Sunday, 1 June 2025
WORLD

‘สหรัฐฯ’ ขายอุปกรณ์หนุน ‘ระบบสารสนเทศเชิงยุทธวิธี’ ให้ไต้หวัน มูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมความมั่นคง-รับมือภัยคุกคาม 

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 66 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ อนุมัติจำหน่ายอุปกรณ์สนับสนุนระบบสารสนเทศเชิงยุทธวิธี (tactical information systems) มูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ให้แก่ไต้หวัน นับเป็นความช่วยเหลือด้านการป้องกันตนเอง ล่าสุดที่อเมริกามอบให้กับไทเป ตามข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

สหรัฐฯ มีข้อผูกพันทางกฎหมายที่จะต้องสนับสนุนให้ไต้หวันสามารถป้องกันตนเอง ซึ่งการขายอาวุธให้ไทเปในลักษณะนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุความตึงเครียดระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง ที่ยืนยันว่าไต้หวันเป็นดินแดนในอธิปไตยของตน

สำนักงานความร่วมมือด้านความมั่นคงกลาโหมแห่งสหรัฐอเมริกา (Defense Security Cooperation Agency – DSCA) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดเพนตากอน ระบุว่า การจำหน่ายเครื่องมือในครั้งนี้ก็เพื่อคงไว้ซึ่งศักยภาพด้านการบัญชาการ ควบคุม สื่อสาร และคอมพิวเตอร์ หรือ C4 ของไต้หวันตามวงรอบอายุการใช้งาน

การสนับสนุนนี้จะช่วยยกระดับศักยภาพของไต้หวัน ‘ในการรับมือภัยคุกคามทั้งปัจจุบันและอนาคต ด้วยการเสริมความพร้อมด้านการปฏิบัติการ’ และคงไว้ซึ่งศักยภาพ C4 ที่ช่วยให้การส่งข้อมูลทางยุทธวิธีเป็นไปอย่างปลอดภัย

ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงว่า ความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ จะช่วยให้ไทเปสามารถคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพของระบบบัญชาการและการควบคุมร่วม และเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในสนามรบ

“ปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายคอมมิวนิสต์จีนที่เกิดขึ้นรอบเกาะไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเรา” กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลง พร้อมกล่าวขอบคุณสหรัฐฯ ที่ให้ความช่วยเหลือ และเชื่อว่าการจำหน่ายยุทธภัณฑ์รอบนี้จะมีผลเสร็จสิ้นภายใน 1 เดือน

ด้านทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันระบุว่า ข้อตกลงขายอาวุธซึ่งถือเป็นครั้งที่ 12 แล้วภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐฯ นั้นให้ความสำคัญยิ่งกับการสนับสนุนศักยภาพในการป้องกันตนเองของไต้หวัน

รัฐบาลไทเปยืนยันว่า อนาคตของไต้หวันต้องให้ชาวไต้หวันเท่านั้นเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งไต้หวันก็กำลังจะมีการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาและประธานาธิบดีในวันที่ 13 ม.ค. ปีหน้า ในความเคลื่อนไหวที่หลายฝ่ายจับตามองว่าน่าจะส่งผลกระทบไม่น้อยต่อความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่

มะกันช็อก!! ยอด ‘คนไร้บ้าน’ ทั่วประเทศ พุ่งสูงกว่าครึ่งล้านคน หลังค่าเช่าบ้านเพิ่มสูงลิ่ว เซ่นพิษโควิด-รัฐบาลลดความช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 66 สำนักข่าวซินหัว, วอชิงตัน รายงานว่า รายงานจากกระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมืองสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า จำนวนคนไร้บ้านในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จนแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์

ผลการตรวจนับของกระทรวงฯ พบจำนวนคนไร้บ้านทั่วสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมอยู่ที่ราว 653,000 ราย ซึ่งมากกว่าหนึ่งปีก่อนหน้า 70,650 ราย และเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มต้นการตรวจนับในปี 2007

รายงานระบุว่า ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันครองสัดส่วนเพียงร้อยละ 13 ของประชากรสหรัฐฯ แต่กลับครองสัดส่วนถึงร้อยละ 37 ของจำนวนคนไร้บ้านทั้งหมด

ขณะชาวอเมริกันเชื้อสายฮิสแปนิกกลายเป็นคนไร้บ้านเพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยครองสัดส่วนร้อยละ 28 ของจำนวนคนไร้บ้านทั้งหมดในช่วงปี 2022-2023 ส่วนการไร้บ้านยกครอบครัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ซึ่งสวนทางกับแนวโน้มลดลงตั้งแต่ปี 2012

ทั้งนี้ ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นและความช่วยเหลือเนื่องด้วยการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ลดลง ถือเป็นปัจจัยหลักส่วนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังวิกฤตคนไร้บ้านในสหรัฐฯ

'เนทันยาฮู' รับ!! ทหารยิงพลาด ทำตัวประกันอิสราเอลเสียชีวิตไป 3 ราย หลังทหารคิดว่าตัวประกันทั้ง 3 เป็นภัยคุกคาม จึงระดมยิงใส่จนเสียชีวิต

(16 ธ.ค.66) กองทัพอิสราเอลออกมาแถลงยอมรับวานนี้ (15 ธ.ค.) ว่าเกิดการโจมตีที่ผิดพลาด จนทำให้ตัวประกันที่ถูกฮามาสคุมขังอยู่ในกาซาเสียชีวิตไป 3 ราย ซึ่งทางกองทัพกำลังดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้อยู่

โฆษกกองทัพยิวระบุว่า ตัวประกันกลุ่มนี้ถูกสังหารระหว่างปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มฮามาสในกาซา และขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้สูญเสีย พร้อมย้ำว่าจะมีการสอบสวนเรื่องนี้ ‘อย่างโปร่งใส’

กองทัพอิสราเอลอ้างว่า ระหว่างที่มีการสู้รบอย่างหนักหน่วงกับพวกฮามาส ทหารเกิดความเข้าใจผิด “คิดว่าตัวประกันชาวอิสราเอล 3 คนเป็นภัยคุกคาม จึงได้ระดมยิงใส่พวกเขาจนเสียชีวิต”

ตัวประกันที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ได้แก่ โยตัม ฮาอิม (Yotam Haim) ซึ่งถูกลักพาตัวไปจาก Kibbutz Kfar, ซาเมอร์ ทาลาลกา (Samer Talalka) ซึ่งถูกลักพาตัวไปจาก Kibbutz Nir Am และ อาลอน ชามริซ (Alon Shamriz) ซึ่งถูกลักพาตัวไปจาก Kibbutz Kjar Aza โดยพวกนักรบฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค.

นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ได้มีถ้อยแถลงปลอบใจญาติผู้เสียชีวิต โดยระบุว่า “ผมขอร่วมกับชาวอิสราเอลทั้งหลายก้มศีรษะด้วยความโศกเศร้า และขอไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของลูกชายผู้เป็นที่รักของเราทั้ง 3 คนที่ถูกลักพาตัวไป”

“ผมขอส่งกำลังใจไปยังครอบครัวผู้สูญเสียในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้”

Hostages and Missing Persons Families Forum ซึ่งเป็นองค์กรตัวแทนครอบครัวของผู้ที่ถูกลักพาตัวโดยฮามาสได้ออกมายืนยันรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน และแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ตลอดช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลได้ปฏิบัติการสู้รบอย่างหนักหน่วงกับพวกฮามาสซึ่งมักจะอำพรางตัวด้วยการสวมใส่ชุดพลเรือน และเมื่อวันพุธ (12) ก็ได้ประกาศว่ามีทหารอิสราเอลเสียชีวิตถึง 10 รายในรอบ 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นความสูญเสียในรอบวันหนักที่สุดสำหรับอิสราเอลนับตั้งแต่สงครามกาซาปะทุขึ้น

กลุ่มมือปืนฮามาสได้บุกข้ามแดนมาโจมตีตอนใต้ของอิสราเอล สังหารประชาชนไปราว 1,200 คน และจับคนไปเป็นตัวประกันอีก 240 ชีวิตเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ขณะที่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอลที่ดำเนินมานานกว่า 2 เดือนก็ได้คร่าชีวิตพลเรือนปาเลสไตน์ไปแล้วเกือบ 19,000 คนตามข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขกาซา และอาจจะยังมีอีกหลายพันศพที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังโดยไม่ใครรับรู้

ฮามาสได้ยอมปลดปล่อยผู้หญิง เด็ก และชาวต่างชาติออกมากว่า 100 คนระหว่างช่วงพักรบ 7 วันเมื่อปลายเดือนพ.ย. โดยแลกเปลี่ยนกับนักโทษหญิงและวัยรุ่นปาเลสไตน์ 240 คนที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำอิสราเอล

นักโทษปาเลสไตน์เหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกจับฐานพยายามใช้มีดแทง ขว้างปาก้อนหินใส่ทหารอิสราเอล หรือถูกครหาว่ามีความเชื่อมโยงกับองค์กรที่ไม่เป็นมิตรกับอิสราเอล โดยส่วนใหญ่อยู่ภายใต้คำสั่งคุมขังทางปกครอง(administrative detention) ซึ่งก็หมายถึงการจับไปขังไว้เฉยๆ โดยไม่ไต่สวนความผิด

สถานีโทรทัศน์ช่อง 12 ของอิสราเอลรายงานว่า มีกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนไปรวมตัวกันที่ด้านนอกฐานทัพอิสราเอลในกรุงเทลอาวีฟ และตะโกนเรียกร้องให้มีการ “ทำข้อตกลงในทันที”

เวลานี้ยังมีตัวประกันถูกคุมขังอยู่ในกาซาอีกกว่า 100 คน ซึ่งบางคนก็ถูกทางการอิสราเอลยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว

‘จีน’ สั่ง!! ห้ามใช้ ‘ไอโฟน’ ในหน่วยงานรัฐทั่วประเทศ หวังเร่งเครื่องรณรงค์เลิกใช้เทคโนโลยีสหรัฐฯ มากขึ้น

(16 ธ.ค.66) หน่วยงานและบริษัทของรัฐบาลจีนจำนวนมากทั่วประเทศ ได้ออกคำสั่งให้พนักงานหยุดนำโทรศัพท์ไอโฟนและอุปกรณ์เคลื่อนที่ของบริษัทต่างชาติ ไปใช้ในสถานที่ทำงาน ซึ่งนับเป็นคำสั่งห้ามที่ไม่เคยมีมาก่อน

ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทของรัฐและหน่วยงานภาครัฐหลายแห่งในอย่างน้อย 8 มณฑล ได้สั่งพนักงานให้เริ่มใช้อุปกรณ์สื่อสารของแบรนด์ท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญนับตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายน เมื่อหน่วยงานเล็ก ๆจำนวนหนึ่งในปักกิ่งและเทียนจินได้แจ้งให้พนักงานเก็บอุปกรณ์สื่อสารของบริษัทต่างประเทศไว้ที่บ้าน

ความพยายามดังกล่าวถือเป็นการเร่งรณรงค์ของจีนเพื่อให้ชาวจีนเลิกใช้เทคโนโลยีของสหรัฐฯ ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่ความนิยมของแบรนด์ในประเทศเพิ่มขึ้น อาทิ หัวเว่ย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า รัฐบาลจีนได้ตัดสินใจที่จะขยายการห้ามใช้อุปกรณ์สื่อสารของต่างชาติ นอกเหนือไปจากกระทรวงที่มีความอ่อนไหวมากที่สุด เพื่อให้ครอบคลุมหน่วยงานและบริษัทของรัฐจำนวนมากขึ้น 

‘จีน’ ปลื้ม!! ‘โรคเกิดจากอาหาร’ ระบาดลดลง หลังเข้มงวดตรวจสอบความปลอดภัยมากขึ้น

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.66 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) เปิดเผยว่า จีนเผชิญการระบาดของโรคที่มีสาเหตุมาจากอาหารลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งส่งสัญญาณความคืบหน้าเชิงบวกในการจัดการความปลอดภัยทางอาหาร

เมื่อวันอังคาร (12 ธ.ค.) เฉาเสวี่ยเทา รองหัวหน้าคณะกรรมการฯ ระบุว่า ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการดำเนินโครงการติดตามความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางอาหารระดับชาติ

อนึ่ง โรคที่มีสาเหตุมาจากอาหาร หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าอาหารเป็นพิษ เป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญระดับโลก

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ ได้เปิดตัวระบบเฝ้าติดตามหลัก 3 ระบบ เพื่อปรับปรุงความตระหนักรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางอาหาร โดยมุ่งเน้นไปที่การติดตามแต่ละกรณีการป่วยของโรคที่เกิดจากอาหาร ติดตามการระบาดของโรคประเภทดังกล่าว และสร้างเครือข่ายการตรวจสอบย้อนกลับระดับโมเลกุลเพื่อระบุแหล่งที่มาของการเจ็บป่วยจากอาหาร

ข้อมูลการติดตามจากศูนย์ประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางอาหารแห่งชาติของจีน พบกรณีการระบาดของโรคที่มีสาเหตุมาจากอาหารกว่า 46,000 รายทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2010-2022 โดยเฉพาะในครัวเรือนและสถานประกอบการจัดเลี้ยงอาหาร

การระบาดในครัวเรือนส่วนใหญ่เกิดจากการกินเห็ดพิษป่าโดยไม่ได้ตั้งใจ และการปนเปื้อนจากแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค ส่วนในสถานประกอบการร้านอาหาร ควรให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคที่เกิดจากอาหารปนเปื้อนแบคทีเรีย

‘สส.ฝ่ายค้านตุรกี’ หัวใจวาย-ล้มฟุบกลางสภาฯ แพทย์ต่อลมหายใจได้ 2 วัน ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว

เมื่อวานนี้ (14 ธ.ค. 66)ฟาห์เรตติน โคคา รัฐมนตรีสาธารณสุข เปิดเผยว่า นายฮาซาน บิตเมซ สมาชิกรัฐสภาจากพรรค Islamist Saadet Partisi (Felicity Party) เสียชีวิตชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงอังการา 2 วันหลังจากเกิดเหตุ

"คุณเปิดทางให้เรือต่าง ๆ เข้าสู่อิสราเอล และน่าละอายที่คุณเรียกมันว่าการค้า คุณคือผู้สมคบคิดกับอิสราเอล" บิตเมซกล่าวอภิปรายเล็งเป้าเล่นงานพรรค Justice and Development Party (AK Party) ของประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน เมื่อวันอังคาร (12ธ.ค.) หลังจากวางป้ายโปสเตอร์หนึ่งบนโพเดียม มีใจความว่า "พวกฆาตกรอิสราเอล ผู้สมรู้ร่วมคิด AKP"

"แม้หากคุณรอดพ้นจากความทุกข์ทรมาน แต่คุณจะไม่อาจรอดพ้นจากการลงโทษของพระเจ้าไปได้" เขากล่าวในช่วงท้ายของการอภิปรายที่ใช้เวลาราว ๆ 20 นาที ก่อนล้มฟุบลงไปกองกับพื้น

สมาชิกคนอื่น ๆ ของสมัชชาแห่งชาติตุรกี รุดเข้าไปช่วยเหลือเขา และทาง โคคา เปิดเผยในวันอังคาร (12ธ.ค.) ว่า บิตเมซ ได้รับความช่วยเหลือจนฟื้นคืนสติในรัฐสภา และถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที เบื้องต้นอุปกรณ์ทางการแพทย์ช่วยพยุงชีพเขาไว้ได้ อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดแล้ว เขาก็จากไปอย่างไม่มีวันกลับ

นักการเมืองฝ่ายค้านรายนี้ ซึ่งแต่งงานแล้วและมีลูก 1 คน จบปริญญาจากมหาวิทยาลัยอัล-อาซาร์ ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ จากนั้นก็ทำงานกับกลุ่มองค์กรอิสลามต่าง ๆ ที่ไม่แสวงหาผลกำไร และเป็นประธานศูนย์วิจัยสหภาพอิสลาม

ระหว่างการอภิปราย เขาได้กล่าวหารัฐบาลต่อการเดินหน้าสานสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจด้วยความเป็นมิตรกับอิสราเอล ทั้งที่อิสราเอลยังคงถล่มฉนวนกาซาไม่หยุด ซึ่งคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วเกือบ 19,000 คน ความคิดเห็นของเขาได้เรียกเสียงค่อนขอดมาจากสมาชิกพรรค AK Party

แม้ แอร์โดอัน หาทางปรับปรุงความสัมพันธ์กับอิสราเอล ตามหลังทั้ง 2 ชาติมีความสัมพันธ์อันเย็นชาอยู่ช่วงหนึ่ง แต่เขาก็ส่งเสียงคัดค้านสงครามปัจจุบันระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ‘ฮามาส’ โดยเรียกอิสราเอลว่าเป็น ‘รัฐก่อการร้าย’ และพยายามผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิง

‘TCP Group’ ตั้งฐานผลิต 'เครื่องดื่มกระทิงแดง' ใหญ่สุดในจีน กินพื้นที่ 167 ไร่ กำลังการผลิต 1.44 พันล้านกระป๋องต่อปี

เมื่อวานนี้ (14 ธ.ค. 66) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า โครงการฐานการผลิตเครื่องดื่มกระทิงแดงของทีซีพี กรุ๊ป (TCP Group) จากไทยในเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีเน่ยเจียง มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เริ่มต้นการดำเนินงานเมื่อวันพฤหัสบดี (14 ธ.ค.) ซึ่งนับเป็นโรงงานแห่งที่ 2 ที่ทีซีพี กรุ๊ป ลงทุนโดยตรงในจีน รวมถึงฐานการผลิตเครื่องดื่มกระทิงแดงขนาดใหญ่ที่สุดในจีน

ฐานการผลิตแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ราว 167 ไร่ มูลค่าการลงทุน 2 พันล้านหยวน (ราว 1 หมื่นล้านบาท) มีสายการผลิต 5 สาย กำลังการผลิตรายปีตามการออกแบบอยู่ที่ 1.44 พันล้านกระป๋อง และมูลค่าผลผลิตรายปีจะแตะ 5 พันล้านหยวน (ราว 2.5 หมื่นล้านบาท) หลังจากก่อสร้างโครงการเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้เป็นฐานการผลิตที่มีการลงทุนมากที่สุด สายการผลิตมากที่สุด และความอัจฉริยะระดับสูงสุดของทีซีพี กรุ๊ป ในจีน

สำหรับเมืองเน่ยเจียงของซื่อชวน ซึ่งมีข้อได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ดี ได้ดึงดูดเหล่าผู้ประกอบการจำนวนมากจากกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าพัฒนาธุรกิจในพื้นที่ เช่น ซีพี กรุ๊ป (CP Group) ที่เข้ามาในปี 1992 และทีซีพี กรุ๊ป ที่เข้ามาในปี 2020 โดยเน่ยเจียงได้เดินหน้าการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างใกล้ชิดกับ 63 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงไทยและเวียดนาม

ข้อมูลจากสำนักความร่วมมือทางเศรษฐกิจเน่ยเจียงระบุว่าปริมาณการนำเข้าและส่งออกของเน่ยเจียงกับกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สูงถึง 1.14 พันล้านหยวน (ราว 5.7 พันล้านบาท) ในปี 2022 ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 28.8 ของปริมาณการนำเข้าและส่งออกทั้งหมดของเมืองในปีดังกล่าว และร้อยละ 96 ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของเน่ยเจียงมาจากกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนการค้าระหว่างประเทศของเน่ยเจียงในปีนี้คาดว่าจะสูงเกิน 1 หมื่นล้านหยวน (ราว 5 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.5 เท่าจากปีก่อน

เน่ยเจียงได้ดำเนินโครงการการลงทุนใหม่ จำนวน 169 โครงการ ซึ่ง 67 โครงการมีมูลค่าสูงเกิน 500 ล้านหยวน (ราว 2.5 พันล้านบาท) มีการลงทุนที่แท้จริงในโครงการอุตสาหกรรมนำเข้าจากนอกเมืองเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.25 เมื่อเทียบปีต่อปี และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสูงแตะ 35.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.25 พันล้านบาท) เมื่อนับถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่สำนักฯ เผยว่าเน่ยเจียงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจแบบเปิดกว้าง ซึ่งมุ่งเน้นกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก และพยายามบุกเบิกความร่วมมือทางอุตสาหกรรมระหว่างประเทศรูปแบบใหม่อย่างแข็งขัน

ทั้งนี้ ‘นิคมความร่วมมือทางอุตสาหกรรมซื่อชวน-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้’ ซึ่งถือเป็นนิคมความร่วมมือทางอุตสาหกรรมกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งแรกของซื่อชวน ได้เปิดทำการในเมืองเน่ยเจียงพร้อมกันเมื่อวันพฤหัสบดี (14 ธ.ค.) อีกด้วย ซึ่งนิคมแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่ใหม่สำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนของเศรษฐกิจอันมุ่งเน้นการส่งออกของเน่ยเจียง

เจ้าหน้าที่สำนักพาณิชย์มณฑลซื่อชวนระบุว่าสำนักพาณิชย์ฯ จะสนับสนุนเน่ยเจียงในการขยับขยายความร่วมมือทางอุตสาหกรรมและการแลกเปลี่ยนทางการค้ากับกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สนับสนุนเน่ยเจียงทำการพัฒนาตลาดเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างลึกซึ้ง และมีส่วนร่วมในโครงข่ายอุตสาหกรรมระดับโลกเพิ่มขึ้น

การปูทางสู่ความเข้าใจในสมองมนุษย์อันซับซ้อน ผ่านแผนที่ ‘เซลล์สมองสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม’ ฉบับสมบูรณ์

(14 ธ.ค. 66) สำนักข่าวซินหัว, นครลอสแอนเจลิส รายงานว่า สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) เผยว่า ทีมนักวิจัยนานาชาติได้สร้างแผนที่เซลล์ของสมองสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ฉบับสมบูรณ์เป็นครั้งแรก

โดยแผนที่เซลล์ดังกล่าวเป็นแผนที่เซลล์สมองของ ‘หนู’ ซึ่งเผยให้เห็นชนิด ตำแหน่ง และข้อมูลโมเลกุลของเซลล์มากกว่า 32 ล้านเซลล์ พร้อมให้ข้อมูลการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์เหล่านี้

สถาบันฯ ระบุว่า หนูเป็นแบบจำลองการทดลองของสัตว์มีกระดูกสันหลังที่ถูกนำมาใช้มากที่สุดในการวิจัยทางประสาทวิทยาศาสตร์ และแผนที่เซลล์นี้ได้ปูทางสู่การทำความเข้าใจสมองของมนุษย์มากขึ้น อีกทั้งวางรากฐานสำหรับการพัฒนาวิธีการรักษาแบบตรงจุดรุ่นใหม่สำหรับผู้ที่มีความผิดปกติทางจิตและระบบประสาทเกี่ยวกับสมอง

อนึ่ง การค้นพบนี้ถูกเผยแพร่เมื่อวันพุธ (13 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ในชุดบทความ 10 ฉบับของวารสารเนเจอร์ (Nature)

‘ดร.โจชัว กอร์ดอน’ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า แผนที่เซลล์สมองของหนูดังกล่าวไขความกระจ่างเรื่องเครือข่ายที่สลับซับซ้อนของเซลล์สมองสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยส่งมอบรายละเอียดที่จำเป็นต่อการทำความเข้าใจในการทำงานของสมองมนุษย์และโรคต่างๆ

‘รัฐมนตรีญี่ปุ่น’ แห่ลาออก เซ่นปมทุจริต-รับเงินใต้โต๊ะ 500 ล้านเยน ด้าน ‘นายกฯ ฟูมิโอะ’ เร่งกู้ภาพลักษณ์ รบ.-เรียกความเชื่อมั่น ปชช.

(14 ธ.ค. 66) สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานข่าวความคืบหน้า กรณีฉาวแวดวงการเมืองของญี่ปุ่นว่า นายยาซูโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม, นายจุนจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน และ นายอิจิโร่ มิยาชิตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง

รายงานระบุ คาดว่า นายฮิโรคาซุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น รวมถึงรัฐมนตรีช่วยอีก 5 คนจะยื่นเรื่องลาออกในวันเดียวกัน หลังเกิดประเด็นกล่าวหาว่ามีการรับสินบนรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านเยน หรือราว 123 ล้านบาท

ภายในพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) พรรครัฐบาล รวมถึงนายมัตสึโนะที่ถูกครหาว่ารับเงินใต้โต๊ะกว่า 2.4 ล้านบาทจากการจัดงานระดมทุนที่ฝ่ายเสียงข้างน้อยในพรรคจัดขึ้น สร้างความไม่พอใจให้กับสังคมและนำไปสู่ความไม่ไว้วางใจในรัฐบาล ขณะที่อัยการเริ่มต้นการสอบสวนข้อกล่าวหาเรื่องรับเงินสินบน

‘Tesla’ เรียกคืนรถกว่า 2 ล้านคันในสหรัฐฯ หลังพบข้อบกพร่องของระบบ ‘Autopilot’

(14 ธ.ค.66) รอยเตอร์ รายงานว่า เทสลา บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เรียกคืนรถยนต์เทสลามากกว่า 2 ล้านคัน หลังจากหน่วยงานความปลอดภัยทางหลวงของสหรัฐ (เอ็นเอชทีเอสเอ) พบว่าระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ หรือ ออโต้ไพลอต มีข้อบกพร่องบางส่วน

การเรียกคืนดังกล่าว มีผลกับเทสลาเกือบทุกคันที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่เปิดตัวด้วยระบบขับขี่อัตโนมัติ หรือ Auto pilot ในปี 2558 รายงานระบุด้วยว่า หน่วยงานความปลอดภัยทางหลวง ใช้เวลา 2 ปี ในการตรวจสอบเหตุเทสลาชนจำนวน 956 คัน เกิดขึ้นเมื่อใช้เทคโนโลยีออโตไพลอต

โดยเทสลาเตรียมจะเรียกคืนรถยนต์ 193,000 คันในแคนาดา หลังจากเรียกคืนรถยนต์ในสหรัฐ

“เทคโนโลยีอัตโนมัติถือเป็นคำมั่นสัญญาที่ดีในการปรับปรุงความปลอดภัยของต่อเมื่อใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบเท่านั้น” หน่วยงานความปลอดภัยทางหลวงระบุในแถลงการณ์ พร้อมเสริมว่าจะตรวจสอบซอฟต์แวร์ของเทสลาต่อไปเมื่อมีการอัปเดต

ขณะเดียวกันเทสลาไม่เห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของหน่วยงานความปลอดภัยทางหลวง แต่ตกลงที่จะเพิ่มคุณสมบัติใหม่เพื่อแก้ไขข้อกังวล รวมทั้งตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปิดใช้คุณสมบัติการขับขี่ด้วยตนเอง

การเรียกคืนครั้งนี้เกิดขึ้น หนึ่งสัปดาห์หลังจากอดีตพนักงานของ Tesla บอกกับ BBC ว่าเขาเชื่อว่าเทคโนโลยีดังกล่าวไม่ปลอดภัย

‘เวียดนาม’ ยัน!! ยึดมั่นหลักการจีนเดียว ค้านแทรกแซงกิจการภายในของจีน

(13 ธ.ค. 66) สำนักข่าวซินหัว, ฮานอย เผยว่า ‘สี จิ้นผิง’ เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานาธิบดีจีน ได้กล่าวถึงการประกาศสร้างประชาคม ‘จีน-เวียดนาม’ ที่มีอนาคตร่วมกัน ซึ่งมีนัยสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ ได้ส่งสัญญาณเชิงบวกของความมุ่งมั่นของสองประเทศสังคมนิยมในความสามัคคี มิตรภาพ และการพัฒนาร่วมกัน โดยคำกล่าวนี้ สี จิ้นผิง ได้กล่าวขณะพบปะหารือกับ ‘เวือง ดิ่งห์ เหวะ’ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ณ กรุงฮานอย

ขณะเดียวกัน ยังมีรายงานถึงการพบปะพูดคุยกันระหว่างผู้นำจีน กับ ‘เหงียน ฟู้ จ่อง’ เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม โดย จ่อง ได้กล่าวว่า เวียดนามยึดมั่นหลักการจีนเดียวอย่างหนักแน่น และคัดค้านกองกำลังใดๆ เข้าแทรกแซงกิจการภายในของจีน และกล่าวอีกว่าเวียดนามรับรองไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งที่มิอาจแบ่งแยกของดินแดนจีน สนับสนุนกิจการรวมชาติของจีน และคัดค้านกิจกรรมแบ่งแยกดินแดนเพื่อ ‘เอกราชไต้หวัน’ ในทุกรูปแบบ

จ่อง กล่าวเสริมอีกว่า ประเด็นเกี่ยวกับฮ่องกง, ซินเจียง และทิเบต (ซีจ้าง) ล้วนเป็นกิจการภายในของจีน ซึ่งเวียดนามหวังและเชื่อว่าจีนจะรักษาเสถียรภาพ การพัฒนา และความเจริญรุ่งเรืองไว้ได้

หลังจากนั้น สี จิ้นผิง ได้กล่าวถึง ความพร้อมของจีนในการทำงานร่วมกับเวียดนาม เพื่อส่งเสริมพหุภาคีนิยมที่แท้จริง โดยฝ่ายจีนยินดีจะร่วมเพิ่มการส่งเสียงและอิทธิพลของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในกิจการระหว่างประเทศกับเวียดนาม

‘เยอรมัน’ ขาดแคลน ‘ครู’ อย่างหนัก จนต้องลดคลาส ทำ นร.เกรดร่วง หลังคนหนุ่ม-สาวหันเมินอาชีพนี้ เหตุค่าตอบแทนต่ำ สวนทางภาระงาน

‘นักการศึกษาเยอรมัน’ จี้!! รัฐบาลแก้ปัญหาขาดแคลนครูอย่างหนักทั่วประเทศด่วน โดยชี้ข้อมูลจากผลสอบวิชาคณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ และการอ่านของนักเรียนระดับเกรด 9 ในเยอรมันร่วงลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดครูในโรงเรียน

‘รีเบคก้า’ ครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในฮัมบูร์ก ผู้มีประสบการณ์สอนในวิชาภาษาอังกฤษ และ ประวัติศาสตร์มานานกว่า 30 ปี เปิดเผยข้อมูลผ่านสื่อเยอรมันว่า โดยทั่วไปแล้ว วิชาภาษาเยอรมัน, อังกฤษ และ คณิตศาสตร์ ถือเป็นวิชาหลักที่ต้องเน้นเป็นอันดับแรก แต่เมื่อครูขาดแคลน ทำให้โรงเรียนจำเป็นต้องงดคลาสวิชาอื่นๆ เพื่อเทครูมาสอนวิชาหลักก่อน ซึ่งหลายครั้งที่ชั้นเรียนวิชาประวัติศาสตร์ของเธอต้องถูกยกเลิกไปเป็นเดือนก็มี

โดย ครูรีเบคก้า เล่าว่า ปัญหาการขาดแคลนครูมีมานานแล้ว แม้ว่าทางโรงเรียนพยายามประกาศรับสมัครครูมาตลอด แต่ก็ยังได้จำนวนครูมาไม่พอ และยังทำให้ครูที่ยังเหลืออยู่ต้องแบกรับภาระการสอนที่เพิ่มมากขึ้นจนป่วยจากการทำงานหนัก

ปัญหานี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่โรงเรียนของครูรีเบคก้า แต่เป็นปัญหาของโรงเรียนทั่วเยอรมัน จนหลายโรงเรียนต้องลดทอนหลักสูตรให้สั้นลง บางโรงเรียนเปิดการสอนได้แค่ 4 วันต่อสัปดาห์ ที่ไม่ใช่เหตุผลเรื่อง Work life balance แต่เพราะไม่มีครูมาสอน

สื่อเยอรมันชี้ว่า โรงเรียนในเยอรมันอาจขาดแคลนครูหลายหมื่นตำแหน่ง และเนื่องจากการกำหนดรูปแบบหลักสูตร และสวัสดิการครู อยู่ในอำนาจของรัฐบาลท้องถิ่นในแต่ละ 16 แคว้น ที่มีความแตกต่างหลากหลาย ก็ยิ่งทำให้การจัดการหาผู้สอนมีความยากขึ้นไปอีก

ด้านรัฐมนตรีศึกษาธิการของรัฐบาลกลาง และหน่วยงานของแต่ละแคว้น พยายามหาแนวทางร่วมกันในการแก้ปัญหา ซึ่งได้ประเมินว่าทั่วประเทศน่าจะขาดแคลนครูอยู่ประมาณ 14,000 ตำแหน่ง

แต่ทว่า นักเศรษฐศาสตร์, นักวิชาการด้านการศึกษา และ กลุ่มสหภาพแรงงานครูออกมาค้านว่ารัฐบาลประเมินตัวเลขต่ำเกินไป ไม่สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นจริงทั้งในปัจจุบัน และ อนาคต

หากประเมินจากตัวเลขนักเรียนในโรงเรียนของปีนี้ (2023) ที่มีอยู่ประมาณ 830,000 คน บางส่วนมาจากกลุ่มชาวต่างชาติที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในเยอรมันมากขึ้น จึงคาดการณ์ได้ว่าอัตราเด็กเกิดใหม่ในเยอรมันน่าจะเพิ่มสูงขึ้นในอีก 20 ปีข้างหน้า ในขณะที่เยอรมัน จำนวนครูกลับลดลงเรื่อยๆ ทุกปี หากรัฐบาลไม่เร่งแก้ป้ญหาในวันนี้ คาดว่าในปี 2035 เยอรมันอาจขาดแคลนครูมากกว่า 56,000 ตำแหน่ง

ในขณะที่เยอรมันกำหนดให้ครูต้องจบวุฒิขั้นต่ำปริญญาตรีที่ตรงสาย แต่เพราะปัญหาการขาดแคลนครู ทำให้รัฐบาลเยอรมันอนุโลมให้ผู้ที่จบสาขาอื่นๆ ที่เข้าอบรมหลักสูตรด้านการสอนฉบับเร่งรัดสามารถบรรจุเป็นครูได้ แต่ก็เหมือนเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกที่คัน เนื่องจากผลสำรวจพบว่า หนุ่มสาวรุ่นใหม่ไม่ค่อยสนใจอาชีพครูกันแล้ว

เหตุผลเพราะว่า อาชีพครูในความคิดของหนุ่ม-สาวยุคนี้ถูกมองว่าเป็นงานหนัก ค่าตอบแทนน้อย รับผิดชอบสูง มีชั่วโมงการทำงานยาวนาน แม้รัฐบาลจะกำหนดให้ครูมีชั่วโมงการสอนเฉลี่ย 25 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่ส่วนใหญ่มักพบว่าสอนเกินเกณฑ์มาตรฐานไปไกลมาก ถึง 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มิหนำซ้ำ หน่วยงานด้านการศึกษาของรัฐเสนอแนะให้เพิ่มชั่วโมงการเรียนของนักเรียน ยืดอายุวัยเกษียณของครู เพิ่มจำนวนนักเรียนในชั้น และคาดหวังเทคนิคการสอนที่หลากหลาย

ด้วยอุปสรรคหลายปัจจัยจนปวดใจ เลยทำให้เยอรมันหาครูมาสอนได้ยาก และครูหลายคนเลือกที่จะรับงานสอนแบบ Part-time มากกว่าทำงานแบบประจำเต็มเวลา เพราะมีความยืดหยุ่นในชั่วโมงการสอนได้มากกว่า

ร่ายยาวมาถึงตรงนี้ เราจึงเข้าใจ และเห็นภาพของวิกฤติครูในเยอรมัน และปัญหาที่ครูสาวรีเบคก้ากำลังเผชิญอยู่ ว่าทำไมครูในเยอรมันถึงขาดแคลน และต้องทำงานหนัก ทำไมบางโรงเรียนในเยอรมันถึงไม่สามารถเปิดสอนได้เต็ม 5 วันต่อสัปดาห์ และต้องตัดวิชาเสริม เน้นสอนแต่วิชาหลัก จนส่งผลเสียต่อผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนโดยรวมของนักเรียนเยอรมันไปในที่สุด

‘เยอรมนี’ เปลี่ยนท่าทีถอยห่าง ‘อิสราเอล’ วอน!! ให้ปกป้องชีวิตพลเรือนปาเลสไตน์

(13 ธ.ค.66) ‘เยอรมนี’ หวังว่า ‘อิสราเอล’ จะปรับยุทธวิธีทางทหาร หาทางป้องกันความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับพลเรือนปาเลสไตน์ได้ดีกว่าเดิม” ความเห็นจากรัฐมนตรีต่างประเทศ ‘อันนาเลนา แบร์บ็อค’ (Annalena Charlotte Alma Baerbock) เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา 

คำพูดดังกล่าวถือเป็นการสะท้อนต่อการปรับเปลี่ยนท่าทีเล็กน้อยของเบอร์ลิน จากเดิมจุดยืนที่ผ่านมา เยอรมนี ออกมาปกป้องอย่างหนักแน่นต่อสิทธิของอิสราเอล ในการป้องกันตนเอง นับตั้งแต่ถูกพวกนักรบฮามาสโจมตีนองเลือดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยเน้นย้ำว่า พวกเขามีหน้าที่ยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล เพื่อไถ่โทษต่อกรณีกระทำผิดในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Holocaust) ซึ่งพบเห็นชาวยิวมากกว่า 6 ล้านคนถูกสังหารโดยนาซีเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนภายหลังรัฐบาลเยอรมนีก็ถูกกล่าวหาต่างๆ นานา ซึ่งในนั้นรวมถึงพลเรือนชาวยิวคนดังที่พำนักอยู่ในเยอรมนีเอง ต่อกรณีให้สัญญาณผิดๆ เปิดทางให้อิสราเอลปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ ซึ่งก่อวิกฤตด้านมนุษยธรรมในกาซาด้วย

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนตอนนี้ บรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเยอรมนี ต่างหันมาส่งเสียงเน้นย้ำดังขึ้นเรื่อยๆ ถึงความจำเป็นที่อิสราเอลต้องยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศ ในการตอบโต้การโจมตีของพวกฮามาส แต่ส่วนใหญ่แล้วยังคงหลีกเลี่ยงวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาต่อพฤติกรรมต่างๆ นานาของอิสราเอลในฉนวนกาซา ดินแดนของปาเลสไตน์

โดยท่าทีที่ว่านี้ถือเป็นการเปลี่ยนไปเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว “เราคาดหมายอิสราเอล จะเปิดทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางตอนเหนือ เพื่อรับประกันว่าปฏิบัติการทางทหารของพวกเขา จะเจาะจงเป้าหมายมากกว่าเดิมและก่อความสูญเสียแก่พลเรือนน้อยลง" รัฐมนตรีเยอรมนีรายนี้กล่าวระหว่างแถลงข่าวในดูไบ รอบนอกการประชุมโลกร้อนของสหประชาชาติ

ทั้งนี้ พลเรือนส่วนใหญ่จากประชากรทั้งหมด 2.3 ล้านคนของกาซา ต้องหลบหนีออกจากบ้านพักอาศัย และพวกชาวบ้านบอกว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ที่จะหาที่หลบภัยในฉนวน ที่มีพลเรือนพลุกพล่านแห่งนี้ ในขณะที่ความขัดแย้งหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ได้สังหารผู้คนในกาซาไปแล้วกว่า 18,000 ราย

ขณะที่ด้าน โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ โดยเรียกร้องให้ อิสราเอล เปิดทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้เข้าสู่กาซาเพิ่มเติม และประณามการใช้ความรุนแรงของพวกผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวในเวสต์แบงก์ ในนั้นรวมถึงระหว่างที่เขาพูดคุยทางโทรศัพท์กับ เบนจามิน เนทันยาฮู เมื่อวันเสาร์ (9ธ.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี แสดงความยินดีในกรณีที่สหรัฐฯ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรพวกผู้ตั้งถิ่นฐานอิสราเอลจำนวนหนึ่ง ต่อเหตุโจมตีชาวปาเลสไตน์ ในดินแดนยึดครองเวสต์แบงก์ และเรียกร้องให้อียู ทำการพิจารณาออกมาตรการคว่ำบาตรแบบเดียวกัน

ยอดนำเข้า ‘ทุเรียนเวียดนาม’ สู่ ‘จีน’ พุ่งทะยานต่อเนื่อง หลังศุลกากรเปิดช่องทางพิเศษ หนุนการค้าทวิภาคีเติบโต

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 66 สำนักข่าวซินหัว, หนานหนิง รายงานข่าว ‘ด่านโหย่วอี้กวน’ ซึ่งเป็นด่านนำเข้าทุเรียนขนาดใหญ่ที่สุดของจีนในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ และคุ้นเคยกับการนำเข้าทุเรียนจาก ‘ไทย’ เป็นหลัก ได้รับรองการนำเข้าทุเรียนจาก ‘เวียดนาม’ นับตั้งแต่มีการอนุญาตทุเรียนเวียดนามเข้าถึงตลาดจีนเมื่อปีก่อน

‘หนงหลี่ชิง’ ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทนำเข้าและส่งออกแห่งหนึ่งในเมืองผิงเสียงของกว่างซี ซึ่งเป็นที่ตั้งของด่านบกโหย่วอี้กวน สามารถประสานงานขนส่งทุเรียนสดใหม่ถึงมือลูกค้าในมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ที่อยู่ใกล้เคียง และมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีนอย่างรวดเร็ว

“ปีนี้เรานำเข้าทุเรียนมากกว่า 1,600 ตู้คอนเทนเนอร์แล้วเมื่อนับถึงเดือนธันวาคม โดยนอกจากไทย เราได้เริ่มนำเข้าทุเรียนจากเวียดนามด้วย” หนงกล่าว พร้อมเสริมว่าปัจจุบันมีการนำเข้าทุเรียนหลายสิบตู้คอนเทนเนอร์ในแต่ละวัน

อนึ่ง จีนนำเข้าทุเรียนในปี 2022 รวม 825,000 ตัน โดยข้อมูลศุลกากรระบุว่าการนำเข้าทุเรียนครองอันดับหนึ่งในหมู่ผลไม้นำเข้าของจีน คิดเป็นมูลค่า 4.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.43 แสนล้านบาท)

สำหรับทุเรียนเวียดนาม ซึ่งเป็นที่รู้จักว่ามีฤดูเก็บเกี่ยวยาวนานกว่าและราคาถูกกว่า ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงตลาดจีน ภายใต้กรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในปี 2022 โดยปัจจุบันจีนกลายเป็นตลาดส่งออกทุเรียนแห่งหลักของเวียดนาม

“สักสิบกว่าปีก่อน ผลไม้จากประเทศอาเซียนอย่างทุเรียน มังคุด และมะพร้าว ถือเป็นของหายากในจีน แต่ตอนนี้พบเจอได้ตามแผงขายผลไม้ในแทบทุกเมืองใหญ่และมีราคาย่อมเยามากขึ้น” หวังเจิ้งโป๋ ประธานบริษัทผลไม้ในกว่างซี กล่าว

บริษัทของหวังก้าวเข้าแวดวงการนำเข้าทุเรียนเวียดนาม และลงนามสัญญากับสวนทุเรียนหลายแห่งในเวียดนาม ซึ่งมีพื้นที่รวมเกือบ 3,000 เฮกตาร์ (ราว 18,750 ไร่) เมื่อปีก่อน โดยหวังเผยว่าปีนี้มีแผนนำเข้าทุเรียนเวียดนามมากกว่า 3,000 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือ 60,000 ตัน เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดจีน

‘ด่ง กวาง หาย’ นักธุรกิจชาวเวียดนามที่ทำธุรกิจเพาะปลูกทุเรียนในเวียดนามมานานนับสิบปี กล่าวว่าทุเรียนเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในจีน มีความต้องการจากผู้บริโภคและศักยภาพทางการตลาดสูงมาก

ปัจจุบันด่านโหยวอี้กวนกลายเป็นด่านบกสำหรับการแลกเปลี่ยนทางพรมแดน ระหว่างจีนและเวียดนามที่คึกคักและสะดวกมากที่สุด โดยสถานีตรวจสอบชายแดนขาเข้า-ขาออกที่ด่านโหยวอี้กวนได้รับรองยานพาหนะเข้าและออกในปีนี้ 400,000 คัน เมื่อนับถึงวันอังคารที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 122 เมื่อเทียบปีต่อปี

‘ถังซาน’ หัวหน้าศุลกากรด่านโหยวอี้กวน ระบุว่า ด่านโหยวอี้กวนเป็นด่านบกขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับส่งออกผลไม้เวียดนามสู่จีน มีรถบรรทุกขนส่งทุเรียน แก้วมังกร ขนุน และผลไม้อื่นๆ ของเวียดนามเข้าทำพิธีศุลกากรช่วงในฤดูกาลวันละเกือบ 300 คัน และมีการขนส่งทุเรียนเวียดนามช่วงนอกฤดูกาลวันละมากกว่า 30 ตู้คอนเทนเนอร์

“เราเริ่มนำเข้าทุเรียนจากเวียดนามเมื่อปีก่อน ทุเรียนเป็นหนึ่งในสินค้าผลไม้นำเข้าที่ขายดีที่สุด มีการจัดจำหน่ายทางออฟไลน์และออนไลน์ทั่วประเทศ” ‘ฟางช่วงเฉวียน’ ผู้ค้าผลไม้ในเมืองผิงเสียงกล่าว

โดยข้อมูลจากศุลกากรหนานหนิง ระบุว่า มูลค่าสินค้านำเข้าจากเวียดนามผ่านด่านโหยวอี้กวน ช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคมของปีนี้ รวมอยู่ที่ 9.14 หมื่นล้านหยวน (ราว 4.47 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 271.8 เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการนำเข้าผลไม้เวียดนาม 1.17 หมื่นล้านหยวน (ราว 5.73 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 637.9 โดยมูลค่าการนำเข้าทุเรียนรวมอยู่ที่ 1.11 หมื่นล้านหยวน (ราว 5.43 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3,084.2

การค้าทวิภาคีด้านผลิตภัณฑ์การเกษตรบนพรมแดนจีน-เวียดนาม ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยอานิสงส์จากการอนุมัตินำเข้าผลิตภัณฑ์การเกษตรหลายรายการจากเวียดนามสู่จีน กอปรกับการส่งออกผักผลไม้ที่มีคุณภาพจากกว่างซีสู่ตลาดเวียดนาม

นอกจากด่านโหยวอี้กวนแล้ว ด่านเหอโข่วในมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ยังกลายเป็นด่านนำเข้าทุเรียนยอดนิยมของจีน นับตั้งแต่มีการอนุมัตินำเข้าทุเรียนผ่านด่านเหอโข่วเมื่อเดือนเมษายนปีนี้

‘ฟู่จิง’ ผู้ค้าผลไม้จากมณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งคลุกคลีอยู่ในแวดวงการค้าผลไม้นำเข้ามานานมากกว่า 10 ปี ได้เริ่มนำเข้าทุเรียนจากเวียดนามเมื่อไม่นานนี้เช่นกัน โดยฝูบอกว่าขั้นตอนพิธีการศุลกากรที่สะดวกรวดเร็วของด่านเหอโข่วเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราเลือกนำเข้าทุเรียนเวียดนาม

‘เหยาฉี’ ตำรวจหญิงประจำสถานีตรวจสอบชายแดนขาเข้า-ขาออกเหอโข่ว เผยว่า การนำเข้าทุเรียนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากดึงดูดผู้คนมายังด่านเหอโข่วเพิ่มขึ้น มีบริษัทจำนวนมากเข้ามาตั้งสาขา หรือสำนักงานในอำเภออันเป็นที่ตั้งของด่านเหอโข่ว

ปัจจุบันด่านเหอโข่วรับรองยานพาหนะเข้าและออกเฉลี่ยวันละราว 700 คัน และจัดตั้งช่องทางด่วนสำหรับการทำพิธีการศุลกากร ของผลิตภัณฑ์การเกษตรและผลิตภัณฑ์ปลีกย่อย รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพของขั้นตอนพิธีการศุลกากรอย่างต่อเนื่อง

Google เผย 18 หมวดหมู่ คำค้นหายอดนิยม-กระแสแห่งปี 2023  สงคราม 'อิสราเอล-ฮามาส-กาซา' มาแรงในหมวดข่าว

‘Google Search’ ในปีนี้ก็เดินทางมาถึงปีที่ 25 และทาง Google ก็ได้เปิดเผยคำค้นหายอดนิยม และเป็นกระแสประจำปี 2023 ทั้งหมด 18 หมวดหมู่ ดังนี้

>> News (ข่าว)
-War in Israel and Gaza
-Titanic submarine
-Turkey earthquake
-Hurricane Hilary
-Hurricane Idalia
-Hurricane Lee
-Maine shooting
-Nashville shooting
-Chandrayaan-3
-War in Sudan

>>People (บุคคล)
-ดามาร์ แฮมลิน (Damar Hamlin)
-เจเรมี เรนเนอร์ (Jeremy Renner)
-แอนดรูว์ เทต (Andrew Tate)
-คีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé)
-ทราวิส เคลซี (Travis Kelce)
-เจนน่า ออร์เทกา (Jenna Ortega)
-ลิล เทย์ (Lil Tay)
-แดนนี่ มาสเตอร์สัน (Danny Masterson)
-เดวิด เบคแฮม (David Beckham)
-เปโดร ปาสคาล (Pedro Pascal)

>>Passings (บุคคลที่เสียชีวิตแล้ว)
-แมทธิว เพอร์รี (Matthew Perry)
-ทีน่า เทิร์นเนอร์ (Tina Turner)
-ซิเนด โอคอนเนอร์ (Sinéad O’Connor)
-เคน บล็อค (Ken Block)
-เจอร์รี่ สปริงเกอร์ (Jerry Springer)
-แองกัส คลาวด์ (Angus Cloud)
-นิโคลา บูลลีย์ (Nicola Bulley)
-เจน เบอร์กิ้น (Jane Birkin)
-จิมมี่ บัฟเฟตต์ (Jimmy Buffett)
-แลนซ์ เรดดิก (Lance Reddick)

>>Actors (นักแสดง)
-เจเรมี เรนเนอร์ (Jeremy Renner)
-เจนน่า ออร์เทกา (Jenna Ortega)
-เอนโนสุเกะ อิชิคาว่า (市川 猿之助 : Ichikawa Ennosuke IV)
-แดนนี่ มาสเตอร์สัน (Danny Masterson)
-เปโดร ปาสคาล (Pedro Pascal)
-เจมี ฟ็อกซ์มอร์ เวิร์ต (Jamie Foxxmore vert)
-เบรนแดน เฟรเซอร์ (Brendan Fraser)
-รัสเซล แบรนด์ (Russell Brand)
-เคียรา แอดวานี (Kiara Advani)
-แมตต์ ไรฟ์ (Matt Rife)

>>Athletes (นักกีฬา)
-ดามาร์ แฮมลิน (Damar Hamlin)
-คีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé)
-ทราวิส เคลซี (Travis Kelce)
-จา โมแรนต์ (Ja Morant)
-แฮร์รี เคน (Harry Kane)
-โนวัค ยอโควิช (Novak Djokovic)
-คาร์ลอส อัลการาซ (Carlos Alcaraz)
-ราชิน ราวินทรา (Rachin Ravindra)
-ชับแมน กิลล์ (Shubman Gill)
-ไครี เออร์วิง (Kyrie Irving)

>>Games (เกม)
-Hogwarts Legacy
-The Last of Us
-Connections
-Battlegrounds Mobile India
-Starfield
-Baldur’s Gate 3
-スイカ ゲーム
-Diablo IV
-Atomic Heart
-Sons of the Forest

>>Movie (ภาพยนตร์)
-Barbie
-Oppenheimer
-Jawan
-Sound of Freedom
-John Wick: Chapter 4
-Avatar: The Way of Water
-Everything Everywhere All at Once
-Gadar 2
-Creed III
-Pathaan

>>Musicians (นักดนตรี)
-ชากีรา (Shakira)
-เจสัน อัลเดียน (Jason Aldean)
-โจ โจนาส (Joe Jonas)
-Smash Mouth
-เปปปิโน ดิ คาปรี (Peppino di Capri)
-จีโน่ เปาลี (Gino Paoli)
-ทอม เคาลิทซ์ (Tom Kaulitz)
-เคลลี พิคเลอร์ (Kellie Pickler)
-โจเซ หลุยส์ เปราเลส(José Luis Perales)
-แอนนา ออกซา (Anna Oxa)

>>Recipe (สูตรอาหาร)
-Bibimbap
-Espeto
-Papeda
-Scooped bagel
-Pasta e fagioli
-Coronation quiche
-Tacacá
-Black cake
-Ashure
-Smelt

>>Songs (เพลง)
-アイドル – Yoasobi
-Try That In A Small Town – Jason Aldean
-Bzrp Music Sessions, Vol. 53 – Shakira and Bizarrap
-Unholy – Sam Smith and Kim Petras
-Cupid – FIFTY FIFTY
-ERE – Juan Karlos
-Kill Bill – SZA
-Rich Men North of Richmond – Oliver Anthony
-Pasilyo – SunKissed Lola
-Seven – Jungkook

>>Sports Teams (ทีมกีฬา)
-Inter Miami CF
-Los Angeles Lakers
-Al-Nassr FC
-Manchester City F.C
-Miami Heat
-Texas Rangers
-Al Hilal SFC
-Borussia Dortmund
-คริกเกต ทีมชาติอินเดีย
-Boston Bruins

>>TV Shows (รายการโทรทัศน์)
-The Last of Us
-Wednesday
-Ginny & Georgia
-One Piece
-Kaleidoscope
-King the Land
-The Glory
-That ’90s Show
-The Fall of the House of Usher
-Shadow and Bone

>>Hum to Search : Top Songs (ค้นหาเพลงด้วยการฮัมเสียง และทำนองเพลง)
-Bones – Imagine Dragons
-Kesariya – Arijit Singh
-アイドル – YOASOBI
-Maan Meri Jaan – King
-Believer – Imagine Dragons
-Mockingbird – Eminem
-Until I Found You – Stephen Sanchez
-Pasoori – Ali Sethi
-Shinunoga E-Wa – Fujii Kaze
-Instasamka / Turn Off The Phone / Tik Tok Version – Pablix
.
>>Google Maps : Top Parks (สวนที่ถูกค้นหามากที่สุด)
-Park Güell, Barcelona, Spain
-Central Park, New York, New York
-Hyde Park, London, United Kingdom
-El Retiro Park, Madrid, Spain
-Villa Borghese, Rome, Italy
-Nara Park, Nara, Japan
-Cubbon Park, Bengaluru, India
-Red Rocks Park and Amphitheatre, Morrison, Colorado
-Parque Ibirapuera, São Paulo, Brazil
-Bryant Park, New York, New York

>>Google Maps : Top Stadiums (สนามกีฬาที่ถูกค้นหามากที่สุด)
-Spotify Camp Nou, Barcelona, Spain
-Santiago Bernabéu Stadium, Madrid, Spain
-Wembley Stadium, London, United Kingdom
-Tokyo Dome, Tokyo, Japan
-San Siro Stadium, Milano, Italy
-Narendra Modi Stadium, Ahmedabad, India
-Madison Square Garden, New York, New York
-Tottenham Hotspur Stadium, London, United Kingdom
-Stade de France, Saint-Denis, France
-Emirates Stadium, London, United Kingdom

>>Google Maps : Top Museums (พิพิธภัณฑ์ที่ถูกค้นหามากที่สุด)
-Louvre Museum, Paris, France
-The British Museum, London, United Kingdom
-Musée d’Orsay, Paris, France
-Natural History Museum, London, United Kingdom
-teamLab Planets, Tokyo, Japan
-Rijksmuseum, Amsterdam, Netherlands
-Museo Nacional del Prado, Madrid, Spain
-Van Gogh Museum, Amsterdam, Netherlands
-American Museum of Natural History, New York, New York
-Anne Frank House, Amsterdam, Netherlands

>>Google Lens : Top Categories (หมวดหมู่ที่ถูกค้นหามากที่สุด)
-Translate
-Arts & Entertainment
-Text
-Education
-Shopping
-Home & Garden
-Science
-Barcode
-Beauty & Fitness
-Hardware

>>Google Lens : Top Apparel (เครื่องแต่งกายที่ถูกค้นหามากที่สุด)
-Shirt
-Outerwear
-Footwear
-Dress
-Pants
-Skirt
-Shorts
-Romper
-Jumpsuit
-Sweater


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top