Wednesday, 2 July 2025
NEWS FEED

ผบ.ฉก.นราธิวาส ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล( ชคต.) กายูคละ  อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส เน้นย้ำปฎิบัติงานด้วยความ ไม่ประมาท ต้องตื่นตัวอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าหมาย

ที่ฐานปฎิบัติการ ชุดคุ้มครองตำบล( ชคต.) กายูคละ  อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) พร้อมทั้งให้กำลังใจ พบปะพูดคุย มอบแนวทางการปฏิบัติงานเชิงรุกในการดูแลหมู่บ้าน ชุมชน แก่เจ้าหน้าที่ ชุดคุ้มครองตำบล พร้อมทั้งมอบนโยบายมาตรการความปลอดภัยของกำลังพล ต้องปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าหมาย  โดยมี พันเอกภาคิน เกื้อกูล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48  ปลัดตำบลกายูคละ /หัวหน้าชุดคุ้มครองกายูคละ ตลอดจน ผู้นำท้องถิ่น ร่วมให้การต้อนรับ และร่วมประชุม

ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว กล่าวว่า วันนี้ที่ได้มาเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าประจำชุดคุ้มครองตำบลในการปฏิบัติหน้าที่ ณ  ฐานปฏิบัติการ เพื่อมอบนโยบายการปฎิบัติงาน พร้อมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับหลักการปฏิบัติทางยุทธวิธี เพื่อให้กำลังพลมีความเข้าใจ และไม่ให้เกิดความประมาทในเเต่ละภารกิจ อีกทั้งสามารถดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน รวมทั้งควบคุมพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างปลอดภัย  การจัดแผนการรักษาความปลอดภัยตำบล หมู่บ้าน การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด, แผนป้องกันเหตุ, แผนเผชิญเหตุ, แผนป้องกันเหตุแผนการปฏิบัติการเมื่อมีภาพข่าวสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง, แผนระงับเหตุโดยดำเนินการตามกรอบแนวทางยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วม, การแก้ไขข้อบกพร่องตามเกณฑ์มาตรฐาน 5 ด้าน ทั้งด้านกายภาพ, ด้านกำลังคน, ด้านการปฏิบัติงานด้านข้อมูลพื้นฐานของพื้นที่, ด้านความเข้มแข็งของชุมชน พร้อมทั้งได้สอบถามปัญหา ข้อขัดข้องในการปฎิบัติงาน รวมถึงสถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึงการรักษาความปลอดภัยฐานปฏิบัติการฯ ตามแผนมาตรการระวังป้องกันฐานปฏิบัติการ 7 ขั้นตอน ( 3 นอก 4 ใน ) ที่สำคัญให้ปฏิบัติตามนโยบายสั่งการของพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ที่ได้ฝากความห่วงใยมาถึงเจ้าหน้าที่ทุกนาย และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ให้มีความอดทนปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มความสามารถ

‘บิ๊กป้อม’ ปลื้ม!! ไทยได้สิทธิ์จัดแข่งขันกีฬาใหญ่ๆ ต่อเนื่อง  พร้อมขอบคุณนักกีฬา-สมาคม ที่ทุ่มเทสร้างชื่อให้ประเทศ

(24 เม.ย.66) ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ครั้งที่ 4/2566 โดยที่ประชุมเห็นชอบให้เสนอ ครม. พิจารณายืนยันการเป็นเจ้าภาพของไทยในการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์ และมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 17-26 พ.ย.นี้ พร้อมงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนกีฬาฯ และงบอื่นตามความจำเป็น 

ซึ่งคณะกรรมการฯ ให้กกท. ประสานงานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อหารือในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติงบประมาณในระหว่างการเลือกตั้ง ให้เป็นไปตามข้อกำหนด และกฎหมาย
นอกจากนั้นรายงานผลการประเมินการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ประจำปี 2565 ของ กกท. และให้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงแก้ไข เพื่อความเหมาะสม สมบูรณ์ เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป 

ผู้ประกวดมิสแกรนด์ 2023 งัดลูกเล่นฟาดฟันกันสุดฤทธิ์ ระดมสมองสุดครีเอต ประชันกันในรอบชุดประจำจังหวัด

เรียกเสียงฮือฮากันอีกครั้ง สำหรับเวที Miss Grand Thailand 2023 ในรอบชุดประจำจังหวัด เมื่อค่ำวันที่ 23 เมษายนผ่านมา เพื่อค้นหา ชุดประจำชาติ (Miss Grand Thailand 2023 : National Costume Competition) 

แน่นอนว่าแต่ละจังหวัดก็งัดทีเด็ดออกมาฟาดฟันกันแบบสุดฤทธิ์ มิสแกรนด์เลยที่ออกมาในชุดหญิงชาวบ้านธรรมดาๆ ด้วยชูป้ายที่มีข้อความว่า “คอรัปชั่น 8 ปี บวชชีดีกว่า” ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นชุดบวชชี หรือจะเป็นมิสแกรนด์จากบุรีรัมย์ ก็มาโคฟเวอร์มาในชุด ‘ลิซ่า’ ซิ่งมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่สื่อถึงสนามแข่งรถ ตบท้ายด้วยการโชว์ ‘ลูกชิ้นยืนกิน’ มิสแกรนด์สิงห์บุรีพรีเซนต์ได้งดงามจริงๆ ในชุด ‘พญาราชสีห์’

ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 แถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ ยึดยาบ้า 342,000 เม็ด ไอซ์ 4 กิโลกรัม อาวุธปืน 1 กระบอก

วันนี้ 24 เมษายน 2566 ที่ หน้า สถานีตำรวจภูธรรัตภูมิ จ.สงขลา พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9,พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.ภ.9,พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา,พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9,พ.ต.อ.พิชัย กิระวานิช รองผบก.ภ.จว.สงขลา,พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.9/หน.ชปส.ภ.9 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ,นายพงศธร ธรรมชาติ ผอ.ปปส.ภาค 9 ได้เปิดแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่

ยึดยาบ้า 342,000 เม็ด ไอซ์ 4 กิโลกรัม อาวุธปืน 1 กระบอก พร้อมผู้ต้องหาจำนวน 2 คนประกอบด้วย นายทรงยศ หรือปาล์ม นิจสรกุล อายุ 33 ปีที่อยู่ 85 ซ.บ้านทุ่งโพ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา และ นายวรวรรณ หรือเคหรือช่างวุฒิ พรหมทองรักษ์อายุ 35 ที่อยู่ 157 ถ.สันติราษฎร์ ต./อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา พร้อมตรวจยึดของกลาง 1.ยาบ้า จำนวน 342,000 เม็ด 2.ไอซ์ 4 กิโลกรัม 3.อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวน 14 นัด 4.ตู้ชาร์จแบตเตอรี่ตู้เหล็ก สีส้ม ขนาด 30x25x25 ซม. จำนวน 2 ตู้ 5.ตู้ชาร์จแบตเตอรี่ตู้เหล็ก สีส้ม ขนาด 35x30x25 ซม. จำนวน 2 ตู้ 6.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมาสด้า สีเทา ทะเบียน บต 2153 ยะลา จำนวน 1 คัน 7.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง 

ครอบครัว ‘อิคคิว’ ย่องขอขมาศพ ‘น้องจีจี้’ บอกขอโทษ-เสียใจ ด้านแม่จีจี้ เผย รู้สึกตกใจที่จู่ๆ โผล่มาโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า

เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ ศาลา 2 วัดพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม วันนี้เป็นวันที่ 4 ของการสวดพระอภิธรรมศพ น.ส.สุพิชชา ปรีดาเจริญ หรือ ‘จีจี้’ อายุ 20 ปี เน็ตไอดอลสาวชื่อดัง โดยมีเพื่อน ๆ ครอบครัวได้ช่วยกันจัดเตรียมของชำร่วยไว้แจกจ่ายในวันฌาปนกิจ ทั้งการแกะรูปสติ๊กเกอร์ใบหน้าของจีจี้ และกระจกสำหรับถือ บรรจุลงใส่ซองแก้วใส โดยวันนี้ ครอบครัวของอิคคิว ได้เดินทางมากราบขอขมาศพของ จีจี้ ที่ศาลา 2 ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายชินโชติ ปรีดาเจริญ พ่อของจีจี้ ก็ได้รับการเปิดเผยว่า ในเรื่องของครอบครัวอิคคิวเดินทางมาขอขมาศพจีจี้นั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่เห็น ประกอบกับในช่วงเวลานั้นก็ไม่ได้อยู่ที่วัด หลังจากนี้หากเรื่องศพของจีจี้นั้นจบแล้ว หมายถึงการส่งน้องจีจี้ขึ้นสู่สรวงสวรรค์ บำเพ็ญกุศลตามพิธีการทางศาสนาจบ ก็จะรอคุยในเรื่องของความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ตนยังมีกำหนดการที่จะบวชอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับจีจี้ โดยเฉพาะ

เนื่องจากในช่วงขณะที่เดินทางไปรับศพของจีจี้ เคลื่อนศพมาจากโรงพยาบาลมาที่วัด ตนได้เอ่ยปากพูดกับจีจี้ไว้ว่า หากป๊าทำเรื่องพิธีศพของจีจี้เรียบร้อยแล้ว ป๊าตั้งใจจะบวชให้กับจีจี้ แต่ต้องอยู่ช่วงเวลาไม่ว่าจะ 5 วัน 7 วัน หรือ 15 วัน ก็ต้องดูเวลาอีกครั้ง เพราะตนยังมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

สำหรับในวันที่ 25 เม.ย. เวลา 15.30 น. จะมีพิธีตั้งแต่ในช่วงเวลา 10.30 น. จะนิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป ถวายภัตตาหาร จากนั้นเวลา 15.30 น.จะประกอบพิธีทอดผ้าบังสกุล และในเวลา 16.00 น.จะมีพิธีประชุมเพลิง

‘พายุฤดูร้อน’ ถล่มมุกดาหาร ร้านอาหารริมฝั่งโขง-บ้านเรือนเสียหายหนัก จนทำให้ร้านฝั่งสปป.ลาว โซ่ยึดแพขาด ข้ามมาติดสถานีตร. ล่าสุดเข้าช่วยเหลือแล้ว

(23 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พายุฤดูร้อนถล่มบ้านเรือน และร้านอาหารริมฝั่งโขง โดยเฉพาะบ้านเรือนของประชาชนในชุมชนนาโปน้อย ได้มีหลังคาบ้านที่มุงด้วยสังกะสี และหลังคาร้านอาหารบ้านลาวญวน ได้รับความเสียหายทั้งหมด และลมได้พัดมาปิดถนนสำราญชายโขงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร และทำให้ไฟฟ้าดับทั้งชุมชน

ล่าสุดทางฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย เทศบาลเมืองมุกดาหาร เข้าช่วยเหลือ โดยได้ใช้เครื่องมือตัดเหล็กมาตัดโครงหลังคาของร้านอาหาร เพื่อตัดออกจากถนน เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจรไปมาได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนการไฟฟ้าก็ได้ต่อไฟฟ้าให้กับชาวบ้านเรียบร้อยใช้งานได้ตามปกติแล้ว

ด้าน นายนาวา สหะนาม เจ้าของร้านอาหารบ้านลาวญวน บอกว่า ขณะที่กำลังเปิดร้านอาหารอยู่ในนั้น ก็มีลมพายุพัดเข้ามาที่ร้านอย่างแรง และเกิดเสียงดังที่บริเวณหน้าร้าน จึงได้วิ่งมาดูพบเป็นหลังคาร้านอาหารชั้น 2 พัดมาขวางถนน ทำให้สิ่งของในร้านเปียกเสียหาย

‘ผบ.ตร.’ สั่งสอบ!! ปม ‘ตร.ท่องเที่ยว’ ถือกระเป๋าให้ทนายดัง กำชับ!! การทำงานต้องชัดเจน-ไม่เลือกปฏิบัติ ป้องกันต่อภาพลักษณ์องค์กร

(23 เม.ย.66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า “ตามที่ปรากฏข้อมูลข่าวสารทางสื่อโซเชียล กรณีนี้ตำรวจท่องเที่ยวให้การต้อนรับ ช่วยเหลือ ขนกระเป๋า สัมภาระต่างๆ โดยมีการพาดพิงถึงทนายความรายหนึ่งที่มีผู้ใหญ่ให้การดูแลช่วยเหลือนั้น

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการด่วนให้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวที่เกิดขึ้นโดยละเอียดว่า การดำเนินการในลักษณะดังกล่าว เกิดขึ้นที่ไหนอย่างไร เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.ทท. หรือไม่ เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ รวมทั้งการให้บริการอำนวยความสะดวกดังกล่าว มีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร มีการสั่งการให้ดูแลอำนวยความสะดวกเป็นกรณีพิเศษ หรือใช้อภิสิทธิ์ชน จนกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว” 

‘โฆษกกระทรวงฯ’ เผย ‘บิ๊กตู่’ ไฟเขียว!! เตรียมใช้เครื่องบินกองทัพฯ อพยพ ‘คนไทย’ ในซูดาน เน้นช่วยเหลือให้รัดกุม-ปลอดภัยที่สุด

(23 เม.ย.66) นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือคนไทยในซูดาน ว่า ทางการไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีรวมทั้งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและสั่งการให้ดำเนินการช่วยเหลือคนไทยให้รัดกุมและปลอดภัยที่สุด

นางกาญจนากล่าวว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กองทัพอากาศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาดและสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ กำลังเร่งดำเนินงานอย่างแข็งขันเพื่อเตรียมการช่วยเหลือคนไทยให้ออกจากพื้นที่ ซึ่งต้องเป็นไปโดยรอบคอบที่สุด เนื่องจากยังคงมีข้อห่วงกังวลด้านความปลอดภัย และสถานการณ์ยังคงมีความอ่อนไหว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติการใช้เครื่องบินกองทัพอากาศเพื่อการอพยพแล้ว ในชั้นนี้ ยังรอการยืนยันเรื่องท่าอากาศยานและวันที่แน่นอนอยู่ ซึ่งจะเป็นในโอกาสแรกที่ทุกปัจจัยเงื่อนไขลงตัว

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศขอย้ำช่องทางการสื่อสาร หมายเลขฉุกเฉิน 09-6165-7120 / 09-6352-0513 / 09-6352-9015 สำหรับญาติของนักเรียนและคนไทยในซูดานที่ประสงค์จะสอบถามสถานการณ์ รวมทั้งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ได้เปิดช่องทางการติดต่อเพื่อขอรับความช่วยเหลือที่หมายเลข +201019401243 หรืออีเมล์ [email protected] รวมทั้งได้ประสานงานกับคนไทยในซูดานผ่าน Chat group 5 กลุ่ม เพื่อความคล่องตัวด้วย


ที่มา : https://www.matichon.co.th/foreign/news_3939500

ผบ.ตร.สั่งด่วน ตรวจสอบทุกประเด็นคลิปตำรวจท่องเที่ยวอำนวยความสะดวก ขนกระเป๋า พร้อมสั่งทำ SOP การทำงานของตำรวจท่องเที่ยว ให้ชัดเจน เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่เลือกปฏิบัติ

วันนี้ (23 เม.ย.66 )ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า  “ตามที่ปรากฏข้อมูลข่าวสารทางสื่อโซเชียล กรณีนี้ตำรวจท่องเที่ยวให้การต้อนรับ ช่วยเหลือ ขนกระเป๋า สัมภาระต่างๆ โดยมีการพาดพิงถึงทนายความรายหนึ่งที่มีผู้ใหญ่ให้การดูแลช่วยเหลือนั้น

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการด่วนให้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ที่เกิดขึ้นโดยละเอียดว่า การดำเนินการในลักษณะดังกล่าว เกิดขึ้นที่ไหนอย่างไร เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.ทท. หรือไม่  เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ รวมทั้งการให้บริการอำนวยความสะดวกดังกล่าว มีความเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร มีการสั่งการให้ดูแลอำนวยความสะดวกเป็นกรณีพิเศษ หรือใช้อภิสิทธิ์ชน จนกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรหรือไม่  หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว” 

ผบ.ทร.ตรวจเยี่ยมหน่วยกองทัพเรือ พื้นที่รับผิดชอบของ กปช.จต.

วันนี้ (23 เมษายน 2566) เวลา 09.00 น. พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยกองทัพเรือ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ณ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ค่ายตากสิน อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยมี พลเรือโท เผดิมชัย สุคนธมัต ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน/ผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ ได้ถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก่อนตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ และให้โอวาทกำลังพล โดยเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนในสภาวะที่ปกติอย่างเต็มกำลังความสามารถ ไม่ประมาท รวมทั้งให้ความสำคัญกับการรักษาความสงบสุขของประชาชนเป็นสิ่งแรก และให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ เท่าที่จะสามารถกระทำได้

ต่อมา ผู้บัญชาการทหารเรือได้ ทักทายกำลังพล ก่อนเข้ารับฟังการบรรยายสรุป จากกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เพื่อรับทราบถึงปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้อง ตลอดจนข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงาน

จากนั้นในช่วงบ่าย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางไปยัง หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด และหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด  เพื่อตรวจเยี่ยมและบำรุงขวัญกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ห่างไกล พร้อมทั้งให้โอวาท ทักทายกำลังพล และไต่ถามถึงความเป็นอยู่ของกำลังพล ด้วยความห่วงใย

สำหรับ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เกิดขึ้นตามที่กองบัญชาการทหารสูงสุด ในขณะนั้น ปัจจุบันคือกองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้กองทัพเรือรับผิดชอบในการป้องกันพื้นที่บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ด้านจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด รวมทั้งให้มีหน้าที่ในการให้ความคุ้มครองเรือประมงในน่านน้ำไทยและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในการป้องกันมิให้เรือประมงไทยล้ำเขตน่านน้ำกัมพูชา เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด มีการตั้งหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่หลายหน่วยงาน โดยมีกองกำลังด้านจันทบุรี – ตราด ปฏิบัติภารกิจในการป้องกันชายแดน และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 1/1 ปฏิบัติภารกิจในการรักษาความมั่นคงภายใน ซึ่งกองทัพเรือเป็นหน่วยรับผิดชอบในการปฏิบัติของทั้งสองหน่วยงานดังกล่าว กองบัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้น จึงสั่งการให้กองทัพเรือ จัดตั้งกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เมื่อ 3 พฤษภาคม 2522 เพื่อควบคุมบังคับบัญชากำลังที่ปฏิบัติในพื้นที่ ทั้งด้านการป้องกันชายแดนและการรักษาความมั่นคงภายใน ทั้งนี้ ภารกิจของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ในปัจจุบันคือการป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางทะเล อำนวยการในการปกครองพื้นที่ ควบคุมรักษาระเบียบ/ข้อบังคับ และกฎหมายทั้งปวงในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด เพื่อรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ

เนื่องจากพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด มีระยะทางตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ด้านจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด มีระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร เพื่อให้การป้องกันชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด จึงได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี และหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราดขึ้น โดยมี ภารกิจในการปฏิบัติในเขตพื้นที่แต่ละจังหวัด ด้วยการป้องกันชายแดนทางบกและป้องกันการยกพลขึ้นบก ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ

ตลอดจนให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ในการป้องกันปราบปราม การกระทำผิดกฎหมายทั้งปวงในพื้นที่รับผิดชอบ โดยในส่วนของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 ที่ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมในวันนี้ เป็นหน่วยขึ้นตรงของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top