหยุดให้บริการในปี 2003   

ทาง Boom Supersonic จึงได้ศึกษาบทเรียนจากคองคอร์ด และข้อกังวลของการแพร่ระบาดของโรคติดต่อที่อาจเกิดขึ้นอีก นำมาใช้ในการออกแบบเครื่องบิน Overture ที่สามารถจุผู้โดยสารได้ 65-88 คน และที่นั่งเป็นแบบสองแถว แถวละหนึ่งที่นั่ง เพื่อลดการสัมผัสในห้องโดยสาร และออกแบบเน้นเรื่องของสุขอนามัยแทนสิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่องสำหรับการเดินทางระยะนาน ๆ

นอกจากนั้นยังมีการออกแบบตัวเครื่องและเครื่องยนต์ เพื่อลดระดับการเกิดโซนิคบูม รวมถึงการเป็นอากาศยานไร้มลพิษ (net-zero carbon aircraft) โดยออกแบบให้เครื่องยนต์สามารถใช้เชื้อเพลิงทางเลือกได้

เป้าหมายระยะไกลของ Boom คือการพัฒนาเครื่องบินให้มีความเร็วสูงขึ้น เพื่อบินไปทุกแห่งทั่วโลกโดยใช้เวลาไม่เกิน 4 ชั่วโมง และออกแบบเครื่องบินให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายต่อที่นั่ง โดยตั้งเป้าให้มีค่าโดยสารต่อเที่ยวไม่เกิน 1,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 32,000 บาท ซึ่งเป็นราคาเดียวกับค่าโดยสารชั้นธุรกิจ

แต่นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบินหลายท่านให้ความเห็นว่าต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าสิบปีในการพัฒนาเครื่องบิน เพื่อลดเสียงที่เกิดขึ้นจากการบิน และใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 20 ปี ในการพัฒนาวัสดุเพื่อใช้กับเครื่องยนต์ให้ทนกับความร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินทำความเร็วสูงเป็นระยะเวลานาน

คงต้องติดตามกันว่าเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงที่คนทั่วไปสามารถนั่งได้จะเป็นจริงหรือไม่ เพราะหากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลให้รูปแบบการเดินทางของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการเดินทางไกลข้ามทวีป

.

เขียนโดย : อาจารย์ ศรัณย์ ดั่นสถิตย์
อาจารย์ประจำหลักสูตรการจัดการโลจิสติกส์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา 


ข้อมูลอ้างอิง
https://edition.cnn.com/travel/article/boom-supersonic-four-hours-100-bucks/index.html
https://www.businessinsider.com/boom-supersonic-interview-overture-concorde-ceo-2020-10
https://www.cnbc.com/2021/06/03/united-will-buy-15-ultrafast-airplanes-from-start-up-boom-supersonic.html
https://www.nbcnews.com/science/science-news/supersonic-airliners-hit-turbulence-jet-developer-shuts-rcna1044?utm_source=morning_brew
https://www.bbc.com/news/technology-57361193

????คุยกับพี่อ๊อด "คุยง่ายๆ เรื่องการศึกษาใกล้ตัว" EP.4 เทคนิค!! เลือกโรงเรียน ม.ปลาย ที่ไหนดี ที่ไหนโดนใจ

????คุยกับพี่อ๊อด "คุยง่ายๆ เรื่องการศึกษาใกล้ตัว"

EP.4 เทคนิค!! เลือกโรงเรียน ม.ปลาย ที่ไหนดี ที่ไหนโดนใจ

????พบ (พี่อ๊อด) กิตติเชษฐ์ เกื้อมา วิทยากร

????(กันต์) ธนพัฒน์ แจ่มปรีชา ผู้ดำเนินรายการ

????น้องน้ำฟ้า ช่วง 'Easy English with น้ำฟ้า' ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว

⏰วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม เวลา 2 ทุ่มตรง !

ติดตามรายการที่ช่อง THE STUDY TIMES

????Facebook : facebook.com/thestudytimes/

????YouTube : youtube.com/channel/UC2Sf0rVFuuSU2aQ5ioU34Lg

????TikTok : tiktok.com/@thestudytimes

.

????คุยกับพี่อ๊อด "คุยง่ายๆ เรื่องการศึกษาใกล้ตัว"   EP.3 เจาะลึก!! โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จุดกำเนิดสร้างนักวิทยาศาสตร์ 

????คุยกับพี่อ๊อด "คุยง่ายๆ เรื่องการศึกษาใกล้ตัว"  
EP.3 เจาะลึก!! โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จุดกำเนิดสร้างนักวิทยาศาสตร์ 

????พบ (พี่อ๊อด) กิตติเชษฐ์ เกื้อมา วิทยากร

????(กันต์) ธนพัฒน์ แจ่มปรีชา ผู้ดำเนินรายการ

????น้องชมพู่ ช่วง 'ลมตะวันออก' ความรู้ดีดีและข่าวสาร จาก โลกตะวันออก

⏰วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม เวลา 2 ทุ่มตรง !

ติดตามรายการที่ช่อง THE STUDY TIMES
????Facebook : facebook.com/thestudytimes/
????YouTube : youtube.com/channel/UC2Sf0rVFuuSU2aQ5ioU34Lg
????TikTok : tiktok.com/@thestudytimes

.

เรื่องการเงินถือว่ามีความสำคัญในการเลี้ยงลูกในยุคใหม่ ทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่ายทางด้านการศึกษารวมไปถึงค่ากิจกรรมต่าง ๆ คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ควรศึกษาและมีการวางแผนการเงินให้ดีเพื่อไม่ส่งผลกระทบต่อลูก

สิ่งสำคัญที่สุดในการเลี้ยงลูกนอกจากความรัก ความเอาใจใส่ดูแลของคุณพ่อและคุณแม่ เรื่องค่าใช้จ่ายก็ถือว่ามีความสำคัญที่จะต้องดูแลและจัดการให้ดี เพราะในยุคปัจจุบันการเงินถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงลูก ยิ่งโดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ควรที่จะมีการวางแผนให้ดี 

คุณแม่อุ้ย กัลยวีร์ โรจน์พัฒนา นักวางแผนการเงิน CFP และเจ้าของเพจที่ชื่อว่า "การเงินฉบับคุณแม่ต้องรู้" ได้เล่าถึงการจัดสรรเงินค่าใช้จ่ายโดยสิ่งที่ต้องจัดการหลัก ๆ มีดังต่อไปนี้ 

1.) การจัดสรรเงินเป็นก้อน ๆ แยกค่าใช้จ่ายออกมาเป็นหลาย ๆ ส่วน ที่เราจะต้องรับผิดชอบให้ชัดเจน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารต่าง ๆ เงินเก็บที่จะต้องออม และ ค่าใช้จ่ายเรื่องลูก อาจจะมีการวางแผนเขียนออกมาเป็นสัดส่วนเพื่อให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ อย่างโทรศัพท์มือถือของเราก็จะมีแอพลิเคชันรายรับ รายจ่าย รวมไปถึงแอพลิเคชันธนาคารจะทำให้เราได้เห็นรายรับรายจ่ายที่ชัดเจน 

2.) แยกบัญชีที่เป็นธุรกรรมทางการเงินสำหรับลูกโดยเฉพาะ การมีบัญชีเก็บเอาไว้สำหรับค่าใช้จ่ายในเรื่องลูกจะทำให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่สามารถมีเงินเก็บในส่วนนี้ แยกออกไปจากค่าใช้จ่ายปกติได้ โดยบัญชีนี้อาจจะรวมพวกค่าเทอม ค่ากิจกรรมต่าง ๆ ของลูก เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ได้เห็นภาพโดยรวมชัดเจนว่าในแต่ละเดือนลูก ๆ ของคุณมีค่าใช้จ่ายเท่าไร และเราสามารถออมเงินเพื่อเก็บไว้ให้ลูกจากบัญชีที่เป็นธุรกรรมทางการเงินของลูกโดยเฉพาะได้ อาจจะโอนเป็นรายเดือนเก็บเอาไว้

3.) ทำตารางค่าใช้จ่ายของลูก การศึกษาเปรียบเทียบค่าเทอม หรือ ค่ากิจกรรมต่าง ๆ จะทำให้คุณพ่อและคุณแม่ได้ทราบว่าถ้าลูกจะต้องเรียนในโรงเรียนแห่งนี้จะต้องเสียค่าเทอมเท่าไร หรือ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เราจะได้คำนวณและวางแผนทางการเงินได้อย่างง่ายและดียิ่งขึ้น เช่น ถ้าเราต้องการให้ลูกเรียนโรงเรียนที่มีการเรียนแบบ English Program จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเท่าไร การเรียนพิเศษในแต่ละที่มีค่าใช้จ่ายเท่าไร เป็นต้น 

นอกจากคุณพ่อคุณแม่จะวางแผนเรื่องการเงินให้กับลูก ๆ แล้ว คุณแม่อุ้ย ยังให้แนวทางปฏิบัติกับคุณพ่อคุณแม่ให้ปลูกฝังในเรื่องของการออมเงินหรือการประหยัดให้กับลูก ๆ ได้อีกด้วยเช่นการอ่านหนังสือนิทาน หรือ การฝึกให้ลูกหยอดกระปุกออมสินเพื่อที่จะได้ซื้อของที่อยากได้ ฝึกการออมให้เป็น ทำทุกวันเป็นนิสัย หรือมีกิจกรรมสนุก ๆ เช่นการเล่นบทบาทสมมุติเป็นคนขายของเพื่อฝึกการคิดเลข ต่อยอดเป็นการรู้จักให้ลูกรู้ในเรื่องของการหาเงินแต่ละบาทมีความยากมากแค่ไหน 

การปลูกฝังลูกในเรื่องของการวางแผนการเงิน การออมเงินตั้งแต่เล็ก ๆ ก็จะทำให้ลูกมีความรู้และฝึกความคิดในเรื่องของการบริหารทางการเงิน โดยทั้งหมดจะต้องเริ่มต้นจากพฤติกรรมของคุณพ่อและคุณแม่ เริ่มปรับที่ตัวของเรา การวางแผนทางการเงินก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 


สามารถย้อนไปฟังการ LIVE หัวข้อที่น่าสนใจเหล่านี้เพิ่มเติมได้ที่ เพจดีต่อลูก
หัวข้อ : วางแผนทางการเงิน เรื่องสำคัญสำหรับพ่อแม่มือใหม่
Link : https://www.facebook.com/foryourchildz/videos/362360858805105
เขียนและเรียบเรียงเรื่องโดย: สถาพร สุตจิตจูล 
 

สถาปัตย์นอกคอก กลายเป็น "ครูโยคะฟลาย" จนได้ดีบนผ้าพริ้ว กับ ครูต้น ธัญณกรณ์ | Click on Crazy EP.2

บทสัมภาษณ์รายการ Click on Crazy EP.2
ธัญณกรณ์ ธิบูรณ์บุญธรณ์ (ครูต้น) 
คุณครูสอนโยคะฟลาย ประสบการณ์กว่า 8 ปี

Q : แนะนำตัวหน่อยค่ะ

A : ครูต้น ธัญณกรณ์ ธิบูรณ์บุญธรณ์ ครับ ปัจจุบันสอนโยคะอยู่ที่สถาบัน Yoga&Me เป็นคลาสโยคะฟลาย คลาสเต้นและคลาสบาร์พิลาทิสครับ จบสถาปัตยกรรมภายใน มีความถนัดในเรื่องของการแสดง และก็พัฒนาตัวเองต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบันนี้ครับ เป็นคุณครูมาประมาณ 8 – 9 ปีแล้วนะครับ 

Q : ครูต้นเรียกตัวเองว่าเป็น “สถาปัตย์นอกคอก” อะไรคือคำนิยามของสถาปัตย์นอกคอก และ ทำไมครูต้นถึงเรียกตัวเองแบบนั้น ?

A : ตั้งแต่ในสมัยเด็กมีความสามารถในการวาดรูป ก็เลยมองตัวเองว่าจะมีวิชาไหนบ้างที่เป็นศิลปะและสามารถหาเลี้ยงชีพได้เป็นอย่างดี ก็เลยเลือกที่จะเข้าไปสอบวิชาสถาปัตยกรรม แต่ช่วงแรกก็มีไปสอบวิศวะบ้าง วิทย์-คอม บ้างแต่สุดท้ายแล้วก็เลือกเรียนสถาปัตยกรรมภายใน 

ส่วนสถาปัตย์นอกคอกคือ ในช่วงระหว่างที่เรียนก็มีไปทำงานเพิ่มเติมบ้าง ก็เลยเอาความสามารถส่วนตัวอย่างเรื่องของการแสดงไปหารายได้เพิ่ม กลายเป็นเด็กสถาปัตย์ที่ตอนเช้าไปเรียน พอกลางคืนก็ต้องไปทำงานการแสดง ทำให้การใช้ชีวิตของเราแตกต่างจากเด็กสถาปัตย์คนอื่น ๆ มีวงจรของตัวเองในการทำงาน นอนวันล่ะ 3-4 ชั่วโมง ต้องรีบทำงานให้เสร็จ ส่งการบ้าน ทักษะที่ได้จากการเรียนสถาปัตยกรรมเลยมีเพียงแค่การวาดรูป 

Q : จากการเป็น “สถาปัตย์นอกคอก” สู่การเป็น ครูสอนโยคะฟลาย จุดเริ่มต้นเป็นอย่างไร ?

A : หลังจากที่เรียนสถาปัตย์มาก็ได้เข้ามาทำงานเกี่ยวกับงานอีเวนต์ จัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้เอางานของตัวเองไปขายลูกค้า โดยตัวเองนั้นทำทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่องค์ประกอบงานต่าง ๆ รูปแบบเวที สคริปต์พิธีกร เป็นงานอีเวนต์ใหญ่ ทำอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายได้กำไรมาน้อย เลยรู้สึกว่าตัวเองอาจจะไม่เหมาะกับงานนี้ เลยออกมาทำงานการแสดงได้แสดงมาเรื่อย ๆ และได้ไปออดิชั่นละครเวที ฟ้าจรดทรายเดอะมิวสิคเคิล และได้ไปอยู่ค่ายละครเวที Dreambox

และมีผู้ใหญ่ได้เข้ามาดูเหล่านักแสดงที่มีประสิทธิภาพ performance ดีให้ทุนไปเรียนเพื่อเป็นคุณครูสอนโยคะฟลาย ต้องมีการสอบเป็นคุณครูโยคะฟลาย โดยตัวเองเป็นคุณครูช้าที่สุด เพราะตอนแสดงละครหรือตอนเรียนโยคะฟลายเราสามารถจัดตัวเองได้ แต่พอเป็นคุณครูจะต้องอธิบายนักเรียน เราไม่ยอมพูด จนผู้ใหญ่บอกให้พูดให้อธิบายกับนักเรียนหน่อย ใช้เวลาประมาณ 6 เดือนเพื่อที่จะได้ฝึกฝนการเป็นคุณครู พิสูจน์ตัวเองว่าตัวเองสามารถทำได้ เมื่อเราสะสมประสบการณ์จากการ performance ความสร้างสรรค์บวกกับการเป็นคุณครูรู้วิธีการพูด ทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นอิสระทางด้านความคิด ทำให้เราได้คิดค้นท่าทางต่าง ๆ มากมาย และโชคดีที่มีคนสนับสนุน นักเรียนก็ชื่นชอบ ถือว่าเป็นความท้าทายสำหรับตัวเองมาก ๆ อย่างหนึ่ง

Q : คำว่า “โยคะ” และ “โยคะฟลาย” แตกต่างกันอย่างไร ในความคิดของครูต้น 

A : พื้นฐานหลัก ๆ เป็นเรื่องของร่างกาย โยคะฟลายเป็นการฝึกร่างกายโดยการใช้อุปกรณ์ในเบื้องต้น เราคุมร่างกายตัวเองและใช้อุปกรณ์เป็น ในสตูดิโอจะมีระดับชั้นในการเรียน เรียนรู้การควบคุมตัวเอง ในแต่ละระดับ 

Q : คลาสหนึ่งของครูต้นมีนักเรียนเยอะไหมคะ ?

A : มีประมาณ 12 – 16 คนครับ ในแต่ละช่วง ช่วงที่เราไปทำงานเราเป็นรุ่นที่ 2 ของสถาบัน Yoga&Me ที่มาสอน เราค่อนข้างที่จะบุกเบิกในเรื่องของการสอนโยคะฟลาย ในช่วงยุคนั้นจะเป็นที่นิยมและมีการพัฒนาการสอนมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่พื้นฐานจนไปถึงโยคะฟลายประกอบเพลงด้วย 

Q : ถ้านักเรียนไม่สามารถทำท่าโยคะฟลายตามที่เราสอนได้ หรือ มีการหมดกำลังใจ ไม่มีสติในการเรียน ครูต้นมีวิธีการอย่างไร ? 

A : การเป็นคุณครูทำให้เรามีประสบการณ์ในการสอนมาก ทำให้เรารู้ว่านักเรียนแต่ละคนมีความแตกต่างมากน้อยเพียงใด บางคนต้องการความเอาใจใส่เราก็จะไปอยู่ใกล้ ๆ ให้นักเรียนรู้สึกอุ่นใจ ถ้านักเรียนยังไม่พร้อมที่จะทำ เราจะเข้าไปสอนใกล้ ๆ ไม่ให้กดดันกับคลาส ให้นักเรียนฝึกและใช้เวลา ทุกอย่างต้องไปด้วยกัน นักเรียนจะต้องสบายใจกับคุณครู ให้รู้สึกว่าที่นี้เป็นพื้นที่ของนักเรียนให้ได้ ให้นักเรียนมั่นใจ การก้าวเข้ามาเป็นสิ่งใหม่เสมอ ให้กำลังใจนักเรียนทุก ๆ คน

Q : ช่วงนี้มีสถานการณ์โควิดเข้ามาทำให้การสอนโยคะฟลายเป็นเรื่องยากมากขึ้น ครูต้นมีวิธีการปรับเปลี่ยนทัศนคติอย่างไรกับสถานการณ์แบบนี้

A : ตอนแรกไม่ได้คิดว่าสถานการณ์เกิดขึ้นนานขนาดนี้ ในช่วงแรกที่โควิดเข้ามาเรามีการไลฟ์สอนออกกำลังกายให้นักเรียนได้เห็น และก็ได้เปิดสถาบันสอน พอมาตอนนี้ช่วงสถานการณ์ค่อนข้างยาวนาน เพราะอาชีพที่เราเป็นทั้งคุณครูสอนโยคะฟลาย นักแสดงละครเวที ศิลปะต่าง ๆ เราจะต้องพบปะผู้คนหมดเลย ทำให้เราคิดว่าเราไม่รู้จะทำอะไร เลยเริ่มมีการสอนออนไลน์แต่ความมั่นใจในการสอนกลับลดน้อยลง ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องยากสำหรับเรา ช่วงโควิดระลอกใหม่เราเก็บตัวถึง 2 เดือน ไม่ยุ่งกับ Social Media เลย สักพักหนึ่งเราเริ่มมีการมองหาอาชีพอื่น ขายของ ทำอาหารขาย และมีการปรึกษากับเพื่อน ๆ  ความมั่นใจกับศักยภาพตัวเองลดน้อยลง

เลยเริ่มมองหางานอดิเรกให้ตัวเองได้ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น เลยได้มีโอกาสวาดภาพสีน้ำมัน พอวาดสำเร็จก็เกิดความคิดใหม่ ๆ ขึ้นมา และมีคนชื่นชมยินดี มีคนมาขอซื้อรูปวาดด้วย และก็ได้มีงานวาดรูปต่อมาเรื่อย ๆ และมีการเปิดสอนคลาสเต้น ก็มีคนมาเข้าเรียน เราก็เลยรู้สึกว่าที่ผ่านมาเราทำอะไรอยู่ พอเรามั่นใจ หลาย ๆ คนก็เปิดโอกาสให้กับเรา งานก็เริ่มมีเข้ามาเรื่อย ๆ เราจะคิดแบบเดิมไม่ได้ เราจะต้องมีความคิด New Normal มาจากสมองของเรา งานแบบไหนที่เราสามารถทำได้ ในช่วงสถานการณ์แบบนี้  เราก็เริ่มมีการจัดฟังก์ชันบ้าน ทำความสะอาดห้อง จัดของต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ทำให้ระบบความคิดของเรามีศักยภาพ แบ่งปันประสบการณ์ พูดคุยกับผู้คนใน Social Media เราต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน 

Q : แล้วถ้าคนที่กำลังท้อ หรือ หมดกำลังใจ ครูต้นอยากฝากอะไรให้กับผู้คนเหล่านั้น 

A : เราอาจจะแนะนำวิธีกับใครไม่ค่อยได้ แต่เราจะแนะนำวิธีของเรา เริ่มต้นจากการจัดฟังก์ชั่นของตัวเองง่าย ๆ เช่นการทำบ้านให้สะอาด พอเราไม่รู้ว่าตัวเองจะออกจากจุดนี้ยังไง วิธีนี้มาจากตอนเรียนสถาปัตย์คือให้เราวาด Mind Mapping แบ่งออกมา ตัวเราทำอะไรได้บ้าง แตกแขนงออกไป แล้วตัวที่เราทำอะไรได้บ้างแล้วเราจะทำอย่างไรในตอนนี้ ลิสต์มันออกมาให้เห็นเป็นภาพ

ถ้าคุณยังไม่มั่นใจที่จะไปพูดคุยกับใครให้เขียน Mind Mapping ของตัวเองดูก่อน เราพอจะทำอะไรได้บ้างจากศักยภาพของตัวเราเอง และเราจะทำอะไรเพิ่มได้บ้างจากศักยภาพใหม่ที่คุณอยากเรียนรู้ ทำอาหาร ถ่ายรูป หรือ ขายของ ให้เราจำแนกออกมา จะทำให้เราเห็นตัวเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่าพะวงอยู่ในหัวของตัวเอง ให้มันกระจายออกมา ถ้ายังไม่ได้จริง ๆ ให้คุณเดินออกไปจากในห้อง แล้วก็มองกว้าง ๆ ออกไป สูดอากาศให้ลึก ที่กล่าวมาทั้งหมดเริ่มจากตรงไหนก็ได้ แต่ขอให้คุณออกจากตัวเองไปก่อน ถ้าคุณทำได้คุณจะเห็นช่องทางหลาย ๆ ทางและจะมีคนรอซัพพอร์ตเราอยู่ เราก็ต้องส่งความรัก และ กำลังใจกลับไปให้ด้วย 

Q : ครูต้นมีความฝันอะไรต่อจากนี้ 

A : สิ่งแรกเลยคงจะสอนออนไลน์ต่อไป มีลูกศิษย์คนหนึ่งจะไปทำงานที่ต่างประเทศแล้วบอกให้เราสอนออนไลน์ต่อไปเพื่อเป็นช่องทางในการออกกำลังกาย เราจะได้เจอกันต่อไปเรื่อย ๆ เราอยากที่จะให้ช่องทางออนไลน์เจริญต่อเรื่อย ๆ ให้มีลูกศิษย์กระจายกว้างมากขึ้น จะตั้งใจทำแบบเดิมแม้มีนักเรียน 2 คน 5 คนหรือ 10 คน เราทำออนไลน์แบบนี้ทำให้เรารู้สึกสร้างความอบอุ่นขึ้นมาได้ จะใส่ใจในทุกรายละเอียดที่เจอกัน จะเป็นครูที่ดีมากคนหนึ่ง ในส่วนของออนไลน์ จะพัฒนาต่อยอดไป

ในอนาคตก็คงสร้างคลาสออนไลน์จากความถนัด อาจจะเปิดฟรีก่อนให้นักเรียนมั่นใจในตัวผู้สอนหลังจากนั้นจะเปิดหารายได้อะไรก็ว่ากันไป ส่วนเรื่องของศิลปะเราก็จะไม่ทิ้ง หลังจากที่เราทิ้งไว้มา 10 ปี ปรากฎว่าเรากลับมาทำแล้วมีคนซัพพอร์ตเราขึ้นมา เราก็จะต่อยอดไปเรื่อย ๆ อาจจะวาดด้วยมือหรือวาดลงคอมพิวเตอร์ จะลองทำต่อไปในช่วงแรกที่เราได้ เราอาจจะไม่เก่งในทางด้านธุรกิจแต่คงจะมีการถ่ายทอดต่อ ๆ ไปได้จากศักยภาพที่เรามีและจะมีประโยชน์กับคนทั่วไปได้ด้วยครับ 

สนใจเรียน โยคะฟลาย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.yogaandme.net/

.

.


.

????คุยกับพี่อ๊อด "คุยง่ายๆ เรื่องการศึกษาใกล้ตัว" EP.2

????คุยกับพี่อ๊อด "คุยง่ายๆ เรื่องการศึกษาใกล้ตัว"  

EP.2 ทำไม ใครๆ ก็อยากเข้าเตรียมอุดมฯ

????พบ (พี่อ๊อด) กิตติเชษฐ์ เกื้อมา วิทยากร

????(กันต์) ธนพัฒน์ แจ่มปรีชา ผู้ดำเนินรายการ

????น้องน้ำฟ้า ช่วง 'Easy English with น้ำฟ้า' ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว 

⏰วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม เวลา 2 ทุ่มตรง !

ติดตามรายการที่ช่อง THE STUDY TIMES
????Facebook : https://www.facebook.com/thestudytimes/
????YouTube : https://youtube.com/channel/UC2Sf0rVFuuSU2aQ5ioU34Lg
????TikTok : https://www.tiktok.com/@thestudytimes

.

พิพิชชญะ ศรีดำ (น้องสไปรท์) | Click on Clever EP.15

บทสัมภาษณ์ รายการ Click on Clever EP.15 
พิพิชชญะ ศรีดำ (น้องสไปรท์) นักเรียน Year 9 โรงเรียนนานาชาติบลูมส์เบอรี่ หาดใหญ่
เด็กไทยอายุน้อยที่สุด คว้าเหรียญทอง คณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ (IMO 2021)

อัจฉริยะอายุน้อย เหรียญทองคณิตศาสตร์ระดับโลก พรสวรรค์ ที่มาพร้อม พรแสวง ร่วมค้นหาเคล็ดลับความเก่ง! 

Q: รู้สึกยังไงบ้างที่กลายเป็นเด็กไทยที่อายุน้อยที่สุด ที่คว้าเหรียญทอง คณิตศาสตร์โอลิมปิก เวทีระดับโลก

A: ก็รู้สึกภูมิใจที่ทำได้ตามที่ตั้งไว้ แต่ว่าส่วนนึงผมรู้สึกว่ามันก็เป็นโชคด้วย เพราะคะแนนผมก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก จริงๆ ทุกคนก็เก่งเท่าๆ กันครับ บางทีมันก็อยู่ที่ว่าข้อสอบที่เราเกร็งมากับที่ออกตรงกันหรือเปล่า 

Q: เดินสายแข่งขันทางวิชาการตั้งแต่เด็ก เพราะความชอบ?

A: ตอนประมาณป.2 โรงเรียนได้มีโอกาสเชิญผมไปลองแข่งขันสนามหนึ่งของสสวท. ผมรู้สึกว่ามันก็สนุกดีเวลาที่ได้ทำโจทย์ ผมก็เดินสายนี้มาตั้งแต่ตอนนั้น 

Q: ทำไมรู้สึกสนุกกับการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ เห็นเสน่ห์อะไร?

A: ผมรู้สึกว่าโจทย์มันแต่งยังไงก็ได้ พอมันพลิกแพลงอะไรนิดนึงแล้วมันดูน่าสนใจ บางทีน่าค้นหา คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่คำตอบแทบจะมีตายตัวเลย แต่ตัววิธีการที่จะได้มาซึ่งคำตอบนั้นบางทีมันก็ต้องใช้ไอเดียที่น่าสนใจ การที่จะได้มาซึ่งไอเดียนั้นก็เป็นขั้นตอนที่สนุก บางทียิ่งยากก็ยิ่งสนุก ผมก็งงตัวเองเหมือนกัน 

Q: วิถีชีวิตของเด็กสายแข่งขันคณิตศาสตร์?

A: หนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง นอนไป 8 เหลือ 16 ผมก็จะแบ่งเวลาออกมาเป็น 8 กับ 8 เอาไปพัฒนาตัวเองในรายวิชาคณิตศาสตร์ อีกส่วนจะเอาไปทำกิจกรรม ตั้งแต่เช้ามาผมก็จะเริ่มเรียนก่อน พอรู้สึกว่ามันเริ่มเครียดแล้ว ผมก็จะไปพัก อาจจะไปทานข้าวหรือเตะบอล จากนั้นก็มาพัฒนาต่อ สลับกันไปเรื่อยๆ ครับ บางทีมันก็ไม่ได้เป๊ะขนาดนั้น มียืดหยุ่นได้บ้าง 

Q: การวางตารางชีวิตแบบนี้ได้มาจากไหน?

A: หลักๆ ก็ได้มาจากคุณพ่อครับ คุณพ่อชอบแบ่งตารางเวลาและเน้นย้ำเรื่องเวลาอยู่เสมอ เขาจะย้ำว่า ในหนึ่งวันแต่ละคนมีเวลาเท่ากัน เราก็ใช้เวลาให้มันคุ้มค่า หากเราแบ่งเวลาจะเป็นตัวช่วยให้เรามีวินัยและทำให้เรารู้ว่าเวลานี้ต้องทำอะไร เพื่อไม่หลุดออกจากลู่ทางไปครับ เพราะหากเราไม่มีตรงนี้ เราก็จะไม่รู้ว่าวันนี้เราได้แบ่งเวลาไปยังไงบ้าง บางทีอาจพัฒนาได้ไม่ครบ

Q: ได้ข่าวว่าชอบออกกำลังกาย การออกกำลังกายพัฒนาเราอย่างไรบ้าง?

A: ช่วงเย็นๆ ประมาณ 5-6 โมงก็มีเตะบอลหน้าบ้านครับ บางครั้งก็เล่นบาสกับครอบครัว เพื่อนบ้าน หรือเพื่อนที่โรงเรียนก็ชวนกันไป แล้วก็ปั่นจักรยานครับ หลักๆ ก็มีเท่านี้ 

การออกกำลังกายทำให้เราผ่อนคลาย บางทีถ้าทำโจทย์คณิตศาสตร์เยอะๆ อาจจะมีความเครียด พอไปออกกำลังกายแล้วรู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้อาจจะช่วยให้เรามีไหวพริบมากขึ้นด้วย ซึ่งตรงนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเกี่ยวกันหรือเปล่า แต่บางทีที่เราเล่นบอลเล่นบาสมันก็ต้องใช้ไหวพริบ ซึ่งตรงนี้ก็จะมาช่วยในการฝึกแก้โจทย์ด้วย

Q: เมื่อต้องแข่งขัน รู้สึกเครียดและกดดันไหม? บริหารจัดการความกดดันอย่างไร?

A: จริงๆ ก็มีเครียดเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าเราเปลี่ยนมุมมองจากการมองโจทย์คณิตศาสตร์ว่าน่าเบื่อ เครียด มองให้มันสนุก แล้วเอนจอยไปกับมัน จะช่วยลดความเครียดได้ระดับนึงครับ ผมชอบไปหาโจทย์ที่ท้าทายเอามาทำ บางทีก็คิดไม่ออก แต่ผมก็สอนตัวผมเอง รู้สึกว่าถ้าเกิดมันยิ่งยากก็ยิ่งท้าทาย ยิ่งสนุก

ถ้าเป็นในห้องสอบแล้วทำไม่ได้ผมก็เครียดอยู่ครับ แต่ถ้ามาฝึกทำแบบนี้ เวลามันมีเหลือเฟือ บางโจทย์ผมก็ใช้เวลา 2-3 วันในการคิดก็มี แต่ถ้ามันคิดไม่ออกแล้วจริงๆ ผมแนะนำว่าให้ดูเฉลยดีกว่า มันจะได้ไอเดียใหม่ๆ ไปทำโจทย์ข้ออื่นด้วย

Q: คุณพ่อคุณแม่สนับสนุนอย่างไรบ้าง?

A: คุณพ่อคุณแม่ก็จะช่วยหาสนามสอบหรือบางทีก็จะช่วยหาข้อสอบที่น่าสนใจมาให้ผมลองทำ แล้วก็ช่วยไกด์แนวทางที่จะไปถึงจุดที่ผมต้องการ ผมรู้สึกว่าการที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกอะไรประมาณนี้ก็เป็นเกียรติที่น่าชื่นชม ผมก็เลยตั้งไว้

Q: คติประจำใจ “I would like to say every moment counts for you, so make the time that you spend for your dreams a very special moment, make sure that you do something that you’ll be happy with when you go back and look at yourself” – Jennie Kim I BLACKPINK บ่งบอกถึงความคิด ตัวตนของตัวเองอย่างไร?

A: สรุปง่ายๆ ก็คือ เราทำสิ่งที่เราต้องการ และจงระลึกไว้ว่า อย่าใช้เวลาให้มันสิ้นเปลือง เราใช้เวลากับสิ่งที่จะพัฒนาตัวเราให้ไปถึงจุดนั้น เพื่อที่ว่าในอนาคตเรามองกลับมาที่ตัวเราในวันนี้ เราจะไม่เสียดายทีหลังครับ 

Q: นิยามความสุขที่เราได้เจอกับสิ่งที่รักอย่างคณิตศาสตร์

A: ความสุขมันก็เหมือนกับ เวลาผมทำโจทย์คณิตศาสตร์แล้วบางทีทำไม่ได้ มันก็ยิ่งท้าทาย เหมือนติดกับมันไปแล้ว เอาออกจากหัวไม่ได้ มันก็กลายเป็นความสุข

Q: คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงไหมเวลาทำโจทย์หนักๆ ให้บาลานซ์ชีวิตด้านอื่นอย่างไรบ้าง?

A: จริงๆ ก็มีมาบอกให้บาลานซ์เรื่องการทำโจทย์และเรื่องการไปทำกิจกรรมอย่างอื่น บางทีเขาก็จับเวลาแล้วหาเวลาพาครอบครัวไปทำกิจกรรมด้วยกัน ตรงนี้ก็ช่วยพักผ่อนสมอง ทำให้ไม่เครียดมาก

Q: การเรียนในโรงเรียนอินเตอร์กับโรงเรียนไทยแตกต่างกันอย่างไร?

A: โรงเรียนอินเตอร์จะให้สิทธิในการเลือกมากกว่า ถ้าเราถนัดอันนี้ เขาก็จะส่งเสริมด้านนี้โดยเฉพาะ หรือถ้าเกิดเราไม่ถนัดด้านนี้ คุณครูก็จะเทคแคร์เราโดยเฉพาะ อาจจะมากกว่าเพื่อนคนอื่น ส่วนโรงเรียนไทยบางทีเด็กเยอะ เขาก็จะดูเป็นภาพรวมไป เช่น ทั้งห้องดูเกรดโดยรวมแล้วอ่อนวิชานี้ ก็จะไปส่งเสริมวิชานี้


Q: มีงานอดิเรกไหม

A: ส่วนใหญ่ก็ฟังเพลงครับ เวลาว่างๆ ผมก็หาเพลงในยูทูปฟัง ผมชอบฟังเพลงเกาหลีครับ ฟังไม่ออกผมก็เลยชอบฟัง รู้สึกมันน่าสนใจ ถ้าฟังออกเดี๋ยวเราจะมีความรู้สึกร่วมไปกับมัน พอฟังไม่ออกก็ไหลไปตามเนื้อ 

Q: มีความฝันไหม ได้เหรียญทองโอลิมปิกวิชาการแล้ว หลังจากนี้จะยังคงอยู่ในเส้นทางการแข่งขันวิชาการต่อไปไหม?

A: ที่ผมคิดไว้ก็จะไปแข่งรายการนี้อีก 1 ปีครับ จากนั้นผมก็อาจจะลองใช้ชีวิตดูครับ หาประสบการณ์ และเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนี้ที่เล็งไว้อยากไปศึกษาต่อต่างประเทศ อย่างอเมริกา มหาลัยในฝันก็ Stanford MIT อยากไปเรียนด้านเทคโนโลยี รู้สึกว่ามันก้าวหน้าดี ที่ผมสนใจก็มี อีลอน มัสก์ กับ สตีฟ จอบส์ เขาพัฒนาเหมือนรับช่วงต่อจากเทคโนโลยีและพัฒนาให้มันไปได้ไกลกว่าเดิม ไม่ได้ย่ำอยู่กับที่ 

Q: มีบทความ เว็บไซต์ หรือหนังสืออะไรที่อยากแนะนำไหม?

A: หนังสือที่ผมชอบก็จะเป็น ซีรีย์ของเซเปียนส์ ผมว่ามันบอกกล่าวเกี่ยวกับตัวมนุษย์ได้ดีครับ บางทีเราอาจจะไปสังเกตพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อนำมาพัฒนาเทคโนโลยีได้พอกับความต้องการ  

Q: ฝากคำแนะนำสำหรับเพื่อนๆ น้องๆ ในการเตรียมตัวที่จะไปแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิก

A: พูดถึงเรื่องการคิดก่อนแล้วกันนะครับ อันดับแรกคืออย่าไปกลัวโจทย์ ผมเห็นเด็กหลายคนเวลาเห็นโจทย์มาจากสนามนี้คิดว่ามันต้องยาก เราไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องนั้น เราแค่ทำมัน แล้วก็หวังว่ามันจะทำออก ให้เราตั้งเป้าไว้สูง เพราะการที่เราตั้งเป้าไว้ที่จุดนึงเนี่ย เราไม่มีทางไปเกินเพดานเป้านั้นแน่นอน อาจจะตกลงมานิดหน่อย ถ้าเกิดเราอยากได้เลเวล 3 ให้ตั้งเป้าไว้เลเวล 4 เลเวล 5 ไปเลยก็ได้ 

ใช้เวลาเตรียมตัวจริงๆ สองปีครับ ตามขั้นตอนปกติ แต่ถ้าเรามีการตกรอบ อาจจะต้องไปวนใหม่อีกปีนึง ซึ่งการที่จะป้องกันตรงนี้ได้ เราก็ต้องทำโจทย์เยอะพอสมควร เพื่อให้มีประสบการณ์ของโจทย์ที่หลากหลาย เวลาเจอโจทย์อะไรเราก็จะได้มีไอเดียที่จะนำไปประยุกต์ใช้ต่อครับ 

Q: เวลาผิดหวัง ให้กำลังใจตัวเองอย่างไร?

A: ถ้าผมผิดหวัง ผมก็จะพยายามลืมเรื่องนั้นไปครับ เพราะถ้าเราไปจมอยู่กับตรงนั้น มันก็จะยิ่งเศร้า ผมก็อาจจะไปหากิจกรรมอย่างอื่นมาทำเพื่อปลอบใจตัวเอง อย่างเช่นเล่นกีฬา แล้วค่อยกลับมาทำโจทย์ใหม่ พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น 

.

.

.

.

????คุยกับพี่อ๊อด "คุยง่ายๆ เรื่องการศึกษาใกล้ตัว" EP.1

????คุยกับพี่อ๊อด "คุยง่ายๆ เรื่องการศึกษาใกล้ตัว"  

EP.1 เจาะลึก เข้า “โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์” สุดยอดเด็กวิทย์ของไทย

????พบ (พี่อ๊อด) กิตติเชษฐ์ เกื้อมา วิทยากร

????(กันต์) ธนพัฒน์ แจ่มปรีชา ผู้ดำเนินรายการ

????น้องชมพู่ ช่วง 'ลมตะวันออก' ความรู้ดีดีและข่าวสาร จาก โลกตะวันออก 

⏰วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม เวลา 2 ทุ่มตรง !

ติดตามรายการที่ช่อง THE STUDY TIMES
????Facebook : https://www.facebook.com/thestudytimes/
????YouTube : https://youtube.com/channel/UC2Sf0rVFuuSU2aQ5ioU34Lg
????TikTok : https://www.tiktok.com/@thestudytimes

.

.

????พบกับรายการใหม่ "คุยกับพี่อ๊อด" คุยง่ายๆ เรื่องการศึกษาใกล้ตัว

????พบกับรายการใหม่ "คุยกับพี่อ๊อด"

"คุยง่ายๆ เรื่องการศึกษาใกล้ตัว"

✨พูดคุยกับ 'พี่อ๊อด' วิทยากรด้านการศึกษา เผยเทคนิคพิชิตโรงเรียนดัง ในช่วง “คุยกับพี่อ๊อด” 

♦️ พบน้องชมพู่ ช่วง'ลมตะวันออก' ความรู้ดีดีและข่าวสาร จาก โลกตะวันออก ทุกวันเสาร์ต้นรายการ

♦️พบน้องน้ำฟ้า ช่วง 'Easy English with น้ำฟ้า' ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว ทุกวันอาทิตย์ต้นรายการ 

✔️ เริ่มตอนแรก 
????เสาร์ที่ 21 ส.ค.64    
EP.1  เจาะลึก เข้า“โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์” สุดยอดเด็กวิทย์ของไทย

????อาทิตย์ที่ 22 ส.ค.64
EP.2  ทำไม ใครๆ ก็อยากเข้าเตรียมอุดมฯ

????ดำเนินรายการโดย (กันต์) ธนพัฒน์ แจ่มปรีชา
.
⏰ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 2 ทุ่มตรง 

????ช่องทางรับชม 
Facebook และ YouTube: THE STUDY TIMES

Creative Mindfulness หรือการฝึกสติและสมาธิให้ลูก ไม่เฉพาะแค่การนั่งสมาธิ แต่สามารถฝึกได้จากการอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว

คุณแม่มายด์ จากเพจ Mindful Mummy Mild เพจที่เน้นในเรื่อง Mindfulness & Meditation การฝึกสติและสมาธิให้กับคุณพ่อ คุณแม่ และลูกๆ โดยเน้น Creative Mindfulness ให้กับลูก

คุณแม่มายด์ เล่าว่า Mindfulness หรือ การมีสติ และมีสมาธิ คือการฝึกให้ลูกอยู่กับตัวเอง เชื่อมโยงตัวเองกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ให้รู้ตัวว่ากำลังทำสิ่งนั้นอยู่ เข้าใจความรู้สึกตัวเองว่าในขณะที่ทำกิจกรรมนั้นๆ เขาคิดหรือรู้สึกแบบไหน เป็นเรื่องของการเข้าใจและอยู่กับตัวเองให้เยอะ การฝึกเช่นนี้จะทำให้เด็กมีสมาธิมากขึ้น

การฝึกลูกในเรื่องของ Mindfulness นั้น สำหรับเด็กเล็กอาจจะต้องมีกิจกรรมเข้ามาช่วย ทำทุกอย่างให้เป็นการเล่น ให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเขา ในการเชื่อมโยงกับสิ่งนั้นๆ เด็กถึงจะเข้าใจในเรื่องของสติและสมาธิ เช่น ใช้เกม วาดภาพ กิจกรรมประเภท Art & Craft เข้ามาผสมผสานในการฝึก จะทำให้เด็กเข้าใจส่วนที่เป็น Concept ได้มากขึ้น

สำหรับเด็กวัยที่โตขึ้นมาหน่อย ต้องใช้สิ่งที่เขาสามารถสัมผัสได้หรือนึกออกเข้ามาสอน เช่น หากจะสอนลูกในเรื่องการหายใจ เขาต้องเข้าใจว่าการหายใจเข้า-ออกเป็นอย่างไร อาจอาศัยอุปกรณ์เข้ามาช่วยเพื่อสร้างความเข้าใจ

นอกจากนี้การพาลูกไปเดินสวนสาธารณะให้เด็กได้สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวก็เป็น Mindfulness ได้ เช่น หากจะสอนลูกเรื่องการหายใจ ลองหยิบใบไม้ขึ้นมาให้ลูกเป่า หรือให้ลูกได้หลับตาฟังเสียงรอบตัว เหล่านี้จะช่วยฝึกให้ลูกมีสติกับสิ่งรอบตัวมากขึ้น 

พ่อแม่จะใช้ Mindfulness เพื่อให้ลูกตามหาสิ่งที่ชอบได้อย่างไร? 

พ่อแม่ควรให้ลูกได้ลองทำกิจกรรมที่หลากหลาย เมื่อเด็กอยู่กับตัวเอง จนเข้าใจความคิด ความรู้สึกของตัวเอง เขาจะรู้ว่าสิ่งไหนที่เขาชอบ สิ่งไหนที่ทำให้หัวใจเขามีความสุข สำคัญคือ พ่อแม่ต้องให้เวลาในการลองและตัดสินใจสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเขาเอง ให้เขาเป็นคนตัดสินใจเองว่าสิ่งไหนที่ทำให้เขามีความสุข นอกจากนี้ การฝึกเรื่องของสติและสมาธิ จะช่วยในเรื่องของ Mindset เพราะเมื่อลูกได้ทำในสิ่งที่ชอบและรัก สิ่งเหล่านั้นจะไปเปลี่ยน Mindset ของลูก

กิจกรรมฝึกให้ลูกมี Mindfulness ฝึกสมาธิ และหายใจให้ช้าลง

ลูกสามารถมี Mindfulness ฝึกสมาธิ และหายใจให้ช้าลง ผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ  การที่ลูกเล่นเป่าลูกโป่งก็สามารถฝึก Mindfulness ได้โดยการสอดแทรกเรื่องการหายใจเข้าไป ให้เขาได้ลองดูว่า หากเขาเป่าเร็ว ผ่อนลมหายใจออกมาเร็ว ฟองสบู่ที่ออกมาจะเป็นลูกเล็กๆ แต่หากหายใจเข้าและผ่อนลมหายใจช้าๆ ยาวๆ เขาจะได้ฟองสบู่ลูกใหญ่ ช่วยฝึกทั้งการหายใจ รวมทั้งความคิด เพราะเมื่อหายใจช้าลง ความคิดก็จะช้าลงตาม 

ฝึกสมาธิและการหายใจของลูกด้วยการร้อยลูกปัด การร้อยด้าย กำหนดว่า ร้อยเข็มขึ้นหายใจเข้า ร้อยเข็มลงหายใจออก

หนังสือนิทานก็สามารถสอนลูกในเรื่องของความคิดและความรู้สึกได้ เวลาที่พ่อแม่อ่านนิทานให้ลูกฟัง ลองสอดแทรกอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครนั้นๆ ว่ามีอารมณ์อย่างไร แลกเปลี่ยนกับลูก จะทำให้ลูกเข้าใจเรื่องของความคิดความรู้สึกมากขึ้น

สร้าง Mindfulness ด้วยการให้ลูกมองสิ่งดีๆ เกี่ยวกับตัวเอง

กิจกรรมที่ทำ เช่น ให้ลูกเขียนสิ่งดีๆ เขียนขอบคุณสิ่งต่างๆ ในแต่ละวัน เป็นอีกสิ่งที่ช่วยให้ลูกกลับมามองเห็นคุณค่าของตัวเอง คอยเตือนว่าเขาก็เป็นคนเก่ง เป็นคนที่มีความสามารถ มีความอดทน เพราะการพูดสิ่งดีๆ กับตัวเองจะช่วยเปลี่ยน Mindset และสร้างความมั่นใจให้กับลูกได้ 

เมื่อลูกโตขึ้นพ่อแม่ไม่สามารถควบคุมความคิด ความรู้สึกของลูกได้ เพราะฉะนั้นการฝึกให้ลูกสามารถจัดการอารมณ์ของตัวเอง มองเห็นข้อดีของตัวเอง จะช่วยให้ลูกเดินไปตามเส้นทางชีวิตของเขาได้ ยิ่งเริ่มเร็วก็จะยิ่งมีผลดีต่อตัวลูก สิ่งสำคัญที่สุดคือการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงที่ตัวพ่อแม่เอง ทั้งการเข้าใจความคิดความรู้สึกของตัวเอง อยู่กับตัวเองมากขึ้น รวมถึงการหายใจให้ช้าลง เพราะเมื่อเราเปลี่ยน ลูกก็จะเปลี่ยนตาม


สามารถย้อนไปฟังการ LIVE หัวข้อที่น่าสนใจเหล่านี้เพิ่มเติมได้ที่ เพจดีต่อลูก
หัวข้อ : Creative Mindfulness
Link https://www.facebook.com/299800753872915/videos/845780762668680 
เขียนและเรียบเรียงเรื่องโดย: ภารวี สุภามาลา

เด็กไทยเจ๋ง‼️ โชว์ศักยภาพบนเวทีแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ 2021 AIMO กวาดเหรียญรางวัลรวม 82 เหรียญ ประกอบด้วย เหรียญทอง 16 เหรียญ เหรียญเงิน 39 เหรียญ และเหรียญทองแดง 27 เหรียญ ????????????

คณะกรรมการจัดการแข่งขัน AIMO ได้ประกาศผลการแข่งขัน 2021 AIMO – Asia International Mathematical Olympaid ที่มีการจัดสอบแข่งขันขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่า ตัวแทนเด็กไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันตั้งแต่เกรด 1 – 11 ได้สร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์แก่นานาประเทศอีกครั้ง ด้วยการกวาดเหรียญรางวัลรวม 82 เหรียญ ประกอบด้วย 16 เหรียญทอง 39 เหรียญเงิน และ 27 เหรียญทองแดง พร้อมรางวัลชมเชยอีก 5 รางวัล

2021 AIMO เป็นรายการแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติประเภทบุคคล ที่จัดการแข่งขันผ่านระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก อันเนื่องมาจากภาวะวิกฤติจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ซึ่งดำเนินการจัดการแข่งขันโดยประเทศสมาชิก  ประกอบด้วย Afghanistan, Australia, Azerbaijan, Brazil, Bulgaria, Combodia, China, Hong Kong, Tran, India, Indonesia, Kazakhstan, Macau, Malaysia, Myanmar, Philippines, Singapore, Thailand, Turkey, Uzbekistan, Vietnam 


ที่มา: https://www.facebook.com/1689907974423371/posts/4255955384485271/

????โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ประกาศมาตรการเยียวยาผู้ปกครองนักเรียน ภาคเรียนที่ 1/2564 จ่ายสูงสุด 10,000 บาท‼️

ประกาศ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล
เรื่อง มาตรการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ปกครองนักเรียน ภาคเรียนที่ 1/2564

อ้างถึงประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้สถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการทั้งภาครัฐและเอกชนปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ โดยให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนด้วยระบบออนไลน์ ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ขอให้โรงเรียนเอกชนในกำกับ ได้บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและความเดือดร้อนให้แก่ผู้ปกครอง พร้อมทั้งทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ยังได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง เพิ่มเติมคนละ 2,000 บาท ตามที่ทราบแล้วนั้น

โรงเรียนเซนต์คาเบรียลได้ตระหนักถึงสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย ดังนั้น อาศัยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารโรงเรียนฯ จึงกำหนดมาตรการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ปกครองโดยรวมทุกระดับชั้น ดังนี้

1. สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน)
2. สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ถึง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นจำนวนเงิน 9,000 บาท (เก้าพันบาทถ้วน)
3. สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ถึง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นจำนวนเงิน 8,000 บาท (แปดพันบาทถ้วน)

ทั้งนี้ ทางโรงเรียนขอให้ผู้ปกครองติดต่อชำระค่าธรรมเนียมการเรียน ภาคเรียนที่ 1/2564 ให้เรียบร้อยก่อนเพื่อรับสิทธิ์ดังกล่าวนี้


ที่มา: https://www.facebook.com/106590839388372/posts/4322656951115052/

วิชาปัญญาเลิศ 1: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบการเคลื่อนที่

THE STUDY TIMES X DekThai Online

????วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม

วิชาปัญญาเลิศ 1: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบการเคลื่อนที่

โดย ดร.ถาวร ตันหยงมาศกุล (อ.บู้)

การศึกษาดุษฎีบัณฑิต หลักสูตรและการสอนมหาวิทยาลัยบูรพา ปริญญาเอก

#คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ระดับ ป.5-ม.3

#DekThaiOnline

https://dekthai-online.com/instructor/Galilao

.

.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top